คือเราและสามีพึ่งแต่งงานด้วยกันค่ะ เพราะมีลูกเลยต้องแต่งให้ถูกต้องตามประเพณี ก่อนแต่งเราสองคนก็คบหาดูใจกันไม่นาน ทำให้ยังไม่ได้เรียนรู้กันจริงจัง เรารู้จักกับสามีมาก่อนหน้านั้น เคยเห็นเขามีแฟนแล้วเลิกไปหลายคน เหตุผลที่ได้ยินจากคนรอบข้างคือพาแฟนไปบ้าน บ้านรก จน นี่นั้น ผู้หญิงเลยทิ้ง
ส่วนตัวเราไม่เคยดูถูกเรื่องฐานะ และไม่คิดจะคบเพื่อเอาของใคร ตอนคบกัน เราก็ไปเที่ยวบ้านเขาสองสามครั้ง ลักษณะบัานก็ทำให้เราเข้าใจว่าทำไมแฟนก่อนหน้าถึงไม่ชอบ แต่เราเฉยๆเลย เพราะพึ่งคบกัน ไม่จริงจังและไม่ติดตรงนั้น
ช่วงแรกเจอที่บ้านเขาก็ไม่มีอะไร ต้อนรับกันทั่วไป จนเรากับแฟนจะพากันไปเที่ยว ตปท ที่ไม่ไกลเลยยยย ประเทศเพื่อนบ้านค่ะ ทางบ้านแฟนก็เป็นกังวลมากๆ วันที่พ่อแฟนจะส่งขึ้นเครื่องคือกลัวว่าเราจะพาลูกชายไปขาย ขอมาดูบ้านเราอยู่ไหน ยังไง เราเริ่มไม่ชอบการที่เขาเลี้ยงลูกแบบนี้ละ เลยบอกออกนอกบ้านบ้างเถอะ เรียนรู้อะไรใหม่ๆบ้าง
สุดท้ายเราท้อง ก็แต่งงานกันไปตามเรื่อง ทางบ้านสามีเป็นฝ่ายจัดงานให้ มีสินสอด คือเขาก็ให้เกียรติเราเป็นอย่างดี มีช่วงที่รอจัดงาน เราต้องนอนบ้านเขาหลายวันเพื่อเตรียมงาน สะดวกในการเดินทาง
ก็มีปัญหาเกิดขึ้นคือเราไม่ชอบเข้าห้องน้ำแบบส้วมซึม นั่งยองๆ เข้าได้ แต่ไม่ชอบ และเข้าลำบาก ทุกครั้งที่ปวดท้องเราจะเดินไปเข้าไปเข้าห้องน้ำห้างใกล้บ้านเขา ซึ่งเป็นแบบนี้อยู่หลายวัน จนเราก็อยากปรับตัว ลองเข้าแบบนั่งยองดู เผื่อจะชิน
จนวันนึงเรากำลังทำธุระส่วนตัวในห้องน้ำด้วยความที่เราท้อง ก็หงุดหงิดบ้าง เข้าห้องน้ำทำธุระก็ยาก ประตุห้องน้ำบ้านเขาก็พัง เข้าไปก็หวาดเสียวว่าจะมีคนเปิดมา ต้องเปิดน้ำ หรือทำเสียงให้รุ้ว่าเข้าอยู่ จนแฟนเรามาเคาะว่าเราเข้าไ้องน้ำอยุ่หรอ เราก็ตอบไปว่าใช่
แต่เหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้น แฟนเราเปิดกระตูเอาหน้าเข้ามาถามเราว่าจะไปตลาด เอาอะไรไหม จบเลยจุดนั้น เราโมโหมากๆ ไม่ต้องเข้ามันละ เราออกมาเลยแต่แฟนเราดันไปตลาดแล้ว เร็วจริง
เราก็เดินไปเข้าห้องน้ำที่ห้างเหมือนที่เคยทำ ก็มันยังไม่ได้ออกมาเลย หงุดหงิด พอทำธุระเสร็จเราก็กบับมาบ้านแฟนด้วยหน้าตาที่ไม่เป็นมิตร
พอเราเห็นแฟนเราก็จัดเลย “สมัยเรียนเนี้ย ที่โรงเรียนเขาเคยสอนเรื่องมารยาทไหม คนกำลังเข้าห้องน้ำอยู่ เปิดเข้าไปแบบนั้นได้ยังไง รู้ไม่ว่ามันเสียมารยาทมากเลยนะ” คือเราพูดแบบจริงจัง ให้รู้ตัวว่าที่ทำคือผิดนะ ทางบ้านเขาได้ยินเราว่าแฟนก็มองๆ จนก่อนนอนแฟนเราบอกว่าต่อไปถ้ามีอะไรให้คุยกันสองคนได้ไหม ด่าแฟนต่อหน้าแม่หรือพี่สาวเขาแบบนั้นมันไม่ดี เราก็บอกว่าเราตั้งใจพูดตรงนั้นแหละ
บ้านแฟนเราก็คงจะไม่พอใจเราที่ว่าแฟน แต่คงเพราะเราท้องเลยไม่ว่าเรา และเราไม่ชอบที่บ้านเขาคุยกัน กู มีครั้งนึงแม่แฟนเรียกเราแบบ”อินี่” ซึ่งเราก็บอกกับแฟนตรงๆว่าอย่าเรียกเราแบบนี้ เราไม่ชอบ
เราเคยงอนแฟนเพราะเราหิวข้าวมากๆ แต่แฟนเราไม่หาให้กิน แต่ตัวเองกินอิ่มนอนเล่นโทรศัพท์สบายใจ เราเพิ่งไปบ้านเขาก็ไม่รู้ แบะไม่กบ้าเข้าครัวไปหาของมากินเอง เลยเดินออกไปหาซื้อไรกินนอกบ้านคนเดียวซะเลย ขณะที่เราเดินออกไปนอกบ้าน แฟนก็ไม่ได้สนใจอะไร พอเรากลับมาแม่แฟนเอามือมาตีเรา แล้วบ่นว่าไปไหนมา กำลังท้องทำไม่ไม่อยู่บ้าน ไม่กินอะไรเดี๋ยวลูกก็หิวด้วย เราไม่พูด ไม่ตอบอะไร แฟนเราก็เพิ่งจะรู้ตัวว่าเราหิว ไปหาของกินมาให้ ซึ่งเราได้หากินเองจนอิ่มไปแล้ว จบเรื่องก่อนแต่ง
จนตอนนี้เราคลอดลูกมาเรียบร้อย ด้วยความที่เป็นลูกคนแรก เราก็ยังไม่เป็นงาน แต่คนเป็นแม่ก็พยายามทำให้ดีที่สุดแล้ว บ้านแฟนเรายังไม่เคยมาเจอหลาน เพราะอยู่คนละประเทศ เขาบอกยังไม่สะดวกมา แม่แฟนไม่แข็งแรง ก็มีแต่คุยวิดีโอคอลกัน
ทุกครั้งที่คุย แม่แฟนเราก็จะห่วงหลาน อยากเห็นหน้าหลาน แล้วเริ่มต้นที่เราไม่พอใจคือในช่วงวันคลอด น้ำนมเรายังไม่มา บ้านแฟนเราเห็นลูกเราร้องไห้ ก็บอกแฟนให้เดินไปซื้อนมผงมาชงให้กินเลย อย่าปล่อยให้ร้อง สงสารหลาน แต่เราบอกไม่ ต้องให้ลูกดูดกระตุ้น น้ำนมมาแน่
พอกลับมาบ้าน แฟนก็คอลหาบ้านเขา
ลูกเราก็ร้องไห้ แม่แฟนบอกเห็นหลานร้องไห้ ใจจะขาด สงสาร เราก็แบบเด็กทารกค่ะ ร้องไห้ปกติ อย่าเครียดค่ะ
คอลทุกครั้ง ถามทุกครั้งว่าเราให้ลูกกินนมยัง เราก็บอกทุกครั้งว่าให้แล้วถึงคอลหา พอลูกเราเริ่มจะร้อง ก็บอกให้ลูกกินนมเร็ว ซึ่งเพิ่งบอกไปว่าให้กินแล้วตะกี้ ตอนเราให้นมลูก บ้านแฟนมองแล้วบอกดูดีๆอย่าเอานมอัดจมูกลูกเดี๋ยวหายใจไม่ออก ทั้งที่เราให้นมลูกล้วนมาสามเดือนกว่าแล้ว
และมีอีกหลายๆเรื่องที่ทำให้เราฟังแล้วไม่ชอบใจ สามีเราให้ดูปานดำที่ขาลูก แม่สามีบอกเกิดจากอาหารที่แม่กินนั้นแหละ ทั้งที่รอยดำนั้นเดี๋ยวมันก็หายไป เป็นธรรมชาติของทารก นมเรามาเยอะมาก เราต้องปั๊มนมออก เลยทำสต๊อกเก็บให้ลูก ก็บอกสามีเราว่านมยิ่งปั๊มออกจะยิ่งน้อยลง แล้วเก็บให้ลูกกินไม่ดี มันหมดคุณค่าทางสารอาหาร ว่ากันไป เราได้ยินแล้วเราก็มาอธิบายให้สามีฟัง ให้เข้าใจ
สามีเรากลับไปเยี่ยมบ้านแทบทุกเดือน แต่ก็ไม่วายที่แม่เจาจะบ่นคิดถึงลูกชาย เป็นห่วงลูก ประเด็นตอนนี้คือเราเริ่มไม่ชอบแม่สามีที่บางครั้งหัวโบราณเกินไป เราไม่อยากมีอคติแบบนี้ไปเรื่อยๆ เราพยายามทำความเข้าใจ เพราะสามีเราอยู่บ้านเราเป็นส่วนใหญ่ ก็มีบ้างที่พ่อแม่เราออกแนวจุ้นจ้าน พยายามเอาใจเขามาใส่ใจเรา
แต่เพราะบ้านเราและบ้านเขาเลี้ยงลูกมาต่างกันมาก เราเลยอึดอัดในหลายๆคำพูด และเราบอกสามีเลยว่าเราไม่อยากเลี้ยงลูกให้เป็นไข่ในหินนะ แต่ไม่ต้องห่วง เราเป็นแม่ เราเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้ลูกแน่นอน
เราไม่รู้จะเปลี่ยนความคิดตัวเองยังไงให้เป็นเขิงบวก เราคิดถึงตอนมี่แม่สามีชมว่าเราเลี้ยงลูกเก่งบูกคนแรกแต่เลี้ยงเอง อาบน้ำเอง เก่งจัง แต่อคติในใจเราก็ยังไม่หายไป ยิ่งสามีบอกแม่จะมาช่วยเลี้ยงสักสองอาทิตย์นะ เรายิ่งกังวลมากกว่าเดิมอีก กลัวเขาจะมาป้อน มาทำอะไรแปลกกับลูกเรา
ไม่ชอบบ้านสามี ทำยังไงดี
ส่วนตัวเราไม่เคยดูถูกเรื่องฐานะ และไม่คิดจะคบเพื่อเอาของใคร ตอนคบกัน เราก็ไปเที่ยวบ้านเขาสองสามครั้ง ลักษณะบัานก็ทำให้เราเข้าใจว่าทำไมแฟนก่อนหน้าถึงไม่ชอบ แต่เราเฉยๆเลย เพราะพึ่งคบกัน ไม่จริงจังและไม่ติดตรงนั้น
ช่วงแรกเจอที่บ้านเขาก็ไม่มีอะไร ต้อนรับกันทั่วไป จนเรากับแฟนจะพากันไปเที่ยว ตปท ที่ไม่ไกลเลยยยย ประเทศเพื่อนบ้านค่ะ ทางบ้านแฟนก็เป็นกังวลมากๆ วันที่พ่อแฟนจะส่งขึ้นเครื่องคือกลัวว่าเราจะพาลูกชายไปขาย ขอมาดูบ้านเราอยู่ไหน ยังไง เราเริ่มไม่ชอบการที่เขาเลี้ยงลูกแบบนี้ละ เลยบอกออกนอกบ้านบ้างเถอะ เรียนรู้อะไรใหม่ๆบ้าง
สุดท้ายเราท้อง ก็แต่งงานกันไปตามเรื่อง ทางบ้านสามีเป็นฝ่ายจัดงานให้ มีสินสอด คือเขาก็ให้เกียรติเราเป็นอย่างดี มีช่วงที่รอจัดงาน เราต้องนอนบ้านเขาหลายวันเพื่อเตรียมงาน สะดวกในการเดินทาง
ก็มีปัญหาเกิดขึ้นคือเราไม่ชอบเข้าห้องน้ำแบบส้วมซึม นั่งยองๆ เข้าได้ แต่ไม่ชอบ และเข้าลำบาก ทุกครั้งที่ปวดท้องเราจะเดินไปเข้าไปเข้าห้องน้ำห้างใกล้บ้านเขา ซึ่งเป็นแบบนี้อยู่หลายวัน จนเราก็อยากปรับตัว ลองเข้าแบบนั่งยองดู เผื่อจะชิน
จนวันนึงเรากำลังทำธุระส่วนตัวในห้องน้ำด้วยความที่เราท้อง ก็หงุดหงิดบ้าง เข้าห้องน้ำทำธุระก็ยาก ประตุห้องน้ำบ้านเขาก็พัง เข้าไปก็หวาดเสียวว่าจะมีคนเปิดมา ต้องเปิดน้ำ หรือทำเสียงให้รุ้ว่าเข้าอยู่ จนแฟนเรามาเคาะว่าเราเข้าไ้องน้ำอยุ่หรอ เราก็ตอบไปว่าใช่
แต่เหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้น แฟนเราเปิดกระตูเอาหน้าเข้ามาถามเราว่าจะไปตลาด เอาอะไรไหม จบเลยจุดนั้น เราโมโหมากๆ ไม่ต้องเข้ามันละ เราออกมาเลยแต่แฟนเราดันไปตลาดแล้ว เร็วจริง
เราก็เดินไปเข้าห้องน้ำที่ห้างเหมือนที่เคยทำ ก็มันยังไม่ได้ออกมาเลย หงุดหงิด พอทำธุระเสร็จเราก็กบับมาบ้านแฟนด้วยหน้าตาที่ไม่เป็นมิตร
พอเราเห็นแฟนเราก็จัดเลย “สมัยเรียนเนี้ย ที่โรงเรียนเขาเคยสอนเรื่องมารยาทไหม คนกำลังเข้าห้องน้ำอยู่ เปิดเข้าไปแบบนั้นได้ยังไง รู้ไม่ว่ามันเสียมารยาทมากเลยนะ” คือเราพูดแบบจริงจัง ให้รู้ตัวว่าที่ทำคือผิดนะ ทางบ้านเขาได้ยินเราว่าแฟนก็มองๆ จนก่อนนอนแฟนเราบอกว่าต่อไปถ้ามีอะไรให้คุยกันสองคนได้ไหม ด่าแฟนต่อหน้าแม่หรือพี่สาวเขาแบบนั้นมันไม่ดี เราก็บอกว่าเราตั้งใจพูดตรงนั้นแหละ
บ้านแฟนเราก็คงจะไม่พอใจเราที่ว่าแฟน แต่คงเพราะเราท้องเลยไม่ว่าเรา และเราไม่ชอบที่บ้านเขาคุยกัน กู มีครั้งนึงแม่แฟนเรียกเราแบบ”อินี่” ซึ่งเราก็บอกกับแฟนตรงๆว่าอย่าเรียกเราแบบนี้ เราไม่ชอบ
เราเคยงอนแฟนเพราะเราหิวข้าวมากๆ แต่แฟนเราไม่หาให้กิน แต่ตัวเองกินอิ่มนอนเล่นโทรศัพท์สบายใจ เราเพิ่งไปบ้านเขาก็ไม่รู้ แบะไม่กบ้าเข้าครัวไปหาของมากินเอง เลยเดินออกไปหาซื้อไรกินนอกบ้านคนเดียวซะเลย ขณะที่เราเดินออกไปนอกบ้าน แฟนก็ไม่ได้สนใจอะไร พอเรากลับมาแม่แฟนเอามือมาตีเรา แล้วบ่นว่าไปไหนมา กำลังท้องทำไม่ไม่อยู่บ้าน ไม่กินอะไรเดี๋ยวลูกก็หิวด้วย เราไม่พูด ไม่ตอบอะไร แฟนเราก็เพิ่งจะรู้ตัวว่าเราหิว ไปหาของกินมาให้ ซึ่งเราได้หากินเองจนอิ่มไปแล้ว จบเรื่องก่อนแต่ง
จนตอนนี้เราคลอดลูกมาเรียบร้อย ด้วยความที่เป็นลูกคนแรก เราก็ยังไม่เป็นงาน แต่คนเป็นแม่ก็พยายามทำให้ดีที่สุดแล้ว บ้านแฟนเรายังไม่เคยมาเจอหลาน เพราะอยู่คนละประเทศ เขาบอกยังไม่สะดวกมา แม่แฟนไม่แข็งแรง ก็มีแต่คุยวิดีโอคอลกัน
ทุกครั้งที่คุย แม่แฟนเราก็จะห่วงหลาน อยากเห็นหน้าหลาน แล้วเริ่มต้นที่เราไม่พอใจคือในช่วงวันคลอด น้ำนมเรายังไม่มา บ้านแฟนเราเห็นลูกเราร้องไห้ ก็บอกแฟนให้เดินไปซื้อนมผงมาชงให้กินเลย อย่าปล่อยให้ร้อง สงสารหลาน แต่เราบอกไม่ ต้องให้ลูกดูดกระตุ้น น้ำนมมาแน่
พอกลับมาบ้าน แฟนก็คอลหาบ้านเขา
ลูกเราก็ร้องไห้ แม่แฟนบอกเห็นหลานร้องไห้ ใจจะขาด สงสาร เราก็แบบเด็กทารกค่ะ ร้องไห้ปกติ อย่าเครียดค่ะ
คอลทุกครั้ง ถามทุกครั้งว่าเราให้ลูกกินนมยัง เราก็บอกทุกครั้งว่าให้แล้วถึงคอลหา พอลูกเราเริ่มจะร้อง ก็บอกให้ลูกกินนมเร็ว ซึ่งเพิ่งบอกไปว่าให้กินแล้วตะกี้ ตอนเราให้นมลูก บ้านแฟนมองแล้วบอกดูดีๆอย่าเอานมอัดจมูกลูกเดี๋ยวหายใจไม่ออก ทั้งที่เราให้นมลูกล้วนมาสามเดือนกว่าแล้ว
และมีอีกหลายๆเรื่องที่ทำให้เราฟังแล้วไม่ชอบใจ สามีเราให้ดูปานดำที่ขาลูก แม่สามีบอกเกิดจากอาหารที่แม่กินนั้นแหละ ทั้งที่รอยดำนั้นเดี๋ยวมันก็หายไป เป็นธรรมชาติของทารก นมเรามาเยอะมาก เราต้องปั๊มนมออก เลยทำสต๊อกเก็บให้ลูก ก็บอกสามีเราว่านมยิ่งปั๊มออกจะยิ่งน้อยลง แล้วเก็บให้ลูกกินไม่ดี มันหมดคุณค่าทางสารอาหาร ว่ากันไป เราได้ยินแล้วเราก็มาอธิบายให้สามีฟัง ให้เข้าใจ
สามีเรากลับไปเยี่ยมบ้านแทบทุกเดือน แต่ก็ไม่วายที่แม่เจาจะบ่นคิดถึงลูกชาย เป็นห่วงลูก ประเด็นตอนนี้คือเราเริ่มไม่ชอบแม่สามีที่บางครั้งหัวโบราณเกินไป เราไม่อยากมีอคติแบบนี้ไปเรื่อยๆ เราพยายามทำความเข้าใจ เพราะสามีเราอยู่บ้านเราเป็นส่วนใหญ่ ก็มีบ้างที่พ่อแม่เราออกแนวจุ้นจ้าน พยายามเอาใจเขามาใส่ใจเรา
แต่เพราะบ้านเราและบ้านเขาเลี้ยงลูกมาต่างกันมาก เราเลยอึดอัดในหลายๆคำพูด และเราบอกสามีเลยว่าเราไม่อยากเลี้ยงลูกให้เป็นไข่ในหินนะ แต่ไม่ต้องห่วง เราเป็นแม่ เราเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้ลูกแน่นอน
เราไม่รู้จะเปลี่ยนความคิดตัวเองยังไงให้เป็นเขิงบวก เราคิดถึงตอนมี่แม่สามีชมว่าเราเลี้ยงลูกเก่งบูกคนแรกแต่เลี้ยงเอง อาบน้ำเอง เก่งจัง แต่อคติในใจเราก็ยังไม่หายไป ยิ่งสามีบอกแม่จะมาช่วยเลี้ยงสักสองอาทิตย์นะ เรายิ่งกังวลมากกว่าเดิมอีก กลัวเขาจะมาป้อน มาทำอะไรแปลกกับลูกเรา