สวัสดีจ้า เพื่อนๆชาวพันทิป นี่เป็นกระทู้แรกเลยถ้ามีข้อผิดพลาดหรือใช้คำที่ไม่เหมาะสมขออภัยล่วงหน้านะคะ
มาเริ่มกันเลยค่า แทนตัวเองว่าเอนะคะ ตามชื่อหัวข้อกระทู้เลยจ้า ใกล้สอบ Final กันแล้ว เพื่อนๆและเอเลยคิดกันว่า พึ่งตัวเองให้อ่านหนังสือก็แล้ว ติวด้วยกันก็แล้ว เกร็งข้อสอบก็แล้ว คงเหลือตัวเลือกสุดท้ายให้พึ่งพาจึงได้ลงความเห็นกันว่า เอาล่ะ ไปทำบุญกันเถอะพวกเราาาาา 55555
จากการหาข้อมูลต่างๆเลยตัดสินใจไปทำบุญกันที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือ วัดพระแก้ว เพราะว่า เป็นพระอารามหลวงชั้นพิเศษ ที่ตั้งอยู่ตรงมุมด้านตะวันออกเฉียงเหนือของพระบรมมหาราชวัง อีกทั้งยังเป็นที่ประดิษฐาน พระมหามณีรัตนปฏิมากร หรือ พระแก้วมรกต รวมถึงใช้เป็นที่ประกอบพระราชพิธีทางศาสนาที่สำคัญ และมีความงดงามของวัดคู่บ้านคู่เมืองของกรุงรัตนโกสินทร์กันค่ะ
         ขอเริ่มตั้งแต่มารวมตัวกับเพื่อนอีก 5 คนเลยนะคะ รวมเอแล้วการไปทำบุญครั้งนี้ไปกันทั้งหมด 6 คนค่ะ เริ่มออกเดินทางกันตอน10โมงไปขึ้นรถเมล์ที่ป้ายรถเมล์แยกบางพลัด โดยสารสาย 203 สีแดง-ครีม ค่าโดยสารคนละ 6.50 บาท (ถูกมากๆเลยค่ะ) นั่งต่อเดียวลงป้ายรถเมล์ท่าช้างก็สามารถเดินต่อถึงวัดพระแก้วได้เลยโดยใช้เวลาประมาณ 20 นาที (ถ้ารถไม่ติดนะจ๊ะ)
          แต่ก่อนอื่นกองทัพต้องเดินด้วยท้องเลยแวะหาข้าวทาน หาไม่ยากเลยค่ะถัดจากป้ายรถเมล์ท่าช้าง ก็มีร้านอาหารให้เลือกเยอะเลย ราคาก็ไม่แพง 40-50 บาทลืมถ่ายรูปมา ขออภัยจ้า
พอทานข้าวกันเสร็จก็เริ่มเดินทางเข้าวัดพระแก้วกันเลย ต่างชาติเยอะมากๆเลยค่ะ ทัวร์ลงเยอะมาก แดดประเทศไทยก็ร้อนมากๆเช่นกัน แนะนำใครที่จะไปอย่าลืม อุปกรณ์กันความร้อนกันด้วยนะคะ เนื่องจากพวกเราไปกันครั้งแรก ก็ยังไม่รู้ทางเท่าไหร่ว่าต้องเข้าทางไหนถึงจะหาข้อมูลมาก็ยังงงๆกันอยู่ดี แต่ถามแม่ค้าพ่อค้า หรือเจ้าหน้าที่ก็ใจดีกันมากๆเลยคอยบอกคอยช่วยชี้ทางให้ตลอด หรือถ้าใครไม่กล้าถามลองเดินตามกลุ่มทัวร์ดูนะคะ พอเจอทางเข้า ก็จะมีจุดตรวจดูความเรียบร้อยของการแต่งกายค่ะ โดยมีข้อห้ามดังนี้นะคะ 
1 . ห้ามใส่กางเกงขาสั้น, กระโปรงสั้น,เสื้อรัดรูป
2. ห้ามใส่เสื้อผ้า, กางเกง, กระโปรงที่บางจนเกินไป
3. ห้ามใส่เสื้อกล้าม, เสื้อแขนกุด, รองเท้าแตะที่ไม่มีสายรัดข้อเท้า
4. ห้ามเอาชายเสื้อออกนอกกางเกง
*ถ้าใครแต่งกายไม่สุภาพ ไม่ต้องกลัวอดเข้าชมนะคะ สามารถหาซื้อเปลี่ยนได้จากด้านนอกเลยค่ะ จะมีจุดขายอยู่เยอะเลยนะคะ*
จุดต่อไปเราจะพบเป็น จุดขายตั๋วเพื่อเข้าชมค่ะ
เวลาทำการ 08.30 - 16.30 น. ทุกวัน ไม่เว้นวันหยุดราชการ
จำหน่ายบัตรทุกวัน 08.30 - 15.30 น.
ค่าเข้าชม
- คนไทยไม่เสียค่าเข้าชม
- จากที่หาข้อมูลมาชาวต่างชาติ 250 - 350 บาท (ไม่แน่ใจนะคะ ขออภัยจริงๆค่ะ)
ข้างๆจุดขายตั๋วก็มีธนาคารไทยพาณิชย์ตั้งอยู่ รองรับทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติสามารถใช้บริการได้เลยค่ะ
ถ้าเราเข้าไปชมในบริเวณวัดพระแก้วก็มีจุดที่ตรวจดูตั๋วและการแต่งกายอีกครั้ง โดยแบ่งออกเป็นช่องๆเลยค่ะ จะมีคนเฝ้าและคอยตรวจทุกช่องเลย แบ่งเป็นของชาวต่างชาติ ของมัคคุเทศก์ และของคนไทยค่ะ(เดินตัวปลิวเลยค่ะไม่ต้องตรวจบัตรเข้าชม) ถ้าผ่านจุดนี้แล้วก็จะเข้าถึงในบริเวณวัดโดยสมบูรณ์แล้วค่ะ
         สิ่งแรกที่เห็นก็ประทับใจมากๆแล้วนะคะ เพราะคนเยอะมากทัวร์ลงเยอะมาก ผ่าม! ไม่ใช่! เพราะความงดงามของศาสนสถานและศาสนวัตถุต่างๆ ต่างหากล่ะคะ
        เมื่อมองดูหลังจุดบริเวณแจกโบรชัวร์ก็จะเจอพระระเบียงจิตรกรรมฝาผนังเล่าเรื่องราวของ รามเกียรติ์ และยักษ์เฝ้าประตูอยู่ทุกทิศ เป็นต้น ที่ฐานของยักษ์จะมีชื่อบอก และที่สำคัญคือเป็นยักษ์จากเรื่อง รามเกียรติ์ อีกด้วย จะมีเนื้อเรื่องที่เรียนภาษาไทยมาอยู่เยอะเลยล่ะค่ะ (เหมือนได้ย้อนวัย) จิตรกรรมฝาผนังจะอยู่รอบพระระเบียงวัดเลยค่ะงดงามมากๆ มีภาพมาฝากเล็กน้อยจ้าเพราะเยอะมากๆ อย่าลืมไปกันน้า
นอกจากจิตรกรรมฝาผนังแล้ว บริเวณโดยรอบของฐานไพทีซึ่งเป็นที่ตั้งของพระศรีรัตนเจดีย์องค์ใหญ่สีทอง พระมหามณฑป และปราสาทเทพบิดร ก็เป็นอีกจุดที่สามารถเดินเล่นได้และถ่ายรูปสวยๆ กับรูปปั้นของสัตว์หิมพานต์ (แต่วันที่เอไปคนเยอะมากจริงๆและอากาศร้อนมากค่ะเลยได้แค่เดินชมเท่านั้น) รวมถึงนครวัดจำลองขนาดใหญ่จะถ่ายภาพต้องถอยหลังหลายก้าวเลยนะคะถึงจะเก็บภาพได้หมด
         เมื่อเราเดินดูรอบๆกันแล้ว ก็มาถึงจุดสำคัญอีกหนึ่งอย่างของวัดพระแก้วคือการเข้าไปไหว้พระแก้วมรกต แต่ไม่อนุญาตให้ถ่ายภาพภายในนอกจากจุดที่อนุญาตจากเจ้าหน้าที่แค่บางจุดนะคะ แต่ทางเอและเพื่อนๆมีเวลาจำกัด คนรอเข้าไปเยอะมากจริงๆ จึงไม่สามารถเข้าไปวันนั้นได้แต่ถ้ามีโอกาสจะกลับไปแน่นอนค่ะ เลยเอาข้อมูลเล็กๆน้อยๆมาฝากเพื่อนๆนะคะ
     พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร หรือที่เรียกกันว่า พระแก้วมรกต ที่แกะสลักจากหยกอ่อนเนไฟรต์ เป็นศิลปะยุคก่อนเชียงแสนจนถึงศิลปะเชียงแสน หลักฐานระบุว่าพบครั้งแรกที่เชียงราย (วัดพระแก้ว) เกิดเหตุการณ์ฟ้าได้ผ่าลงองค์พระเจดีย์พบพระพุทธรูปพอกปูนลงรักปิดทองจึงได้นำไปไว้ในวิหาร ต่อมาปูนบริเวณพระนาสิก(จมูก) เกิดกระเทาะออกทำให้เห็นเป็นเนื้อมรกต จึงได้นำพระพุทธรูปมากระเทาะปูนออกทั้งองค์ พบว่าเป็นเนื้อหยกทั้งองค์.
     มีเรื่องเล่าถึงการเดินทางของพระแก้วมรกตไว้ว่า พระเจ้าสามฝั่งแกนแห่งเชียงใหม่เชิญพระแก้วมรกตมาประดิษฐานที่เชียงใหม่ แต่ช้างทรงกลับเดินไปทางลำปาง เชียงใหม่เห็นว่าลำปางเองก็อยู่ในอาณาจักรล้านนา พระแก้วมรกตก็เลยไปประดิษฐานอยู่ที่พระแก้วดอนเต้า จนสมัยพระเจ้าติโลกราชก็ได้อัญเชิญพระแก้วมรกตไปเชียงใหม่ และเมื่อพระเจ้าไชยเชษฐาแห่งล้านช้าง(ลาว) เสด็จกลับหลวงพระบาง ก็อัญเชิญพระแก้วมรกตไปด้วยพร้อมกับพระพุทธสิหิงค์ ทางเชียงใหม่ขอคืนได้แค่พระพุทธสิหิงค์
เมื่อล้านช้างย้ายเมืองหลวงจากหลวงพระบางมาเวียงจันทน์ พระแก้วมรกตถูกอัญเชิญลงมาด้วย พอเข้าสมัยธนบุรี พระเจ้าตากสินมหาราชก็อัญเชิญพระแก้วมรกตมาที่วัดอรุณฯ และข้ามฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยามาประดิษฐานยังวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ตั้งแต่ยุครัตนโกสินทร์จนถึงปัจจุบัน
Cr. https://readthecloud.co/rail-road-bangkok-2/

         เมื่อเดินรอบบริเวณวัดพระแก้วกันเสร็จแล้วเอและเพื่อนๆจึงอยากจะทำบุญปล่อยปลากันต่อ ถึงถามจากเจ้าหน้าที่ในวัดพระแก้วนั่นแหละค่ะว่าแถวนี้วัดไหนที่สามารถทำบุญปล่อยปลาได้บ้างคะ พี่เจ้าหน้าจึงแนะนำว่าไปวัดระฆังได้เลย แถมบอกทางให้ด้วยนะคะ ใจดีมากๆ สามารถไปได้ง่ายเลยค่ะ คือกลับไปจุดที่เราทานข้าวกัน ท่าเรือท่าช้างนั่นเอง
         ค่าโดยสารคนละ 3.5 บาท (ถูกมากๆ) เนื่องจากเอนั่งเรือข้ามเป็นครั้งแรกด้วยนะคะ วิวดีสุดๆเลย ถึงจะมีคลื่นกระทบจากเรือที่แล่นผ่านไปมาบ้างนิดหน่อยค่ะ ใช้เวลาข้ามฟากไม่เกิน 5 นาทีค่ะ
เมื่อถึงวัดระฆังกันแล้วจะมีคนมาสอบถามว่าต้องการปลาชนิดไหน กี่ตัว มีขนมปังปลาขายด้วยนะคะ เอและเพื่อนๆซื้อ ปลาไหล 9 ตัวกับขนมปังปลาอีก 5 ถุง มีจุดที่ทางวัดทำไว้ให้สามารถปล่อยปลาได้เลย ขนมปังปลาก็สามารถให้นกได้นะคะ นกกับปลาที่มากินเยอะพอๆกันเลยค่ะ
         เมื่อเสร็จกิจกรรมทุกอย่างที่ตั้งใจมาทำกันแล้วก็เดินทางกลับกันค่ะ เหมือนตอนมาเลยนะคะ
ทำบุญง่ายๆ ราคาประหยัดแถมได้ภาพสวยๆ ได้เห็นความเป็นไทยที่หาจากที่อื่นไม่ได้ ใช้เวลาแค่ 4 - 5 ชั่วโมงเองนะคะ ถ้าใครมีเวลาว่างแต่ยังไม่รู้จะทำอะไรดี ก็สามารถทำตามพวกเราได้เลยจ้า ขอบคุณที่เข้ามาอ่านกันนะคะหวังว่าจะมีประโยชน์ไม่มากก็น้อยจริงๆค่าาา

สามารถเข้าไปรับชมพวกเราเพิ่มเติมได้นะคะ ตามลิ้งค์นี้เลยนะคะ

https://youtu.be/3-P0wJKFgbA