ความสามารถของสองคนนี้ต่างกันเยอะพอสมควร ตอนหนังในภาคแรกเข้าฉายในปี 2014 เป็นกระแสที่คนชอบเอาหนังสองเรื่องนี้มาเปรียบเทียบกันเนื่องจากโทนหนังมาแนวเดียวกัน เข้าฉายใกล้ๆกัน แต่กระแสหนังเรื่อง JW ดูจะดังกว่า EQ เพราะ หลังจากคนไปดูมา ต่างเล่ากันต่อกัน ว่าหนังเรื่องนี้ ประเด็นหลักคือ "พระเอกตามล้างแค้นให้หมาตัวหนึ่ง" มันไม่เคยมีอะไรแบบนี้เกิดขึ้นมาก่อนในหนังแอ็คชั่นส่วนใหญ่ที่เราๆดูกัน คือ ลูกสาวหรือเมียถูกจับตัวไปพระเอกเข้าไปช่วย หรือ ลูกเมียโดนฆ่าตายพระเอกตามไปล้างแค้น แค่พล็อตเรื่องหมาตายแล้วตามไปล้างแค้นเพิ่งเคยเห็นเรื่องนี้แหละ บวกกับความเป็นหนังที่ได้นักแสดงดังอย่าง คีอานู รีฟส์ จาก Speed และ The Matrix ไตรภาค มาแสดงด้วยหนังเลยดัง (ลองเอานักแสดงเกรดบีมาแสดงเรื่องนี้สิ คงไปไม่ถึงภาคสามแน่ๆ) 

 หนังเรื่อง JW เน้นฉากแอ็ค
ชั่นที่ดุเด็ดเผ็ดมัน ตัวละคร จอห์น วิค มาสไตล์ลุยฉะแบบหนังเรื่อง Die Hard ยิงเป็นยิง ลุยเป็นลุย บู๊เป็นบู๊ ฆ่าให้เกลี้ยงไม่สนใครหน้าไหน ตูแค้นมาก ดำเนินเนื้อเรื่องเร็ว ไม่มีช่วงน่าเบื่อ หรือ สนทนายืดเยื้อ ใครที่ชอบหนัง
แอ็คชั่นแนวตัวเอกบู๊ระห่ำเลือดอาบท่วมตัว เอาจริงกับตัวร้ายแบบตามฆ่าไม่ยั้ง และพระเอกเจ็บเป็น สไตล์หนังแอ็คชั่นตำนานเรื่อง Die Hard คงชอบเรื่องนี้ เพราะตัวผกก.เองก็ดำเนินเรื่องตามสไตล์เรื่อง DH เพิ่มเติมคือความบ้าระห่ำของตัวละครที่มากกว่า และ non-stop action เสน่ห์และจุดดึงดูดของหนังเรื่อง JW ในภาคแรก คือ การสร้างโลกนักฆ่าขึ้นมาเอง มีกฏระเบียบต่างๆ การใช้โค้ดลับระหว่างคนในองค์กร เรื่องของโรงแรมที่ดูมีความลึกลับน่าสนใจดี ตรงนี้หนังสามารถเล่นเรื่องตรงนี้ไปขยายต่อในภาคต่อๆไปได้ดีเลยครับ 

 หนังเรื่อง EQ ถ้าใครเคยดูหนังที่ เดนเซล วอชิงตัน แสดงมาก่อนอย่างเรื่อง Training Day, Man On Fire, The Book Of Eli และ
เรื่องอื่นๆ ส่วนใหญ่หนังลุงแกจะแนวๆเดียวกัน เน้นดราม่าเป็นหลัก ปนทริลเลอร์ การปูเรื่องจะมีปมของตัวละครที่
มากกว่าการจะออกมาบู๊แหลกอย่างเดียว เหตุผลการกระทำของแต่ละตัวละครจะมีน้ำหนักพอที่ทำให้คนดูเชื่อว่า "เออ...ถ้าเรื่องจริงตัวละครพวกนี้ก็คงตัดสินใจทำกันอย่างนี้แหละ" หนังของลุงเดนเซลที่ผมดูมาหลายสิบเรื่อง ผมไม่เคยผิดหวังกับผลงานของแกเลยสักเรื่อง มาเรื่อง EQ ก็เช่นกัน หลายคนชอบแค่ภาคแรก แค่ผมชอบทั้งสองภาคพอๆกัน หนังมันดำเนินเรื่องช้าก็จริง แต่มันได้ความละเมียดละไมของตัวบท ได้เห็นการแสดงเจ๋งๆบทดราม่าของเดนเซล ดูแค่นี้ก็คุ้มแล้ว หนังทั้งสองภาคของ EQ จะมีเนื้อเรื่องหลักของหนัง และมีเนื้อเรื่องรองแทรกอยู่ระหว่างการดำเนินเรื่องหลักของหนัง เช่น วน.ป๋าแม็คคอลไปเจอใครเดือดร้อนเป็นทุกข์ใจป๋าแกก็จะเข้าไปเข้าเหลือหรือจัดการพวกที่รังแกคนอื่น อารมณ์เหมือนแบทแมนไงอย่างงี้ และบทสนทนาในหนังก็ดีมากๆด้วย มาพูดถึงฉากแอ็คชั่นดูสมจริงกว่า JW ไม่ได้มาสไตล์บู๊ระห่ำแบบนักฆ่าไล่ยิงพวกตัวร้าย ป๋าแกมาแบบมัจจุราชเงียบๆนิ่งๆ สุขุม แต่เวลาฆ่าก็จัดการแบบรวดเร็ว สะใจ โหด ฉากที่คนส่วนใหญ่พูดถึงคือ ฉากในโฮมโปร เป็นอะไรที่เจ๋งสุดๆแล้ว ป๋าแม็คคอลใช้มันสมอง ไหวพริบ ต่อกร มากกว่าการไปออกบวก เพราะอย่างว่าแกเป็นสายลับเก่า เวลาดูหนังเรื่อง EQ ผมไม่นึกว่าแกดูเหมือน JW ผมจะนึกถึงลุงเลียม นีสันในเรื่อง Taken มากกว่า มาสไตล์เดียวกันเลยสองคนนี้ มาดแก่แต่เก๋า โชว์ความเจ๋งตลอด ไม่ใช่แค่มีดีที่ต่อสู้เก่งอย่างเดียว ยังมีไหวพริบ ความคิด แบบสายลับเก่า เอาความรู้ทางทหารมาใช้ในการเอาตัวรอด ซึ่งมันเจ๋งกว่าการโชว์ทักษะนักฆ่าอย่างเดียว

 โดยส่วนตัวหลังจากที่ผมได้ดูทั้ง EQ และ JW ผมบอกเลยว่าหนังสนุกและเต็มทั้งคู่ แต่ .. แต่หนังมาคนละสไตล์ สนุกคนละแบบ EQ บทดี ดราม่าเยี่ยม แอ็คชั่นแบบใช้มันสมอง พระเอกเก๋า ดำเนินเรื่องช้าแต่ได้ใจ สไตล์หนังของเดนเซล JW เน้นความรวดเร็วทั้งการดำเนินเรื่อง ปูปมมาพอสมควรแต่ไม่เท่า EQ แอ็คชั่นเน้นมันสะใจ รวดเร็ว เน้นแอ็คชั่นยิงปืนเป็นหลัก ลุยฉะสไตล์หนังเรื่อง DH 
แต่โดยส่วนตัวผมชอบหนังเรื่อง EQ มากกว่า JW เยอะพอสมควร คือ อาจจะติดตามผลงานหนังของเดนเซล มากกว่าหนังของคีอานูด้วยแหละ ดูมาหลายเรื่องและชอบการแสดงของลุงเดนเซลมากกว่าคีอานู อีกอย่างผมชอบหนังแนวที่พระเอกทำอาชีพเป็นสายลับไม่ก็ทหาร มากกว่าเป็นนักฆ่าแบบ JW แนวๆเดียวกับ EQ ที่ชอบก็เรื่อง Taken, Jack Reacher, Jack Ryan, Jason Bourne เป็นต้น 

 ผมบอกเลยว่า สองคนนี้เก่งคนละแบบ JW เน้นการต่อสู้ระยะประชิดแบบลุยบู๊ไปเลย เปิดเผยตัวแบบโต้งๆ เดินถือปืนมาลุยคล้ายลุงแรมโบ้ ต่างกันตรงแกไม่ถอดเสื้อกับไม่สะพานปืนกล M-60 แค่นั้น 555 นอกนั้นความบ้าระห่ำ จริงจัง มุ่งมั่นคล้ายสไตล์ลุงแรมโบ้เหมือนกัน + ความดิบดวล พระเอกเจ็บเป็นแบบ DH 

 EQ มาแบบสายลับเก่า มีชั้นเชิงกว่า JW มีการส่งสาส์นขู่พวกตัวร้ายก่อนลงมือจัดการ มีการนั่งประชันหน้ากันแบบหนังเรื่อง Heat หรือ The Dark Knight ที่ตัวเอกจะนั่งประชันหน้าคุยกัน เฉือนเฉือนด้วยบทสนทนา แบบเจ๋งไปอีกแบบ ดูมีความเลือดเย็นกว่าการเดินไปโต้งๆแล้วไปทันรู้ข้อมูลศูตรอะไรมากมาย ก็ฆ่าทิ้ง ชั้นเชิงมันไม่ได้อะ ป๋าแม็คคอลไม่เน้นใช้ปืน แกเน้นการใช้สายตาวิเคราะห์สถานการณ์ ณ จุดนั้นมากกว่า ว่าจะลงมือยังไง โดยการจับเวลา แกไม่เน้นลุยมือเปล่า เน้นหาของรอบตัวหยิบขึ้นสู้ แบบ เจสัน บอร์น แหละ ที่โหดกว่าการใช้ป้องกันตัวแบบบอร์น คือ แกใช้ของพวกนั้นฆ่าเลย เน้นความเงียบ ล่อไปเก็บทีละคน แบบฉากในโฮมโปร หรือ ฉากสุดท้ายตอนภาคสอง ใช้เวลาจัดการศูตรมากกว่า JW แต่กระสุนสักนัดไม่จำเป็นต้องใช้ แกใช้ไหวพริบ ประสบการณ์ การหลอกล่อศูตรตามไปเก็บเงียบๆ ใช้ของรอบตัวทำเป็นกับดักหรืออาวุธในการสังหาร ซึ่งจุดนี้มันเจ๋งมาก 

 ศูตรตัวร้ายที่ทั้งคู่เจอในเรื่องก็ต่างชั้นกัน ในภาคแรกของทั้งสองเรื่อง ประฝีมือกับ
แกงค์มาเฟียรัสเซีย นักฆ่ารับจ้างแต่เรื่อง EQ ตัวร้ายที่ถูกทางแกงค์ส่งมาไล่ล่าตัวพระเอก นิโคไล ดูจะมีกึ๋นที่เจ๋งกว่าการบุกโง่ๆไปไล่ฆ่า มีการสืบหาเบาะแส เดินหมาก เล่นชั้นเชิง โชว์ไหวพริบ ที่ตามพระเอกทันแทบทุกฝีก้าว เสีนดายตรงโชว์เท่มาทั้งเรื่อง...ตายกากไปหน่อย โดนป๋าแม็คคอลตลบหลังเอาปืนตะปูฆ่าตาย การที่ป๋าแม็คคอลแทบจะไม่เจ็บตัวเลยแบบที่ JW โดน เพราะ สไตล์การต่อสู้อย่างที่บอกมันต่างกัน ป๋าแกเป็นสายลับเก่าคงผ่านอะไรมามากมายกว่าการต่อกรสู้กับแกงค์มาเฟีย สมัยแกหนุ่มๆเป็นซีไอเอคงแฝงตัวทำงานลับระดับชาติ ไม่ต่างอะไรกับป๋าไบรอัน มิลล์ เรื่อง Taken ศูตรที่เจอก็แค่แกงค์ลักพาตัวผญ.ไปขาย ที่ทำอะไรดูโง่ๆ ประมาทความสามารถของพระเอก สุดท้ายก็ตายเกลี้ยงแบบพระเอกไม่ต้องเจ็บตัวอะไรมากมาย แบบ EQ ถ้าลอง JW ไปเจอศูตรแบบองค์กรสายลับซีไอเอหรือนักฆ่าโครงการลับของรัฐบาลแบบเรื่อง Jason Bourne เข้าสิ ตายไปนานแล้ว กลับกันถ้า EQ หรือไบรอัน จากเรื่อง Taken ไปเจอสถานการณ์เดียวกับเรื่องบอร์น คงมีกึ๋น ไหวพริบ โชว์ให้เห็นไม่แพ้บอร์นเลย JW เก่งแค่ระดับนักฆ่าทั่วไปกับแกงค์มาเฟียเท่านั้น เทียบไม่ได้กับ EQ หรือคนที่ผมกล่าวถึงเลย
  
 ซึ่งตรงนี้แล้วแต่คนชอบว่าชอบสไตล์ไหนมากกว่ากัน สายลับเก่า หรือแนวนักฆ่า

 แล้วเพื่อนๆคิดเห็นอย่างไรกันบ้างครับระหว่าง EQ กับ JW