สวัสดีค่ะชาวพันทิป เมื่อวันเสาร์ที่แล้ว (30/3/19) จขกท. ได้มีโอกาสไปเที่ยวที่ตลาดน้ำกวางโจว จ.เพชรบุรี มา เลยอยากจะมาแชร์ให้ทุกคน เผื่อใครอยากจัดทริปกินเที่ยวในวันหยุดสั้น ๆ แล้วแถมใกล้กรุงเทพฯ อีกกกก >,<  ไปเริ่มกันเลยดีกว่าจ้า

จขกท.เริ่มออกเดินทางจาก กทม. ประมาณ 7.00 น. แนะนำเปิด GPS ขับรถตามไปได้เลยจ้า จขกท. ก็บอกทางไม่ถูกเหมือนกัน แหะๆ
พอดีขอให้พี่หนีบเราไปด้วยคน และด้วยความที่ยังไม่มีใครเคยไปเที่ยวเลยทำให้เราไม่มั่นใจในของกินที่นั่น และกลัวไม่มีที่นั่งกัน เลยตัดสินใจแวะกินข้าวแกงข้างทางกันก่อนถึงตลาดน้ำ 

หลังจากกินข้าวและทำธุระเสร็จเรียบร้อย เราก็เดินทางกันต่อจ้า ถึงตลาดน้ำประมาณ 10.30 น. พอเลี้ยวรถเข้าไปก็พบว่ามีรถจอดอยู่เยอะมากกกก เริ่มรู้สึกดีใจที่กินข้าวกันมาก่อนแล้ว อิอิ

ก่อนเข้าไปจอดรถจะมีการเก็บค่าเข้าคนละ 25 บาท นะคะ แล้วเราก็จะได้บัตรแบบนี้มา 
หลังจากเข้ามาแล้วก็หาที่จอดกันเลย จะมีคนคอยโบกรถให้อยู่จ้า ลักษณะที่จอดก็เป็นพื้นดินพื้นหญ้านี่แหละค่ะ มีต้นไผ่ตามทางเป็นส่วนใหญ่
หลังจากได้ที่จอดกันเรียบร้อยแล้วก็เดินเข้าซุ้มไผ่ไปเลยค่ะ ทางเข้าจะอยู่ด้านในถัดจากลานจอดรถเลย และนี่คือซุ้มไผ่ที่เค้าเคลมว่า เป็นซุ้มไผ่ติดแอร์ 25 องศา นะจ๊ะ เรานี่ตื่นเต้นเลย รีบเดินจ้ำๆ อากาศข้างนอกคือ 37 องศา ร้อนตาแตกจ้าาาา
 
พอเดินเข้ามาก็รู้สึกได้ถึงความร่มค่ะ ร่มเฉย ๆ อะค่ะ - -" แต่อุณหภูมิก็ยังคง 37 อาศาค่ะ แงๆๆๆ คุณหลอกดาววววว T^T เดินปาดเหงื่อต่อไปค่ะ
เดินเข้ามาเรื่อย ๆ ก็จะเจอร้านชาวบ้านขายของโบราณ ทั้งของกินของใช้มากมาย 
เดินจนมาเห็นไข่ปิ้งบนแผ่นหิน ก็สะดุดตามากค่ะ เพราะไม่เคยเห็นมาก่อน จขกท.คิดว่ามันคงจะเหมือนกับไข่ปิ้งทั่วไป แต่ก็ไม่รู้ว่าจริง ๆ แล้วเหมือนกันจริง ๆ รึเปล่า เพราะไม่ได้ซื้อกิน จริง ๆ อยากลองซื้อมากนะคะ แต่ด้วยอากาศที่ร้อนมากกกก ก็ซื้อไปกินไม่ลงจริง ๆ อากาศร้อน ๆ ไข่ปิ้งร้อน ๆ ไม่โอวววเค
งั้นเดินผ่านไปเลยดีกว่าาาาา ใกล้ถึงทางลงไปแพตลาดน้ำแล้วค่ะ ระหว่างทางก็ยังคงมีของขาย ของชาวบ้านมากมายให้เห็นกัน สำหรับทางลงก็จะมีป้ายบอกอยู่จ้า 
เมื่อเราเดินลงไปแล้วก็จะพบกับร้านอาหารมากมายของชาวบ้าน ซึ่งภาชนะที่ใส่อาหารจำพวกของแห้ง ขนม ของที่นี่เกือบทุกร้านจะเป็นกระบอกไม้ไผ่ค่ะ ทุกร้านจะใช้เหมือนกัน เก๋มากอ่ะ แต่บางร้านก็ใช้เป็นใบตอง ใบบัว แล้วแต่ประเภทของอาหาร ส่วนเครื่องดื่มก็เป็นกระบอกไม่ไผ่เหมือนกันนะเออ ก็จะเน้นวัสดุธรรมชาติเลยจ้า
และในส่วนของแพที่นั่งนั้น เราสามารถนั่งได้ฟรีทุกแพเลย ไม่มีแบ่งว่าเป็นของร้านไหน บรรยากาศดีมากเชียวหละ ถ้าอากาศไม่ใช่อุณหภูมิ 37 องศาที่เราไปอะ 555555+ แพจะมีอยู่รอบ ๆ เลยนะคะ ถ้าว่างก็ลงไปนั่งได้เลย ลักษณะแพจะเป็นแพไม้ไผ่ เหมือนแคร่ที่ใช้นั่งตามบ้าน แล้วมีโต๊ะ 1 ตัวต่อ 1 แพ เพื่อวางอาหาร แล้วก็จะแบ่งแพเป็นล็อค ๆ ไว้ให้แบบนี้ค่ะ

ที่นี่ไม่ได้ขายของกันแค่บนบกนะคะ ในน้ำก็มีพ่อค้าแม่ค้าพายเรือขายของกันด้วย ใครนั่งแพไหนอยากกินอะไรจากพ่อค้าแม่ค้าชาวเรือ ก็โบกเรือเรียกกันได้เลยจ้าาาา เดี๋ยวพายเรือมาหาถึงแพเลย สบายยยยยเวอร์
วันนี้ จขกท.โชคดีได้ที่นั่งบนแพ เลยได้ลงไปนั่งติดน้ำ เอ้อ ลืมบอกไปว่าที่นั่งไม่ได้มีเฉพาะบนแพริมน้ำนะคะ บนบกก็มี เผื่อแพริมน้ำเต็มแต่อยากนั่งกินอะไรกันก็สามารถนั่งข้างบนได้เลย ก็จะมีทั้งที่นั่งแบบแคร่ แบบม้าหินอ่อน จัดไว้อยู่หลายจุดเลยค่ะ 

มาต่อ ๆ หลังจากที่ได้ที่นั่งแล้ว ด้วยความที่กินข้าวกันมาแล้วก็ไม่สามารถรับอาหารจานหลักใด ๆ ได้อีก รู้สึกเสียดายมากอ่าาาาา เลยตัดสินใจซื้อน้ำกินละกันดับกระหาย คลายร้อนซะหน่อยยยยดีกว่า เดินไปดูจนเจอร้านน้ำแตงโมงปั่น ให้มาทั้งลูกเลยเด้อออ แม่ค้าใจดี พูดจาดี น่ารักค่ะ คนมาซึ้อกันเยอะเลยค่ะ เด็ก ๆ และสาว ๆ จะชอบมาก เอาไว้อัพรูปเก๋ ๆ ไปอีก อิอิ
ท๊าดาาาา ได้มาแล้วววว 1 ลูก น่ากินใช่ม๊าาาาา ราคาอยู่ที่ลูกละ 50 บาทไทยถ้วนเลยจ่ะ หวานอร่อยชื่นใจมาก ๆ เลย จขกท.คิดว่าที่มันหวานก็น่าจะเป็นเพราะไปซื้อตอนจังหวะที่เค้าปั่นใหม่ ๆ เลย เพราะคิวก่อนหน้าคือเค้าตักจากกระติกที่เค้าปั่นไว้แล้วใส่ในลูกแตงโม คือตอนแรกก็คิดว่าปั่นไว้แล้วแบบนี้มันจะจืดไปรึเปล่าน้าาาา แต่พอถึงคิว จขกท. หมดกระติกพอดีจ้าาา เลยได้แบบปั่นใหม่ ๆ โชคดีจัง อิอิ
หลังจากได้น้ำแตงโมปั่นลูกเดียวมากินด้วยกันทั้งแพแล้ว 555555+ เราก็นั่งกินบรรยากาศบนแพกันต่อ มีลมพัดมาเป็นระยะค่ะ นั่งดูพ่อค้าแม่ค้าชาวเรือพายเรือขายของกัน บางแพมากันเยอะ พอมีเรือผ่านมาก็เรียกซื้อทุกลำเลย เราก็นั่งรอลุ้นดูว่าถ้าเรือลำต่อไปผ่านมาเค้าจะเรียกรึเปล่า สรุปเค้าเรียกค่ะ 555555+ บางทีก็ลุ้นให้เรือที่พายมาจากทางอื่น ให้เค้าพายเรือผ่านมาทางแพนี้จะได้ขายได้ 55555+ 

นั่งไปจนเห็นเรือลำนึงกำลังพายผ่านเข้ามาในเวิ้งน้ำที่พวกเรากำลังนั่งอยู่ แต่คนขายนางเป็น Spiderman ค่ะ คือนางฮอตสุดในคุ้งน้ำนี้เลยมั้ง คือพายเรือผ่านไปแพไหนก็ซื้อนางทุกแพเลย ด้วยความที่นางขายเก่งงงงง มีท่าชักใยแมงมุมใส่เด็ก ๆ อีก นางขายน้ำแข็งใน บิงซู น้ำมะพร้าว ค่ะ คืออยากจะอุดหนุนนางมาก แต่ด้วยบักแตงโมงลูกโตที่เราต้องรับผิดชอบก็เอาไว้คราวหน้านะคะพี่ Spiderman
หลังจากที่นั่งกันจนรู้สึกว่าจะหลับตรงนั้นแล้ว ก็ถึงเวลาไปเดินดูรอบ ๆ อีกครั้งก่อนกลับดีกว่า เราเดินขึ้นไปอีกทาง เป็นทางที่จะไปน้ำตกค่ะ ระหว่างทางก็ยังมีของขายให้เห็นอยู่เป็นระยะ 
และมีมุมให้ถ่ายรูปเก๋ ๆ กันแบบกรุบกริบค่ะ
เดินมาอีกก็จะเป็นจุดเล่นน้ำ ซึ่งส่วนใหญ่จะมีแต่เด็ก ๆ ค่ะ เพราะน้ำไม่ลึก ลงไปก็แค่เอวเองค่ะ
และเมื่อดูจากระดับน้ำอันเหือดแห้ง บวกกับแดด 37 องศาแล้ว เราไม่ขอเดินต่อค่ะ เพราะร้อนมากกกกกก เลยเดินกลับไปทางเดิม เพื่อเดินทางกลับกัน และคิดว่าน่าจะกลับมาซ่อมใหม่ เพราะยังไม่ได้กินอาหารอะไรของที่นี่เลย น้ำตกก็เดินไปไม่ถึงอีก ต้องเจอกับตัวเองค่ะ ท้อแท้สุดเมื่อเจอแดดประเทศไทย 55555+

ปล.อาหารที่นี่ราคาไม่ถือว่าถูกนะคะ 50 บาทขึ้นทั้งนั้นค่ะ แต่ถ้าคิดว่ามาเที่ยวให้เต็มที่ก็ไม่น่าซีเรียสอะไร ^^

วันนี้ก็ขอจบรีวิวเพียงเท่านี้นะคะ หากผิดพลาดประการการใดก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ หวังว่าเนื้อหาของกระทู้นี้จะเป็นประโยชน์ต่อการตัดสินใจของใครหลาย ๆ คนในการหาข้อมูลไปเที่ยวตลาดน้ำกวางโจวนี้ค่ะ

และขอปิดท้ายด้วยภาพคู่ของ จขกท.กับบักแตงโมลูกเดียวยาวยันกลับ นะคะ อิอิ