Huawei ได้ทำการเปิดตัวตระกูล P ตัวล่าสุดเดินทางมาถึงรุ่น 30 แล้วในรุ่นนี้ได้เปิดตัวท่ามกลางกระแส ที่มาแรงมากๆคือเน้นกล้องขั้นสุดและวีดีโอก็ดีขึ้นมาก อีกทั้งยังใช้เทคโนโลยี Periscope กล้องสำหรับการซูมอีกด้วยทำให้ซูมได้โหดมากๆอีกทั้งยังได้มากสุดที่ 50 เท่า ! ต้องบอกว่าเป็นการพัฒนากล้องอย่างเน้นๆเลยในครั้งนี้ มาพร้อมกล้องหลัง 4 ตัวรองรับระยะครบทั้งมุมกว้าง มุมปกติ เทเล และ การจับระยะ TOF 3D อีกด้วย ในเรื่องการออกแบบก็ปรับปรุงทั้งหน้าจอขอบโค้ง ติ่งแบบเล็ก และ ฝาหลังที่เล่นกับแสงสีได้สวยงามมากๆอีกทั้งยังมาพร้อม สแกนนิ้วใต้หน้าจอ ระบบ ลำโพงฝังในหน้าจอ และในเรื่องของการชาร์จไร้สาย ที่รองรับการชาร์จย้อนกลับให้คนอื่นได้ด้วยครับ ทางด้านระบบอะไรก็ยังเป็น Android 9.0 EMUI เช่นเดิม มาพร้อมกับ KIRIN 980 ต้องบอกว่าครั้งนี้จัดมาให้ค่อนข้างดีหลักๆจะเน้นกล้องหลังมากขึ้นเรื่อยๆครับและมันจะมีดีกว่าแค่กล้องหลังไหม ต้องมาดูกันสำหรับรีวิว P30 PRO
Huawei P30 Pro นั้นเปิดตัวมาด้วยจุดเด่นหลากหลายที่น่าสนใจทั้งเรื่องของกล้องหลังที่มาพร้อมกับเลนส์กล้องซูม 8MP Periscope ที่มีความยาวโฟกัส 125 มม.และ มี OIS ในด้านหลังที่ครั้งนี้มีกันสั่นมาให้ถึง 2 เลนส์คือตัวเทเล และ ก็เลนส์ปกติครับช่วยให้ภาพถ่ายดูคมชัดและนิ่งขึ้นมาก กล้องหลังมาทั้งหมด 4 ตัว เลนส์ซูม-เลนส์มุมกว้าง-เลนส์ปกติ-TOF 3D สำหรับการจับระยะ รวมถึงหน้าจอก็ใช้หน้าจอแบบ OLED แบบขอบโค้ง พร้อมกับ ลำโพงที่ส่งเสียงผ่านทางหน้าจอ จึงไม่มีรูลำโพงตรงด้านบนครับ รวมถึงการแสกนนิ้วบนหน้าจออีกด้วย ในเรื่องประสิทธิภาพนั้นมาพร้อมกับ KIRIN 980 เช่นเดิม RAM 8GB STORAGE 256 GB จัดเต็ม และการออกแบบฝาหลังที่สวยงามมากขึ้นเล่นกับแสงสีได้เยอะมาก ถือว่าเปลี่ยนแปลงไปมากพอสมควรครับในรุ่นนี้
สำหรับราคาของทาง Huawei P30 Pro 8GB/256GB นั้นเปิดมาที่ 31,990 บาท เข้าไทยทั้งหมด 4 สีครับ Black / Aurora / Amber Sunrise / Breathing Crytal
UNBOX
ตัวกล่องการออกแบบอะไรยังคงมาแบบเดิมครับ โทนสีขาวเขียนบอกชื่อรุ่นอะไรชัดเจน พร้อมกับ อุปกรณ์ในกล่องที่ค่อนข้างครบ และ ใช้งานได้เลยทั้งเคส และ หูฟัง ต่างๆ
- ตัวเครื่อง HUAWEI P30 PRO
- เคสใสนิ่ม TPU
- หูฟัง Type-C
- สายชาร์จ Type-C
- ที่ชาร์จ Huawei Super Charge 40W
- คู่มือ ที่จิ้มซิม
- ไม่มีตัวแปลง Type-C 3.5 มาให้แล้วนะ
ตัวเคสนั้นเป็นเคสแบบใส่นิ่ม TPU ทั่วไปครับ แต่ชอบคือมันปกป้องเลนส์กล้องหลัง และ หน้าจอได้ดีคือเวลาวางนั้นไม่โดนเลนส์หรือตัวหน้าจอเลย มีความหนากลางๆไมไ่ด้หนาไม่ได้บางมาก สามารถใช้ชั่วคราวได้ ปกป้องได้ดีกว่าพวกเคสแถมแบบ Xiaomi ที่แบบนั้นจะบางไปมาก และ ไม่ปกป้องเลน์กล้องเลยครับอันนี้ถือว่าทำออกมาได้ดี ด้านหน้านั้นแม้จะเป็นจอโค้งแต่ก็ทำออกมาได้ดีปกป้องได้ ด้วย และน่าจะติดฟิลม์ได้ง่ายไม่ได้กินขอบอะไรมากนัก
DESIGN
การออกแบบในรุ่นนี้มีการเปลี่ยนแปลงในหลายๆจุดแต่จะแตกต่างกันมากๆคือในด้านหน้า และ ตัวกล้องหลังนิดหน่อยครับ เพราะ ยังคงการออกแบบที่ไม่ได้แตกต่างกับรุ่นก่อนหน้านี้เท่าไร ส่วนติ่งหน้าจอนั้นก็มีขนาดเล็กลงรวมถึงลำโพงก็ได้หายไปแล้วในส่วนขอบบนหน้าจอครับ ในด้านหลังนั้นกล้องก็มีขนาดใหญ่ขึ้นและเพิ่มกล้องมาเป็น 4 ตัวครับและการออกแบบฝาหลังนั้นไล่เฉดสีกันสวยงามเลย เป็นสีที่ค่อนข้างสวยและโดดเด่นมากๆครับ เป็นโทนสีขาวเล่นกับแสง
ด้านหน้าจอ เป็นหน้าจอแบบโค้ง P30 Pro จะไม่มีลำโพงอีกแล้ว แต่ใช้เทคโนโลยี Acoustic Display ส่วนในเรื่องของขนาดหน้าจอนั้น มีขนาด 6.47″ เป็นจอแบบโค้ง OLED 19.5:9, FHD+ (2340×1080 pixels) กล้องหน้าตัวเดียวมาแบบติ่งหยดน้ำ สามารถปิดติ่งได้ครับ ขอบรวมๆนั้นบางลงพอสมควรเลย
ขอบหน้าจอในส่วนขอบล่างนั้น มีความหนากว่าปกติเล็กน้อยครับ แต่ก็พยายามทำบางลงเรื่อยๆส่วนขอบซ้ายขวานั้นบางอยู่แล้วแต่ รอบนี้มาเป็นจอขอบโค้งทำให้ดูแล้วขอบนั้นบางกว่าปกติ แต่หลายๆคนนั้นอาจจะไม่ค่อยชอบขอบโค้งกันเพราะอาจจะจับไม่ถนัดและติดฟิลม์ยากครับ
ขอบหน้าจอส่วนบนนั้น จะเห็นวามีความบางลงเหมือนขอบข้างๆและติ่งหน้าจอนั้นเป็นแบบหยดน้ำเล็กลงกว่ารุ่นก่อน และถ้าใครมองดีๆจะไม่เห็นลำโพงแล้ว เพราะว่ารุ่นนี้ใช้ระบบส่งเสียงผ่านหน้าจอนั้นเองครับ จากที่ลองถือว่าชัดเจนดี
ในส่วนของขอบบนหน้าจอนั้นเป็นติ่งแบบหยดน้ำแน่นอนว่าสามารถตั้งค่าเปิดปิดติ่งหน้าจอได้เลยครับ ว่าใครชอบอะไรแบบไหนถ้าปิดแล้วจะเป็นแถบสีดำรวมถึงการแจ้งเตือนอะไรจะอยู่ในส่วนสีดำทั้งหมดครับ และซ่อนกล้องเนียนๆกันไป
ตัวขอบล่างของเครื่องนั้น จะมีรูลำโพง รูพอร์ต Type-C และ ไมค์ รวมถึงช่องใส่ถาดซิมครับ รองรับ DualSIM และ เพิ่มเม็มแบบ NM Card จากทาง Huawei เลือกเอาได้ว่าจะเพิ่มเม็ม หรือ จะใส่แบบ 2 ซิมครับ
ขอบด้านซ้ายนั้นจะเรียบๆไม่มีปุ่มอะไรทั้งนั้นครับ และจะเห็นการออกแบบ ที่ทั้งกระจกหน้า และ หลังนั้น จะเป็นขอบโค้งทั้งคู่แบบเดียวกับ Mate 20 Pro ทำให้เวลาจับถืออาจจะเข้ากับมือได้ง่ายและดูขอบบางกว่าเดิมครับ
ในส่วนขอบด้านขวานั้นจะเป็นปุ่ม เพิ่ม-ลดเสียง และ ปุ่ม Power ที่เป็นสีแดงๆ ทั้งหมดหลักๆมี 3 ปุ่ม จะไม่มีปุ่มพิเศษสำหรับเรียกพวก AI พวกนี้มาแบบหลายๆค่ายที่พยายามใส่กันเข้ามานะครับ
ด้านบนนั้นจะเห็นว่ายังคงมี IR สำหรับการควบคุมเครื่องใช้ไฟฟ้ามาให้ และ มีรูไมค์ สำหรับอัดเสียง ตัดเสียงรบกวนมาอีกด้วยครับ เป็นเรือธงไม่มีค่ายที่ยังมี IR มาให้ครับหลายๆค่ายก็เริ่มเอาออกกันไปแล้ว
ตัวถาดซิมนั้นเป็นแบบ Hybrid ที่รองรับ NanoSIM อีกทั้งยังรองรับการใส่ถ้าเราเลือกใส่ 1 ซิม + NM Card ที่คิดค้นจากทาง Huawei เองด้วยครับ หรือจะเป็น ซิมคู่เลยก็ได้ครับ
กล้องหลังอันนี้คือจุดเด่นเพราะมาพร้อมกับเลนส์ที่พัฒนาร่วมกับ Leica มี 4 เลนส์ และ เลนส์แบบสี่เหลี่ยมที่รองรับการซูมได้โหดมากๆหรือเลนส์แบบ Periscope นั้นเองเป็นเทคโนโลยีใหม่สุดๆเลยสำหรับมือถือครับ
- 40MP SuperSpectrum Wide angle, f/1.6, OIS
- 20MP ultra wide angle, f/2.2
- 8MP Periscope 5X Optical zoom, f/3.4, OIS
- Time-of-flight camera / TOF 3D
- 5X Optical Zoom, 10X Hybrid zoom, 50X Digital zoom
SPEC
- หน้าจอ 6.47″ Curved OLED 19.5:9, FHD+ (2340×1080 pixels)
- ชิป Kirin 980
- RAM 8GB
- STORAGE 128/256/512GB เพิ่ม Nano memory
- 40MP SuperSpectrum Wide angle, f/1.6, OIS
- 20MP ultra wide angle, f/2.2
- 8MP Periscope 5X Optical zoom, f/3.4, OIS
- Time-of-flight camera TOF 3D
- 5X Optical Zoom, 10X Hybrid zoom, 50X digital zoom
- กล้องหน้า 32MP, f/2.0
- แบตเตอรี่ 4,200mAh (40W Huawei SuperCharge, 15W Wireless Quick Charge)
- ฟีเจอร์ Reverse Wireless Charging
- กันน้ำ IP68
- ไม่มีช่องหูฟัง 3.5mm
PERFORMANCE
ทางด้านประสิทธิภาพนั้น P30 Pro ยังคงใช้ทางด้าน CPU KIRIN 980 เช่นเดิมครับเป็นตัวล่าสุดของค่ายรวมถึงทำคะแนนได้ 278458 คะแนน อันนี้ไม่แน่ใจทำไมคะแนนถึงได้เท่านี้ อาจจะต้องรออัพเดทก่อนขายจริงอีกรอบครับ ส่วนทางด้าน หน่วยความจุนั้นเป็น UFS2.1 ทำการอ่านไปได้ 900 MB/s และคแนน CPU 3243/9458 GEEKBENCH ครับรวมถึงความปลอดภัยในรุ่นนี้รองรับที่ Divevine L1 รองรับการดูหนัง NETFLIX HD ได้สบาย
SYSTEM UI
สำหรับ Software นั้นมาพร้อมกับตัว EMUI ล่าสุดและ Android 9 ครับ หน้าตาใกล้เคียงรุ่นเดิมแต่ปรับบางจุดเล็กน้อยครับ แอพการแจ้งเตือนเป็นจุด และ เลขในบางแอพ และ App drawer นั้นสามารถเลือกได้ครับว่าจะมีหรือไม่มีทำให้เราสามารถตั้งค่าได้ครับ ไม่ได้ตัดออกไปไหน หน้าตาโดยรวมไม่ค่อยต่างจากรุ่นก่อนมากนักครับใน P20
สำหรับหน้าตา Quicksetting นั้นต้องบอกว่าอิงจากตัวเดิมแต่ปรับมาโทนสีขาวฟ้า และ ปรับแต่งได้ค่อนข้างเยอะเช่นเดิม อีกทั้งยังแบ่งหน้าจอได้ง่ายๆด้วยใช้ข้อนิ้วเคาะและลากครับก็จะสามารถแบ่งได้เลย
คียบอร์ดไทยนั้นยังคงใช้ Swiftkey เช่นเดิม ตัว P30 PRO มาพร้อมความจุถึง 256GB และ RAM 8 GB ครับ ว่างประมาณ 240 กว่าๆ และ RAM ใช้งานไป 3.36 GB ครับ เหลือๆสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวันทั่วไปเลย
สำหรับตัวติ่งที่มีมาให่ก็สามารถถมดำปิดไปได้ด้วยเช่นเดียวกันครับเนียนๆตาไปเลย หน้าตาแอพธีมอะไรก็สามารถปรับเปลี่ยนได้ครับ ไอคอน การเปลี่ยนหน้าต่างๆ รวมถึงระบบเสียงก็รองรับ Dolby และปรับ EQ ได้ตามภาพเลยครับ และยังรองรับ Always On ด้วยแต่ไม่สามารถปรับแต่งอะไรได้มากนักครับในตัวนี้ตั้งค่าได้แค่เปิดปิดเท่านั้นเลย
ในส่วนของการควบคุมนั้นจะเลือกได้ว่าจะเอาแบบ ปัดเต็มจอ หรือ ปุ่มแบบเดิมๆ ก็สามารถเลือกได้เลย Gesture นั้นมีเลือกมากมายทั้งเคาะหน้าจอถ่ายภาพ แบ่งหน้าจออะไรพวกนี้ครับ ยกขึ้นมาจะเงียบพวกนี้ยังคงมีมาครบ และแน่นอนว่าสามารถ สแกนใบหน้าได้ด้วยสำหรับตัวนี้ ทำได้ไวพอสมควร แต่ใช้งานแบบกล้องที่มืดเลยสแกนไม่ติดครับ
Desktop Mode ก็มีมาให้เหมือนเดิมสามารถเสียบกับทีวีได้เลยผ่านตัว HDMI-Type-C นะครับเมื่อเสียบไปแล้วมันจะมีให้เลือกระหว่าง เอาภาพหน้าจอมือถือขึ้นไป หรือจะใช้เป็นหน้าตาแบบ Desktop นั้นเองครับถือว่าสะดวกมากๆไม่ต้องใช้ตัวแปลงพิเศษอะไรเลยครับ และเหมือนใช้งานคอมพิวเตอร์เลย และใช้มือถือเราเป็น Touchpad
THEME
Theme หลากหลายหน้าตาก็สามารถโหลดมาใช้งานกันได้ครับ มีทั้งเสียตังและแบบฟรีครับ ซึ่งก็จะปรับเปลี่ยน ICON เป็นหลัก แต่ใน่ส่วนหน้าอื่นๆยังไม่ค่อยปรับเปลี่ยนมากนัก ต่างจากพวก Xiaomi พวกนั้นจะเปลี่ยนไปเยอะครับทั้งหน้าต่างๆ หน้าจอล็อคก็มีการเปลี่ยนไปตาม Theme ได้เล็กน้อย หรือจะเปลี่ยนแยกกันก็สามารถทำได้
[SR] รีวิว HUAWEI P30 PRO กล้องหลัง 4 ตัว รองรับมุมกว้าง พร้อมเทคโนโลยีการซูม 10X !
Huawei ได้ทำการเปิดตัวตระกูล P ตัวล่าสุดเดินทางมาถึงรุ่น 30 แล้วในรุ่นนี้ได้เปิดตัวท่ามกลางกระแส ที่มาแรงมากๆคือเน้นกล้องขั้นสุดและวีดีโอก็ดีขึ้นมาก อีกทั้งยังใช้เทคโนโลยี Periscope กล้องสำหรับการซูมอีกด้วยทำให้ซูมได้โหดมากๆอีกทั้งยังได้มากสุดที่ 50 เท่า ! ต้องบอกว่าเป็นการพัฒนากล้องอย่างเน้นๆเลยในครั้งนี้ มาพร้อมกล้องหลัง 4 ตัวรองรับระยะครบทั้งมุมกว้าง มุมปกติ เทเล และ การจับระยะ TOF 3D อีกด้วย ในเรื่องการออกแบบก็ปรับปรุงทั้งหน้าจอขอบโค้ง ติ่งแบบเล็ก และ ฝาหลังที่เล่นกับแสงสีได้สวยงามมากๆอีกทั้งยังมาพร้อม สแกนนิ้วใต้หน้าจอ ระบบ ลำโพงฝังในหน้าจอ และในเรื่องของการชาร์จไร้สาย ที่รองรับการชาร์จย้อนกลับให้คนอื่นได้ด้วยครับ ทางด้านระบบอะไรก็ยังเป็น Android 9.0 EMUI เช่นเดิม มาพร้อมกับ KIRIN 980 ต้องบอกว่าครั้งนี้จัดมาให้ค่อนข้างดีหลักๆจะเน้นกล้องหลังมากขึ้นเรื่อยๆครับและมันจะมีดีกว่าแค่กล้องหลังไหม ต้องมาดูกันสำหรับรีวิว P30 PRO
Huawei P30 Pro นั้นเปิดตัวมาด้วยจุดเด่นหลากหลายที่น่าสนใจทั้งเรื่องของกล้องหลังที่มาพร้อมกับเลนส์กล้องซูม 8MP Periscope ที่มีความยาวโฟกัส 125 มม.และ มี OIS ในด้านหลังที่ครั้งนี้มีกันสั่นมาให้ถึง 2 เลนส์คือตัวเทเล และ ก็เลนส์ปกติครับช่วยให้ภาพถ่ายดูคมชัดและนิ่งขึ้นมาก กล้องหลังมาทั้งหมด 4 ตัว เลนส์ซูม-เลนส์มุมกว้าง-เลนส์ปกติ-TOF 3D สำหรับการจับระยะ รวมถึงหน้าจอก็ใช้หน้าจอแบบ OLED แบบขอบโค้ง พร้อมกับ ลำโพงที่ส่งเสียงผ่านทางหน้าจอ จึงไม่มีรูลำโพงตรงด้านบนครับ รวมถึงการแสกนนิ้วบนหน้าจออีกด้วย ในเรื่องประสิทธิภาพนั้นมาพร้อมกับ KIRIN 980 เช่นเดิม RAM 8GB STORAGE 256 GB จัดเต็ม และการออกแบบฝาหลังที่สวยงามมากขึ้นเล่นกับแสงสีได้เยอะมาก ถือว่าเปลี่ยนแปลงไปมากพอสมควรครับในรุ่นนี้
สำหรับราคาของทาง Huawei P30 Pro 8GB/256GB นั้นเปิดมาที่ 31,990 บาท เข้าไทยทั้งหมด 4 สีครับ Black / Aurora / Amber Sunrise / Breathing Crytal
UNBOX
ตัวกล่องการออกแบบอะไรยังคงมาแบบเดิมครับ โทนสีขาวเขียนบอกชื่อรุ่นอะไรชัดเจน พร้อมกับ อุปกรณ์ในกล่องที่ค่อนข้างครบ และ ใช้งานได้เลยทั้งเคส และ หูฟัง ต่างๆ
- ตัวเครื่อง HUAWEI P30 PRO
- เคสใสนิ่ม TPU
- หูฟัง Type-C
- สายชาร์จ Type-C
- ที่ชาร์จ Huawei Super Charge 40W
- คู่มือ ที่จิ้มซิม
- ไม่มีตัวแปลง Type-C 3.5 มาให้แล้วนะ
ตัวเคสนั้นเป็นเคสแบบใส่นิ่ม TPU ทั่วไปครับ แต่ชอบคือมันปกป้องเลนส์กล้องหลัง และ หน้าจอได้ดีคือเวลาวางนั้นไม่โดนเลนส์หรือตัวหน้าจอเลย มีความหนากลางๆไมไ่ด้หนาไม่ได้บางมาก สามารถใช้ชั่วคราวได้ ปกป้องได้ดีกว่าพวกเคสแถมแบบ Xiaomi ที่แบบนั้นจะบางไปมาก และ ไม่ปกป้องเลน์กล้องเลยครับอันนี้ถือว่าทำออกมาได้ดี ด้านหน้านั้นแม้จะเป็นจอโค้งแต่ก็ทำออกมาได้ดีปกป้องได้ ด้วย และน่าจะติดฟิลม์ได้ง่ายไม่ได้กินขอบอะไรมากนัก
DESIGN
การออกแบบในรุ่นนี้มีการเปลี่ยนแปลงในหลายๆจุดแต่จะแตกต่างกันมากๆคือในด้านหน้า และ ตัวกล้องหลังนิดหน่อยครับ เพราะ ยังคงการออกแบบที่ไม่ได้แตกต่างกับรุ่นก่อนหน้านี้เท่าไร ส่วนติ่งหน้าจอนั้นก็มีขนาดเล็กลงรวมถึงลำโพงก็ได้หายไปแล้วในส่วนขอบบนหน้าจอครับ ในด้านหลังนั้นกล้องก็มีขนาดใหญ่ขึ้นและเพิ่มกล้องมาเป็น 4 ตัวครับและการออกแบบฝาหลังนั้นไล่เฉดสีกันสวยงามเลย เป็นสีที่ค่อนข้างสวยและโดดเด่นมากๆครับ เป็นโทนสีขาวเล่นกับแสง
ด้านหน้าจอ เป็นหน้าจอแบบโค้ง P30 Pro จะไม่มีลำโพงอีกแล้ว แต่ใช้เทคโนโลยี Acoustic Display ส่วนในเรื่องของขนาดหน้าจอนั้น มีขนาด 6.47″ เป็นจอแบบโค้ง OLED 19.5:9, FHD+ (2340×1080 pixels) กล้องหน้าตัวเดียวมาแบบติ่งหยดน้ำ สามารถปิดติ่งได้ครับ ขอบรวมๆนั้นบางลงพอสมควรเลย
ขอบหน้าจอในส่วนขอบล่างนั้น มีความหนากว่าปกติเล็กน้อยครับ แต่ก็พยายามทำบางลงเรื่อยๆส่วนขอบซ้ายขวานั้นบางอยู่แล้วแต่ รอบนี้มาเป็นจอขอบโค้งทำให้ดูแล้วขอบนั้นบางกว่าปกติ แต่หลายๆคนนั้นอาจจะไม่ค่อยชอบขอบโค้งกันเพราะอาจจะจับไม่ถนัดและติดฟิลม์ยากครับ
ขอบหน้าจอส่วนบนนั้น จะเห็นวามีความบางลงเหมือนขอบข้างๆและติ่งหน้าจอนั้นเป็นแบบหยดน้ำเล็กลงกว่ารุ่นก่อน และถ้าใครมองดีๆจะไม่เห็นลำโพงแล้ว เพราะว่ารุ่นนี้ใช้ระบบส่งเสียงผ่านหน้าจอนั้นเองครับ จากที่ลองถือว่าชัดเจนดี
ในส่วนของขอบบนหน้าจอนั้นเป็นติ่งแบบหยดน้ำแน่นอนว่าสามารถตั้งค่าเปิดปิดติ่งหน้าจอได้เลยครับ ว่าใครชอบอะไรแบบไหนถ้าปิดแล้วจะเป็นแถบสีดำรวมถึงการแจ้งเตือนอะไรจะอยู่ในส่วนสีดำทั้งหมดครับ และซ่อนกล้องเนียนๆกันไป
ตัวขอบล่างของเครื่องนั้น จะมีรูลำโพง รูพอร์ต Type-C และ ไมค์ รวมถึงช่องใส่ถาดซิมครับ รองรับ DualSIM และ เพิ่มเม็มแบบ NM Card จากทาง Huawei เลือกเอาได้ว่าจะเพิ่มเม็ม หรือ จะใส่แบบ 2 ซิมครับ
ขอบด้านซ้ายนั้นจะเรียบๆไม่มีปุ่มอะไรทั้งนั้นครับ และจะเห็นการออกแบบ ที่ทั้งกระจกหน้า และ หลังนั้น จะเป็นขอบโค้งทั้งคู่แบบเดียวกับ Mate 20 Pro ทำให้เวลาจับถืออาจจะเข้ากับมือได้ง่ายและดูขอบบางกว่าเดิมครับ
ในส่วนขอบด้านขวานั้นจะเป็นปุ่ม เพิ่ม-ลดเสียง และ ปุ่ม Power ที่เป็นสีแดงๆ ทั้งหมดหลักๆมี 3 ปุ่ม จะไม่มีปุ่มพิเศษสำหรับเรียกพวก AI พวกนี้มาแบบหลายๆค่ายที่พยายามใส่กันเข้ามานะครับ
ด้านบนนั้นจะเห็นว่ายังคงมี IR สำหรับการควบคุมเครื่องใช้ไฟฟ้ามาให้ และ มีรูไมค์ สำหรับอัดเสียง ตัดเสียงรบกวนมาอีกด้วยครับ เป็นเรือธงไม่มีค่ายที่ยังมี IR มาให้ครับหลายๆค่ายก็เริ่มเอาออกกันไปแล้ว
ตัวถาดซิมนั้นเป็นแบบ Hybrid ที่รองรับ NanoSIM อีกทั้งยังรองรับการใส่ถ้าเราเลือกใส่ 1 ซิม + NM Card ที่คิดค้นจากทาง Huawei เองด้วยครับ หรือจะเป็น ซิมคู่เลยก็ได้ครับ
กล้องหลังอันนี้คือจุดเด่นเพราะมาพร้อมกับเลนส์ที่พัฒนาร่วมกับ Leica มี 4 เลนส์ และ เลนส์แบบสี่เหลี่ยมที่รองรับการซูมได้โหดมากๆหรือเลนส์แบบ Periscope นั้นเองเป็นเทคโนโลยีใหม่สุดๆเลยสำหรับมือถือครับ
- 40MP SuperSpectrum Wide angle, f/1.6, OIS
- 20MP ultra wide angle, f/2.2
- 8MP Periscope 5X Optical zoom, f/3.4, OIS
- Time-of-flight camera / TOF 3D
- 5X Optical Zoom, 10X Hybrid zoom, 50X Digital zoom
SPEC
- หน้าจอ 6.47″ Curved OLED 19.5:9, FHD+ (2340×1080 pixels)
- ชิป Kirin 980
- RAM 8GB
- STORAGE 128/256/512GB เพิ่ม Nano memory
- 40MP SuperSpectrum Wide angle, f/1.6, OIS
- 20MP ultra wide angle, f/2.2
- 8MP Periscope 5X Optical zoom, f/3.4, OIS
- Time-of-flight camera TOF 3D
- 5X Optical Zoom, 10X Hybrid zoom, 50X digital zoom
- กล้องหน้า 32MP, f/2.0
- แบตเตอรี่ 4,200mAh (40W Huawei SuperCharge, 15W Wireless Quick Charge)
- ฟีเจอร์ Reverse Wireless Charging
- กันน้ำ IP68
- ไม่มีช่องหูฟัง 3.5mm
PERFORMANCE
ทางด้านประสิทธิภาพนั้น P30 Pro ยังคงใช้ทางด้าน CPU KIRIN 980 เช่นเดิมครับเป็นตัวล่าสุดของค่ายรวมถึงทำคะแนนได้ 278458 คะแนน อันนี้ไม่แน่ใจทำไมคะแนนถึงได้เท่านี้ อาจจะต้องรออัพเดทก่อนขายจริงอีกรอบครับ ส่วนทางด้าน หน่วยความจุนั้นเป็น UFS2.1 ทำการอ่านไปได้ 900 MB/s และคแนน CPU 3243/9458 GEEKBENCH ครับรวมถึงความปลอดภัยในรุ่นนี้รองรับที่ Divevine L1 รองรับการดูหนัง NETFLIX HD ได้สบาย
SYSTEM UI
สำหรับ Software นั้นมาพร้อมกับตัว EMUI ล่าสุดและ Android 9 ครับ หน้าตาใกล้เคียงรุ่นเดิมแต่ปรับบางจุดเล็กน้อยครับ แอพการแจ้งเตือนเป็นจุด และ เลขในบางแอพ และ App drawer นั้นสามารถเลือกได้ครับว่าจะมีหรือไม่มีทำให้เราสามารถตั้งค่าได้ครับ ไม่ได้ตัดออกไปไหน หน้าตาโดยรวมไม่ค่อยต่างจากรุ่นก่อนมากนักครับใน P20
สำหรับหน้าตา Quicksetting นั้นต้องบอกว่าอิงจากตัวเดิมแต่ปรับมาโทนสีขาวฟ้า และ ปรับแต่งได้ค่อนข้างเยอะเช่นเดิม อีกทั้งยังแบ่งหน้าจอได้ง่ายๆด้วยใช้ข้อนิ้วเคาะและลากครับก็จะสามารถแบ่งได้เลย
คียบอร์ดไทยนั้นยังคงใช้ Swiftkey เช่นเดิม ตัว P30 PRO มาพร้อมความจุถึง 256GB และ RAM 8 GB ครับ ว่างประมาณ 240 กว่าๆ และ RAM ใช้งานไป 3.36 GB ครับ เหลือๆสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวันทั่วไปเลย
สำหรับตัวติ่งที่มีมาให่ก็สามารถถมดำปิดไปได้ด้วยเช่นเดียวกันครับเนียนๆตาไปเลย หน้าตาแอพธีมอะไรก็สามารถปรับเปลี่ยนได้ครับ ไอคอน การเปลี่ยนหน้าต่างๆ รวมถึงระบบเสียงก็รองรับ Dolby และปรับ EQ ได้ตามภาพเลยครับ และยังรองรับ Always On ด้วยแต่ไม่สามารถปรับแต่งอะไรได้มากนักครับในตัวนี้ตั้งค่าได้แค่เปิดปิดเท่านั้นเลย
ในส่วนของการควบคุมนั้นจะเลือกได้ว่าจะเอาแบบ ปัดเต็มจอ หรือ ปุ่มแบบเดิมๆ ก็สามารถเลือกได้เลย Gesture นั้นมีเลือกมากมายทั้งเคาะหน้าจอถ่ายภาพ แบ่งหน้าจออะไรพวกนี้ครับ ยกขึ้นมาจะเงียบพวกนี้ยังคงมีมาครบ และแน่นอนว่าสามารถ สแกนใบหน้าได้ด้วยสำหรับตัวนี้ ทำได้ไวพอสมควร แต่ใช้งานแบบกล้องที่มืดเลยสแกนไม่ติดครับ
Desktop Mode ก็มีมาให้เหมือนเดิมสามารถเสียบกับทีวีได้เลยผ่านตัว HDMI-Type-C นะครับเมื่อเสียบไปแล้วมันจะมีให้เลือกระหว่าง เอาภาพหน้าจอมือถือขึ้นไป หรือจะใช้เป็นหน้าตาแบบ Desktop นั้นเองครับถือว่าสะดวกมากๆไม่ต้องใช้ตัวแปลงพิเศษอะไรเลยครับ และเหมือนใช้งานคอมพิวเตอร์เลย และใช้มือถือเราเป็น Touchpad
THEME
Theme หลากหลายหน้าตาก็สามารถโหลดมาใช้งานกันได้ครับ มีทั้งเสียตังและแบบฟรีครับ ซึ่งก็จะปรับเปลี่ยน ICON เป็นหลัก แต่ใน่ส่วนหน้าอื่นๆยังไม่ค่อยปรับเปลี่ยนมากนัก ต่างจากพวก Xiaomi พวกนั้นจะเปลี่ยนไปเยอะครับทั้งหน้าต่างๆ หน้าจอล็อคก็มีการเปลี่ยนไปตาม Theme ได้เล็กน้อย หรือจะเปลี่ยนแยกกันก็สามารถทำได้
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้