ทริป 2 วัน 1 คืน ระยะทาง 554 กม. กับ YAMAHA AEROX 155 สุดจัดปลัดบอก!!!

กระทู้สนทนา
ทริป 2 วัน 1 คืน กับระยะทาง 554 กม. YAMAHA AEROX 155 ที่สุด...แห่งสปอร์ต ออโตเมติก สุดจัดปลัดบอก!!!
YAMAHA AEROX 155 ถือได้ว่าเป็น “ที่สุด...แห่งสปอร์ต ออโตเมติก” สำหรับรถในพิกัดเดียวกัน ซึ่งมาพร้อมเทคโนโลยีเครื่องยนต์บลูคอร์ 155 ซีซี. พร้อมระบบวาล์วแปรผัน VVA ระบบวาล์วแปรผันอัจฉริยะแบบเดียวกับในยนตรกรรมชั้นนำ ที่สุดแห่งเทคโนโลยีความแรงและความประหยัด เพิ่มประสิทธิภาพการเผาไหม้สมบูรณ์ขึ้น ระบายความร้อนได้ดีกว่า และลดการสูญเสียกำลัง ช่วยให้สมรรถนะความแรง มาพร้อมความประหยัดน้ำมัน เผาไหม้หมดจด ช่วยลดมลพิษ ตอบสนองทุกอัตราเร่ง ประหยัดทุกความเร็ว ทำให้ทุกจังหวะการขับขี่เต็มไปด้วยความสนุกเร้าใจ
สำหรับในปี 2019 นี้ ยามาฮ่า ได้ปรับโฉมสีสันใหม่ให้กับ YAMAHA AEROX 155 ที่มีให้เลือกกันมากถึง 6 สีสันใหม่ ใน 3 รุ่น นั่นคือ รุ่น STANDARD สีดำ-แดง และสีเขียว-ดำ, รุ่น R VERSION สีเขียว-ดำ และสีเทา-ส้ม และรุ่น ABS VERSION สีเทา-แดง และสีเทา-น้ำเงิน โดยยังคงอัดแน่นด้วยฟีเจอร์ที่ล้ำสมัย ไม่ว่าจะเป็น FULL LCD DIGITAL METER ขนาดใหญ่ 5.8 นิ้ว, ไฟหน้าคู่ แบบ LED, ไฟท้าย LED พร้อมที่จับกันตกแบบบิ้วท์อิน, ฝาเปิดถังน้ำมันที่ออกแบบให้อยู่กลางตัวรถทำให้เติมน้ำมันสะดวกไม่ต้องลงจากรถ, ช่องต่อชาร์จแบตมือถือหรือไฟสำรอง พร้อมช่องเก็บของด้านหน้า ให้ความสะดวกสบาย นอกจากนี้ในรุ่น ABS Version ยังมาพร้อมกับกุญแจรีโมทอัจฉริยะ ควบคุมได้ทั้งคัน พร้อมระบบสัญญาณตอบรับ ANSWER BACK และในรุ่น R Version ระบบกันสะเทือนหลังเป็นโช้คอัพแบบซับแทงค์คู่ ดีไซน์สปอร์ต และจานดิสก์เบรกหน้าแบบรถสปอร์ต สมเป็นผู้นำสปอร์ตออโตเมติกตัวจริง!!!

และเพื่อเป็นการตอกย้ำสมรรถนะความแรงความเร้าใจให้กับ YAMAHA AEROX 155…ทริปมันส์ๆ กับ “ที่สุด...แห่งสปอร์ตออโตเมติก” จึงเกิดขึ้น!!! โดย YAMAHA AEROX 155 สีใหม่ จำนวน 4 คัน เริ่มต้นออกสตาร์ทจาก สถาบันฝึกอบรมขับขี่รถจักรยานยนต์ยามาฮ่า (YRA) ในช่วงเช้าวันศุกร์ซึ่งการจราจรกำลังอยู่ในช่วงพีคสุดๆ แต่ด้วยความคล่องตัวแบบรถสปอร์ตและกำลังเครื่องยนต์ที่จัดจ้าน ทำให้ผู้ขับขี่สามารถลัดเลาะซอกแซกฝ่าความหนาแน่นของการจราจรที่ติดขัดบนเส้นทาง ถนนบางนา-ตราด – สุขุมวิท – ปู่เจ้าสมิงพราย ไปได้อย่างรวดเร็ว ก่อนที่จะขึ้นแพข้ามฟากไปยังฝั่งพระประแดง ซึ่งหลังจากที่ขึ้นฝั่งได้ เราก็ยังต้องฝ่าการจราจรที่หนาแน่อีกพักใหญ่ๆ กว่าที่จะหลุดออกมาถึงจุดพักที่ปั๊มแถวๆ นครชัยศรี จ.นครปฐม ซึ่งบอกได้เลยว่าการขับขี่ในช่วงแรกนี้ ทำให้เราสัมผัสได้ถึงความคล่องตัว ความคล่องแคล่ว และกำลังเครื่องยนต์ในรอบต้นของ YAMAHA AEROX 155 ได้เป็นอย่างดี เพราะเราสามารถที่จะโยกรถซอกแซกเลี้ยวลัดเลาะไปตามช่องว่างระหว่างรถยนต์ได้อย่างสบายๆ อีกทั้งกำลังเครื่องยนต์ที่จัดจ้านก็ยังช่วยให้เราสามารถเปิดคันเร่งออกตัวพุ่งทะยานไปได้อย่างทันใจ ทำให้จังหวะในการขับขี่เป็นไปอย่างไหลลื่นต่อเนื่องเป็นอย่างยิ่ง…
จากนั้นเราก็มุ่งสู่จุดหมายแรก “พิพิธภัณฑ์รถจักรยานยนต์โล้วเฮงหมง” ซึ่งเป็นศูนย์เรียนรู้เรื่องประวัติความเป็นมาของรถจักรยานยนต์ โดยได้รับเกีบรติจาก
“เฮียเปี๊ยก” คุณวรวุธ พงษ์วิทยภานุ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โล้วเฮงหมงมอเตอร์ จำกัด ร้านผู้จำหน่ายรถจักรยานยนต์ยามาฮ่าให้การต้อนรับพร้อมทั้งพาเดินชมรถจักรยานยนต์หลากหลายรุ่นภายในพิพิธภัณฑ์ที่มีนับร้อยๆ คัน ด้วยตัวเอง อีกทั้งยังได้พบกับสมาชิกยามาฮ่าคลับที่ใช้ YAMAHA AEROX 155 ซึ่งจะร่วมเดินทางในทริปนี้ไปกับเราอีก 3 คนด้วย ซึ่งบรรยากาศในช่วงนี้เต็มไปด้วยความตื่นตาตื่นใจและเต็มไปด้วยมิตรภาพใหม่ของสาวกยามาฮ่าจริงๆ

หลังจากที่เดินชมพิพิธภัณฑ์กันครบทุกซอกทุกมุมแล้วขบวนทัวริ่ง YAMAHA AEROX 155 ที่ตอนนี้มีรวมทั้งหมด 7 คัน ก็ออกเดินทางต่อทันที โดยมุ่งหมายสู่ “เขื่อนศรีนครินทร์” เส้นทางในนี้ถนนค่อยข้างโล่งสะดวกพอสมควร ทำให้เราสามารถที่จะใช้ความเร็วในการเดินทางได้พอสมควร ความเร็วเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 100 กม./ชม. ซึ่ง YAMAHA AEROX 155 สามารถเดินทางได้อย่างมีเสถียรภาพ นิ่ง ไม่ร่อน ไม่ส่าย ให้ผู้ขับขี่รู้สึกหวาดเสียวแม้แต่น้อย กำลังเครื่องยนต์ก็ให้การตอบสนองได้เป็นอย่างดีกำลังเครื่องไม่มีตกแม้ว่าจะต้องไต่ระดับความสูงขึ้นเขาไปอย่างต่อเนื่อง และยังมีเหลือให้เราสามารถกระชากคันเร่งเพื่อเร่งแซงได้อีกด้วย
เมื่อมาถึง “สันเขื่อน” พวกเราก็ต่างเก็บภาพทัศนียภาพในช่วงยามเย็นคู่กับ YAMAHA AEROX 155 เป็นที่ระลึกกันอย่างเพลิดเพลิน ก่อนที่จะเดินทางต่อไปยังที่พัก “ภูไพร เลค รีสอร์ท” โดยช่วงนี้ถือว่าเป็นไฮไลท์ของการเดินทางในทริปนี้ของเราเลยก็ว่าได้ เพราะเส้นทางเป็นทางขึ้นเขาและเต็มไปด้วยทางคดโค้งที่จะทำให้เราได้พิสูจน์สมรรถนะของ YAMAHA AEROX 155 ได้เป็นอย่างดี ซึ่งก็ไม่ทำให้ผิดหวังแม้แต่น้อย เนื่องจากพวกเราต่างก็กดคันเร่งเรียกกำลังแรงม้าจากเครื่องยนต์ออกมาใช้งานเพื่อไต่ความสูงชันได้อย่างทันใจ ระบบกันสะเทือนที่แน่นและหน้ายางที่มีขนาดใหญ่ช่วยให้การพลิกรถเข้าโค้งซ้ายขวาและการยึดเกาะพื้นถนนมีความหนึบและมั่นคงที่สร้างความมั่นใจและความสนุกความเร้าใจในการขับขี่ให้กับพวกเราได้ตลอดเส้นทาง...

ในช่วงค่ำคืนที่ “ภูไพร เลค รีสอร์ท” ในวงอาหารมื้อค่ำพวกเราชาวยามาฮ่าที่ร่วมขับขี่ YAMAHA AEROX 155 กันมาในทริปนี้ ต่างพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดกันอย่างสนุกและเป็นกันเอง ซึ่งยิ่งคุยยิ่งเล่าก็ยิ่งทำให้รู้ว่าทุกคนต่างก็อยู่ในวงการมอเตอร์สปอร์ตและทีมยามาฮ่ากันมาอย่างยาวนาน ทำให้บรรยากาศเต็มไปด้วยมิตรภาพและความอบอุ่นมากยิ่งขึ้น

ในรุ่งเช้าวันใหม่ชาวยามาฮ่าต่างตื่นขึ้นมาสัมผัสกับธรรมชาติริมน้ำของเขื่อนศรีนครินทร์ด้วยความสดชื่น และหลังจากจัดการกับมื้อเช้าพร้อมกับเช็คเอ้าท์กันเรียบร้อย ขบวนทัวริ่ง YAMAHA AEROX 155 ก็พร้อมออกเดินทางกันอีกครั้ง โดยเราจะย้อนเส้นทางเดิมกลับไปเข้าตัวเมืองกาญจน์ ทำให้เราได้สัมผัสกับสมรรถนะของ “ที่สุด...แห่งสปอร์ต ออโตเมติก” กันแบบเต็มๆ อีกครั้ง ซึ่งพวกเราก็ยังคงได้รับความสนุกความเร้าใจจากการขับขี่ YAMAHA AEROX 155 ได้อย่างเต็มที่เหมือนเดิมตลอดทาง

ขบวนทัวริ่ง YAMAHA AEROX 155 ได้แวะเข้าเก็บภาพกับสะพานข้ามแม่น้ำแคว พร้อมกับรับประทานอาหารกลางวันที่ร้านโฟลทติ้งที่สามารถมองเห็นสะพานรถไฟสายมรณะแห่งนี้ได้อย่างใกล้ชิด ซึ่งที่ร้านอาหารนี้สมาชิกยามาฮ่า YAMAHA AEROX 155 ที่เดินทางมาจากกรุงเทพฯ และเจ้าถิ่นต่างได้แลกเปลี่ยนช่องทางการติดต่อซึ่งกันและกันไว้ และยังได้นัดแนะกันไว้ว่าจะกลับมาร่วมเดินทางกันอีกครั้งในอนาคต เพราะยังมีสถานที่อีกหลายแห่งที่เจ้าถิ่นบอกว่าเป็นเส้นทางที่เหมาะกับการพา YAMAHA AEROX 155 ไปขับขี่เพื่อความสนุกเร้าใจอยู่อีก ซึ่งทุกคนต่างก็ลงความเห็นว่าต้องมาแจมกันอีกครั้งอย่างแน่นอน!!!
หลังจากที่กล่าวคำอำลาและแยกย้ายกับเจ้าถิ่นเรียบร้อย สมาชิก YAMAHA AEROX 155 จากกรุงเทพฯ เลือกใช้เส้นทาง เมืองกาจญน์ – พนมทวน – บางเลน – รามอินทราฯ – ลาดกระบัง มาจบที่จุดเริ่มต้นการเดินทาง ซึ่งรวมระยะทางเกือบ 200 กม. ซึ่งในช่วง เมืองกาจญน์ – พนมทวน – บางเลน นั้น เป็นเส้นทางที่โล่งกว้างทางตรงยาวๆ ความเร็วถูกล็อคแบบหมดปลอก เฉลี่ยอยู่ที่ 120 กม./ชม. เครื่องยนต์ถูกรีดเค้นสมรรถนะแบบเต็มเหนี่ยวท่ามกลางอุณภูมิที่ร้อนระอุเกือบ 40 องศา แต่กำลังเครื่องยนต์ไม่มีตกไม่มีวูบเลยแม้แต่น้อยตลอดระยะเวลากว่า 3 ชม. จากนั้นก็ยังต้องเจอกับบททดสอบหนักอีกครั้งในช่วงการจราจรที่แสนจะติดขัดบนเส้นทาง รามอินทราฯ – ลาดกระบัง ที่คันเร่งจะถูกเปิดปิดกระชากคันเร่งอยู่ตลอดเวลา แต่เครื่องยนต์บลูคอร์ 155 ซีซี. ระบบวาล์วแปรผัน VVA ของ YAMAHA AEROX 155 ก็ยังตอบสนองการทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ...
จนกระทั้งวงล้อ YAMAHA AEROX 155 จะมาหยุดหมุนที่ สถาบันฝึกอบรมขับขี่รถจักรยานยนต์ยามาฮ่า (YRA) จบทริป 2 วัน 1 คืน กับระยะทาง 554 กม. ที่บอกได้เลยว่า “ที่สุด...แห่งสปอร์ต ออโตเมติก” ไม่ทำให้เราผิดหวังแม้แต่น้อย...เรียกได้ว่า YAMAHA AEROX 155 ยิ่งขี่ยิ่งมันส์...ขึ้นเขาก็มีกำลังไต่ความสูงชันได้สบาย ช่วงล่างหนึบใส่ได้เต็มทุกโค้ง จังหวะพลิกซ้ายขวาก็คล่องตัว...หรือจะกดคันเร่งแช่ยาวๆ ท่ามกลางอุณหภูมิที่ร้อนระอุกำลังเครื่องยนต์ก็ไม่มีตก...สุดจัดปลัดบอก!!!

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่