ขอบอกก่อนว่า จขกท ไม่ใช่คนที่คลั่งการเข้าเต้า แต่พบว่าการเป็นคุณแม่นักปั๊มมันสร้างความลำบากในการดำรงชีวิตของครอบครัว จขกท มากกว่า เพราะงานของสามี จขกท ต้องมีไปต่างประเทศ ถ้าไม่เอาลูกไปด้วย จขกท คงลำบากปั๊ม+เก็บนมและน้ำตาไหลคิดถึงลูก
อีกทั้ง จขกท เป็นผู้หญิงสายชิลค่ะ ไม่เคยหาข้อมูลอะไรพวกนี้มาก่อน เห็นว่าแม่เราก็เอาเราเข้าเต้าได้ พี่สาวเราลูกก็เข้าเต้าได้ ลูกดูดนมมันจะไปยากอะไร รพ. ที่คลอดเป็น รพ.เอกชนใกล้ที่ทำงาน ที่ไม่ได้สนับสนุนการให้ลูกดูดนมจากเต้า อันนี้ จขกท ก็เพิ่งมาทราบตอนคลอดนี่ละค่ะ เห็นมั๊ยคะว่า จขกท ชิลมาก
ตอน จขกท ติดต่อคลินิกนมแม่เพื่อขอให้สอนการเข้าเต้า ลูกอายุได้ 48 วันแล้วค่ะ ซึ่งโดยปกติแล้ว เด็กๆ ที่จะเข้าเต้า เขาจะไม่ให้เจอขวดเลย 45 วันแรก แต่ลูก จขกท เจอขวดทุกวัน ทุกมื้อ ตั้งแต่ออกจาก รพ. เพราะผู้ใหญ่ที่บ้านทนเสียงเด็กร้องไม่ได้ค่ะ มีของแถมด้วยการใช้จุกหลอกเพิ่มเข้ามาอีก น้องยอมเข้าเต้า จขกท ไม่เกิน 5 ครั้ง ซึ่งแต่ละครั้งยอมดูดแค่สองทีแล้วก็ร้อง มีเพียงแค่ครั้งเดียวที่ยอมอยู่ถึง 30 นาที แล้วก็ไปจบที่ขวด ทั้งๆ ที่ จขกท เป็นคนมีน้ำนม
หลังจาก จขกท ติดต่อคลินิกนมแม่ผ่านทางโทรศัพท์ ก็ต้องมีการจองคิว เพราะมีคนสนใจเข้าไปปรึกษาเยอะค่ะ ที่คลินิกรับปรึกษาทุกปัญหาเลย รวมถึงคุณแม่ที่นมตันด้วยนะคะ
ครั้งแรก ณ รพ.เด็ก
หากลูกท่านใดยังไม่เคยใช้บริการ รพ.เด็ก ต้องไปทำบัตรที่ตึกหน้าก่อนนะคะ ไปเช้าๆ เหมือน รพ.รัฐบาลทั่วไปเลย ส่วนครั้งต่อไปให้ไปที่คลินิกได้เลยค่ะ สถานที่จอดรถมีพร้อม เป็นอาคารจอดรถ ตึกเดียวกับคลินิกเลยค่ะ ชื่อ อาคารเฉลิมพระเกียรติ ๘๐ พรรษา มหาราชินี ถ้าเอารถไป พยายามไปให้ถึงก่อน 06.30 น. นะคะ ไม่งั้นที่จอดรถเต็ม
พอ จขกท ไปถึงคลินิก พบว่าสถานที่ใหม่มาก คนละเรื่องกับที่คิดไว้ มีเครื่องปั๊มนมให้บริการ ตู้แช่นม และเตียงสำหรับฝึกท่าให้นม พี่เจ้าหน้าที่ก็ใจดีมาก จขกท ไปถึงก่อนเวลาเข้างาน พอพี่ๆ เขามาถึง ก็ชวนให้เข้าไปข้างใน พาลูกไปนอนบนเตียงรอได้เลย ครั้งแรก จขกท ยังให้นมขวดลูกอยู่หน้าคลินิกเลยค่ะ เกรงใจเขาก็เกรงใจ 555
เมื่อถึงเวลาเริ่มงาน พี่จิ๊บที่เป็นรุ่นพี่ใหญ่ที่นั่นก็เข้ามาอธิบาย และทดสอบลิ้นของลูก จขกท และบอกว่าลิ้นเบามาก คือเด็กไม่ใช้ลิ้นในการดูดนมเลยค่ะ
สำหรับท่านที่ไม่ทราบวิธีการดูดนมของเด็ก เด็กกินขวดล้วนจะใช้เหงือกบนและเหงือกล่างในการบดลงไปที่จุกนม น้ำนมก็จะไหลออกมา ส่วนเด็กเข้าเต้า จะใช้ลิ้นแลบออกมาดึงหัวนมเข้าไปรีดน้ำนมกับเพดานปาก ทำให้ต้องออกแรงมากกว่าการกินขวด แต่ทักษะนี้ไม่มีผลกับตอนโตนะคะ
ครั้งนี้ได้พี่ๆ สอนทำ Finger feeding ค่ะ คือการเอานิ้วแทนจุกนมแล้วต่อสายท่อเล็กๆ จากนิ้วไปลงที่ขวด ให้เด็กดูดนิ้วเราแทนจุก ดังนั้นถ้าเด็กออกแรงดูดถูกวิธี นมจะถูกดูดเข้าปากค่ะ พอกลับบ้าน เลิกขวดเลิกจุกหลอกเลยค่ะ ปั๊มนม+Finger feeding อย่างเดียวเลย ตอนกลางคืนง่วงๆ ก็นั่งให้ลูกดูดนิ้วไป ซึ่งจะใช้เวลานานกว่าขวด แต่ลมไม่เข้าท้องเหมือนขวดค่ะ
พี่เขาก็จะนัดมาเรื่อยๆ หากเรายังสู้ต่อนะคะ จขกท ก็สู้เต็มที่ อยากให้ลูกเข้าเต้าได้ เมื่อเราเริ่มก้าวเดินมาแล้ว ก็ไม่อยากจะถอยหลัง เคสของ จขกท จบกันที่ลูกเข้าเต้าโดยใช้ Nipple Shield ค่ะ แต่ละเคสจะมีความยากง่ายแตกต่างกัน โดยมีตัวแปร คือ คุณแม่ คุณลูก อายุคุณลูก และประสบการณ์ที่คุณลูกได้เจอมาก่อนหน้านี้ค่ะ
สำหรับ จขกท ใจจริงพยายามสู้อย่างที่สุดที่จะเอา Nipple Shield ออกเพื่อให้ลูกดูดนมได้โดยตรง แต่ลูกก็ไม่ยอมสักที ผ่านไปประมาณ 2 อาทิตย์ ขอพี่จิ๊บนัดเข้าไปที่คลินิกถี่มากเลยค่ะ แม่ก็ร้อง ลูกก็ร้อง ลำบากพี่ที่คลินิกต้องซับน้ำตา+ปลอบใจอีก สุดท้าย จขกท คิดได้ว่า การเลี้ยงลูกยังมีอะไรที่ต้องกังวลและเหน็ดเหนื่อยกว่านี้อีกเยอะ ถ้าลูกไม่ไหว เราเจอกันครึ่งทางก็ได้ อย่างน้อยหัวนมแม่ก็ได้ถูกดูดกระตุ้น ไปไหนมาไหนแค่วันเดียวก็พกแค่ Nipple Shield ไม่ต้องคอยมานั่งปั๊มใส่ขวดให้ตรงเวลาเหมือนแต่ก่อน
ผลลัพธ์สุดท้ายที่ จขกท ค้นพบ คือ การที่เอาลูกเข้าเต้ามันดีต่อใจของคนเป็นแม่จริงๆ ค่ะ ผู้หญิงเราหลังคลอดจะมีภาวะจิตตกซึ่งเป็นผลจากฮอร์โมน หนักเข้าก็เป็นโรคซึมเศร้า จขกท มีสุขภาพจิตดีขึ้นมากเมื่อลูกเข้าเต้าได้ค่ะ มันดีต่อใจจริงๆ นะแม่ๆ
ถ้าพี่ๆ ที่คลินิกนมแม่มาอ่าน ก็คงจำเคสของ จขกท ได้ เคสนี้พี่อุ๊เป็นคนดูแลค่ะ พี่พยาบาลผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่พลังมหาศาล สามารถรับแรงดิ้นของลูก จขกท ที่หนักเกือบ 6 kg ได้
จขกท ต้องขอบพระคุณพี่ๆ ที่คลินิกนมแม่มากเลยที่อดทนและให้กำลังใจ จขกท เป็นอย่างมาก จขกท ได้ความรู้เกี่ยวกับการเลี้ยงเด็กเยอะมากจากที่คลินิก อยากให้เคสของ จขกท เป็นตัวอย่างของคุณแม่ที่คิดอยากจะให้ลูกเข้าเต้าแต่ไม่หาข้อมูลอะไร คิดว่าทุกอย่างจะเป็นไปตามธรรมชาติ มันจะไม่ธรรมชาติก็ตรงที่ พยาบาลห้องเนิสเซอรี่ให้ขวดลูกเราตั้งแต่ตอนอยู่ รพ. นี่ละค่ะ
**แก้ไขเพิ่มข้อมูลนะคะ**
สามารถไลน์หรือโทรไปปรึกษาได้นะคะ มีปัญหาเรื่องหัวนม น้ำนมน้อย ลูกติดขวด ลูกติดเต้า ลูกงับหัวนม ฯลฯ พี่เขาให้คำแนะนำได้หมดเลยค่ะ
สำหรับค่าใช้จ่ายในแต่ละครั้งที่เราไปนะคะ คลินิกเปิด 08.30-13.30 เราไปได้ตั้งแต่เช้าเลยค่ะ เสียค่าใช้จ่ายไม่เกินพัน ปกติเราเสียประมาณ 300-500 บาทค่ะ
แชร์ประสบการณ์ฝึกเข้าเต้าของเด็กขวดล้วนที่คลินิกนมแม่ โรงพยาบาลเด็ก
อีกทั้ง จขกท เป็นผู้หญิงสายชิลค่ะ ไม่เคยหาข้อมูลอะไรพวกนี้มาก่อน เห็นว่าแม่เราก็เอาเราเข้าเต้าได้ พี่สาวเราลูกก็เข้าเต้าได้ ลูกดูดนมมันจะไปยากอะไร รพ. ที่คลอดเป็น รพ.เอกชนใกล้ที่ทำงาน ที่ไม่ได้สนับสนุนการให้ลูกดูดนมจากเต้า อันนี้ จขกท ก็เพิ่งมาทราบตอนคลอดนี่ละค่ะ เห็นมั๊ยคะว่า จขกท ชิลมาก
ตอน จขกท ติดต่อคลินิกนมแม่เพื่อขอให้สอนการเข้าเต้า ลูกอายุได้ 48 วันแล้วค่ะ ซึ่งโดยปกติแล้ว เด็กๆ ที่จะเข้าเต้า เขาจะไม่ให้เจอขวดเลย 45 วันแรก แต่ลูก จขกท เจอขวดทุกวัน ทุกมื้อ ตั้งแต่ออกจาก รพ. เพราะผู้ใหญ่ที่บ้านทนเสียงเด็กร้องไม่ได้ค่ะ มีของแถมด้วยการใช้จุกหลอกเพิ่มเข้ามาอีก น้องยอมเข้าเต้า จขกท ไม่เกิน 5 ครั้ง ซึ่งแต่ละครั้งยอมดูดแค่สองทีแล้วก็ร้อง มีเพียงแค่ครั้งเดียวที่ยอมอยู่ถึง 30 นาที แล้วก็ไปจบที่ขวด ทั้งๆ ที่ จขกท เป็นคนมีน้ำนม
หลังจาก จขกท ติดต่อคลินิกนมแม่ผ่านทางโทรศัพท์ ก็ต้องมีการจองคิว เพราะมีคนสนใจเข้าไปปรึกษาเยอะค่ะ ที่คลินิกรับปรึกษาทุกปัญหาเลย รวมถึงคุณแม่ที่นมตันด้วยนะคะ
ครั้งแรก ณ รพ.เด็ก
หากลูกท่านใดยังไม่เคยใช้บริการ รพ.เด็ก ต้องไปทำบัตรที่ตึกหน้าก่อนนะคะ ไปเช้าๆ เหมือน รพ.รัฐบาลทั่วไปเลย ส่วนครั้งต่อไปให้ไปที่คลินิกได้เลยค่ะ สถานที่จอดรถมีพร้อม เป็นอาคารจอดรถ ตึกเดียวกับคลินิกเลยค่ะ ชื่อ อาคารเฉลิมพระเกียรติ ๘๐ พรรษา มหาราชินี ถ้าเอารถไป พยายามไปให้ถึงก่อน 06.30 น. นะคะ ไม่งั้นที่จอดรถเต็ม
พอ จขกท ไปถึงคลินิก พบว่าสถานที่ใหม่มาก คนละเรื่องกับที่คิดไว้ มีเครื่องปั๊มนมให้บริการ ตู้แช่นม และเตียงสำหรับฝึกท่าให้นม พี่เจ้าหน้าที่ก็ใจดีมาก จขกท ไปถึงก่อนเวลาเข้างาน พอพี่ๆ เขามาถึง ก็ชวนให้เข้าไปข้างใน พาลูกไปนอนบนเตียงรอได้เลย ครั้งแรก จขกท ยังให้นมขวดลูกอยู่หน้าคลินิกเลยค่ะ เกรงใจเขาก็เกรงใจ 555
เมื่อถึงเวลาเริ่มงาน พี่จิ๊บที่เป็นรุ่นพี่ใหญ่ที่นั่นก็เข้ามาอธิบาย และทดสอบลิ้นของลูก จขกท และบอกว่าลิ้นเบามาก คือเด็กไม่ใช้ลิ้นในการดูดนมเลยค่ะ
สำหรับท่านที่ไม่ทราบวิธีการดูดนมของเด็ก เด็กกินขวดล้วนจะใช้เหงือกบนและเหงือกล่างในการบดลงไปที่จุกนม น้ำนมก็จะไหลออกมา ส่วนเด็กเข้าเต้า จะใช้ลิ้นแลบออกมาดึงหัวนมเข้าไปรีดน้ำนมกับเพดานปาก ทำให้ต้องออกแรงมากกว่าการกินขวด แต่ทักษะนี้ไม่มีผลกับตอนโตนะคะ
ครั้งนี้ได้พี่ๆ สอนทำ Finger feeding ค่ะ คือการเอานิ้วแทนจุกนมแล้วต่อสายท่อเล็กๆ จากนิ้วไปลงที่ขวด ให้เด็กดูดนิ้วเราแทนจุก ดังนั้นถ้าเด็กออกแรงดูดถูกวิธี นมจะถูกดูดเข้าปากค่ะ พอกลับบ้าน เลิกขวดเลิกจุกหลอกเลยค่ะ ปั๊มนม+Finger feeding อย่างเดียวเลย ตอนกลางคืนง่วงๆ ก็นั่งให้ลูกดูดนิ้วไป ซึ่งจะใช้เวลานานกว่าขวด แต่ลมไม่เข้าท้องเหมือนขวดค่ะ
พี่เขาก็จะนัดมาเรื่อยๆ หากเรายังสู้ต่อนะคะ จขกท ก็สู้เต็มที่ อยากให้ลูกเข้าเต้าได้ เมื่อเราเริ่มก้าวเดินมาแล้ว ก็ไม่อยากจะถอยหลัง เคสของ จขกท จบกันที่ลูกเข้าเต้าโดยใช้ Nipple Shield ค่ะ แต่ละเคสจะมีความยากง่ายแตกต่างกัน โดยมีตัวแปร คือ คุณแม่ คุณลูก อายุคุณลูก และประสบการณ์ที่คุณลูกได้เจอมาก่อนหน้านี้ค่ะ
สำหรับ จขกท ใจจริงพยายามสู้อย่างที่สุดที่จะเอา Nipple Shield ออกเพื่อให้ลูกดูดนมได้โดยตรง แต่ลูกก็ไม่ยอมสักที ผ่านไปประมาณ 2 อาทิตย์ ขอพี่จิ๊บนัดเข้าไปที่คลินิกถี่มากเลยค่ะ แม่ก็ร้อง ลูกก็ร้อง ลำบากพี่ที่คลินิกต้องซับน้ำตา+ปลอบใจอีก สุดท้าย จขกท คิดได้ว่า การเลี้ยงลูกยังมีอะไรที่ต้องกังวลและเหน็ดเหนื่อยกว่านี้อีกเยอะ ถ้าลูกไม่ไหว เราเจอกันครึ่งทางก็ได้ อย่างน้อยหัวนมแม่ก็ได้ถูกดูดกระตุ้น ไปไหนมาไหนแค่วันเดียวก็พกแค่ Nipple Shield ไม่ต้องคอยมานั่งปั๊มใส่ขวดให้ตรงเวลาเหมือนแต่ก่อน
ผลลัพธ์สุดท้ายที่ จขกท ค้นพบ คือ การที่เอาลูกเข้าเต้ามันดีต่อใจของคนเป็นแม่จริงๆ ค่ะ ผู้หญิงเราหลังคลอดจะมีภาวะจิตตกซึ่งเป็นผลจากฮอร์โมน หนักเข้าก็เป็นโรคซึมเศร้า จขกท มีสุขภาพจิตดีขึ้นมากเมื่อลูกเข้าเต้าได้ค่ะ มันดีต่อใจจริงๆ นะแม่ๆ
ถ้าพี่ๆ ที่คลินิกนมแม่มาอ่าน ก็คงจำเคสของ จขกท ได้ เคสนี้พี่อุ๊เป็นคนดูแลค่ะ พี่พยาบาลผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่พลังมหาศาล สามารถรับแรงดิ้นของลูก จขกท ที่หนักเกือบ 6 kg ได้
จขกท ต้องขอบพระคุณพี่ๆ ที่คลินิกนมแม่มากเลยที่อดทนและให้กำลังใจ จขกท เป็นอย่างมาก จขกท ได้ความรู้เกี่ยวกับการเลี้ยงเด็กเยอะมากจากที่คลินิก อยากให้เคสของ จขกท เป็นตัวอย่างของคุณแม่ที่คิดอยากจะให้ลูกเข้าเต้าแต่ไม่หาข้อมูลอะไร คิดว่าทุกอย่างจะเป็นไปตามธรรมชาติ มันจะไม่ธรรมชาติก็ตรงที่ พยาบาลห้องเนิสเซอรี่ให้ขวดลูกเราตั้งแต่ตอนอยู่ รพ. นี่ละค่ะ
**แก้ไขเพิ่มข้อมูลนะคะ**
สามารถไลน์หรือโทรไปปรึกษาได้นะคะ มีปัญหาเรื่องหัวนม น้ำนมน้อย ลูกติดขวด ลูกติดเต้า ลูกงับหัวนม ฯลฯ พี่เขาให้คำแนะนำได้หมดเลยค่ะ
สำหรับค่าใช้จ่ายในแต่ละครั้งที่เราไปนะคะ คลินิกเปิด 08.30-13.30 เราไปได้ตั้งแต่เช้าเลยค่ะ เสียค่าใช้จ่ายไม่เกินพัน ปกติเราเสียประมาณ 300-500 บาทค่ะ