คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 8
ทำไมผมไปทำงานสาย
ตอบเลย ผมติสท์ ครับ
หางาน แบบเวลาเข้างานยืดหยุ่น
ขนาดองค์กรรัฐวิสาหกิจ ยังมี
ญาติผมทำงาน ททท เข้างานกี่โมง
ก็นับเวลาออกงาน ไปอีก 8 ชม ทำงาน
บริษัทเอกชนยิ่งมีเยอะ
บางทีนับเวลาทำงานต่อสัปดาห์
และกำหนดเวลาเข้าออฟฟิตตายตัว
แค่วันเดียวต่อสัปดาห์ก็มี
พวก Start up มีเยอะ
งานบางสายงานไม่กำหนดเวลาเข้าออฟฟิตเลยก็มี
แค่มาประชุม ครึ่งเช้าวันจันทร์
เช่น ฝ่ายขาย ฝ่ายดูแลลูกค้าสัมพันธ์
ฝ่ายพัฒนาธุรกิจ
แค่ทำตามแผนงาน เช่น การเยี่ยมลูกค้า
เดือนนี้ต้องไปเจอใคร ลูกค่ารายไหนบ้าง
หางานให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์
ของตัวเอง จะมีความสุข
ผมไม่แคร์ เลย ผมมีความสามารถ
ถ้าบังคับมาก ผมหางานใหม่
แต่ผมก็พยายามเข้าออฟฟิต
เวลาแบบ overlap กับทีมงานเสมอ
เผื่อมีใครต้องการความช่วยเหลือ
บางวันผมติส
ตื่นมานอนไม่หลับคิดงานออกหัวแล่น
ก็เข้าออฟฟิตตี 5 บ่ายโมง ผมกลับ
บางวันก็เข้าบ่ายโมง สองทุ่มกลับ
บางวันเข้าบ่ายสอง
ออกออฟฟิตสิบโมงเช้าแล้วกลับบ้าน
บางวันก็เข้าแปดโมง เลิกเที่ยงคืน
วันต่อมา นอนอยู่บ้าน
ก็เมื่อวานทำเท่ากับ 2 วันไปแล้วนิ
งานแบบนี้มีจริง ถ้าคุณเก่งพอ
และบริษัทต้องการคุณมาก
และคุณทำงานในระดับให้คำปรึกษา
หรือทำงานด้านกลยุทธ์
หรือทำงานด้านโครงการ
หรือทำงานที่สร้างสรรค์
ไม่ใช่ระดับปฏิบัติงานประจำวัน
ถ้าคุณไม่ชอบเป็นมดงาน เข้าออกตามเวลา
ก็จงเป็นอย่างอื่น ที่เลือกได้มากกว่า
คุณฝึกตัวเองยังไง หาโอกาสแบบไหน
ชีวิตในฝัน มันไม่ได้อยู่ที่การรอโอกาส
ที่สวรรค์ หรือใครจะประทานให้มา
มันอยู่ที่การสร้างตัวตนของเราขึ้นมาต่างหาก
ไม่ใช่ผมจะบอกว่า การภาวนา และรอคอยโอกาส
มันจะไม่มีทางประสบความสำเร็จนะ
คนที่ศรัทธา และได้โอกาสนั้นมา
และประสบความสำเร็จมันก็มี
แต่โอกาส มันน้อย 1 ในล้าน 1 ในสิบล้าน
แต่คนที่สร้างตัวเอง หล่อหลอมตัวเอง
พาตัวเองไปหาโอกาส
มันอาจจะมีคนสำเร็จแค่ 1 ในร้อย
แต่แค่ 1 ในร้อย ก็ดีกว่า 1 ในล้าน ตั้ง 1000 เท่า
คนอื่นทนๆ ทำไปก็ทำได้
แต่ผมไม่ได้ต้องการเป็นคนพวกนั้น
เป็นมนุษย์ธรรมดาทั่วไป
ที่ทำงานที่ตัวเองไม่ชอบ
อยู่ในสภาพอดทนจำยอม
ยอมรับทุกอย่างเพราะความกลัว หรือเพื่อความอยู่รอด
ผมเลยไม่ยอมเป็นผู้ที่อยู่ในระบบ
ผมทำงานเป็นทีมงานผู้สร้างระบบ ให้เจ้าของระบบ
แล้วให้คนอื่น ทำตามระบบ
สำหรับผมเอง ในการประเมินผลงานตัวเอง
คำว่าดีมาก แปลว่าดีไม่พอ
ยอมเยี่ยม แปลว่ามีจุดที่ต้องปรับปรุง
Perfect แปลว่า เราตั้งมาตรฐานต่ำไป
มันยาก มันถึงน่าทำ
ถ้ามันง่าย คนอื่นมีอีกเยอะ
งานนี่คงไม่ใช่สำหรับผม
ตอบเลย ผมติสท์ ครับ
หางาน แบบเวลาเข้างานยืดหยุ่น
ขนาดองค์กรรัฐวิสาหกิจ ยังมี
ญาติผมทำงาน ททท เข้างานกี่โมง
ก็นับเวลาออกงาน ไปอีก 8 ชม ทำงาน
บริษัทเอกชนยิ่งมีเยอะ
บางทีนับเวลาทำงานต่อสัปดาห์
และกำหนดเวลาเข้าออฟฟิตตายตัว
แค่วันเดียวต่อสัปดาห์ก็มี
พวก Start up มีเยอะ
งานบางสายงานไม่กำหนดเวลาเข้าออฟฟิตเลยก็มี
แค่มาประชุม ครึ่งเช้าวันจันทร์
เช่น ฝ่ายขาย ฝ่ายดูแลลูกค้าสัมพันธ์
ฝ่ายพัฒนาธุรกิจ
แค่ทำตามแผนงาน เช่น การเยี่ยมลูกค้า
เดือนนี้ต้องไปเจอใคร ลูกค่ารายไหนบ้าง
หางานให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์
ของตัวเอง จะมีความสุข
ผมไม่แคร์ เลย ผมมีความสามารถ
ถ้าบังคับมาก ผมหางานใหม่
แต่ผมก็พยายามเข้าออฟฟิต
เวลาแบบ overlap กับทีมงานเสมอ
เผื่อมีใครต้องการความช่วยเหลือ
บางวันผมติส
ตื่นมานอนไม่หลับคิดงานออกหัวแล่น
ก็เข้าออฟฟิตตี 5 บ่ายโมง ผมกลับ
บางวันก็เข้าบ่ายโมง สองทุ่มกลับ
บางวันเข้าบ่ายสอง
ออกออฟฟิตสิบโมงเช้าแล้วกลับบ้าน
บางวันก็เข้าแปดโมง เลิกเที่ยงคืน
วันต่อมา นอนอยู่บ้าน
ก็เมื่อวานทำเท่ากับ 2 วันไปแล้วนิ
งานแบบนี้มีจริง ถ้าคุณเก่งพอ
และบริษัทต้องการคุณมาก
และคุณทำงานในระดับให้คำปรึกษา
หรือทำงานด้านกลยุทธ์
หรือทำงานด้านโครงการ
หรือทำงานที่สร้างสรรค์
ไม่ใช่ระดับปฏิบัติงานประจำวัน
ถ้าคุณไม่ชอบเป็นมดงาน เข้าออกตามเวลา
ก็จงเป็นอย่างอื่น ที่เลือกได้มากกว่า
คุณฝึกตัวเองยังไง หาโอกาสแบบไหน
ชีวิตในฝัน มันไม่ได้อยู่ที่การรอโอกาส
ที่สวรรค์ หรือใครจะประทานให้มา
มันอยู่ที่การสร้างตัวตนของเราขึ้นมาต่างหาก
ไม่ใช่ผมจะบอกว่า การภาวนา และรอคอยโอกาส
มันจะไม่มีทางประสบความสำเร็จนะ
คนที่ศรัทธา และได้โอกาสนั้นมา
และประสบความสำเร็จมันก็มี
แต่โอกาส มันน้อย 1 ในล้าน 1 ในสิบล้าน
แต่คนที่สร้างตัวเอง หล่อหลอมตัวเอง
พาตัวเองไปหาโอกาส
มันอาจจะมีคนสำเร็จแค่ 1 ในร้อย
แต่แค่ 1 ในร้อย ก็ดีกว่า 1 ในล้าน ตั้ง 1000 เท่า
คนอื่นทนๆ ทำไปก็ทำได้
แต่ผมไม่ได้ต้องการเป็นคนพวกนั้น
เป็นมนุษย์ธรรมดาทั่วไป
ที่ทำงานที่ตัวเองไม่ชอบ
อยู่ในสภาพอดทนจำยอม
ยอมรับทุกอย่างเพราะความกลัว หรือเพื่อความอยู่รอด
ผมเลยไม่ยอมเป็นผู้ที่อยู่ในระบบ
ผมทำงานเป็นทีมงานผู้สร้างระบบ ให้เจ้าของระบบ
แล้วให้คนอื่น ทำตามระบบ
สำหรับผมเอง ในการประเมินผลงานตัวเอง
คำว่าดีมาก แปลว่าดีไม่พอ
ยอมเยี่ยม แปลว่ามีจุดที่ต้องปรับปรุง
Perfect แปลว่า เราตั้งมาตรฐานต่ำไป
มันยาก มันถึงน่าทำ
ถ้ามันง่าย คนอื่นมีอีกเยอะ
งานนี่คงไม่ใช่สำหรับผม
แสดงความคิดเห็น
ทำไมคุณถึงไปทำงานสาย
สาเหตุที่มาทำงานสาย ไม่ใช่บ้านไกล ไม่ใช่รถติด ไม่ใช่ตื่นสาย ไม่มีความจำเป็นไรที่ต้องมาสายเลย
แล้วเรามาสายเพราะอะไร
ก็แค่ไม่อยากมาทำงาน เราไม่มีความสุขกับการทำงานนะ เราตื่นเช้า แต่เราก็ออกจากบ้านสาย ระหว่างทางถ้าเจอคุณตาคนนึงเราก็ชอบไปทักทาย แล้วก็เอาขนมให้แก เพราะแกชอบทาน หรือบางทีเจอแมวก็ถ่ายรูปแมว คุยกับแมวอยู่นั่นแหละ หรือบางทีเรานึกอยากกินอะไรเราก็จะแวะไปกินก่อน เดินไปเราก็ชมนกชมไม้ไปเรื่อย สายทุกวัน
สายก็โดนหักเงินนะ แต่ถ้าเรื่องงานเรารับผิดชอบงานดี ทำงานส่งทันก่อนกำหนดตลอด ก็ไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อนโดยตรง ทำแต่ตัวเองเดือดร้อนนี้แหละ
พอมาถึงจุดนนี้เรามองว่าเพราะเราไม่ชอบงานประจำ เราไม่ชอบการกำหนดเวลา งานที่ทำถือเป็นงานที่เครียดพอสมควร แต่เราไม่กดดันเรื่องงาน เรากับกดดันเรื่องเวลา สภาพแวดล้อมที่ทำงานก็ดี แต่ไม่ชอบเวลางาน
เราโดนหลายคนว่า เอาแต่ใจมาก ทุกคนเขาก็ทำได้ไม่ตายหรอก ทนๆ ทำไป หรือเราคิดแค่มุมของตัวเองมากเกินไป เอาแต่ความคิดตัวเองเป็นใหญ่ ถ้าใช่เราควรปรับเปลี่ยนความคิดยังไง หรือเราควรสร้างทางเลือกให้ตัวเองมากกว่าการทำงานออฟฟิศแบบนี้