จากกระทู้ที่แล้ว https://ppantip.com/topic/38786785

เรานั่งเล่น นั่งรถจนถึงเวลา 05.30 น. นถเมล์รอบแรกก็มา เรานั่งไปลงที่แสงแยกงงๆ คือจำไม่ได้ว่าชื่ออะไร == เราก็เดินเท้าต่อามกูเกิลแมปไปที่ที่พักกัน วันนี้เราออกสายๆเพราะกว่าจะเข้าที่พักก็เช้าแล้ว
การเดินทางในคุณหมิงเรานั่งทั้งรถเมล์ และ รถไฟฟ้า ซึ่งค่ารถเมล์ที่นี่ 5 บาทตลอดสาย ค่ารถไฟฟ้าก็ราคาไม่แพงนั่งเป็นสิบสถานีก็ยี่สิบกว่าบาท
ที่แรกที่เราจะไปก็คือวัดหยวนทง ที่เป็นวัดที่ใหญ่ที่สุดในคุณหมิง
แต่ก่อนหน้านั้นเราผ่านหน้าโรงเรียนเห็นคนมาขายข้าวกล่องก็ลองซื้อชิมกัน ข้าวราคา 50 บาท น้ำราคา 40 บาท
ข้าวกล่องจะเป็นไก่หมักผงหมาล่าชุบแปงทอด มันฝรั่งต้มคลุกเครื่องปรุงเผ็ดๆ ยำผักรสชาดก็ใช้ได้ ข้าวนุ่มมากๆ สรุปคืออร่อย และชานมไข่มุกหอม หวานไม่มาก น้ำแข็งนอกเดียว ผ่านๆๆ ใช้ได้เลย
วัดหยวนทง เป็นวัดที่ผสมผสานทั้งวัดไทย พม่า และธิเบต วัดแห่งนี้เป็นศูนย์กลางของพระพุทธศาสนาถึง 3 นิกาย สร้างมาตั้งแต่สมัยราชวงศ์ถังมีอายุยาวนานประมาณ 1,200 กว่าปี
เมื่อเราไหว้พระเสร็จ เราเดินออกมาจากประตูเลี้ยวขาว เดินตรงไปอีกนิดจะได้พบกับสวนสาธรณะซุ่ยหู ที่นี่มีบ่อน้ำ สวนดอกไม้ ป่าไผ่ ร้านอาหาร ร้านชอปปิ้ง และมีพวกป้าๆมาเต้นมารำให้ดูเพลินๆเลย
ต้องขออภัยด้วยรูปในช่วงนี้หายไปไหนไม่รู้ 555 ขอโทษด้วยนะคะต่อมาเราก็มากันที่ประตูม้าทอง ไก่มรกต เป็นถนนเก่าแก่ที่มีเอกลักษณ์ของจีน เป็นแหล่งถนนคนเดินโบราณ ย่านนั่งเล่น ชอปปิ้งของพื้นเมืองของที่ระลึกและเป็นย่านการค้าที่ทันสมัยในคุณหมิง
เรามาเดินห้าง พักผ่อนชิวๆและมากินกั้วเสียวหมี่เสี้ยน เปนก๋วยเตี๋ยวรสหมาล่าที่แซ่บสุดๆ เผ็ด ซ่า ชาลิ้นมากๆ ทีเด็ดก็คือเขาจะเสิร์ฟทุกอย่างแยกมาเป็นจานๆแล้วให้เราคีบใสในชามเองหมูที่แร่มาแดงๆบางๆโดนน้ำซุปร้อนๆก็สุก คือเป็นการกินที่สนุกสนานเลยทีเดียว
เผ็ด ชา ขนาดไหนดูสีเอานะ เรากินไปนิดนึงยอมแพ้ไปซื้อน้ำวุ้นถั่วแดงมาดับความเผ็ดแปป !
วันสุดท้ายที่เราจะอยู่จีนแล้วนะคะวันนี้เรามาขึ้นรถไฟฟ้าไปที่เขาซีซาน
เขาซีซาน เป็นวัดในลัทธิเต๋า สร้างในช่วง ค.ศ.1718-1843 มีประวัติความเป็นมานับ 1,000 ปี คนจีนเชื่อกันว่าเมื่อมาถึงคุนหมิงแล้วจะต้องมาที่เขาซีซานแห่งนี้เพื่อไปลอดประตูมังกร เมื่อลอดแล้วสิ่งที่ไม่ดีก็จะหายไปและจะมีความโชคดีเพิ่มขึ้นร้อยเท่าพันเท่า
ก่อนอื่นเรามาถึงก็ซื้อตั๋วค่าเข้าวัดในราคา 440 บาท ราคานี้จะรวมหลายๆอย่างในการเดินทางที่นี่เราจะได้ไม่ต้องเดินเยอะเนอะ ได้ตั๋วมาเราก็มานั่งรอรถบัสเพื่อส่งเราขึ้นเขา แล้วเราก็ไปต่อแถวขึ้นกระเช้าได้เลย
ทุกคนอาจจะสงสัย กระเช้าๆๆๆ ไม่มีอะไรปิดเลย เราสามารถดื่มด่ำความเสียว เอ้ย ! ความงามได้ 360 องศา 555 ไม่ต้องกลัวนะคะ กระเช้านี้ไม่สูงมากเท่าไหร่ อาจจะหวิวแรกๆแต่ต่อไปก็ชินเอง
เมื่อลงมาจากกระเช้าเราก็มากินกันก่อน อันนี้เป็นหมาล่าที่ใช้วิธีการทอด แล้วมีหมาล่าและน้ำจิ้มเปรี้ยวๆข้นๆให้จิ้มด้วย
เมื่ออิ่มเราก็เดินลงมาต่อ เราตั้งใจจะไปที่ภูเขาหิน แต่เราหลงค่ะ 555 หลงวนไปวนมา ที่จริงเขามีป้ายให้ดูแต่มีคนมาขีดๆ จุดๆเพิ่มมากมาย เราเลยหลง == เลยได้วิวนี้แทน
เราเดินตามทางไปเรื่อยๆ ก็เจอทางเข้ามืดๆคล้ายๆถ้ำก็เดินลงไปเลยนะคะ
เราออกมาจากถ้ำก็จะเจอออออ ทะเลสาบเตือนฉือ
คนจีนเชื่อกันว่าเมื่อมาถึงคุนหมิงแล้วจะต้องไปลอดประตูมังกร พร้อมกับเอามือลูบลูกแก้วมังกร เมื่อลอดแล้วฐานะจะเพิ่มขึ้นเป็นหนึ่งร้อยเท่า
เทพเจ้าไฉ่ซิง เทพเจ้าแห่งโชคลาภ ที่นักท่องเที่ยวนิยมมาขอพรกัน
ตอนขาลงเราก็นั่งเคเบิลคาร์แต่อันนี้จะดูดีและปลอดภัยนะคะ เรานั่งกระเช้าข้ามทะเลสาบเตือนฉือ แล้วไปลงอีกทาง หาทางกลับเข้ามาเมืองกันเองนะคะ 5555
และนี่คือ วันสุดท้ายในคุณหมิงของเรา และมื้อสุดท้ายของที่นี่เราก็ยังมาในห้าง เรามากิน HotPot กัน เซ็ทนี้ราคา 600 บาทกินสองคนจุกๆไปเลย เนื้อจานใหญ่ 1 จาน จานรวมผัก กุ้ง ปลา อีก 1 จานใหญ่ๆ แถมมีน้ำตะไคร้หอมๆให้ฟรีด้วยนะ
เมื่ออิ่มเราก็เดินทางกลับไทยกัน เรานั่งเตรื่องจากที่นี่ในไฟล์ทดึกและไปถึงไทยตอนตี 1 ถ้าใครอยากได้ตั๋วถูเที่ยวประหยัดก็ต้องลองเนอะ หรือใครมีตั๋วโปรก็ดีนะคะ

เราไปเที่ยวจีนทำให้เราเปลี่ยนหลาายๆแง่มุม หลายๆแนวคิด
การเข้าห้องน้ำ เราไม่เจอแบบที่คนอื่นเขาเจอกันเลยนะ แม้แต่เมืองเก่าลี่เจียงก็ไม่เจอ คุณหมิงก็มีห้องน้ำชักโครกอัตโนมัติ
การเดินทางคมนาคม สะดวก สบาย ประหยัด รถเมล์มีเยอะ รถไฟฟ้าราคาถูก แท็กซี่ก็ไม่แพง รถไฟรางก็นั่งสบาย เครื่องบินภายในประเทศราคาก็ไม่โหดเท่าไหร่
อาหารการกิน อร่อย รสชาดถูกปาก ราคาถูก มีความหลากหลายมากๆ ลองไปเดิยซุปเปอร์มาร์เก็ตที่นี่นะคะ ของถูกจนอยากเหมากลับเบ้านเลย
ผู้คน คนที่นี่หน้าตาดี ผิวดี ไม่มีโวยวายเสียงดัง มีการเข้าแถวต่อคิว แต่อาจจะมีการสูบบุหรีในที่สาธารณะเล็กน้อย
บ้านเมืองทันสมัย สะอาด ตึกสูงๆสวยๆ มีความกลมกลืนเข้ากับบ้านเมืองแบบเก่าๆได้ดี ความทันสมัยควบคู่ไปกับความจีนแบบเก่าๆอย่างลงตัว
ใครที่คิดว่า จีนมาทำไม ก็อยากให้ลองเปิดใจดูนะคะ มาเถอะ แล้วจะหลงรักจีนแบบเรา ตอนนี้เรามีความตั้งใจว่าจะไปจีนปีละครั้งเลยนะ และขอให้ได้ไปแบบนั้น เพี้ยงงงง !