สวัสดีครับ พบกันอีกแล้วกับ WE-Team "WE ride the stories"
พวกเราขับรถออกจากกรุงเทพวันที่ 11 มานอนที่ตัวเมืองประจวบคีรีขันธ์ 1 คืน(หาที่พักง่าย มีหลายแห่ง)
เช้าวันที่ 12 ผมปั่นชมพระอาทิตย์ขึ้นเลียบชายหาดใกล้ที่พัก ภูเขาที่สูงที่สุดในรูปคือเขาล้อมหมวก
ซึ่งเปิดให้ปีนขึ้นยอดเขาได้เฉพาะช่วงเทศกาล สงกรานต์ปีนี้จะอนุญาตตั้งแต่ 12-16 เม.ษ.
แต่เราไม่มีเวลาเที่ยวที่นี่ เพราะวางแผนว่าจะปั่นจักรยานเข้าพม่าจากด่านสิงขรไปเที่ยวตะนาวศรีและมะริด
กินข้าวเช้าหน้าตลาดสดใกล้ที่พัก แล้วขับรถยี่สิบกว่ากิโล มาจอดรถที่หน้าด่านสิงขร
ทีมเรารอบนี้เหลือ 3 หน่อ ผม(อายุ 37) ป๋าโรจน์(อายุ 71) และป้าแป้น(อายุ 58)
ด่านชายแดนนี้เข้าได้เฉพาะคนไทยและพม่า คนชาติอื่นเข้าไม่ได้ พาสปอร์ตใช้ที่นี่ไม่ได้
คนไทยใช้แค่บัตรประชาชนตัวจริงทำบัตรผ่านแดนชั่วคราว
ซึ่งที่นี่เปิด 8:30 น. พอประตูเปิด คนก็กรูเข้าไปกดบัตรคิว
เจ้าหน้าที่บอกว่าช่วงเทศกาลแบบนี้คนค่อนข้างเยอะ แต่เจ้าหน้าที่ทำงานเร็วมาก(ใช้คอม)
พิมพ์บัตรผ่านแดนออกมาในรูปกระดาษ A4 1 ใบ ค่าทำบัตรผ่านแดนคนละ 30 บาท
ได้บัตรผ่านแดนแล้ว เราปั่นจักรยานเข้าไปนิดเดียว จะเจอป้อมตรวจคนเข้าเมือง(ขาออก)ของฝั่งไทย
ซึ่งต้องเอาบัตรผ่านแดนให้เจ้าหน้าที่ถ่ายเอกสาร 2 ชุด(เสียค่าถ่ายเอกสารนิดหน่อย) เขาจะเก็บสำเนาไปใบนึง
ราว 9:10 น. เราปั่นออกจากฝั่งไทย ไปยังจุดตรวจคนเข้าเมืองฝั่งพม่า เจอเนินรับแขก แค่เริ่มก็หอบแล้ว
แล้วจะผ่านจุดตรวจของทหารไทย ปั่นเลยไปอีกหน่อย ต้องเข้าจุดตรวจของทหารพม่า(ยื่นบัตรผ่านแดนให้เขาลงทะเบียน)
เดินเข้าไปอีกนิดเจอ ตม.พม่า ต้องเอาบัตรผ่านแดนให้เจ้าหน้าที่ประทับตราขาเข้า เสียตังคนละ 30 บาท(ไม่มีใบเสร็จเหมือนฝั่งไทย)
9:35 น. เริ่มปั่นในแผ่นดินพม่า รถที่นี่วิ่งชิดขวา เราต้องปั่นชิดขวา