เมื่อเมียผมไม่ยอมให้เมคเลิฟ และนี่คือสิ่งที่ผมค้นพบและมีความสุขกับมัน

ช่วงเดือนที่ผ่านมาชีวิตคู่ของผมไม่ค่อยราบรื่น
สาเหตุอาจเพราะผมไม่ค่อยได้ใส่ใจ หรือให้ความสำคัญกับภรรยาและลูกเท่าที่ควร
เพราะมัวแต่หาความบันเทิง ความสนุกจากกิจกรรมส่วนตัวของตนเองจนละเลยภรรยาและลูก
ทำให้ภรรยาเกิดความเบื่อหน่าย และเกิดความเฉยชาในชีวิตคู่

หลังจากภรรยาปฏิเสธการเมคเลิฟ ผมเลยลองหาความตื่นเต้นโดยการพูดคุยกับหญิงอื่น
ในช่วงแรกๆก็มีความสุข มีการพูดคุย จีบกัน แลกเปลี่ยนความคิด มีคนคอยรับฟังคอยเข้าใจเรา
ทำให้เรามีกำลังใจ มีความสุข เกิดความเบื่อหน่ายในตัวภรรยาคนเดิมมากยิ่งขึ้น
ซึ่งหลังจากมีคนคุยใหม่ แค่พูดคุยผ่านโลกมายาในอินเตอร์เน็ต ไม่มีการนัดพบกัน ก็ทำให้เกิดความห่างเหินในครอบครัว

จากที่เคยคิดว่ามันจะทำให้เรามีความสุข เป็นทางออกแก้ปัญหาได้ แต่มันไม่ได้เป็นเช่นนั้น มันกลับทำให้เราสุกจนร้อน
เพราะปัญหาที่เกิดจากภรรยาก็มีแต่แย่ลง และความสัมพันธ์กับคนใหม่ในโลกมายาก็ไม่ยั่งยืน เนื่องจากคนใหม่ที่เข้ามาคุยกับเราเค้าก็มีคนที่เค้ารักเค้าชอบอยู่แล้วเช่นกัน
มันยิ่งทำให้ผมเกิดความทุกข์มากยิ่งขึ้น

ยังโชคดีที่ผมเป็นคนรักการอ่าน เมื่อเวลามีปัญหา ผมก็หาหนังสือที่ดีๆมีสาระมาอ่านฆ่าเวลา
จนผมได้พบกับบทความนี้  “ความรัก10มิติ”

ในบทความนี้มีแง่คิดแนวคิดดีๆทางด้านศาสนาพุทธ ให้เราได้อ่านและเมื่อเราประสบปัญหาข้างต้นนี้ มันยิ่งทำให้เราเข้าใจปัญหาและมองหาทางออกได้ดียิ่งขึ้น

บทความนี้เปรียบเทียบความรักมีสิบแบบ

แบบแรก ความรักมิติที่1กามนิยม
คนเราทั่วๆไปรวมทั้งตัวผมต่างเผชิญความทุกข์กับความรักมิตินี้กันเยอะ
เนื่องจากมีการยึดติด ยึดมั่นถือมั่น ว่าจะให้เพื่อเอา เพื่อหวังครอบครอง มันจึงเป็นการให้ที่ไม่บริสุทธิ์มีการคาดหวัง
ทำให้เกิดความทุกข์จากตัวกรู ของกรู มีอัตตา ทำให้เกิดปัญหาอื่นๆตามมาอีกมากมาย

พอผมอ่านแล้วเหมือนเรารู้ปัญหาขึ้นมาทันที ว่าสิ่งที่เกิดมาทั้งหมด เกิดจากตัวเราเองทั้งนั้น

เริ่มจากปัญหาที่ภรรยาผมปฏิเสธการเมคเลิฟ เกิดเพราะผมไม่ใส่เธอ ผมเห็นแก่ตัว ใช้เวลาส่วนตัวไปทำกิจกรรมไร้สาระของตนเอง โดยไม่ค่อยได้ใส่ใจลูกเมียเท่าที่ควร ผมควรเริ่มเปลี่ยนแปลงตัวเองก่อน ทำตัวเองให้ดีเหมือนตอนที่รักกันใหม่ๆ ผมคิดว่าจะเริ่มทำตัวใหม่ตั้งแต่ตอนตั้งกระทู้นี้ครับ

ปัญหาที่สอง มีความทุกข์เพราะคนที่เข้ามาคุยใหม่ เค้าอาจจะสนใจเราน้อยลง และเค้าก็มีคนรักของเค้าอยู่แล้ว
มันก็เกิดจากการที่เรารักเพราะหวังครอบครอง หวังยึดติด ต่อไปผมจะลดการคุยกับเพื่อนในโลกมายานี้ให้หน่อยลง
ปรับระดับความสำคัญของเค้าที่มีในใจเรา ให้เป็นเพียงแค่เพื่อน หรือมิตรที่แสนดีเท่านั้น เพราะหากยังสานสัมพันธ์ ต่อ
สิ่งที่เราจะเจอต่อไปก็คงจะมีแต่ความทุกข์ ครอบครัวผมลูกเมีย ครอบครัวเธอ อาจต้องมีปัญหา

สุดท้ายนี้จุดประสงค์ที่ผมตั้งกระทู้นี้ ก็แค่ต้องการตั้งกระทู้ไว้ เพื่อเป็นสิ่งยืนยันว่าเราจะปฏิบัติตนไปในทางที่ดีขึ้นได้ ขอกำลังใจจากพี่ๆเพื่อนๆน้องๆในนี้ช่วยให้กำลังใจผมด้วยนะครับ
และแบ่งปันประสบการณ์ให้คนที่อาจจะประสบปัญหานี้ เผื่อเค้าได้มาอ่าน จะได้แก้ไขปัญหาได้ตรงจุด

สุดท้ายขอฝากข้อคิดคำคม ที่ผมจะยึดมั่นเพื่อทำให้ได้ตามนี้

อย่าทำในสิ่งที่ไม่มีสิทธิ์
อย่าคิดในสิ่งที่ไม่มีค่า
อย่ารอในสิ่งที่ไม่มีมา
อย่าไขว่คว้าในสิ่งที่ไม่มีจริง
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 15
คุณตั้งสมมติฐานผิดนะ

เหตุ ภรรยาไม่ให้ทำการบ้าน
ผล คุยกับสาวอื่นซะเลย
...

มันควรจะเป็น

เหตุ ไม่ใส่ใจภรรยา
ผล ภรรยาไม่ให้ทำการบ้าน

“ทุกข์เกิดแต่เหตุ เหตุดับทุกข์ดับด้วย”
แม้พระพุทธเจ้าทรงเอ่ยไว้สั้นๆ แค่นี้ก็ยังมีคนบรรลุโสดาบันได้เลย

อีกอย่างนึงดูๆ คุณถลำลึกกับสาวคนใหม่ไปพอสมควรแล้ว

จะลดระดับความสัมพันธ์นั้นไม่ได้...

ที่ถูกคือ

ต้องยุติความสัมพันธ์โดยทันที

เพราะเมื่อคนเรารู้สึกว่ายังปลอดภัยดีก็อาจจะเผลอกลับไปถลำลึกมากกว่าเดิม  ถ้ายังอยากประคองชีวิตคู่จริงจัง สิ่งที่ควรทำคือ ใส่ใจคู่ชีวิต ลดกิจกรรมบันเทิงส่วนตัว ไม่คิดนอกใจอีก แบบนี้อยู่กันได้นาน
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 18
เท่าที่อ่านคือ เมียไม่ให้เอา เพราะไปคุยกับสาวอื่น แถมสาวอื่นก็อาจเป็นเมียชาวบ้าน พอสาวอื่นไม่ค่อยคุยด้วย ก็ไปอ่านหนังสือแล้วมาโพสน์พบสัจจะธรรมแล้ว555 ผมเดาว่าถ้ามีสาวมาพัวพันอีก จขกท ก็เล่นด้วยอีก เพราะที่กลับมาสนใจหนังสือและครอบครัวเพราะไม่บรรลุเป้าหมายคือไม่ได้เอา ผมคิดว่า จขกท ยังมีความเห็นแก่ตัวอยู่ในระดับที่สูง  อ่านมาไม่มีสำนึกผิดเลยว่าสื่งที่เกิดขึ้นมันมาจากการกระทำของตัวเองทั้งหมด  การกลับไปทำดีกับเมียก็เพื่อให้เมียกลับมายอมนอนกับ จขกท เท่านั้น จริงๆมันควรจะสำนึกผิดตั้งแต่ต้นแล้วไม่ต้องมาเสียเวลาอ่านหนังสือหรอก5555
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่