กระเป๋าสตางค์เราหายค่ะ แต่มีคนพบแล้ว...และแจ้งที่สถานีตำรวจ เราจึงขอให้ญาติโทรไปติดต่อที่ตำรวจ แต่ตำรวจไม่สามารถส่งให้ได้ เพราะแจ้งว่าในกระเป๋ายังมีเงินค่ะ เราจึงขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่สถานฑูตไทย เพื่อให้ตำรวจส่งกระเป๋าสตางค์ไปที่สถานฑูต แล้วเราจะติดต่อไปรับที่สถานฑูตเองค่ะ แต่เมื่อกระเป๋าสตางค์ไปถึงสถานฑูตแล้ว มันกลับหายไปรอบสอง อย่างไร้ร่องรอยค่ะ...จึงเป็นที่มาของการเล่าสู่กันฟังในกระทู้นี้ค่ะ

เมื่อวันที่ 19- 22 กรกฎาคม เรากับเพื่อนเดินทางไปเที่ยวที่เกาหลีค่ะ และวันเสาร์ที่ 21 กรกฎาคม เราได้ไปเดินที่ตลาดเสื้อผ้าเด็กย่านนัมแดมุน แล้วก็ไปเดินเล่นที่อิแทวอนค่ะ และตกเย็นวันนั้น เราได้พบว่า เราได้ทำกระเป๋าสตางค์หล่นหายไป  เป็นกระเป๋าเอกสารที่ใส่ทั้งพาสปอร์ตและเงินสดอยู่ด้วยกัน (จุดนี้เราพลาดเองที่ไม่แยกพาสปอร์ตไว้ต่างหาก) เมื่อรู้ว่ากระเป๋าหาย เราก็ไปแจ้งความที่สถานีตำรวจค่ะ แต่เป็นเวลาเกือบ 19.00 น. จึงสามารถแจ้งความได้เท่านั้น ไม่สามารถติดต่อสถานฑูตเพื่อออกพาสปอร์ตชั่วคราวได้ จึงต้องเลื่อนตั๋วกลับจากวันอาทิตย์เป็นวันจันทร์แทนค่ะ

ในช่วงเวลานั้น ดิฉันก็ได้กลับไปตามหาที่สถานีรถไฟฟ้า เจ้าหน้าที่ก็ได้ช่วยรับเรื่องไว้ค่ะ แล้วก็ไปตลาดเสื้อผ้าเด็ก ซึ่งก็แน่นอนว่าปิดแล้ว และตลาดไม่เปิดวันอาทิตย์ จึงไม่สามารถถามใครได้เลยค่ะ

วันจันทร์ ดิฉันได้ไปทำพาสปอร์ตชั่วคราวแต่เช้า ซึ่งก็ได้รับความช่วยเหลืออย่างดีค่ะ ดิฉันมีรูปพาสปอร์ตและสำเนาบัตรประชาชนในมือถือ ซึ่งก็สามารถส่งเมลล์ให้เจ้าหน้าที่ได้ค่ะ เมือ่ได้พาสปอร์ต ก็เดินทางไปรอขึ้นเครื่องที่สนามบินตามปกติ

เวลาขึ้นเครื่องคือ 17.00 ค่ะ แต่ตอน 16.45น. ดิฉันได้รับเมลล์จากเจ้าหน้าที่ว่ามีคนพบกระเป๋าแล้ว และให้ไปรับที่สถานีตำรวจนัมแดมุน แต่ดิฉันไม่สามารถไปได้ และญาติก็อยู่ไกลจากสถานีตำรวจ จึงให้ญาติโทรไปที่สถานีตำรวจเพื่อขอให้ตำรวจส่งกระเป๋าให้ค่ะ ตำรวจไม่ยินยอม เพราะบอกว่า มีเงินจำนวนหนึ่งในกระเป๋า ดิฉันจึงได้ขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่สถานฑูตอีกครั้ง เพื่อติดต่อตำรวจ สุดท้ายตำรวจก็ยินดีที่จะส่งกระเป๋ามาที่สถานฑูตค่ะ

หลังจากนั้น ก็มีการติดต่อกับเจ้าหน้าที่เรื่อยมาเรื่องกระเป๋าสตางค์ค่ะ และรู้สึกสบายใจที่ได้กระเป๋าคืน เงินเหลือเท่าไหร่ไม่ทราบ (เราทราบจำนวนที่มี แต่เราไม่ทราบจำนวนที่เหลือในวันที่มีคนไปแจ้ง ซึ่งก็ประมาณ เกือบ 10,000 รวมเงินไทย เงินเกาหลี และเงิน US dollar อีกนิดหน่อย) แต่ก็อาจจะไม่เยอะแล้ว ส่วนบัตรเครดิต เอกสารต่างๆ อายัดเรียบร้อย และทำใหม่แล้ว แต่ถึงอย่างไรก็อยากได้กระเป๋าคืน เพราะไหนๆก็หาเจอแล้วนะคะ จนกระทั่งเจ้าหน้าที่แจ้งว่า ตำรวจจะส่งให้แบบเก็บเงินปลายทาง ดิฉันก็รอ เนื่องจากสัปดาห์นั้น สถานฑูตเปิดทำการถึงวันที่ 26 กรกฎาคมก่อนหยุดยาาว ดิฉันจึงได้ติดต่อไปอีกครั้งในวันอังคารที่ 31 กรกฎาคม

ประเด็นอยู่ตรงที่ว่า บุคคลที่ประสานงานก็อาจจะไม่ทราบว่าของส่งมาถึงแล้ว เพราะมาถึงในวันปิดทำการ จึงแจ้งว่าของถูกตีกลับไปที่สถานีตำรวจ ดิฉันจึงให้ญาติชาวเกาหลีโทรไปถามตำรวจอีกครั้งค่ะ แต่คราวนี้ตำรวจยืนยันว่า ส่งแล้ว และมีแม่บ้านชาว้กาหลีที่ทำงานที่สถานฑูตเซ็นต์รับแล้ว ดิฉันจึงได้แจ้งกับเจ้าหน้าที่สถานฑูตอีกรอบว่า กระเป๋าถึงสถานฑูตแล้วค่ะ สุดท้าย เจ้าหน้าที่ก็บอกดิฉันว่า กระเป๋ามาถึงตั้งแต่ 27 กค จากนั้นแม่บ้านก็รับและส่งต่อไปยังแผนกแจกจ่ายเอกสาร แต่เนื่องจากมีเอกสารส่งมาเยอะ จึงไม่ได้มีการตรวจสอบ และก็ไม่พบว่ากระเป๋าดิฉันอยู่ที่ใด หรือสรุปง่ายๆก็คือ "กระเป๋าหาย...เป็นรอบที่สอง" นั่นเองค่ะ

คือเข้าใจคนประสานงานนะคะ เค้าให้ความช่วยเหลือเป็นอย่างดี เจอเหตุการณ์แบบนี้ เค้าก็คอยช่วย แต่ต้องมาเป็นตัวแทนแจ้งว่ากระเป๋าหาไม่เจอ ก็คงจะเครียดเช่นกัน แต่ดิฉันก็ไม่เข้าใจว่า ที่ที่เราคิดว่าปลอดภัยที่สุด และจะเป็นที่พึ่งให้กับเราได้เวลาที่อยู่ต่างประเทศแล้ว ปรากฏว่า อาจจะไม่เป็นเช่นนั้น กระเป๋าตกที่ตลาดยังมีคนพบพร้อมเงินในกระเป๋าและไปแจ้งความ แต่ทำไมส่งมาที่สถานฑูตที่มีคนทำงานอยู่เพียงไม่กี่คน กระเป๋าจึงหายไปได้อย่างไร้ร่องรอย เรื่องราวก็จบเท่านี้ค่ะ มีความเสียใจที่กระเป๋าหาย และดีใจที่มีคนเจอ แล้วก็ต้องผิดหวังอีกครั้งเมื่อกระเป๋าใบเดิม หายเป็นรอบที่สองค่ะ

หมายเหตุ: เหตุการณ์นี้เราไม่ได้โทษใคร เราพลาดเองที่ทำกระเป๋าหายแต่แรก เพียงแต่อยากให้เป็นอุทาหรณ์กับนักท่องเที่ยวที่ไปต่างประเทศเท่านั้นค่ะ ไม่ได้มีเจตนาโทษใคร หรือหากว่าบุคคลที่เกี่ยวข้องได้มาอ่าน จะได้มีการเพิ่มมาตรการช่วยเหลือคนไทยที่รัดกุมกว่านี้ค่ะ

หมายเหตุ 2: แก้ไขคำผิด และเพิ่มเติมในส่วนจำนวนเงินที่หายค่ะ