เรากำลังหลอกผู้ชายสองคนค่ะ

ต้องเกรินก่อนว่าในเรื่องความรักเราเป็นคนที่ไม่ขาดความอบอุ่นใดๆเลย
ไม่ว่าจะทางบ้านครอบครัว เพื่อนมิตร รวมถึงเรื่องผู้ชาย
ทุกช่วงเวลาเราจะมีใครเข้ามาในชีวิตตลอดซึ่งเราบอกเลยว่าเราคิดกับเขาพวกนั้นแค่สนุกไม่ได้คิดจริงจังเลยแล้วเราก็ชอบคุยซ้อนคุยซ้ำ
ทำร้ายจิตใจคนที่เข้ามาหาเรามาก แต่แปลกที่พวกนั้นก็ยังอยู่กะเราจนเราต้องตัดหางปล่อยวัดจริงๆ
เรายอมรับว่าโดนผู้ชายที่ผ่านมาเกลียดบ้างเพราะเราชอบให้ความหวังคงเป็นเพราะเราชอบการคุยการเฟรนลี่จนบางทีเราก็เผลอไปให้ความหวังพวกนั้นตลอดแต่เราไม่เคยแคร์เลยคงเป็นเพราะเรามีเพื่อนข้างกายและครอบครัวที่ดีเราเลยไม่รู้สึกขาดหรือแคร์คนนอกกาย
มีช่วงหนึ่งที่ชีวิตเปลี่ยนผลันเราขึ้นม.ปลายมาเราเจอคนนึ่งเขาเป็นผู้ชายที่เรามองข้ามแบบไม่ได้มองผชคนนี้เลยทั้งๆที่ก็นั่งข้างกัน
แล้วด้วยความใกล้ชิดทำให้ให้เราทั้งสองได้คุยเล่นกันอย่างสนุกเหมือนเพื่อนซี้
แรกๆเริ่มจากคำว่าคนรู้จัก...
...ไปเป็นเพื่อน...
....จากเพื่อนไปเป็นเพื่อนสนิท....
...เพื่อนสนิทไปเป็นคนคุย....
ซึ่งเขาก็เคยขอเราเป็นแฟนแต่เราปฎิเสธเพราะเราคิดว่า ไปมหาลัยเราก็จะมีคนใหม่แล้วตอนนั้นเราก็คิดว่าคงไม่จริงจัง
แต่ด้วยระยะเวลาเกือบ3ปี มันทำให้เราผูกพันธ์กันอย่างลึกซึ้ง
เขาเป็นคนที่เราอยู่เงียบๆก็ไม่รู้สึกอึดอัดใดๆเป็นคนที่ทำให้เรารู้สึกว่าเราไม่ต้องทำดีอะไรหรือทำตัวให้สวยตลอดเวลาเพื่อมัดใจเขา
เพราะมันรู้อยู่แก่ใจของทั้งสองว่ายังไง”รักของเราก็ยังคงสม่ำเสมอตลอดมา”
แล้วทั้งห้องก็รู้ว่าเราสองคนคุยกันจนใครๆก็พูดว่าเราเป็นแฟนกัน
ถ้าเป็นแต่ก่อนเราไม่ชอบให้ใครมาพูดว่าคนนี้แฟนเราคนนู้นแฟนเรา เพราะเรารู้สึกอายแล้วก็ไม่อยากปิดกั้นโอกาศตัวเองที่จะมีผชอื่นเข้ามา
แต่กับคนนี้เราไม่เคยปฎิเสธเลยเพราะเรารู้สึกว่าเราไม่อายที่จะพูดว่า
“คนนี้ของฉัน” และ “ฉันก็เป็นของเขา”
เขาเป็นผช บื้อๆ ฮาๆ มีเสน่ห์ในตัว และอีกอย่างเขาไม่เคยใส่ใจกับเรื่องผญ แต่เขากลับมาสนใจและจริงใจกับเรา แต่ด้วยเหตุนี้มันทำให้เขาเป็นคนที่ไม่หวานไม่โรแมนติกสักเท่าไหร่ แต่เราไม่ได้รับไม่ได้กับข้อพวกนี้อาจจะมีบ้างที่น้อยใจ..แค่บางครั้ง
แต่ทุกครั้งเราก็พยายามปรับความเข้าใจกัน
แต่สิ่งที่เราไม่ค่อยมั่นใจในตัวเขาคือ
!เขาไม่ทีความเป็นผู้นำเลย!
ซึ่งตลอดมาเราเป็นคนห้าวๆทำให้ทุกคนก็ล้อกันว่า
เราเป็นผัว! ส่วน เขาเป็นเมีย!
เราเคยบอกว่าให้เขาแข็มแข็งมากกว่านี้ แต่มันเป็นเรื่องยากสำหรับเขา
ช่วงแรกๆที่คุยกันเรามักบอกเขาว่า “อย่ามายุงกับกูเลย กูชอบใครไม่ได้จริงๆจังๆ”
แต่เขาก็ยังปักเสายืนกรานว่าเขาจะรอ รอวันที่เรา ”พร้อม” และได้เป็นแฟนกัน
เขาพูดตลอดว่าเราต้องเป็นเมียเขามีลูกผญอย่างที่เขาอยากมีแต่เราก็เถียงว่าเราอยากมีลูกผช
เหมือนเขาวาดฝันอนาคตของเราเอาไว้แล้ว เราไม่เคยคิดเลยว่าตัวเราจะอยู่กับใครได้จริงๆและนานแบบนี้
ตลอดเวลายังคงมีคนอื่นทักเข้ามาแต่ทุกครั้งเราไม่อยากจะคุยด้วยเพราะ เราไม่อยากชอบใครแล้วนอกจากเขา เราถึงกับพูดกับหมู่เพื่อนว่ากูไม่อยากมีคนมาจีบลำคาน
ซึ่งมันแปลกสำหรับเราเพือนทุกคนตาค้าง เป็นอะไรเกิดอะไรขึ้นกับ หากเป็นแต่ก่อนเราชอบมากการคุยกับคนเยอะๆแล้วเอามาเมากะเพื่อน
แต่เขาเป็นผู้ที่พังกำแพงที่เราเคนสร้างไว้กับตัวเองว่า
“ชาตินี้คงอยู่กับใครไม่ได้นาน”
แต่ด้วยสันดารของเรา...
เรากับเพื่อนเป็นพวก ยิ้มวๆชอบมองผชขำๆ
จนเรามองผชคนนึง...
เขามีสไตล์ที่ดูแล้วแบดบอยแต่จริงๆเขาไม่ยุงสาวเลยสักนิด ดูอบอุ่นพูดน้อยต่อยหนัก
เรามองคนนี้มานานมากแล้วตอนที่คุยกับคนนั้นเราก็มองคนนี้มาตลอด
ไม่รู้ทำไมถึงรู้สึกว่าชอบคนนี้มากทั้งทีก็ไม่เคยคุยกัน
เรามองเขามาเป็นปี แอบชอบในหมู่เพื่อนก็รู้ว่าเราชอบมากจนถึงวันใกล้จบมัธยมศึกษา
ด้วยความที่เรารู้สึกเราชอบและคลั่งเขาแต่เขากลับไม่รับรู้อะไรนั้นก็บันดารโทสะให้เราเขียนจดมหายไปให้เขา
ด้วยประโยคสั้นๆ ไมาได้บอกชอบหรือบอกรักอะไร แต่บอกแค่ว่า
“นายเท่ห์มาก”
แค่นี้ เราหยอดจดหมายลงกระเป๋าของเขาที่อยู่อีกห้อง
ในจดหมายนั้นเราเขียนชื่อตัวเองไว้ด้วย
เราไม่ได้หวังสิ่งใดจากเขาเราแค่ต้องการให้เขารู้ว่าเขาดูดีมากในสายตาคนอื่น
แต่พอเรากลับบ้านมา แชทข้อความก็เด้งขึ้น เป็นเขาที่ส่งรูปจดหมายเรามาแล้วบอกว่า
”ขอบคุณนะคนให้ก็น่ารักเหมือนกัน”
เราดีใจกระโดดบ้านแทบถล่ม พูดไม่ออกวิ่งขึ้นบ้านแล้วก็ลงมากระโดด ซ้ำไปมาด้วยความดีใจบวกกับความเขินที่ใจเต้นระรัวราวกับเสียงกลองหึกโหม
เราตะโกนลั่นบอกน้องชายของเราที่คุยกันในทุกเรื่องว่าเขาคนนั้นทักมา
น้องชายเราสั่งหยุด พี่บ้าไปแล้วหรอ
ด้วยสิ่งนั้นทำให้เราเงียบลงก่อนจะนั่งลงพื้นแล้วตอบเขาคนนั้น
“5555555” แค่นี้
เราแคปแชทส่งให้กลุ่มเพื่อนที่ไว้ใจกันมานานดู พวกมันตอบกลับมาว่า
”สกิลอ่อย=0”
ใจนึงเราอยากพิมพ์ถามไปอีก แต่ใจนึงเรากลับแวปถึงคนที่พังกำแพงหัวใจให้เรา
เราถามน้องชายว่าควรพิมพ์อะไรต่อดี น้องชายบอกกับเราว่าถ้าเขาอยากคุยเขาจะหาเรื่องคุยเอง เรานิ่งเงียบพร้อมวางโทรศัพท์ลงพื้นเพื่อรอข้อความของเขา ถ้าเป็นเราถ้าเราอยากคุยกับเขาเราจะตั้งคำถามมาแต่ถ้าเราไม่อยากคุยแล้ว แค่อ่าน5555ที่เราส่งไปก็จบ 

สักพักไม่นานข้อความเด้งขึ้นจากคนคนนั้น
“จบแล้วไปต่อไหน” ....นั้นคือประโยคชวนคุยรึเปล่า...
เราคุยกับเขาด้วยความรู้สึกอึดอัดและประมาทเพราะเราไม่คิดมาก่อนว่าจะได้คุยกับผู้ชายคนนี้
หนึ่งวันกลายเป็นหนึ่งอาทิตย์..
หนึ่งอาทิตย์กลายเป็นหนึ่งเดือน..
ซึ่งไม่มีวันไหนที่เราไม่คุยกับเขาคนนั้นเลย หลังๆมานี้เขาชอบขอโทรคุยกัน
พักหลังเราเริ่มสบายใจที่ได้คุยกับเขาเพราะความเคยชินและความลงตัวของเราทั้งสอง
เขามีไลฟ์สไตล์ที่เป็นผชในฝันของเราทุกอย่าง
แต่ทุกครั้งเราห้วนคิด
-แล้วอีกคนนึงหละ-
-ทำไมเราถึงกลับมาเป็นคนเดิม-
-เราควรหยุดความสุขของเราไว้ตรงนี้หรอ-
เราทำไม่ได้ มันยากมาก...
น้องชายเตือนแล้วเตือนอีก แต่เราพยายามชั่งใจตัวเองไม่ได้
ผู้ชายทั้งสองคนนี้เป็นคนละแบบกัน แต่ที่เหมือนกันคือ
“เขาซื่อสัตย์กับเราทั้งคู่”
แต่เรากลับไม่ซื่อสัตย์กับเขาทั้งคู่เลย ยิ่งเราคุยกับคนใหม่มันยิ่งทำให้ความรู้สึกที่มีกับคนเก่าน้อยลง...น้อยลง
แต่อีกไม่กี่เดือนเราทั้งหมดก็จะแยกย้ายกันไปอยู่ในแต่ละมหาลัย คนละจังหวัดคนละภาคกันหมด นี้คือสิ่งที่ทำให้เราคิดว่า
งั้นเราขอมีความสุขในที่นี้ก่อนที่เราทุกคนจะแยกย้ายไปเจอความสุขใหม่ๆดีมั้ย
เราทำถูกต้องมั้ย? เราควรทำยังไงกับเวลาที่เหลืออยู่ก่อนที่จะแยกย้ายกันดี?

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่