#ทริปเที่ยวอินโดนีเซีย แบบยาว10วัน เป็นช่วงเดือนสิงหาคม ตอนนั้นที่ไป เรทแลกเงินอยู่ที่ 10,000รูเปียส์ = 23.3บ.-25บ.
แผนการเดินทาง
*กรุงเทพ-บาหลี-ลาบวนบาโจ โคโมโด
*ลาบวนบาโจ-เคลิมูตู-บาหลี
*บาหลี-เกาะปนีดา-ยกยา
*ยกยา-บุโรพุทโธ-ทิมังบีช-สุราบายา
*สุราบายา-โบรโม่-กรุงเทพ
#คลิปvdo ช่วงเที่ยว ลาบวนบาโจ
https://youtu.be/Mk13afzbnak
#วันแรกการเดินทาง เรามุ่งหน้า ดอนเมืองสู่บาหลี(DPS) เที่ยวบินตอน 19:35 แต่กว่าจะถึงก็ราวตี1 ซึ่งเวลาที่นี้เร็วกว่าไทย 1ชม. ช่วงผ่านตม. เสียเวลาไปเป็นชั่วโมง เนื่องจากคนเยอะมากไม่รู้มาจากไหนมากมาย
ซึ่งที่พักเราจองไว้ล่วงหน้ากันที่ Harris Hotel ดูจากแผนที่แล้วห่างราว1km. แต่ที่นี้Taxi ที่จอดรอหน้าสนามบิน เรียกค่าโดยสาร 250,000รูเปียส์/คัน (630บ.) ซึ่งราคาแพงเกิน
เราจึงเดินไปกัน แต่ด้านนอกล้อมรั้วลวดไว้ ทั้งๆที่มองเห็นว่า อยู่แค่ตรงข้าม ด้านหน้านี้เอง น่าจะห่างราว200ม.
ผม พี่พี และ ดิ๋ม เลยตัดสินใจเลือกที่จะเดินเลาะย้อนตามถนน ออกมาทางด่าน ส่วนเพื่อนอีกกลุ่มขอเลือกที่จะนั่งTaxi เราใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีก็ถึงโรงแรม Harris
เราเดินมาถึงก่อนกลุ่มเพื่อน ที่เลือกนั่งTaxi นานพอสมควร ราว10นาที กว่าเพื่อนจะตามมา โดยเพื่อนต่อราคาค่าTaxi เหลือ10เหรียญ หรือ ราว330บ. (จากเดิม630บ.) ซึ่งก็ถือว่าแพงมาก หลังจากเช็คอินเข้าที่พักอาบน้ำ กว่าจะได้นอนก็เกือบตี3
#เช้าวันที่สอง ที่พักมีอาหารมื้อเช้าให้ แถมมีรถรับส่งไปสนามบินฟรีให้ด้วย ซึ่งเราต้องบินภายใน ไปต่อลงที่ สนามบินKomodo #ลาบวนบาโจ (LBS) เที่ยวบินตอน10โมง ถึง ลาบวนบาโจ ตอน11โมง
ภาพนี้ถ่ายตอนอยู่บนเครื่อง
แล้วต่อTaxi ไปที่พัก Mawar Hostel ซึ่งห่างจากสนามบิน ราว1km. แต่ที่นี้มีเรทป้ายราคาระบุไว้ 50,000 รูเปียส์/คัน (125บ.) แบบนี้ถือว่าราคาโอเคร
พอมาถึงที่ลาบวนบาโจ ซิมเนทที่ซื้อมาจากไทยใช้ไม่ได้เลย ทั้งทรู และ ดีเทค แต่ซิมais ใช้ได้ดีที่นี้ ทำให้เราต้องมาหาซื้อซิมเนทอินโด ถึงจะใช้เล่นเนทได้
ที่พักที่นี้ Mawar Hostel ราคา 500,000รูเปียส์ + Vat 15% =535,000/ห้อง (ราว1,300บ.) เราจองผ่านbooking แล้วมาจ่ายค่าที่พักตรงหน้างาน
ข้อดีของที่นี้ คือ มีระเบียงหน้าห้องพักเห็นวิวทะเล มีแคร่ไว้ให้นั่งชิลๆชมวิว แต่ข้อเสีย คือ ห้องพักไม่ค่อยดีเท่าไร และ เสียงรบกวนเยอะ แล้วเดินออกไปกินมื้อเที่ยงแถวนั้น ซึ่งอยู่ใกล้เขตตลาด และ ท่าเรือ เพียงไม่กี่ร้อยเมตร
มื้อเที่ยงเราแวะกินที่ร้านอาหาร Bajo Bay ซึ่งหลังคาร้านมีสัญลักษณ์เป็นหางปลา อาหารเฉลี่ยตกจานละราว 80,000 รูเปียส์ + Vat 15% (ราว200บ.)
หลังมื้อเที่ยง ก็เดินสำรวจแถวนี้ จะมีร้านมินิมาร์ทอยู่หลายร้าน ทำให้สะดวกในการจับจ่ายซื้อของ เพราะ มีป้ายแสดงราคาสินค้า แถวนี้จะมีขายทริปทัวร์ และ ที่พักอีกมากมาย ก็แล้วแต่จะเลือก และ การต่อรอง เราเลือกทริปแบบ 2วัน1คืน ในราคา 800,000/คน
รายละเอียด ก็จะประมาณนี้
-1 Day ราคา 400,000-1,000,000 รูเปียส์/คน
-2 Day 1 Night (นอนในเรือ)
ราคา 800,000-2,000,000 รูเปียส์/คน
-4 Day 3 Night Labuan Bajo - Lombok
ราคา 1,600,000 - 3,000,000 รูเปียร์/คน
**ราคาน่าจะแตกต่างกันขึ้นอยู่กับ เรือเป็นแบบไหน และ จำนวนคน
แล้วกลับมานั่งเล่น ที่ห้องพักเพื่อรอเวลา พอได้เวลาราว6โมงเย็น เราออกไปหาอะไรกินมื้อเย็นกันแถวตลาด ซึ่งช่วงค่ำ จะมีร้านอาหารมาตั้งขายจำนวนมาก ส่วนใหญ่จะเป็นปลา กุ้ง ปู ปลาหมึก ส่วนราคาแล้วแต่ขนาด แต่จากการสำรวจราคาแล้ว ถูกกว่าบ้านเรามากพอสมควร ผลไม้อีกชนิดที่มาอินโด แล้วต้องกิน คือ สละอินโด ซึ่งที่นี้รสชาติจะหวานกรอบอร่อย
บรรยากาศช่วงเย็น ตรงระเบียงที่พัก
##########
#เช้าวันที่สาม เราออกจากที่พักเพื่อเดินไปยังเอเจนซี่ ที่เราจองทริปไว้ เพราะ ที่นี้ไม่มีบริการรถมารับ ซึ่งไม่เหมือนที่บ้านเรา
กว่าเราจะเดินไปถึง ก็ใช้เวลาราว15นาที แล้วคนดูแลประจำเรือ ก็พาเราเดินต่อไปยังท่าเรือ แต่กว่าจะได้ออกจากท่าเรือก็เกือบ9โมง โดยเรือพาเราไปดำน้ำตื้นที่ #Menjerite มีสะพานไว้ให้เดินข้ามไป ที่นี้น้ำใสมากๆ
อาหารมื้อเที่ยงบนเรือ
แล้วนั่งเรือต่อไปอีกราวชั่วโมง เพื่อดูตัว
หรือ สัตว์ดึกดำบรรพ์ ที่ #เกาะRinca เป็นส่วนหนึ่งของเกาะที่มีเจ้าตัว #โคโมโด #Komodo
ที่นี้จะเสียค่าเข้าชม โดยแบ่งเป็น 150,000 (ค่าเข้าอุทยาน ราว380บ.) + 50,000 (ค่าเข้าเกาะRinka ราว125บ.) + 10,000 (ค่าจอดเรือ ราว25บ.) + 5,000 (ค่าเดินบนเกาะ ราว10บ.) = 215,000 รูเปียส์/คน (ราว540บ.) + 80,000 รูเปียส์ (ค่าเจ้าหน้าที่ดูแล/เจ้าหน้าที่1คน ราว200บ.)
**สรุปโดนไป 295,000 รูเปียส์/คน (ราว740บ.)
เจ้าหน้าที่ จะแนะนำเราก่อนที่จะเข้าไปชม ว่าควรทำอย่างไรบ้าง โดยเฉพาะห้ามเข้าใกล้ ตัวKomodo เพราะ อาจเป็นอันตรายได้
บริเวณจุดชมวิว ศาลานี้เป็นจุดเดียว ที่ใช้หลบแดดได้
ซึ่งบอกตรงๆที่นี้การเห็นเจ้าสัตว์ดึกดำบรรพ์ ไม่ได้ประทับใจสักเท่าไร ซึ่งได้แค่ถ่ายป้ายกับรูปปั้นจำลองตัว
กับจุดชมวิวด้านบน ที่ไม่ได้สวยอะไรเท่าไร ซึ่งถ้ามาครั้งหน้า ผมคงไม่แวะที่นี้ ถ้าเลือกได้ 555
หลังจากชมสัตว์ดึกดำบรรพ์เรียบร้อย เราก็เดินทางต่อไปยัง เกาะKalong
########
Labuanbajo ลาบวนบาโจ Komodo โคโมโด เที่ยวอินโดนีเซีย
#ทริปเที่ยวอินโดนีเซีย แบบยาว10วัน เป็นช่วงเดือนสิงหาคม ตอนนั้นที่ไป เรทแลกเงินอยู่ที่ 10,000รูเปียส์ = 23.3บ.-25บ.
แผนการเดินทาง
*กรุงเทพ-บาหลี-ลาบวนบาโจ โคโมโด
*ลาบวนบาโจ-เคลิมูตู-บาหลี
*บาหลี-เกาะปนีดา-ยกยา
*ยกยา-บุโรพุทโธ-ทิมังบีช-สุราบายา
*สุราบายา-โบรโม่-กรุงเทพ
#คลิปvdo ช่วงเที่ยว ลาบวนบาโจ
https://youtu.be/Mk13afzbnak
#วันแรกการเดินทาง เรามุ่งหน้า ดอนเมืองสู่บาหลี(DPS) เที่ยวบินตอน 19:35 แต่กว่าจะถึงก็ราวตี1 ซึ่งเวลาที่นี้เร็วกว่าไทย 1ชม. ช่วงผ่านตม. เสียเวลาไปเป็นชั่วโมง เนื่องจากคนเยอะมากไม่รู้มาจากไหนมากมาย
ซึ่งที่พักเราจองไว้ล่วงหน้ากันที่ Harris Hotel ดูจากแผนที่แล้วห่างราว1km. แต่ที่นี้Taxi ที่จอดรอหน้าสนามบิน เรียกค่าโดยสาร 250,000รูเปียส์/คัน (630บ.) ซึ่งราคาแพงเกิน
เราจึงเดินไปกัน แต่ด้านนอกล้อมรั้วลวดไว้ ทั้งๆที่มองเห็นว่า อยู่แค่ตรงข้าม ด้านหน้านี้เอง น่าจะห่างราว200ม.
ผม พี่พี และ ดิ๋ม เลยตัดสินใจเลือกที่จะเดินเลาะย้อนตามถนน ออกมาทางด่าน ส่วนเพื่อนอีกกลุ่มขอเลือกที่จะนั่งTaxi เราใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีก็ถึงโรงแรม Harris
เราเดินมาถึงก่อนกลุ่มเพื่อน ที่เลือกนั่งTaxi นานพอสมควร ราว10นาที กว่าเพื่อนจะตามมา โดยเพื่อนต่อราคาค่าTaxi เหลือ10เหรียญ หรือ ราว330บ. (จากเดิม630บ.) ซึ่งก็ถือว่าแพงมาก หลังจากเช็คอินเข้าที่พักอาบน้ำ กว่าจะได้นอนก็เกือบตี3
#เช้าวันที่สอง ที่พักมีอาหารมื้อเช้าให้ แถมมีรถรับส่งไปสนามบินฟรีให้ด้วย ซึ่งเราต้องบินภายใน ไปต่อลงที่ สนามบินKomodo #ลาบวนบาโจ (LBS) เที่ยวบินตอน10โมง ถึง ลาบวนบาโจ ตอน11โมง
ภาพนี้ถ่ายตอนอยู่บนเครื่อง
แล้วต่อTaxi ไปที่พัก Mawar Hostel ซึ่งห่างจากสนามบิน ราว1km. แต่ที่นี้มีเรทป้ายราคาระบุไว้ 50,000 รูเปียส์/คัน (125บ.) แบบนี้ถือว่าราคาโอเคร
พอมาถึงที่ลาบวนบาโจ ซิมเนทที่ซื้อมาจากไทยใช้ไม่ได้เลย ทั้งทรู และ ดีเทค แต่ซิมais ใช้ได้ดีที่นี้ ทำให้เราต้องมาหาซื้อซิมเนทอินโด ถึงจะใช้เล่นเนทได้
ที่พักที่นี้ Mawar Hostel ราคา 500,000รูเปียส์ + Vat 15% =535,000/ห้อง (ราว1,300บ.) เราจองผ่านbooking แล้วมาจ่ายค่าที่พักตรงหน้างาน
ข้อดีของที่นี้ คือ มีระเบียงหน้าห้องพักเห็นวิวทะเล มีแคร่ไว้ให้นั่งชิลๆชมวิว แต่ข้อเสีย คือ ห้องพักไม่ค่อยดีเท่าไร และ เสียงรบกวนเยอะ แล้วเดินออกไปกินมื้อเที่ยงแถวนั้น ซึ่งอยู่ใกล้เขตตลาด และ ท่าเรือ เพียงไม่กี่ร้อยเมตร
มื้อเที่ยงเราแวะกินที่ร้านอาหาร Bajo Bay ซึ่งหลังคาร้านมีสัญลักษณ์เป็นหางปลา อาหารเฉลี่ยตกจานละราว 80,000 รูเปียส์ + Vat 15% (ราว200บ.)
หลังมื้อเที่ยง ก็เดินสำรวจแถวนี้ จะมีร้านมินิมาร์ทอยู่หลายร้าน ทำให้สะดวกในการจับจ่ายซื้อของ เพราะ มีป้ายแสดงราคาสินค้า แถวนี้จะมีขายทริปทัวร์ และ ที่พักอีกมากมาย ก็แล้วแต่จะเลือก และ การต่อรอง เราเลือกทริปแบบ 2วัน1คืน ในราคา 800,000/คน
รายละเอียด ก็จะประมาณนี้
-1 Day ราคา 400,000-1,000,000 รูเปียส์/คน
-2 Day 1 Night (นอนในเรือ)
ราคา 800,000-2,000,000 รูเปียส์/คน
-4 Day 3 Night Labuan Bajo - Lombok
ราคา 1,600,000 - 3,000,000 รูเปียร์/คน
**ราคาน่าจะแตกต่างกันขึ้นอยู่กับ เรือเป็นแบบไหน และ จำนวนคน
แล้วกลับมานั่งเล่น ที่ห้องพักเพื่อรอเวลา พอได้เวลาราว6โมงเย็น เราออกไปหาอะไรกินมื้อเย็นกันแถวตลาด ซึ่งช่วงค่ำ จะมีร้านอาหารมาตั้งขายจำนวนมาก ส่วนใหญ่จะเป็นปลา กุ้ง ปู ปลาหมึก ส่วนราคาแล้วแต่ขนาด แต่จากการสำรวจราคาแล้ว ถูกกว่าบ้านเรามากพอสมควร ผลไม้อีกชนิดที่มาอินโด แล้วต้องกิน คือ สละอินโด ซึ่งที่นี้รสชาติจะหวานกรอบอร่อย
บรรยากาศช่วงเย็น ตรงระเบียงที่พัก
##########
#เช้าวันที่สาม เราออกจากที่พักเพื่อเดินไปยังเอเจนซี่ ที่เราจองทริปไว้ เพราะ ที่นี้ไม่มีบริการรถมารับ ซึ่งไม่เหมือนที่บ้านเรา
กว่าเราจะเดินไปถึง ก็ใช้เวลาราว15นาที แล้วคนดูแลประจำเรือ ก็พาเราเดินต่อไปยังท่าเรือ แต่กว่าจะได้ออกจากท่าเรือก็เกือบ9โมง โดยเรือพาเราไปดำน้ำตื้นที่ #Menjerite มีสะพานไว้ให้เดินข้ามไป ที่นี้น้ำใสมากๆ
อาหารมื้อเที่ยงบนเรือ
แล้วนั่งเรือต่อไปอีกราวชั่วโมง เพื่อดูตัว
ที่นี้จะเสียค่าเข้าชม โดยแบ่งเป็น 150,000 (ค่าเข้าอุทยาน ราว380บ.) + 50,000 (ค่าเข้าเกาะRinka ราว125บ.) + 10,000 (ค่าจอดเรือ ราว25บ.) + 5,000 (ค่าเดินบนเกาะ ราว10บ.) = 215,000 รูเปียส์/คน (ราว540บ.) + 80,000 รูเปียส์ (ค่าเจ้าหน้าที่ดูแล/เจ้าหน้าที่1คน ราว200บ.)
**สรุปโดนไป 295,000 รูเปียส์/คน (ราว740บ.)
เจ้าหน้าที่ จะแนะนำเราก่อนที่จะเข้าไปชม ว่าควรทำอย่างไรบ้าง โดยเฉพาะห้ามเข้าใกล้ ตัวKomodo เพราะ อาจเป็นอันตรายได้
บริเวณจุดชมวิว ศาลานี้เป็นจุดเดียว ที่ใช้หลบแดดได้
ซึ่งบอกตรงๆที่นี้การเห็นเจ้าสัตว์ดึกดำบรรพ์ ไม่ได้ประทับใจสักเท่าไร ซึ่งได้แค่ถ่ายป้ายกับรูปปั้นจำลองตัว
หลังจากชมสัตว์ดึกดำบรรพ์เรียบร้อย เราก็เดินทางต่อไปยัง เกาะKalong
########