นับตั้งแต่เปิดตัวในปารีสเมื่อวันที่ 26 มีนาคมชุด P30 ได้รับการขนานนามจากชาวเน็ตว่า "สมาร์ทโฟนที่กล้องที่ถ่ายภาพได้โหดกว่าคู่แข่งแบบคนละชั้น ตอนนี้ Huawei P30, P30 Pro ก็พร้อมให้คนไทยเป็นเจ้าของแล้ว แต่สำหรับใครที่ยังไม่รู้ว่า Huawei P30, P30 Pro ดียังไงเราจะมาบอกข้อดีเจ๋งๆ ให้เห็นภาพชัดๆ กัน


1) ซื้อ Huawei P30, P30 Pro ก็เหมือนซื้อทั้งโทรศัพท์และกล้องสเปคจัดเต็มในเครื่องเดียว
2) มีการติดตั้งชิปเรือธง Kirin ที่ให้ประสบการณ์การใช้งานที่ยอดเยี่ยม
3) ทั้งสองรุ่นมาพร้อมกับกล้อง 32 ล้านพิกเซลมี super lowlight ถ่ายได้คมชัดแม้ในที่มืดและเซลฟี่ย้อนแสงได้อย่างสวยงาม
5) Huawei P30, P30 Pro มีอายุการใช้งานแบตเตอรี่ยาวนาน
6) ทั้งสองพร้อมกับเทคโนโลยีสแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอที่ปลอดภัย
7) ทั้งสองมีความสามารถด้านการเชื่อมต่อระบบเครือข่ายที่ยอดเยี่ยม
8) มีบลูทูธที่ยอดเยี่ยม
9) ทั้งคู่ติดตั้ง EMUI 9.1 ระบบที่ทำให้ทำงานได้อย่างลื่นไหล
10) มีให้เลือกมากถึง 3 สี และล้วนแต่เป็นสีที่ได้รับการยอมรับจากโลกแฟชั่น

แต่ถึงทั้ง 2 รุ่นจะยอดเยี่ยมก็ยังมีจุดที่แตกต่างกันอยู่ เราจะมาสอนสอนวิธีเลือกและดูความแตกต่างกัน

P30 ใช้กล้อง Leica Triple Super-Sensitive ความละเอียด 40 ล้านพิกเซล แบ่งเป็น

กล้องหลักความละเอียด 40 ล้านพิกเซล f / 1.8 รูรับแสงกว้าง
กล้องมุมกว้างพิเศษความละเอียด 16 ล้านพิกเซล f / 2.2 รูรับแสงกว้าง
กล้องเทเลโฟโต้ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล f / 2.4 รูรับแสงกว้าง


Huawei P30 ใช้เซ็นเซอร์ขนาดใหญ่เช่นเดียวกับ P20 pro (1 / 1.7 นิ้วซึ่งใหญ่กว่า iPhone Xs Max และของ Samsung Galaxy S10 Plus มาก) ฟิลเตอร์สีได้รับการอัพเกรดจาก RGGB เป็น RYYB ที่พัฒนาขึ้นเองของ Huawei การรับแสงได้รับการปรับปรุงเพิ่มขึ้น 40% ทำให้ใช้ ISO ได้สูงเป็นพิเศษถึง 204,800 ส่วน iPhone Xs Max และ Samsung Galaxy S10 Plus ISO สูงสุดอยู่ที่ 6400


ISO ที่สูงเป็นพิเศษหมายถึงแสงที่มากขึ้นรายละเอียดเพิ่มเติม,สร้างสีที่ดีขึ้นไม่ว่าจะเป็นการถ่ายภาพกลางคืนหรือถ่ายภาพวิวสวย ๆ ในที่แสงน้อย P30 ก็ถ่ายได้อย่างคมชัดที่สุด


low light shooting, by AlexanDENG -Namibia

การถ่ายภาพ P30 ในแง่ของการซูมมี
มาโครสูงสุด 2.5 ซม. /เลนส์มุมกว้างพิเศษ 120 องศา (ความยาวโฟกัส 16 มม.)
ออปติคัลซูม 3 เท่า (ความยาวโฟกัส 81 มม.)
ซูมไฮบริดแบบไม่สูญเสียรายละเอียด 5 เท่า (ความยาวโฟกัส 135 มม.)
ความสามารถในการซูมดิจิตอล 30 เท่า (ความยาวโฟกัส 802 มม.)ซึ่งไกลกว่าสมาร์ทโฟนทุกรุ่นในท้องตลาด

(PS: อัตราการซูมของ Huawei คำนวณจากความยาวโฟกัสเทียบเท่า 27 มม. ของเลนส์หลัก)


ทั้งสองรุ่นในซีรีย์ P30 ใช้หน้าจอความละเอียด FHD + (2340 x 1080 อัตราส่วน 19.5: 9) หน้าจอ OLED โดยหน้าจอจะมีจุดแตกต่างกันที่ P30 Pro จะใช้หน้าจอโค้ง

สำหรับความรู้สึกในมือความแตกต่างขึ้นอยู่กับขนาดหน้าจอโทรศัพท์มือถือ P30 มีขนาด 6.1 นิ้วซึ่งมีขนาดเท่ากับ iPhone XR แต่เนื่องจากขอบแคบกว่าความกว้างของเครื่อง P30 จึงเล็กกว่า iPhone XR ถึง 4.3 มม. ทำให้ดูเพรียวมากและมีประสบการณ์การจับที่ดีกว่าด้วยมือเดียว ดังนั้นเพื่อน ๆ ที่มีมือเล็กเราแนะนำให้ใช้ P30 เป็นอันดับแรก P30 Pro 6.47 นิ้วมีขนาดใหญ่กว่าและมีความยาวมากกว่ารุ่น P20 รุ่นก่อนหน้ามาพร้อมหน้าจอโค้ง P30 Pro แบบกระจกไฮเปอร์โบลด์ด้านหน้าและด้านหลังขึ้นรูปโค้งสง่างามรู้สึกสะดวกสบายมากขึ้น


Huawei P30 มาพร้อมกับแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 3650 mAh ในขณะที่ P30 Pro มาพร้อมกับแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 4200 mAh พร้อมจากการทดสอบที่ยืนยันได้ว่ามีความอึกกว่า P Serial และสมาร์ทโฟนรุ่นท็อปตัวอื่นโดยซีรีย์ P30 มาพร้อมกับที่ชาร์จ Super Charge ของ Huawei ซึ่งผ่านการรับรองความปลอดภัย TÜV Rheinland ซึ่งรวดเร็วและปลอดภัยโดย P30 เป็นประจุไฟการชาร์จสูงสุด 22.5W และ P30 Pro ประจุไฟเป็น 40W


มีลูกเล่นการชาร์จแบบไร้สายเป็นพิเศษใน P30 Pro ส่วนใน P30 จะมีซองโทรศัพท์มือถือชาร์จแบบไร้สาย (ซึ่งต้องซื้อแยกต่างหาก) เพื่อให้ได้การชาร์จแบบไร้สายโดยรองรับการชาร์จไร้ด้วยประจุไฟ 15W


นอกจากความรวดเร็วแล้วซีรีย์ P30 ยังสามารถปกป้องอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นกับเครื่องได้อย่างเรื่องน้ำและฝุ่นโดย P30 มีระดับความปลอดภัย IP53 สามารถป้องกันผลกระทบที่เป็นอันตรายของหยดน้ำและฝุ่นละอองที่พบบ่อยที่สุดในชีวิตประจำวันส่วน Huawei P30 Pro มีระดับการป้องกันฝุ่นและน้ำ IP68 สามารถแช่ในน้ำไม่เกิน 1.5 เมตรเป็นเวลา 30 นาที สำหรับน้ำที่เข้ามาโดยไม่ตั้งใจบางครั้งอาจเป็นไปได้ที่จะปกป้องโทรศัพท์ให้มากที่สุด ซึ่งกล่าวได้ว่า Huawei เป็นผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือเพียงรายเดียวในประเทศจีนที่รองรับการกันฝุ่นและกันน้ำ IP68