รีวิวแบบสปอยล์ 100%
อย่างแรก ที่ชอบสุดคือการเลือกใช้เพลงประกอบ Don't stop me now ของเฟร็ดดี้ เมอคิวรี่ เข้ากับพลังความสดใสของตัวละครซุปเปอร์ฮีโร่ดีมาก การอ้างถึงซุปเปอร์แมน และการเซอร์ไพรซ์เล็ก ๆ ตลอดทั้งเรื่อง เรียกว่าตอนแรกว่าจะไม่รีวิวละ แต่ดูรูปโปรไฟล์ผมสิ เมื่อสองอย่างที่ชอบมารวมกันในเรื่องเดียว จะไม่ให้รีวิวก็ไม่ได้แล้ว ต้องขอจัดซะหน่อย คะแนนความชอบให้ที่ 8.5/10 ครับ มาเริ่มกันเลย Shazam!
หนังเริ่มด้วยโทนที่น่ากลัว พูดถึงพ่อมดคนสุดท้ายของสภาที่กำลังอ่อนแรง กับปีศาจที่ถูกผนึกไว้ทั้ง 7 (ปีศาจเจ็ดบาป) กำลังจะออกมาอาละวาด พ่อมดต้องหาเด็กที่มีพลังจิตวิญญาณ ตามหาแชมเปี้ยนเพื่อถ่ายทอดพลังให้ออกไปปราบ แต่ไม่รู้มีลอจิคการค้นหายังไง เด็กที่คัดมาแต่ละคนมีปัญหาครอบครัวทั้งนั้นเลย สงสัยเด็กแบบนี้จะมีพลังเยอะ สุดท้ายเลือกเด็ก บิลลี่ แบทสัน ตัวพ่อมดเริ่มอ่อนแรงใกล้ตาย ปีศาจก็ได้สิงคนออกไปสู่โลกภายนอกแล้ว คล้าย ๆ จักรวาลหนังผีคอนจูริง ปีศาจสิงสู่คนออกไปข้างนอก ซึ่งผู้กำกับเองก็เคยกำกับจักรวาลหนังผีมาก่อน เจ้าหนูบิลลี่ปฏิเสธ ปู่ต้องการคนดี จิตใจบริสุทธิ์ แต่ผมไม่ได้เป็นคนดีอย่างที่ปู่คิดนะเฮ้ย ทำเรื่องเกเรมาก็เยอะ วีรกรรมก็เยอะ ปู่เลือกผมจริง ๆ เหรอ พ่อมดชาแซมบอกไม่เป็นไรข้าเปิดใจให้เจ้า ข้าเปิดใจให้เจ้าบิลลี่แบทสัน จงรับพลังนี้ บัลลังก์พี่น้องหญิงชายรอคอยเจ้าอยู่ เรียกชื่อข้า พลังจะถ่ายทอดไปที่ตัวเจ้า ชาแซม! ความรู้สึกคล้ายกันอย่างประหลาดกับหนังที่เพิ่งดูไป the kid who would be king เด็กดึงดาบศักดิ์สิทธิ์จากหินกลายเป็นกษัตริย์อาเธอร์ ต้องเสาะหาสหาย ที่ประกอบด้วย เพื่อนสนิท และศัตรูที่ต้องเปลี่ยนให้กลายเป็นมิตร พล็อตมาจากนิทานอัศวินโต๊ะกลม มีความคล้ายกันมาก ความต่างคือ เรื่องนั้นเป็นสหาย แต่ชาแซมเป็นพี่น้องครอบครัว เงื่อนไขไม่รู้เหมือนกันรึเปล่า แต่สภาพแวดล้อมของเด็กคล้าย ๆ กันเลย
พูดถึงความเป็นติ่งซุปเปอร์ฮีโร่ เฟร็ดดี้ ฟรีแมน หรือกัปตันมาร์เวลจูเนียร์ ตัวละครโปรดของราชาเพลงร็อกแอนโรล เอลวิส เพรสลี่ เฟร็ดดี้พยายามตั้งชื่อซุปเปอร์ฮีโร่ให้พระเอกหลายชื่อมาก ธันเดอร์แคร็ก , เซอร์ แซบสล็อต , กัปตันสปาร์กเกิลฟิงเกอร์ , เรด ไซโคลน สารพัดชื่อ ผมงี้ฮาทุกครั้งที่มันคิดชื่อประหลาด ๆ ออกมา ช่วงแรกเฟล็ดดี้กับบิลลี่ไม่ค่อยลงรอยกันเท่าไหร่ บิลลี่ขโมยกระสุนปืนไปขาย แต่ก็น่ารักมาก เฟล็ดดี้บอก ไม่เป็นไร..ฉันเข้าใจนายวะ ก่อนมาเป็นเพื่อนซี้กันตอนที่บิลลี่เป็นฮีโร่ แล้วมาขัดใจกันอีก ตอนที่เฟร็ดดี้อยากให้บิลลี่มาสร้างความเจ๋งให้กับตัวเอง ส่วนบิลลี่ขอตีตัวออกห่างเพราะต้องการมีชีวิตของตัวเองเหมือนกัน ก็เขาเคยพูดไว้ "ครอบครัวมีไว้สำหรับ คนที่ดูแลตัวเองไม่ได้" และบิลลี่ไม่อยากมีครอบครัว (ปลอม ๆ) อยากดูแลตัวเองมากกว่า ตอนที่คุยที่บ้านเด็กกำพร้ายังบอกเลยว่าไม่ต้องการครอบครัว แต่เจ้าหน้าที่ห้ามว่า "เธอต้องอายุถึง 18 ปีก่อนถึงจะทำอย่างนั้นได้" แต่ตอนนี้บิลลี่โตแล้ว มีพลังวิเศษเขาจะทำอะไรก็ได้ ที่เล่ามาทั้งหมดเพราะเห็นว่าเป็นปมสำคัญ ชอบไม่ชอบ อินไม่ไม่อิน ขึ้นอยู่กับตรงนี้เลยสำคัญมาก ซึ่งส่วนตัวผมแล้วไม่ค่อยอินเท่าไหร่กับเรื่องราวของเด็กกำพร้านะ แต่ก็เปิดใจ ยิ่งตอนเฉลยว่าแม่บิลลี่ตัวจริงเป็นคนตัดสินใจทิ้งบิลลี่ไว้กับตำรวจเอง นี่ถึงกับช็อค สิ่งที่เราคิดมาตลอดแล้วพบว่ามันไม่จริงเนี้ยมันทำให้เฮิร์ทเหมือนกัน ทำไรไม่ถูกเลย แล้วอารมณ์มันปูไปท้ายเรื่องตอนที่บิลลี่ต้องไปช่วยครอบครัวที่เขาปฏิเสธมาตลอดว่าไม่ใช่ครอบครัวของเขา จนถึงที่บอกว่า "ฮีโร่ที่ช่วยครอบครัวตัวเองไม่ได้ เขาก็ไม่ใช่ฮีโร่ที่เจ๋งเท่าไหร่นะว่ามั้ย" แล้วหันมาทางเฟร็ดดี้ ซีนนี้เจ๋งเลย เป็นการคลายปมเฟร็ดดี้-บิลลี่ที่ชอบมาก ยกให้เป็นจุดที่ยอดเยี่ยมที่สุดของเรื่องเลย ชาแซม!!!
ตอนบิลลี่ได้รับพลังรู้สึกเขาจะดีใจ ร่าเริง สดใส แบบอยากทำอะไรก็ทำได้ แซคคาลี่ ลีวาย แสดงออกได้ดีมาก เล่นดีมาก เป็นไฮไลท์ของเรื่องเลย ก็อย่างที่บอกว่าบิลลี่อยากเป็นผู้ใหญ่มานานแล้วเพราะเขาไม่ต้องการอยู่บ้านเด็กกำพร้า เออ! นี่อาจเป็นอีกเงื่อนไขหนึ่งรึเปล่าที่พ่อมดตามหา ควรใช้คำว่าอะไรดี "ความทะเยอทะยานอยากเป็นผู้ใหญ่" เพราะแธด (ตัวร้าย) ตอนเป็นเด็กก็โดนพี่และพ่อต่อว่าเรื่องไม่เป็นลูกผู้ชายพอ จนอยากพิสูจน์ว่าตัวเองว่าจะเป็นผู้ใหญ่ที่เหนือกว่า แต่ในมุมของแธดคือเป็นผู้ใหญ่จะต้องมีพลังอำนาจมาก ๆ นั้นคือเหตุผลที่เขาไม่ผ่านการทดสอบเพราะเขาหลงใหลในอำนาจเกินไป ส่วนบิลลี่ความสำคัญอันดับหนึ่งไม่ใช่อำนาจ แต่เป็นการตามหาแม่ เขาอยากเป็นผู้ใหญ่เพราะต้องการยืนด้วยลำแข้งของตัวเอง ไม่ต้องพึ่งครอบครัวปลอม ๆ แธดมีอำนาจมากแต่ก็ยังไม่พอ ยังต้องการให้บิลลี่มอบอำนาจให้เขาเพิ่มอีก เพราะถ้าว่ากันจริง ๆ แธดฆ่าบิลลี่ไปเลยจะง่ายกว่าขู่ให้มอบอำนาจให้เหมือนในหนัง แต่เป็นเรื่องของความโลภละมั่ง เลยปิดจ๊อบไม่ได้ซักที ขณะที่บิลลี่ตอบกลับแบบเซอร์ไพรซ์ว่า "อำนาจจะไปดีอะไร ถ้าไม่รู้จักร่วมแบ่งปัน" ทุกคนพูดชื่อฉัน บิลลี่!!! เอ๊ย ชาแซม!!! ฉากนี้อย่างว้าว อาจเป็นประเด็นเล็ก ๆ เรื่องการใช้อำนาจ แต่ก็กินใจดีเหลือเกิน ว่าจะแย่งชิงหรือรู้จักการให้ ชอบอีกอย่างที่บอกว่าคนจากบ้านเด็กกำพร้า เราเชื่อว่าสามารถผูกมิตร(เป็นครอบครัว)กันได้ แม้อยู่ในสถานที่ยากลำบาก เอาแค่นี้ดีกว่า ที่เหลือไม่ขอพูดถึงละ ขอจบรีวิวดื้อ ๆ แบบนี้แหละ 555 แต่อยากให้มีภาคต่อนะ อยากรู้เจ้าหนอนชาเขียวมีพลังอะไรดูไม่น่าเป็นบิ๊กบอสได้เลย แล้วถ้ามีภาคต่อขอซานตาคลอสคนเดิม ฮามาก สุดท้ายขอบอกว่า ไปต่อให้ได้นะบิลลี่!
Don't Stop Me Now!
Don't stop me now , don't stop me
'Cause I'm having a good time, having a good time
I'm a shooting star, leaping through the sky
Like a tiger defying the laws of gravity
I'm a racing car, passing by like Lady Godiva
I'm gonna go, go, go
There's no stopping me
I'm burnin' through the sky, yeah
Two hundred degrees
That's why they call me Mister Fahrenheit
I'm traveling at the speed of light
I wanna make a supersonic man out of you.
ใครคิดว่าฉากบู๊ไม่สะใจ แนะนำให้ดู Man of steel ฉากที่ซุปเปอร์แมนดวลกับนายพลซ๊อตนะ เหมือนถูกเอามาล้อด้วย สะใจดี
จบแล้วครับ ขอขอบคุณทุกท่านที่อ่านจนจบ
[CR] รีวิว Shazam! Don't Stop Me Now
อย่างแรก ที่ชอบสุดคือการเลือกใช้เพลงประกอบ Don't stop me now ของเฟร็ดดี้ เมอคิวรี่ เข้ากับพลังความสดใสของตัวละครซุปเปอร์ฮีโร่ดีมาก การอ้างถึงซุปเปอร์แมน และการเซอร์ไพรซ์เล็ก ๆ ตลอดทั้งเรื่อง เรียกว่าตอนแรกว่าจะไม่รีวิวละ แต่ดูรูปโปรไฟล์ผมสิ เมื่อสองอย่างที่ชอบมารวมกันในเรื่องเดียว จะไม่ให้รีวิวก็ไม่ได้แล้ว ต้องขอจัดซะหน่อย คะแนนความชอบให้ที่ 8.5/10 ครับ มาเริ่มกันเลย Shazam!
พูดถึงความเป็นติ่งซุปเปอร์ฮีโร่ เฟร็ดดี้ ฟรีแมน หรือกัปตันมาร์เวลจูเนียร์ ตัวละครโปรดของราชาเพลงร็อกแอนโรล เอลวิส เพรสลี่ เฟร็ดดี้พยายามตั้งชื่อซุปเปอร์ฮีโร่ให้พระเอกหลายชื่อมาก ธันเดอร์แคร็ก , เซอร์ แซบสล็อต , กัปตันสปาร์กเกิลฟิงเกอร์ , เรด ไซโคลน สารพัดชื่อ ผมงี้ฮาทุกครั้งที่มันคิดชื่อประหลาด ๆ ออกมา ช่วงแรกเฟล็ดดี้กับบิลลี่ไม่ค่อยลงรอยกันเท่าไหร่ บิลลี่ขโมยกระสุนปืนไปขาย แต่ก็น่ารักมาก เฟล็ดดี้บอก ไม่เป็นไร..ฉันเข้าใจนายวะ ก่อนมาเป็นเพื่อนซี้กันตอนที่บิลลี่เป็นฮีโร่ แล้วมาขัดใจกันอีก ตอนที่เฟร็ดดี้อยากให้บิลลี่มาสร้างความเจ๋งให้กับตัวเอง ส่วนบิลลี่ขอตีตัวออกห่างเพราะต้องการมีชีวิตของตัวเองเหมือนกัน ก็เขาเคยพูดไว้ "ครอบครัวมีไว้สำหรับ คนที่ดูแลตัวเองไม่ได้" และบิลลี่ไม่อยากมีครอบครัว (ปลอม ๆ) อยากดูแลตัวเองมากกว่า ตอนที่คุยที่บ้านเด็กกำพร้ายังบอกเลยว่าไม่ต้องการครอบครัว แต่เจ้าหน้าที่ห้ามว่า "เธอต้องอายุถึง 18 ปีก่อนถึงจะทำอย่างนั้นได้" แต่ตอนนี้บิลลี่โตแล้ว มีพลังวิเศษเขาจะทำอะไรก็ได้ ที่เล่ามาทั้งหมดเพราะเห็นว่าเป็นปมสำคัญ ชอบไม่ชอบ อินไม่ไม่อิน ขึ้นอยู่กับตรงนี้เลยสำคัญมาก ซึ่งส่วนตัวผมแล้วไม่ค่อยอินเท่าไหร่กับเรื่องราวของเด็กกำพร้านะ แต่ก็เปิดใจ ยิ่งตอนเฉลยว่าแม่บิลลี่ตัวจริงเป็นคนตัดสินใจทิ้งบิลลี่ไว้กับตำรวจเอง นี่ถึงกับช็อค สิ่งที่เราคิดมาตลอดแล้วพบว่ามันไม่จริงเนี้ยมันทำให้เฮิร์ทเหมือนกัน ทำไรไม่ถูกเลย แล้วอารมณ์มันปูไปท้ายเรื่องตอนที่บิลลี่ต้องไปช่วยครอบครัวที่เขาปฏิเสธมาตลอดว่าไม่ใช่ครอบครัวของเขา จนถึงที่บอกว่า "ฮีโร่ที่ช่วยครอบครัวตัวเองไม่ได้ เขาก็ไม่ใช่ฮีโร่ที่เจ๋งเท่าไหร่นะว่ามั้ย" แล้วหันมาทางเฟร็ดดี้ ซีนนี้เจ๋งเลย เป็นการคลายปมเฟร็ดดี้-บิลลี่ที่ชอบมาก ยกให้เป็นจุดที่ยอดเยี่ยมที่สุดของเรื่องเลย ชาแซม!!!
Don't Stop Me Now!
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้