สวัสดีครับ กระทู้นี้เป็นรีวิวครั้งแรกนะครับ ถ้าผิดพลาดประการใดต้องขออภัยด้วยครับ

วันนี้ผมจะมารีวิว มัลดีฟให้เพื่อนได้ชมกันกับ งบ 34,848 ฿

Paradise Island Resort &  Maafushi Island

เราเริ่มเดินทางทริปนี้ กันวันที่ 10 มีนาคม 62 ถึง 13 มีนาคม 62 รวมแล้ว4วัน3คืน 

ทริปนี้เราเริ่มต้นด้วยสายการบินแอร์เอเชีย  จองแบบข้ามปีกันไปเลย  ค่าตั๋วเครื่องบินไปกลับ คนละ 7,500 บาท

เริ่มต้นกันที่ดอนเมืองของวันที่10 มีนาคม 62 แอร์เอียเชียบิน 9:25 ถึงมัลดีฟ ประมาณ 11:50 นาทีตามเวลาท้องถิ่นของประเทศมัลดีฟ

ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง เวลาที่ ประเทศมัลดีฟจะช้ากว่าประเทศไทย 2 ชั่วโมงนะครับ และสกุลเงินที่เค้าใช้กันหลักๆก็คือ US ดอลล่าและเงินท้องถิ่น รูฟิยา เรทตอนนั่นที่ผมแลกไป ประมาณ 31.70 แลกที่ซุปเปอร์ริทเขียวได้เลย ส่วนเงินรูฟิยาสามารถแลกที่สนามบินมัลดีฟได้เลยถ้า 

                                  ใครจะไปเกาะมาฟูชิแบบผม หรือไม่ก็ใช้เงินดอลล่าก็ได้แต่เค้าจะถอนมาเป็นเงินท้องถิ่น

แล้วเราก๊มาถึงประเทศมัลดีฟสักทีวิวแรกที่เห็นก็แบบนี้เลยครับตื่นเต้นมาก

พอลงเครื่องปุ๊ปเราก็มาสู้ขั้นตอนการเขียนใบเข้าเมือง ประเทศมัลดีฟกัน

แล้วก็มุ่งหน้าสู่ ตม เลยยยยย

พอออกจาก Gate สนามบินมาแล้วก็มุ่งตรงมาที่เค้าเตอร์ 16 กันเลยเพื่อ เช็คอิน ไปยัง Paradise Island Resort & Spa 

แล้วจากนั่นเราก็จะมาซื้อซิมกันถ้าเดินออกจาก Gate มาแล้วให้เลี้ยวไปทางขาวมือเลยครับ เดินตรงไปเกือบสุดทาง

จะมีร้านขายซิมอยู่2ร้าน

ผมเลือกซื้อร้านซ้ายมือนะครับพอดีเจอพี่คนไทยที่มาเที่ยวมัลดีฟเค้าแนะนำมาเค้าบอกว่าค่ายนี้ดีที่สุดแล้วขนาดกลางทะเลยังมีสัญญาณมือถือ

ผมซื้อโปรเน็ต17GB 7วัน 20US ตกราคาเงินไทยก็ประมาณ 634 บาท

เครดิต ภาพ จาก เว็บ Maldives NaNa

พอเรากลับมาที่เค้าเตอร์ 16 สักพักทางเจ้าหน้าที่ก็เรียกเราไปขึ้นเรือ Speed boat เพื่อพาเราไปยัง Paradise Island รีสอร์ท

จากสนามบินมาเล่ไปยังรีสอร์ท ใช้เวลาแค่15-20นาทีเท่านั่นเอง ราคา Speed boat รับส่งรีสอร์ทไปกลับสนามบิน 104 US หรือประมาณ3,296บาท 

ในที่สุดเราก็มาถึงแล้ว Paradise Island Resort

สวยจิงๆตอนนั่นรู้สึกตื่นเต้นมากไม่เคยเห็นทะเลที่สวยแบบนี้มากก่อนเลยสมคําร่ําลือจิงๆ

จากนั่นเราก็มาเช็คอินเข้าที่พักกันที่นี้ผมและแฟนจองที่พักกลางน้ำมา2คืนไหนๆก็มาแล้วเอานะมาทั้งทีไม่ได้มาบ่อยเต็มที่หน่อย

ที่พักกลางน้ำตกคืนละ19,000บาท 2คืนก็ 38,000 บาท

ไปดูหน้าตาที่พัก รีสอร์ทกลางน้ำกันเลย 

ถึงแล้ว

ป่ะเข้าไปสํารวจข้างในกันตามกันมาเลย

นี้มีอ่างจากุซซี่ด้วย

ที่พักที่นี้มีหลายแบบราคาแต่ต่างกันไปตามวันและเวลา พักที่ผมเลือกเป็นแบบ (Haven Villa)

และจะมีแบบอื่นอีกนะครับทั้ง (Garden Villa) (Superior Beach Bungalows) (Haven Suite) (Water Villa) และก็ (Haven Villa)

 

วิวหลังห้อง

นี้บันไดลงไปเล่นน้ำหลังห้องได้เลย

แต่ยังไม่เล่นขอกินแอปเปิ้ลให้ชื่นใจก่อน

ดูวิวกันไป

ส่วนแฟนผมก็ไม่รอช้าเปลี่ยนผ้าทันที

เล่นน้ำที่หลังห้องจนหนําใจแล้วเราก็ไปเดินเล่นกันที่ชายหาดกันต่อ

หมดไปอีก1วัน

จากนั่นเราก็มาถึงอาหารค่ำ

ตอนมาถึงรีสอร์ทผมกับแฟนไม่ได้อัพเกรดเป็น inclusive เพราะคิดว่ามันไม่คุ้มพนักงานก็ถามแฟนผมแล้วว่าจะอัพเกรดรึป่าวพวกเราก็ตกลงกันว่าไม่อัพเพราะมาถึงรีสอร์ทก็บ่าย2โมงแล้วร้านอาหารก็เปิดตามเวลาที่เค้ากำหนด ถ้าจะอัพเกรด ก็ต้องเพิ่มเงินอีก 104 US ถ้าผมจำไม่ผิด ประมาณ3พันกว่าบาทต่อคน เลยเลือกกินแบบเป็นเซตๆไป

เห็นตาหน้ากินแบบนี้เช็คบิลออกมาแถบจะเป็นลม

3อย่างที่สั่งไปคืนนี้กินกัน2คนแถบจะคลานเข้าห้องนอนอิ่มมากๆเห็นน้อยอย่างนี้อิ่มจิงๆ

พอเช้าก็ไม่รีรอรีบบึ่งไปหาอาหารเช้าเลยอาหารเช้าที่นี้เปิด7.30นะครับ 

วิวก็จะประมาณนี้

อาหารเช้าที่นี้หลากหลายมากน่ะครับ

เยอะมาก

กินอิ่มแล้วก็ได้เวลาเดินเล่นย่อยอาหารถ่ายรูปกันต่อ

วันรุ่งขึ้นวันนี้ผมและแฟนก็ต้องกลับกันแล้วจึงรีบจัดแจงเตรียมตัวกันแต่เช้าเพื่อที่จะไปยังเกาะมาฟูชิกันต่อ

จัดแจงเสร็จก็ถ่ายรูปกันไปเพื่ออำลา

รอเรือSpeed boat มารับกลับเช่นเคยทางรีสอร์ทจะถามตั้งแต่วันแรกที่มาพักอยู่แล้วน่ะครับว่าเราจะกลับกันวันไหนเราก็แจ้งกับทางรีสอร์ทว่าวันนี้เราจะไปเกาะมาฟูชิกันต่อเรือก็จะมารับเราแล้วไปส่งที่สนามบินตามเดิมน่ะครับ

พอเรือมาส่งที่ท่าเราสองคนก็รีบเดินเข้ามาภายในอาคารเดินหาที่ขายตั๋วเรือไปเกาะมาฟูชิปรากฏว่าตั๋วขายโต๊ะมันไม่มีนะครับจะเป็นพี่ผู้ชาย

ที่ยื่นถือป้าย Maafushi สองคนนี้แถว หรือไม่ก็เดินถามเลยครับ Speed boat Maafushi แค่นี้เดียวพี่ๆแถวนั่นเค้าก็ชี้ให้เราเองคนที่นี้หน้ารักมากครับเป็นมิตรถึงหน้าตาจะโหดก็เถอะ 5555+ อ่อผมลือบอก ค่าตั๋วไปเกาะมาฟูชิคนละ 25US น่ะครับ หรือ792บาทต่อเที่ยว

นี้จำพี่คนนี้ไว้น่ะผู้ชายขายตั๋ว 5555+