สวัสดีค่ะ เราชื่อ 'เอ' นะคะ เรื่องนี้ยาวนิดนึงนะคะ แต่อยากให้ทุกคนได้อ่าน เออายุ22ปีค่ะ อยู่กับครอบครัวที่สมบูรณ์แบบ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องฐานะ หรือหน้าตาในสังคม เพรียบพร้อมทุกอย่าง อยากได้อะไรก็ได้ พ่อแม่สามารถหามาให้ได้ตามกำลังที่ท่านมี ฟังๆดูแล้ว อาจจะเหมือนลูกคุณหนูใช่ไหมคะ ยอมรับเลยว่า ชีวิตก่อนเข้ามหาลัยมีความสุขมาก รู้สึกว่าชีวิตเพอร์เฟกต์มาก ตอนนี้เอเรียนอยู่ปี3 แต่เมื่อไม่นานมานี้ เอได้รู้ความจริงเกี้ยวกับพ่อแม่ จริงๆแล้ว "เอไม่ใช่ลูกแท้ๆของพวกเขา" ฟังดูเหมือนเรื่องแต่ง แต่มันคือเรื่องจริงค่ะ พ่อกับแม่ที่เลี้ยงดูเอมาตั้งแต่เล็ก ไม่ใช่พ่อแม่จริงๆของเอ แต่พ่อจริงๆของเอ เป็นน้องของแม่ที่เลี้ยงดูเอมาค่ะ ก่อนหน้านี้ เอไม่ค่อยได้คุยกับพ่อแม่จริงๆของเอเลย เอไม่เคยสนใจพวกท่านเลยเนื่องจากอยู่คนละต่างจังหวัด แล้วก็ไม่มีเบอร์ติดต่อพวกท่านด้วย พอเอได้มารู้ความจริง เอรู้สึกผิดมาก เอแทบไม่รู้จักพ่อแม่ของตัวเองเลย ไม่รู้ว่าก่อนหน้านี่ พวกท่านเจอเรื่องอะไรมา ทำไมเอถึงไปอยู่ที่นั่นได้ ไม่รู้เลยว่าพ่อแม่ชอบกินอะไร ชอบไปเที่ยวที่ไหน แม้แต่วันเกิด เอยังไม่รู้เลยค่ะ เออยากรู้จักพวกท่านให้มากกว่านี้ จนกระทั่งเอได้มีโอกาสคุยกับพ่อแม่แท้ๆมากขึ้น เอจึงได้รู้ว่า ก่อนหน้านี้ ตอนที่เอเกิด พ่อกับแม่แท้ๆ มีปัญหาเรื่องเงิน จึงไปฝากพี่สาวของพ่อเลี้ยงดูเราก่อน แล้วพอเราอายุ3เดือนจะไปรับกลับมา ผ่านไป3เดือน พ่อกับแม่จะไปรับกลับ แต่พี่สาวของพ่อไม่ให้เราคืน เขาบอกว่าจะดูแลเราให้ เขาให้พ่อกับแม่ โอนชื่อเราให้เป็นลูกของเขา(เอก็ไม่รู้กฏหมายนะคะแม่เล่าให้ฟังแบบนี้) แล้วจากนั้นพี่สาวของพ่อก็เปลี่ยนชื่อ เปลี่ยนนามสกุลเรา พ่อเราก็ไม่อยากทะเลาะกับพี่สาวเลยจำใจยกเราให้เขาไป จากนั้นทุกคนก็ใช้ชีวิตอย่างปกติ ยกเว้นพ่อกับแม่เราที่เสียลูกสาวไป1คน ความรู้สึกของคนเป็นพ่อเป็นแม่เมื่อเสียลูกไป มันคงเสียใจจนพูดไม่ออก เขาตั้งหน้าตั้งตารอเรามาจนตอนนี้ 22ปีแล้วที่เขายังคงรอเราอยู่ นึกไม่ออกเลยว่ากว่าพ่อกับแม่จะผ่านมันมาได้มันยากขนาดไหน เราถามพ่อกับแม่แท้ๆเราว่า ทำไมเราถึงพูดความจริงไม่ได้ล่ะ เขาบอกว่า เขาไม่อยากทะเลาะกับพี่สาว เราก็โอเคเข้าใจ เขาบอกกับเราว่าอันที่จริงอยากจะบอกเราตอนที่เราเรียนจบ เขากลัวว่าถ้าบอกเราตอนนี้ เราจะเรียนไม่รู้เรื่อง ถามว่าอยู่กับพ่อแม่ที่เลี้ยงมามีความสุขไม่ เอบอกตรงๆเลยว่า ก่อนเข้ามหาลัย เอมีความสุข แต่พอเริ่มเข้ามหาลัยไม่รู้ว่าอะไรทำให้พ่อกับแม่ที่เลี้ยงมาชอบมาจับผิดเรา เอรู้ว่าพวกท่านเป็นห่วง แต่บางทีท่าก้ไม่ฟังเหตุผลอะไรเลย ขอย้อนกลับไปเมื่อตอนที่เอเข้ามาปี1 เอเรียนไม่รู้เรื่องตามเพื่อนไม่ทันเลย จนเอได้เจอเพื่อนคนนึง เขาสอนเอ เขาติวให้เอ เอขาดเหลืออะไร เขาช่วยเหลือเอตลอดจนเอสามารถผ่านปีนั้นมาได้ จนเราตกลงที่จะคบกัน เอไม่สบายเขาก็ดูแลเอ บางเดือนเงินไม่พอใช้เขาก้ให้เอยืมทั้งๆที่เขาก็ไม่มีเหมือนกัน เราตัดสินใจเช่าหออยู่ด้วยกัน โดที่พ่อแม่ที่เลี้ยงมาของเอไม่รู้ แต่แม่ของฝ่ายชายรู้ จนวันนึง เกิดเหตุการณ์ที่เรียกว่าโป๊ะแตก พ่อกับแม่ที่เลี้ยงมาของเอรู้เรื่องเข้า ถามว่าเอผิดไหม ถ้มองในมุมของผู้ใหญ่ แน่นอนว่ามันผิด ทั้งในเรื่องประเพณี และเวลาที่ไม่เหมาะสม แต่สำหรับเอแล้ว เอมองว่าเอไม่ผิด เอไม่เคยเที่ยวกลางคืน เอไม่สุบบุหรี่ ไม่เคยเกี่ยวข้องกับยาเสพติดเลย เออยุ่กับเขาเราช่วยกันเรื่องการเรียน เอมีอะไรกับเขา แต่เอรู้ว่ามันควรป้องกันยังไง เพราะยังไง เอคิดไว้อย่างเดียวว่า เอต้องเรียนให้จบ เอพยายามคุยกับเขา แต่เขาไม่ฟัง จนเอบอกเขาว่า โอเค จะไม่อยู่ด้วยกันแล้ว แต่ความจริง เอก็ยังอยู่ด้วยกันอยู่ เอผิดที่เอโกหกพ่อกับแม่ที่เลี้ยงมา จนเมื่อประมาณปลายปีที่ผ่านมานี่เองที่เอได้รู้ความจริงเกี่ยวกับพ่อแม่ พ่อแม่จริงๆของเอรับได้เรื่องที่เออยู่กับแฟน และแฟนของเอก้รับได้เรื่องปัญหาที่เอเจอ และไม่เคยทิ้งไปไหน จนเมื่อต้นปี เอได้เจอกับเรื่องที่น่าตกใจพอๆกัน คือแฟนของเอแอบไปมีอะไรกับคนอื่น เขามาขอโทษเอ ขอโทษพ่อแม่แท้ๆของเอ ขอยอมรับผิดในสิ่งที่เขาทำ แล้วเอก็ให้อภัยเขา จนถึงตอนนี้ เอยังคงแอบอยู่กับแฟน และยังปิดบังความลับเรื่องที่เอรู้เรื่องพ่อกับแม่ เอพยายามหาทางให้ทุกๆอย่างลงตัว เออยากอยู่กับแฟนโดยที่ไม่ต้องปิดบังพ่อกับแม่ที่เลี้ยงมา เออยากให้พ่อกับแม่ที่เลี้ยงมาได้รู้ว่า ถึงเอจะรู้ความจริงแล้ว เอก็ยังรักและเคารพพวกท่าน และเออยากถามพวกท่านว่าจะโกหก จะปิดบังเอทำไม ถึงจุดนี้แล้วเอเลือกอะไรไม่ได้เลย เอควรทำยังไงดีคะ?
สิ่งที่น่าหนักใจกับเรื่องจริงที่ยิ่งกว่าละคร