[CR] Late Winter in Tohoku: ปลายหนาวที่โทโฮคุ

Hello .....หลังจากกลับจากทริปญี่ปุ่นเมื่อช่วงกลางมีนาคมที่ผ่านมา เราก็ตั้งใจไว้ว่า อยากจะลองเขียนกระทู้รีวิว
เผื่อไว้สำหรับเพื่อนๆที่สนใจเดินทางไปท่องเที่ยวแถบภูมิภาคโทโฮคุของญี่ปุ่นกันบ้างค่ะ เนื่องจากตอนที่เราทำแพลนก่อนไป
ก็ได้ข้อมูลดีๆจากห้องบลูนี่แหละจ้า เพี้ยนยิ้ม

ทริปนี้เรามีเวลาเที่ยวที่ญี่ปุ่น 7 วัน ดังนั้นเราจึงแพลนเที่ยวแถบโทโฮคุ 4 วัน และกลับมาเที่ยวต่อโซนโตเกียวอีก 3 วัน
จากนั้นเราก็ปักหมุดที่เที่ยววันละแค่ 2 ที่ เพราะอยากใช้เวลาแต่ละที่เยอะหน่อยบวกกับอยากเที่ยวชิวๆไม่เร่งรีบด้วย (แต่จะได้ชิวไม๊เดี๋ยวรู้กัน 555)
และแพลนของเราก็ออกมาหน้าตาประมาณนี้ค่ะ

Day 1 - SENDAI จากสนามบินนาริตะเข้าโตเกียวด้วย NEX แล้วนั่ง Shinkansen ต่อเดียวถึง Sendai ฝากกระเป๋าที่โรงแรม แล้วไปเที่ยวอ่าวมัตสึชิมา

Day 2 - YAMAGATA วัดบันไดพันขั้น แล้วไปตามหา Snow Monster ที่ Mt. Zao

Day 3 - AKITA นั่งรถบัสเที่ยวรอบทะเลสาบทาซาวาโกะ ต่อด้วยแช่ออนเซ็นสีน้ำนมที่ Nyuto Onsen

Day 4 - SENDAI เก็บตก Shopping ใน Sendai แล้วค่อยนั่ง Shinkansen เข้าโตเกียว

ที่พัก
ทั้ง 3 คืนเราพักที่เมือง Sendai เนื่องจากเป็นเมืองใหญ่ และมีแหล่ง Shopping เผื่อตอนกลางคืนกลับจากเที่ยวแล้วยังพอประกอบร่างไหวก็จะได้เดิน Shopping ชิวๆต่อได้เลย 555 ซึ่งเราจองที่พักจาก Agoda ได้ที่พักนี้มาค่ะ Hotel Premium Green Hills สำหรับเราคิดว่าคุ้มค่ากับราคาต่อคนไม่ถึงพันบาท (ราคาอาจเปลี่ยนแปลงตามช่วงเวลาเดินทาง) เดินไกลจากสถานี Sendai หน่อยนะ ประมาณ 800 เมตร แต่ว่าสามารถเดินลัดมาตามถนนช็อปปิ้งได้เลย เดินเพลินๆแปบเดียวก็ถึงค่ะ ใกล้ๆมีร้านอาหารเปิด 24 ชั่วโมง และ พี่ 7-11 ก็สาขาใหญ่ ดีงามมากจ้า
อันนี้แปะลิ้งค์ที่พักไว้นะคะ เผื่อสนใจจ้า รูปในเว็บกับสถานที่จริงไม่ต่างกันมาก และอาหารเช้าที่โรงแรมโอเคเลยนะ แนะนำให้เลือกแบบ Include Breakfast ก็สะดวกและคุ้มดีค่ะ
https://www.agoda.com/th-th/hotel-premium-green-hills/hotel/sendai-jp.html?checkin=2019-07-20&los=1&adults=2&rooms=1&cid=1732630&tag=329a06ec-a692-446d-15c7-400df1a6dd38&searchrequestid=9aceb2fd-4f9a-4312-b370-b050743b6d2e&travellerType=1&tabbed=true

ตั๋วรถไฟ
เราใช้ JR EAST PASS (Tohoku Area) แบบไม่ต่อเนื่อง 5 วันเป็นหลัก ราคาซื้อในไทย 19,000 เยน เนื่องจากส่วนใหญ่สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆสามารถเดินทางด้วยรถไฟได้เลย และมีจ่ายเพิ่มเติมค่ารถบัสบ้าง สำหรับเราแล้วคุ้มมากๆๆๆ เพราะใช้นั่ง Shinkansen แบบ Reserved Seat ข้ามเมืองจากโตเกียวไปโซน Tohoku Area + JR Local Train ระหว่างเมืองแล้ว ยังเก็บไว้ใช้เดินทางไปกลับสนามบินได้อีกด้วย และอีกอย่างมันดีต่อคนขี้หลงอย่างเรามาก ไหนจะขึ้นรถไฟผิดชานชลา ลงผิดสถานี หรือขึ้นผิดขบวน ก็เจอมาหมดแล้วค่ะ ซื้อ Pass เหมาจ่ายแบบนี้อุ่นใจมากค่ะ  ซึ่งเราซื้อมาจากบริษัทตัวแทนจำหน่ายที่งานเที่ยวทั่วไทยไปทั่วโลกที่บูธของ Wendy Tour ค่ะ แล้วค่อยนำ Voucher ไปแลกพาสจริงที่ JR Ticket Office ในสนามบินนาริตะอีกที ถ้าสนใจเข้าไปดูรายละเอียดจากลิ้งค์ด้านล่างได้จ้า
https://www.jreast.co.jp/e/eastpass_t/index.html

ที่พักพร้อม !!! JR Pass ก็พร้อม !!! ออกเดินทางกันค่ะ
เราเดินทางด้วยสายการบิน Thai Airasia X บินตรง 6 ชั่วโมงกว่าถึงญี่ปุ่น สะดวกสบายมากค่ะ สั่งอาหารบนเครื่องไว้ล่วงหน้าพร้อม ออกจากสนามบินดอนเมือง 23.45 ถึงสนามบินนาริตะเช้าอีกวันเกือบๆ 8 โมง เช้านี้อากาศสดใส คุณกัปตันพามาถึงก่อนเวลาซะด้วย อ้อ ลืมเล่าว่าถ้าสั่งอาหารไว้บนเครื่องคุณแอร์จะปลุกเรามาทานข้าวประมาณตีสามกว่าๆเวลาไทย แต่ใกล้เข้าเขตญี่ปุ่นแล้วก็ราวๆตีห้าได้ค่ะ ทานเสร็จก็พักสายตาต่อ 555 จะบอกว่าช่วงเวลานี้ ท้องฟ้าตัดกับสีส้มๆของแสงแดดยามเช้า งดงามมากค่ะ
ถึงแล้วจร้าาาา
เมื่อผ่าน ตม. และรับกระเป๋าแล้ว เราก็ไปล้างหน้าแปรงฟันกันก่อนค่ะ เราลงไปเข้าห้องน้ำที่ชั้น B  ของสนามบินนาริตะ Terminal 2 ซึ่งเป็นชั้นที่เชื่อมต่อไปรถไฟต่างๆ ทั้งสาย  JR, Skyliner จากนั้นเราก็ไปแลก Voucher JR East Pass (Tohoku) ให้เป็นตั๋วจริงใน JR Office  และขอให้เจ้าหน้าที่ช่วยจอง N' EX (Narita Express) เข้าโตเกียว แล้วต่อ Shinkansen ยาวถึง Sendai เลยค่ะ 
บรรยากาศบนรถไฟ N'EX เช้าวันอาทิตย์
ราว 1 ชั่วโมงผ่านไป เราก็เดินทางมาถึงสถานีโตเกียวแล้วค่ะ คนมากมายพลุกพล่านสุดๆที่สถานีนี้ เราก็เดินตามป้ายบอกทาง Shinkansen นะคะ
ก่อนต่อรถไฟไป Sendai  เราก็อดไม่ได้ที่จะแวะซื้อเบนโตะไว้ไปทานบน Shinkansen (คิดมาก่อนแล้ว 555) และนี่ก็คือมื้อแรกของเรา กล่องนี้ราคา 1,250 Yen เหมาะสำหรับคนที่เลือกไม่ถูก อยากทานหลายสิ่งในกล่องเดียวอย่างเราค่ะ 555 มีข้าวสองฝั่งเลยนะ ข้างขวาเป็นปูอัดฝอย +ไข่ปลาแซลม่อน ส่วนข้างซ้ายเป็นแซลม่อนซาซิมิกับหอยเชลล์เทอริยากิ ตรงกลางก็มีเครื่องเคียงอย่าง ขิงดอง ไข่หวาน อยากจะบอกว่าอร่อยและอิ่มมากกกก

เพี้ยนชอบ

และในที่สุดเราก็มาถึง Sendai ซักที นั่ง Shinkansen มา 1 ชม.กับอีก 40 นาทีได้  เมือง Sendai นั้นตั้งอยู่ในจังหวัดมิยางิของภูมิภาคโทโฮคุ ซึ่งอยู่ทางเหนือของโตเกียวขึ้นไปประมาณ 300 กิโลเมตรค่ะ ที่นี่เป็นเมืองศูนย์กลางด้านเศรษฐกิจของของภูมิภาคโทโฮคุ เลยไม่แปลกใจว่าทำไมถึงมีถนน Shopping Street ที่ทอดยาว ออกจากสถานีก็เจอว่าฝั่งตรงข้ามสถานีเป็นศูนย์การค้าเลยค่ะ ที่เห็นไวๆก็มี Loft, GU, Uniqlo และห้าง Parco ที่มีสาขามากมายในญี่ปุ่น 
จากนั้นเราก็มุ่งตรงเดินไปฝากกระเป๋าที่โรงแรมก่อนค่ะ วันแรกยังงงๆ เลยเดินทะลุซอยไปมา 555 อันที่จริงคือเดินทางง่ายมาก ออกจากสถานีเลี้ยวขวาแล้วเดินลัดถนน Shopping Street มาประมาณ 800 เมตรแล้วค่อยเลี้ยวซ้ายก็ถึงที่พักแล้วค่ะ ระหว่างทางเดินบรรยากาศดีดี๊ ประมาณ 10 องศาต้นๆ
และนี้คือถนน Cris Road ค่ะ เป็นหนึ่งสายถนน Shopping Street ของที่นี่ ที่เราใช้เดินลัดไปมาระหว่างที่พักกับสถานี JR Sendai 
ระหว่างทางเดินเจอ AEON Mall ด้วยค่ะ 
เมื่อฝากกระเป๋าที่โรงแรมเรียบร้อย เราก็ได้เวลาออกเที่ยวแล้ววว เย่ๆๆ บ่ายนี้เราจะไปเที่ยวโซนอ่าวมัตสึชิม่ากันค่ะ แพลนคือแวะวัดซุยกันจิ (Zuiganji Temple) และเดินเล่นชิวๆ + ชิมหอยนางรมอันลือชื่อที่อ่าวมัตสึชิม่า เรากลับมาตั้งต้นที่สถานี Sendai แล้วตั้งใจไปลงที่สถานี JR Matsushima ตามชื่อ
โค้กพีชชชชช ชื่นใจมากค่ะ
ในระหว่างนั้นไม่ได้รู้ตัวเลยซักนิดดด ว่ากำลังเข้าใจผิดคิดว่าสถานี JR Matsushima เป็นสถานีที่ใกล้ที่สุด ซึ่งที่จริงแล้วสถานีที่ใกล้ที่สุดคือ JR Matsushima Kaigan ค่ะทุกคน เพราะสถานีนี้ห่างจากวัดและหน้าอ่าวเพียง 500 เมตร มาวันแรกก็หลงแล้วจร้าา ไหนๆก็ลงผิดสถานีแล้ว ทางเลือกคือไม่นั่งแทกซี่ก็เดินประมาณ 1.5 กิโลเมตร และแล้วสมาชิกก็ตกลงพร้อมใจกันเดินฝ่าลมหนาวไปวัดซุยกันจิกันค่ะ
ออกจากสถานีมาเจอป้ายบอกทางก็ใจชื้นค่ะ ป้ายบอกว่าเลี้ยวขวาไป Matsushima Bay นะจ๊ะ
ระหว่างทางเจอน้องเหมียวอาบแดดอยู่หน้าบ้าน (ซึ่งก็คือก้อนขาวๆในรูปบน เลื่อนขึ้นได้เลยจ่ะ 555)
 และในที่สุดก็ถึงประตูวัดด้านข้างแล้วจ้า เข้าทางพิเศษอีกล่ะ 
ภายในบริเวณวัดเรียงรายด้วยต้นสนสูงมากๆ
วัดซุยกันจิในแต่ละฤดูกาลจะมีเวลาเปิดให้บริการต่างกันนะคะ อย่างเราไปช่วงปลายฤดูหนาวเดือนมีนาคมก็จะเปิดตั้งแต่ 8.00-16.30 ค่ะ ถ้าหน้าหนาวพีคๆบ่ายสามครึ่งก็ปิดแล้วค่ะ และก็ซื้อตั๋วจากตู้จำหน่ายตั๋วอัตโนมัติได้เลยค่ะ ซื้อพร้อมกันสูงสุดได้ถึง 5 ใบ
จ่ายค่าเข้าวัด + ชมพิพิธภัณฑ์ 700 Yen ก็ได้รับตั๋วมาแบบนี้จ้า
วัดซุยกันจิเป็นวัดเซนเก่าแก่ที่มีชื่อเสียงในภูมิภาคโทโฮคุ ส่วนฝั่งตรงข้ามจะเป็นพิพิธภัณฑ์จัดแสดงสมบัติของวัด 
ถ้าเข้าอุโบสถหลักก็จะต้องถอดรองเท้าและฝากไว้ด้านหน้าค่ะ ข้างในมีจัดแสดงห้องโถงต่างๆ ซึ่งเป็นที่พักรับรองของตระกูลนักรบซามูไร มีงานศิลปะอย่างเช่นภาพเขียนประดับบนประตูกระดาษเป็นรูปนกยูง งดงามมากค่ะ
ดอกของต้นสน Sugi ค่ะ ซูมใกล้ๆ 
บรรยากาศในวัดสงบและร่มรื่นดีค่ะ 
ชมวัดเสร็จแล้วก็ออกไปตามหาหอยนางรมกันต่อค่ะ เดินออกจากวัดด้วยทางเข้าปกติได้เลย ข้ามมาอีกฝั่งก็จะเจอกับทะเล ทะเล๊ แล้วค่าาา
และนี่ก็คืออ่าวมัตสึม่าที่ติดอันดับ 1 ใน 3 วิวที่สวยงามที่สุดของประเทศญี่ปุ่น
ท่าเรือสำหรับคนที่สนใจนั่งเรือชมวิวรอบๆอ่าว และไปดูนกนางนวล แต่เรามาเย็นเกินไป เรือกำลังทยอยเทียบท่าหมดแล้วค่ะ
อาคารนี้คือช่องขายตั๋วค่ะ 
ไปตามหาหอยนางรมกันต่อค่ะ ระหว่างทางเดินอากาศดี๊ดี
ป้ายทางขวาที่เขียนว่า For Godaido เราจะเข้าไปในนั้นเพื่อไปชมวิวอ่าวกันค่ะ
ร้านค้าระหว่างทาง 
เดินข้ามสะพานสีแดงสดนี้ซี่ไม้แต่ละแผ่นห่างกันพอสมควร ต้องใช้ความระมัดระวังนิดนึงนะคะ
และนี่ก็คือศาลเจ้าโกะไดโดตั้งอยู่บนโขดหินบริเวณริมอ่าวมัตสึชิม่าค่ะ
ชื่อสินค้า:   Sendai, Yamagata, Akita
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่