โดนแล้ว ! CX5 2.0SP 2018 - 2019 ปั้มติ๊กเสีย ลากเข้าศูนย์ แชร์ประสบการณ์ สำหรับคนที่คิดจะซื้อ

สำหรับคนที่คิดจะซื้อ Mazda CX5 2.0 SP เบนซิน เพื่อหนีปัญหาน้ำดันที่อาจจะเกิดขึ้นของ Diesel และเริ่มค้นข้อมูลว่ารุ่น 2.0 SP เบนซินเป็นยังไงบ้าง คงจะเจอคำว่าปั้มติ๊กเสีย และ อาจจะทำให้ส่งผลต่อการคิดว่าจะซื้อดีมั้ย
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
วันนี้ผมไปโดนมากับตัว เลยอยากจะมาแชร์ครับ

ในกระทู้ก่อนๆ ยังบอกว่าไม่เป็นไรอยู่เลย 
https://ppantip.com/topic/38515411

ก่อนอื่นบอกก่อนว่า ผมไม่ได้ดัดแปลงอะไรเลย แม้แต่น้อย ซื้อวันแรกยังไง ก็เป็นแบบนั้นเป็ะๆ รถจะเข้าเช็ค 12 เดือน หรือประมาณ 16,000 กิโลในเดือนหน้า ใช้รถในเมืองเชียงใหม่ เฉลี่ยเดือนละ 1,400 กิโล เติมน้ำมันสลับไปมาระหว่าง โซฮอล 95 กับ โซฮอล 95 พรีเมี่ยม บางทีก็ลงไปเกือบ E ถึงเติม แต่ก็จะเติมเต็มถังเลย มีปล่อยให้ไฟเหลืองออก (น้ำมันใกล้หมดหาที่เติมด่วน) บ้าง สี่ห้าครั้งในรอบสิบเอ็ดเดือน

วันนี้ขับรถในเมืองเชียงใหม่ จะไปกินกาแฟ กำลังจะเลี้ยวเข้าร้าน รถมีอาการอ่อนแรง เหมือนจะดับ เร่งไม่ขึ้น พอเลี้ยวเข้าไปในถนนหน้าร้านได้ (โชคดีมาก) รถดับ ! ตอนแรกไม่คิดอะไร คิดว่าสตาร์ทใหม่ก็ติด ปรากฎว่า ติด แต่สั่นรัวๆ ประมาณสามสี่วินาทีแล้วดับ ! พยายามสตาร์ทอยู่สี่ห้าครั้ง กลิ่นน้ำมันคลุ้ง (คุณแม่เดินออกไปนอกรถบอกไม่ต้องสตาร์ทแล้ว กลิ่นน้ำมันท่วม) เลยหาวิธีเข็นเข้าข้างทางอย่างทุลักทุเล โชคดีมีพี่รปภมาช่วยกันสี่ห้าคน แบบมืออาชีพมาก ขอบคุณพี่ๆ  รปภ เชียงใหม่ราม มา ณ ที่นี้ครับ

หลังจากนั้นก็ตกใจ นึกออกว่ามีสมุดเล่มดำเกี่ยวกับประกัน อยู่หน้าเกะรถเปิดดู โชคดีอยู่ร้านกาแฟพอดี เลยเอาไปเปิดที่ร้านกาแฟ เย็นหน่อย โทรไปมาสด้าสปีดไลน์ เค้าถามทะเบียนรถ ทะเบียนอะไร กับเครื่องตัวถัง ที่เปิดดูได้ในเล่มดำ บอกเค้าไปว่า รถเสีย สตาร์ทไม่ติด สงสัยต้องมาลากไป เค้ายืนยันตำแหน่งว่าเราอยู่ตรงไหน แล้วบอกว่าเดี๋ยวติดต่อกลับ

หายไป 20 นาที โทรกลับมา บอดว่าติดต่อรถลากแล้ว กำลังมา รอสักครู่ อีกประมาณ ห้านาที รถลากโทรมา บอกว่า ใกล้ถึงแล้ว พอมาถึง ต้องขอพี่ๆ รปภ ช่วยกันเข็นรถอีกรอบ โชคดีจริงๆ ที่ไปเสียตรงนั้น ลองคิดว่าถ้าเสียที่อื่น ที่ไม่มีคนช่วยนี่เรื่องใหญ่ พี่รถลาก ดีมาก ทำให้หมดทุกอย่าง เปิดท้ายเอาอุปกรณ์ต่อที่ลากออกมา ดึงรถเราขึ้นยานแม่ให้ และไปส่งเราที่ศูนย์

ระหว่างเดินทางมาศูนย์ พึ่งรู้ว่า มาสด้าไลน์ไม่ได้ประสานที่ศูนย์ไว้ เราต้องติดต่อเอง คุณพระ ! ไม่มีเบอร์ศูนย์รถ แต่มีเบอร์พี่เซล เลยโทรไปหาขอเค้าประสานให้ เค้าประสานกับศูนย์ให้ทันที ผมถามว่ารอเอารถได้มั้ย เค้าบอกว่าขอดูอาการก่อนว่าเป็นอะไร ถ้าไม่ได้เดี๋ยวเค้ามาส่งที่บ้านให้ รถอาจจะได้วันจันทร์ (วันนี้วันเสาร์) ผมเริ่มวางแผนว่าจะขอยืมรถที่บ้านหนึ่งคัน ทำไงดี

ประมาณ 20 นาทีต่อมา เดินทางถึงศูนย์ พี่ช่างบอกว่าขอดู Code ที่รถก่อนว่าเกิดอะไรขึ้น ประมาณห้านาที พี่เค้าบอกว่าปั้มติ๊กเสีย มีของสต็อคไว้อยู่แล้ว ไม่น่าเกินสองชั่วโมง รอเอาได้เลย ดีใจมาก ! ผมเลยไปเดินเล่นดูรถ นั่งใน Lounge รับรอง มีขนมบริการ แอร์เย็น มีพนักงานมาถามกาแฟว่าเอาอะไรดี ผมได้ลาเต้เย็นมาหนึ่งแก้ว นั่งสบาย

ผ่านไปประมาณชั่วโมง พี่ช่างมาบอกว่ารถเสร็จแล้ว !

สิริรวม ไม่เสียเงิน (ทิปพี่ลากรถไปห้าร้อย ประทับใจในบริการ) เสียเวลาไปประมาณ 2.30 - 3.00 ชั่วโมง และได้เปลี่ยนปั้มติ๊ก ผมอาจจะโชคดีมากๆ เพราะทุกอย่างมันดูไม่ลำบากมาก ถ้าคิดว่าขับชานเมือง ร้อนๆ ตอนรอนี่ก็คงนรก ไม่มีคนช่วย ถ้าไปถึงศูนย์แล้วไม่มี Stock ปั้มติ๊กก็คงเซ็งประมาณหนึ่ง หรือถ้าเสียวันอาทิตย์ อาจจะเซ็งมาก เพราะศูนย์จะปิด แต่คราวนี้นับว่าโชคดี เลยรู้สึกเฉยๆ โอเค

สิ่งที่ได้เรียนรู้คือ
1. คู่มือรถเอาไว้ในรถ เวลามีปัญหาเปิดดู
2. มีปัญหาโทรเข้าศูนย์ก่อน จงเมมเบอร์ศูนย์ไว้ แล้วค่อยโทรหาสปีดไลน์
3. ห้ามรถเสียวันอาทิตย์ ! ซวยแน่นอน ! (ฮ่า)

พอได้รถมา ที่น่าสนใจคือ ผมเคยรู้สึกว่า CX5 มันอืดๆ เลยไปเติม พรีเมี่ยมแล้วมันดีขึ้น แต่พอเปลี่ยนปั้มติ๊กแล้วมันดีขึ้นครับ ! มันพุ่งกว่าเดิมมาก หรือจริงๆ ที่มันอืดๆ นี่อาจจะเพราะปั้มติ๊กป่าวหว่า

ใครที่กำลังเล็งรุ่นนี้ในปี 2019 นี้ลองพิจารณาดูนะครับ ว่ารับได้มั้ย จริงๆ ถ้าดีที่สุดก็คือถ้ารู้ว่ามันบกพร่อง ก็เปลี่ยนปั้มติ๊กให้เลยใน Routine Checking ก็จะไม่มีปัญหาแบบที่ผมเจอ แต่อย่างที่บอกคือ พอเจอว่ามันเสียจริงๆ แล้ว มันก็ไม่ได้เรื่องใหญ่อะไรมาก อาจจะเพราะโชคดี หรือ Service ดีด้วยก็ได้ครับ
มาแบ่งปันประสบการณ์จ้า
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่