พึ่งตรวจพบเชื้อวัณโรคจากการ x ray ปอดและการเพาะเชื้อ (ตรวจย้อมสีไม่พบ) เจอโดยบังเอิญเพราะการตรวจสุขภาพเพื่อไปออสค่ะ
ก่อนหน้าจะตรวจมีอาการไออยู่แค่อาทิตย์เดียวก็หายไปหลายอาทิตย์ เลยไม่ได้ติดใจอะไร
ตอนนี้เข้ารับการรักษาใช้สิทธิ์ประกันสังคม แต่จะต้องรอคิวนานมากกว่าจะได้เจอคุณหมอแต่ละครั้ง
และรู้สึกว่าไม่ได้ปรึกษาหมอเท่าที่ควรเนื่องจากคิวคุณหมอแน่นมาก (คิวท้ายๆ ต้องนั่งรอถึงเที่ยงคืน)
ตอนนี้โดสยาที่ได้รับคือ (เราน้ำหนัก 37-38 ค่ะ น้ำหนักแกว่งๆอยู่ประมาณนี้)
RIFAM 300 MG 1 แคปซูลก่อนนอน
ETHAMBUTOL 400 MG 2 เม็ดก่อนนอน
PZA 500 MG 2 เม็ดก่อนนอน
INH 100 MG 3 เม็ดก่อนนอน
VIT B1-6-12 หลังอาหารเช้า-เย็น 1 เม็ด
ทานยาสูตรนี้มาหนึ่งเดือน และหมออีกทีเดือนหน้า แต่พอดีเราพึ่งได้ผลดื้อยาอัพเดทมาจากสถาบันที่เราไปตรวจเสมหะเพาะเชื้อด้วย (ผลคือไม่ดื้อยาใดๆ)
เลยนำผลเพาะเชื้อนี้ไปให้คุณหมอที่รพ.อื่นดูก่อน แล้วคุณหมออีกรพ.หนึ่งมีความเห็นต่างไปเรื่องโดสยา ให้ปรับเป็น
RIFAMplcln 450 MG 1 เม็ดก่อนนอน
ETHAMBUTOL HCL 400 MG 2 เม็ดก่อนนอน
PYRAZINAMIDE 500 MG 2 เม็ดครึ่งก่อนนอน
ISONIAZID 100 MG 3 เม็ดก่อนนอน
VIT B 6 50 MG 1 เม็ดก่อนนอน
หลังรับยาสูตรแรกมาหนึ่งเดือน ไป x-ray พบว่ารอยโรคยังเหมือนเดิมเลยค่ะ
จริงๆ เราควรทานสูตรไหนดีกว่ากันคะ
ถ้าเริ่มกินตามหมอที่ 2 นี่คือเท่ากับเริ่มการรักษาใหม่ไหมคะ? เหมือนนับเดือน 1 ใหม่เลยไหม?
ตอนนี้สับสนค่ะว่าต้องกินตามคุณหมอไหนดี หรือย้ายมารักษารพ.ที่สองเลยดี บริการดีกว่า ไม่ต้องรอนาน ปรึกษาหมอได้นานกว่า
จริงๆ หลังรักษาเราต้องขอ Medical Report ของการรักษาเพื่อส่งด้วยค่ะ จะมีปัญหาอะไรไหมถ้าเปลี่ยนรพ.
ต้องรักษานานเท่าไหร่จึงจะไม่พบเชื้อ หรือผล x-ray มีการเปลี่ยนแปลงให้เห็นคะ (นี่กินยามาหนึ่งเดือนแล้วรอยโรคยังเหมือนเดิมแสดงว่ามีแววล้มเหลวรึเปล่าคะ)
ตอนนี้เครียดมากๆ ค่ะ ท่านใดเคยเป็นวัณโรค มีวิธีการดูแลตัวเองยังไง กินยานานเท่าไหร่ รบกวนด้วยนะคะ
ขอบคุณค่ะ
สอบถามคุณหมอเรื่องการกินยา / รักษาวัณโรคค่ะ
ก่อนหน้าจะตรวจมีอาการไออยู่แค่อาทิตย์เดียวก็หายไปหลายอาทิตย์ เลยไม่ได้ติดใจอะไร
ตอนนี้เข้ารับการรักษาใช้สิทธิ์ประกันสังคม แต่จะต้องรอคิวนานมากกว่าจะได้เจอคุณหมอแต่ละครั้ง
และรู้สึกว่าไม่ได้ปรึกษาหมอเท่าที่ควรเนื่องจากคิวคุณหมอแน่นมาก (คิวท้ายๆ ต้องนั่งรอถึงเที่ยงคืน)
ตอนนี้โดสยาที่ได้รับคือ (เราน้ำหนัก 37-38 ค่ะ น้ำหนักแกว่งๆอยู่ประมาณนี้)
RIFAM 300 MG 1 แคปซูลก่อนนอน
ETHAMBUTOL 400 MG 2 เม็ดก่อนนอน
PZA 500 MG 2 เม็ดก่อนนอน
INH 100 MG 3 เม็ดก่อนนอน
VIT B1-6-12 หลังอาหารเช้า-เย็น 1 เม็ด
ทานยาสูตรนี้มาหนึ่งเดือน และหมออีกทีเดือนหน้า แต่พอดีเราพึ่งได้ผลดื้อยาอัพเดทมาจากสถาบันที่เราไปตรวจเสมหะเพาะเชื้อด้วย (ผลคือไม่ดื้อยาใดๆ)
เลยนำผลเพาะเชื้อนี้ไปให้คุณหมอที่รพ.อื่นดูก่อน แล้วคุณหมออีกรพ.หนึ่งมีความเห็นต่างไปเรื่องโดสยา ให้ปรับเป็น
RIFAMplcln 450 MG 1 เม็ดก่อนนอน
ETHAMBUTOL HCL 400 MG 2 เม็ดก่อนนอน
PYRAZINAMIDE 500 MG 2 เม็ดครึ่งก่อนนอน
ISONIAZID 100 MG 3 เม็ดก่อนนอน
VIT B 6 50 MG 1 เม็ดก่อนนอน
หลังรับยาสูตรแรกมาหนึ่งเดือน ไป x-ray พบว่ารอยโรคยังเหมือนเดิมเลยค่ะ
จริงๆ เราควรทานสูตรไหนดีกว่ากันคะ
ถ้าเริ่มกินตามหมอที่ 2 นี่คือเท่ากับเริ่มการรักษาใหม่ไหมคะ? เหมือนนับเดือน 1 ใหม่เลยไหม?
ตอนนี้สับสนค่ะว่าต้องกินตามคุณหมอไหนดี หรือย้ายมารักษารพ.ที่สองเลยดี บริการดีกว่า ไม่ต้องรอนาน ปรึกษาหมอได้นานกว่า
จริงๆ หลังรักษาเราต้องขอ Medical Report ของการรักษาเพื่อส่งด้วยค่ะ จะมีปัญหาอะไรไหมถ้าเปลี่ยนรพ.
ต้องรักษานานเท่าไหร่จึงจะไม่พบเชื้อ หรือผล x-ray มีการเปลี่ยนแปลงให้เห็นคะ (นี่กินยามาหนึ่งเดือนแล้วรอยโรคยังเหมือนเดิมแสดงว่ามีแววล้มเหลวรึเปล่าคะ)
ตอนนี้เครียดมากๆ ค่ะ ท่านใดเคยเป็นวัณโรค มีวิธีการดูแลตัวเองยังไง กินยานานเท่าไหร่ รบกวนด้วยนะคะ
ขอบคุณค่ะ