แชร์ประสบการณ์ทำ Passport หายที่เกาหลีใต้

เรามาแชร์สิ่งที่เราเจอมา บางคำอาจไม่สุภาพ แต่เพื่ออรรถรส อย่าว่ากันนะ ^^ อ้อ ไม่มีรูปปลากรอบเด้อ 😂

เราเคยอ่านเรื่องของคนที่ไปต่างประเทศแล้วพบปัญหาพาสปอร์ตหาย เคยคิดเล่นๆ ว่าเป็นเรา จะทำยังไงวะเนี่ย แต่ก็ไปกี่ทีๆ ไม่เคยเจอปัญหา ครั้งนี้ก็คิดว่าจะไม่มีปัญหาเหมือนทุกๆ ครั้งที่เดินทาง

เราเดินทางไปประเทศเกาหลีใต้ เมื่อวันที่ 11 เมษายน 2562 และแพลนกลับวันที่ 17 เมษายน 2562 แกรรร!!! เราขนของมาเยอะมากกก >< เราเพลิดเพลินมากเว้ย ตื่นเช้า ออกเช้า เที่ยวจุดแลนด์มาร์ค หาที่กิน เดินถ่ายรูป ซื้อของฝาก จะว่าแพลนแน่นก็ใช่นะ แต่เสียเวลาในการเดินต่อรถไฟที่ Subway ใช้เวลาเยอะไปหน่อย

ด้วยความที่เราอ่ะ เพลินจัด อินจัด เที่ยวจัด ถ่ายรูปจัด 555 วันสุดท้ายของทริปเลยเป็นวันเก็บตกเรื่องซื้อของฝาก และของฝากมาซื้อ ทั้งเมียงดง ฮงแด นำแดมุน ทงแดมุน ห้าง Lotte >< เอ้อ เดินรอบเมืองจริงๆ อ่ะเท้อ จนประมาณ 3 โมงเย็น ต้องกลับมารับกระเป๋า เราฝากไว้ที่ร้าน RAON เรื่องมันพีคก็ตรงนี้แหละ

หาพาสปอร์ตเพื่อรับกระเป๋า (เข้าใจผิดงะเลยหา จริงๆ มีใบเสร็จเอาไปรับได้เลย) ค้นทั้งกระเป๋าเป้ แทบเทเลยเธอเอ๊ยยย 😱 ลมแทบจับ ความคิดแรกคือ มันหายไปตอนไหนวะ?? เอาจริงๆ นะ ตอนนั้นเราคิดอะไรไม่ออกเลย ทำอะไรไม่ถูกอ่ะ เดินหมุนไปหมุนมา เข่าอ่อนดิ จะร้องไห้เว้ย น้ำตามันปริ่มแล้วอ่ะแก ดีที่พนักงานในร้านช่วยดูกล้องวงจรปิดให้ เห็นว่าส่งคืนให้เราเรียบร้อยละ เค้าแนะนำให้เราไปแจ้งความ เพื่อเอาเอกสารไปติดต่อสถานฑูต ออกพาสปอร์ตชั่วคราว

แต่..... ตอนนั้นอ่ะ จะ 5โมงเย็นแล้ว โอ๊ยยย หูดับวิ้งไปชั่วขณะอ่ะ อารมณ์มึนๆ งงๆ ไม่ได้ยินเสียงอะไรไปแว๊บนึงเลยเว้ย ยังดีนะมีคนข้างๆ ดึงสติ ก็เลยพากันวิ่งไปสถานีตำรวจที่ใกล้ที่สุดก่อน ตอนนั้นไม่มีตำรวจที่สถานีเลยอ่ะ มีแต่ลุงแก่ๆ แถวนั้น โอ๊ยยยน้ำตาจะไหล เพราะแข่งกับเวลามาก สื่อสารกันก็ไม่ได้ ไม่เข้าใจภาษา ตอนนั้นคือร้องไห้แล้วอ่ะ เหลือบไปเห็นกล่องอะไรสักอย่างหน้าสถานีตำรวจ เขียน SOS เราก็ตัดสินใจคุยกะลุงคนเกาหลีอีกที ชี้มือไปที่สถานีตำรวจ แล้วชี้ตัวเราเอง บอกว่า SOS พูดซ้ำๆ แบบลนๆ นิดๆ เห้ยแกรรร!!! ลุงแกเข้าใจอ่ะ เค้าก็รีบเรียกใครสักคนที่น่าจะเป็นเจ้าหน้าที่สถานีมาให้ แต่.... อีกทีได้ป่ะ 🤪 เรียกมาก็ไม่พูดอังกฤษกับเราอยู่ดี โอ๊ยยย เวลาก็ใกล้หมด ทำอะไรก็ไม่ได้ อย่างพีค!!

โชคยังดี มีน้องคนนึงเดินผ่านมา ตัดสินใจเรียกเค้าและบอกปัญหาที่เราเจอ น้องเค้าก็ช่วยสื่อสารให้ ทั้งคุยกับตำรวจ ติดต่อสถานฑูตไทยในเกาหลี (คือเบอร์เราเป็นซิมสำหรับใช้เน็ต ไม่ได้เติมตังเผื่อโทรงะ) สุดท้ายคือเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ทำอะไรให้ ไม่ออกเอกสาร ให้เราติดต่อสถานฑูตเองในวันถัดไป มันก็ควรต้องเป็นแบบนั้น เพราะตอนนั้น 6 โมงเย็นแล้ว นอกเวลาทำการ น้องผู้ชายก็ช่วยติดต่อสายการบิน เพื่อขอเลื่อน Flight ให้ แต่ทางสายการบินบอกว่าเลื่อนได้ต้องเป็นคืนนี้เลย แต่ดึกหน่อย เพราะวันถัดไปตั๋วเต็ม จะเป็นวันอื่นเราก็ยังไม่ชัวร์เรื่องพาสปอร์ตอีก ก็เลยต้องยอมทิ้งแล้วคิดว่าคงซื้อใหม่ ขอบคุณน้องเค้าแล้วก็แยกย้าย

เราอ๊องไปพักนึงเลยอ่ะ ตั้งสติได้ก็จองโรงแรม เอาของไปเก็บ แล้วก็ลองตามหาพาสปอร์ตอีกที โดยเริ่มจากจุดเดินทางจุดแรกตั้งแต่ฝากกระเป๋าที่ร้าน RAON เป็นการตามรอยเท้าตัวเองใหม่ทั้งหมด เอาจริงๆ นะ ความหวังว่าจะเจออ่ะ คิดว่าน้อยมาก ใจเราคิดถึงวันต่อไปละ ว่าจะตื่นกี่โมง ไปสถานฑูตตรงไหน ทำอะไร เตรียมอะไรบ้าง สติหายไปเยอะ 555 ยังดีที่คนมาด้วย เค้ามีสติกว่าเรา และยอมทิ้งตั๋วอยู่กับเรา รักอ่ะ ❤️

เท้อ เราร้องไห้ตลอดทางเลย โทรหาเพื่อนที่ไทย เพื่อนก็ Support เราดีเว่อร์ เพื่อนรู้ว่าเราไม่มีสติละ สตังค์ก็ไม่มีด้วยเช่นกัน 555 เช็กประกันการเดินทางที่เราซื้อไว้ เช็กเบอร์สถาณฑูต แถมยังจะซื้อตั๋วให้เรากลับอีก เพื่อนกลัวเราเงินไม่พอโอนเงินมาให้เราไว้เผื่ออีก ซึ้งเพื่อน เดินร้องไห้ตลอดทาง ไม่เคยมีครั้งไหนอยากกลับบ้านเท่าครั้งนี้มาก่อนเลยเธอเอ๊ย

ไม่ได้โชคดีแค่เพื่อนดี คนข้างๆ ดี เท่านั้นนะ โชคดีที่สุดของครั้งนี้ คือเจอแล้วเว้ย พาสปอร์ตของฉัน!!!! มันตกอยู่ที่ร้านที่เรามาช็อปปิ้งเมื่อตอนกลางวัน พนักงานก็เก็บไว้ให้ โห เหมือนยกภูเขาออกจากอกอ่ะ กว่าจะเจอกันก็ประมาณ 4-5 ทุ่มละมั้ง ดีใจสุดคือไม่ต้องไปติดต่อสถานฑูตละ ได้กลับบ้านซะที สรุปก็ต้องจอง Flight วันถัดไปใหม่ กลับบ้านอย่างปลอดภัย ประสบการณ์นี้สอนอะไรเราเยอะมาก ลืมไม่ลงจริงๆ ^^

อีกนิดๆ คนที่เกาหลี เค้าเคลมมาว่าเที่ยวที่นี่ ไม่ต้องกลัวโจร ขโมย ไม่มีแน่นอน ถ้าทำของหล่นหายไว้ ลองไปตามหาตรงจุดที่คิดว่าหาย โอกาสเจอมีอยู่มาก ซึ่งเราก็คิดว่ามันจริงนะเธอ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่