ยังไงก็เรียกว่าเจ๊งได้แล้วหละ อีก9วันEnd gameมา รายได้อืดกว่านี้แน่นอน
ถ้าจะไม่เจ๊งต้องทำเงินอย่างต่ำ20-30ล้าน เพราะถึงจะทำเงินได้10ล้านเท่าทุน แต่ก็ต้องแบ่งกับโรงหนัง50-55% แล้วก็ค่าอื่นๆอีกมากมาย
สาเหตุที่เจ๊งเท่าที่นึกออก
1.คำวิจารณ์รอบสื่ออกมาแย่มาก
คือบางคนอาจจะบอกว่า อย่าไปเชื่อพวกนักวิจารณ์เลยดูดว้ยตัวเองดีกว่า ถือว่าสนับสนุนอุตสาหกรรมภาพยนตร์ ถึงจะพูดอย่างงั้น แต่ยังไงซะคำวิจารณ์ก็มีผลอยู่ดีครับ ยิ่งคำวิจารณ์จากเพจใหญ่ๆ หรือจากเวปใหญ่ๆอิมแพคมากๆ ในเมื่อกระแสปากต่อปากมันไม่ดี วิจารณ์ก็ไม่ดี มันก็ลดความอยากดูไปเยอะจริงๆ นักวิจารณ์ส่วนใหญ่เขาก็รีวิวเป็นกลางซะด้วยสิ จะมีแค่เพจบางเพจหรือบางเวปที่ใช้จริตส่วนตัวสูงมากในการดู บางคนเขาไม่สนหรอกครับว่าอุตสาหกรรมเป็นยังไง นักแสดงจะเป้นยังไง เขาก็แค่อยากจะดูอะไรที่สนุกๆคุ้มกับเงินที่เขาเสียไปเท่านั้น จริงๆความคิดแบบนี้มันก็ถูก มันดูดีเลยหละ แต่มันใช้ไม่ได้จริงสักเท่าไหร่ครับ คือถ้าทุกคนมีความคิดแบบนี้หนังห่วยมันจะออกมาเยอะขึ้นมากกว่า ยกตัวอย่างหนังของ พจ อานนท์เลย หนังห่วย ไร้แก่นสาร ไม่มีอะไรดี มีแค่ตลกเสื่อมๆชั้นต่ำ แต่ทำเงินมันก็ออกมาเรื่อยๆเป็นมะเร็งวงการภาพยนตร์ เพราะทำออกมายังไงคนก็ดูก็สนับสนุนกันเยอะแยะ
ฉะนั้นคำวิจารณ์ และเกณฑ์คะแนนจึงเป็นสิ่งที่ช่วยไปได้เยอะมาก อีกทั้งค่าตั๋วเดี๋ยวนี้ถ้าไม่ใช่ช่วงลดราคาหรือมีบัตรส่วนลดก็ปาไป150-500 นู่นแหนะ
2.ฉายชนกับหนังฮีโร่อย่างShazam! แถมเป็นค่ายDC
ก็ต้องยอมรับว่าหนังฮีโร่เป็นหนังแนวที่หลายๆคนชอบมาก คนจะเลือกมาดูหนังแบบนี้เยอะก็ไม่แปลก ยิ่งเป็นหนังจากค่ายDCที่มีฐานแฟนค่อนข้างแน่นมากทั่วโลกอยู่แล้ว การที่ไปฉายวันเปิดตัววันเดียวกับshazam! เป็นเรื่องที่คิดผิดสุดๆเลย นอกจากจะโดนแย่งโรงแล้ว คนยังไปให้กระแสกับShazam!มากกว่าอีก
อีกปัจจัยก็คือ หนังฮีโร่จากDCอย่างAquman ที่ฉายก่อนหน้าShazam! ทำคำวิจารณ์และรายได้ไปได้ค่อนข้างดี คนที่เขาคาดหวังกับShazam!ว่าจะปังตามAQไปก็เยอะขึ้นด้วยแหละ
3.ฉายใกล้ๆกับแสงกระสือ
หนังกระสืออกมาสองเรื่องพร้อมกัน ถึงมันจะพล็อคต่างกัน แต่ยังไงซะมันก็กระสือเหมือนกัน แถมแสงกระสือทำคำวิจารณ์ไปได้ดีมากๆด้วยแหละ เรียกได้ว่าเป็นอีกหนังไทยที่คุณภาพมาก นานๆทีมีครั้ง กระแสแสงกระสือค่อนข้างดี แถมคนจะจำกันว่า กระสือสยามกับแสงกระสือ คืออันเดียวกัน พอเป็นหนังกระสือแบบเดียวกัน แต่คำวิจารณ์ออกมาราวฟ้ากับเหว คนเขาก็เลือกที่จะเทไปดูแสงกระสือที่ยังยืนโรงมากกว่าอยู่แล้ว
4.เพราะผู้กำกับคือปรัชญา ปิ่นแก้ว
เอาจริงๆนะ หนังแกนอกจาก ต้มยำกุ้ง1 องค์บาก1 เรื่องอื่นมีอะหยังดีมั่งหนิ........... มีดีแค่ฉากแอคชั่นเท่านั้นแหละ คำวิจารณ์แต่ละเรื่องที่แกทำก็ออกมาค่อนข้างแย่ คนดูหนังหลายๆคนก็คงปักธงไว้ตั้งแต่เป็นชื่อผุ้กำกับแล้วว่าจะไม่ไปดูแน่นอน เพราะก็คงหนังบทห่วยๆตามสูตรแกที่ขายแต่แอคชั่น
ยิ่งกระสือสยามที่มีรีวิวออกมาว่าแอคชั่นแย่อีกก็ยิ่งทำให้รู้สึกว่า หนังปรัชญาเรื่องนี้ขนาดแอคชั่นที่น่าภาคภูมิใจยังแย่ ทำไมถึงต้องเข้าไปดู?
5.เคราะห์ร้ายที่วันฉายวันแรกของหนัง เป็นวันเปิดจองตั๋วหนังAvenger End game
Avenger End gameเป็นหนังบทสรุปของ infinity saga ที่คนบนโลกรอคอยกันมากที่สุด กระแสการจองตั๋วแรงมากทั่วโลก ถึงขั้นมีการประมาณการไว้ว่า ยอดจองตั๋วและเงินเปิดตัวจะสูงถึง900ล้านดอลเลยทีเดียว ฉะนั้นแค่วันแรกยังโดนกระแสอื่นกลบไปจนจางแบบนี้ก็น่าสงสารและแย่เอาเรื่อง
แต่ถึงอย่างงั้นสิ่งที่ดีที่สุดของหนังก็คงจะเป็นนักแสดงนี่หละนะ แสดงดีทุกคน
แต่ถึงแฟนคลับของนักแสดงจะเยอะและจะภักดีแค่ไหน แต่เจอคำวิจารณ์และสาเหตุหลายๆอย่างไปก็เลือกที่จะไม่ดูเหมือนกันแหละ
พอมาคิดอีกที ปัจจัยที่ทำให้กระสือสยามเจ๊งนี่มีเต็มไปหมดเลยนะ
ถ้าจะไม่เจ๊งต้องทำเงินอย่างต่ำ20-30ล้าน เพราะถึงจะทำเงินได้10ล้านเท่าทุน แต่ก็ต้องแบ่งกับโรงหนัง50-55% แล้วก็ค่าอื่นๆอีกมากมาย
สาเหตุที่เจ๊งเท่าที่นึกออก
1.คำวิจารณ์รอบสื่ออกมาแย่มาก
คือบางคนอาจจะบอกว่า อย่าไปเชื่อพวกนักวิจารณ์เลยดูดว้ยตัวเองดีกว่า ถือว่าสนับสนุนอุตสาหกรรมภาพยนตร์ ถึงจะพูดอย่างงั้น แต่ยังไงซะคำวิจารณ์ก็มีผลอยู่ดีครับ ยิ่งคำวิจารณ์จากเพจใหญ่ๆ หรือจากเวปใหญ่ๆอิมแพคมากๆ ในเมื่อกระแสปากต่อปากมันไม่ดี วิจารณ์ก็ไม่ดี มันก็ลดความอยากดูไปเยอะจริงๆ นักวิจารณ์ส่วนใหญ่เขาก็รีวิวเป็นกลางซะด้วยสิ จะมีแค่เพจบางเพจหรือบางเวปที่ใช้จริตส่วนตัวสูงมากในการดู บางคนเขาไม่สนหรอกครับว่าอุตสาหกรรมเป็นยังไง นักแสดงจะเป้นยังไง เขาก็แค่อยากจะดูอะไรที่สนุกๆคุ้มกับเงินที่เขาเสียไปเท่านั้น จริงๆความคิดแบบนี้มันก็ถูก มันดูดีเลยหละ แต่มันใช้ไม่ได้จริงสักเท่าไหร่ครับ คือถ้าทุกคนมีความคิดแบบนี้หนังห่วยมันจะออกมาเยอะขึ้นมากกว่า ยกตัวอย่างหนังของ พจ อานนท์เลย หนังห่วย ไร้แก่นสาร ไม่มีอะไรดี มีแค่ตลกเสื่อมๆชั้นต่ำ แต่ทำเงินมันก็ออกมาเรื่อยๆเป็นมะเร็งวงการภาพยนตร์ เพราะทำออกมายังไงคนก็ดูก็สนับสนุนกันเยอะแยะ
ฉะนั้นคำวิจารณ์ และเกณฑ์คะแนนจึงเป็นสิ่งที่ช่วยไปได้เยอะมาก อีกทั้งค่าตั๋วเดี๋ยวนี้ถ้าไม่ใช่ช่วงลดราคาหรือมีบัตรส่วนลดก็ปาไป150-500 นู่นแหนะ
2.ฉายชนกับหนังฮีโร่อย่างShazam! แถมเป็นค่ายDC
ก็ต้องยอมรับว่าหนังฮีโร่เป็นหนังแนวที่หลายๆคนชอบมาก คนจะเลือกมาดูหนังแบบนี้เยอะก็ไม่แปลก ยิ่งเป็นหนังจากค่ายDCที่มีฐานแฟนค่อนข้างแน่นมากทั่วโลกอยู่แล้ว การที่ไปฉายวันเปิดตัววันเดียวกับshazam! เป็นเรื่องที่คิดผิดสุดๆเลย นอกจากจะโดนแย่งโรงแล้ว คนยังไปให้กระแสกับShazam!มากกว่าอีก
อีกปัจจัยก็คือ หนังฮีโร่จากDCอย่างAquman ที่ฉายก่อนหน้าShazam! ทำคำวิจารณ์และรายได้ไปได้ค่อนข้างดี คนที่เขาคาดหวังกับShazam!ว่าจะปังตามAQไปก็เยอะขึ้นด้วยแหละ
3.ฉายใกล้ๆกับแสงกระสือ
หนังกระสืออกมาสองเรื่องพร้อมกัน ถึงมันจะพล็อคต่างกัน แต่ยังไงซะมันก็กระสือเหมือนกัน แถมแสงกระสือทำคำวิจารณ์ไปได้ดีมากๆด้วยแหละ เรียกได้ว่าเป็นอีกหนังไทยที่คุณภาพมาก นานๆทีมีครั้ง กระแสแสงกระสือค่อนข้างดี แถมคนจะจำกันว่า กระสือสยามกับแสงกระสือ คืออันเดียวกัน พอเป็นหนังกระสือแบบเดียวกัน แต่คำวิจารณ์ออกมาราวฟ้ากับเหว คนเขาก็เลือกที่จะเทไปดูแสงกระสือที่ยังยืนโรงมากกว่าอยู่แล้ว
4.เพราะผู้กำกับคือปรัชญา ปิ่นแก้ว
เอาจริงๆนะ หนังแกนอกจาก ต้มยำกุ้ง1 องค์บาก1 เรื่องอื่นมีอะหยังดีมั่งหนิ........... มีดีแค่ฉากแอคชั่นเท่านั้นแหละ คำวิจารณ์แต่ละเรื่องที่แกทำก็ออกมาค่อนข้างแย่ คนดูหนังหลายๆคนก็คงปักธงไว้ตั้งแต่เป็นชื่อผุ้กำกับแล้วว่าจะไม่ไปดูแน่นอน เพราะก็คงหนังบทห่วยๆตามสูตรแกที่ขายแต่แอคชั่น
ยิ่งกระสือสยามที่มีรีวิวออกมาว่าแอคชั่นแย่อีกก็ยิ่งทำให้รู้สึกว่า หนังปรัชญาเรื่องนี้ขนาดแอคชั่นที่น่าภาคภูมิใจยังแย่ ทำไมถึงต้องเข้าไปดู?
5.เคราะห์ร้ายที่วันฉายวันแรกของหนัง เป็นวันเปิดจองตั๋วหนังAvenger End game
Avenger End gameเป็นหนังบทสรุปของ infinity saga ที่คนบนโลกรอคอยกันมากที่สุด กระแสการจองตั๋วแรงมากทั่วโลก ถึงขั้นมีการประมาณการไว้ว่า ยอดจองตั๋วและเงินเปิดตัวจะสูงถึง900ล้านดอลเลยทีเดียว ฉะนั้นแค่วันแรกยังโดนกระแสอื่นกลบไปจนจางแบบนี้ก็น่าสงสารและแย่เอาเรื่อง
แต่ถึงอย่างงั้นสิ่งที่ดีที่สุดของหนังก็คงจะเป็นนักแสดงนี่หละนะ แสดงดีทุกคน
แต่ถึงแฟนคลับของนักแสดงจะเยอะและจะภักดีแค่ไหน แต่เจอคำวิจารณ์และสาเหตุหลายๆอย่างไปก็เลือกที่จะไม่ดูเหมือนกันแหละ