[CR] 2019 หนีร้อนไปเที่ยว Tokyo Hokkaido 9 วัน 8 คืน ตอนที่ 2

ตอนที่ 1  Tokyo  - Asakusa  Temple - Kawaguchiko - Shibuya - Harajuku  https://ppantip.com/topic/38714048
ตอนที่  2  Tokyo นั่ง Vanilla Airline  ไป Sapporo  นั่ง Night  bus Hakodate, Noboribetsu 
ตอนที่  3  Asahikawa ( Asahiyama   Zoo) , Biei  ( Christmas  Tree) https://ppantip.com/topic/38741012
ตอนที่  4  Tomamu (Hoshino Resort Tomamu), Otaru, Sapporo, Bankei Ski ลานสกีใกล้ซัปโปโร  https://ppantip.com/topic/38757590

    เมื่ออยากเที่ยว Hokkaido  แต่ไม่อยากเจออากาศหนาวมาก  เลยเลือกเดินทางช่วงต้นเดือนมีนาคม  ที่ Hokkaido  ยังมีหิมะ  แต่หิมะตกไม่หนักมากแล้ว  และอยากแวะดู  ฟูจิซังด้วย  เลยเลือกบินลง  Tokyo  ก่อนแล้วค่อยต่อเครื่องบินภายในประเทศไป  Hokkaido  ทริปนี้ใช้เวลาเดินทาางทั้งหมด  9 วัน  

Day1      Bangkok  - Tokyo , Asakusa  Temple
Day2      Kawaguchiko ,  Shibuya ; Harajuku
Day3      Tokyo นั่ง Vanilla Airline  ไป Sapporo – นั่ง Night  bus Hakodate
Day4      Hakodate , Noboribetsu  
Day5      Asahikawa ( Asahiyama Zoo )  Biei  ( Chrismas  Tree )
Day6      Tomamu  ( Hoshino  Resort  Tomamu นั่ง Unkai  Gondola ) 
Day7      Bankei  Ski , Otaru ( Musix  Box Museum, Otaru  canal ) 
Day8      Sapporo  ( Nijo  maket,  Hokkaido  Shrine, Hokkaido  Government  office (ตึกอิฐแดง), Clock  Tower, Shopping  Susukino
Day9      Sapporo - Bangkok



ตอนเช้า  เราตื่นกันแต่เช้า  ลากกระเป๋าจากโรงแรม  ไป Keisei  Ueno Station


ซื้อตั๋วที่เคาเตอร์  Keisei  Main  Line 1,030 เยน  ใช้เวลาเดินทาง 70 นาที ถึงสนามบิน Narita  รถไฟเป็นแบบที่นั่งหันหน้าเข้าหากัน  ไม่มีที่เก็บกระเป๋า

เราขึ้นที่สถานีต้นทาง คนค่อนข้างน้อย  
สถานีต่อมาคนเริ่มเยอะ
ถึงสนามบินนาริตะ  เราต้องมองหาป้าย conneting  Terminal 3  ชั้น 1F เดินออกมาด้านหน้าอาคาร  จะเป็นจุดจอดรถบัสรับ - ส่ง  
มีป้ายบอกทางเป็นระยะ  ระหว่าง Narita terminal 2 ,3 มีรถบัสรับ - ส่ง  
ถ้าไม่อยากนั่งบัสรับ - ส่ง  สามารถเดินไปตามทางเชื่อมนี้ได้  โดยทางเชื่อมจะทำเหมือนลู่วิ่ง  ตอนรับงานกีฬาโอลิมปิกปี 2020
ป้ายรถบัสรับ - ส่ง Terminal 3 มีป้ายชัดเจน
รถบัสจอดส่งที่หน้า Terminal  3
Terminal 4 มีบริการ Jetstar, Vanilla  Air, Spring Japan, JEJU air
มี Coin  Locker สำหรับฝากของ
ภายในอาคาร  ด้านซ้ายจะเป็นโซนร้านค้า  ด้านขวาเป็นเคาเตอร์เช็คอินของสายการบิน  มีบริการตาชั่ง  ชั่งน้ำหนักกระเป๋าได้ฟรี
Vanilla  Airline  สีเหลืองฟ้า  โดดเด่นมาก  จะแยกเป็น 2 ฝั่ง  International  และ domestic
ขั้นตอนการเช็คอิน  
1.  ชั่งน้ำหนักกระเป๋า Carry on ทั้งสองใบ  โดยก่อนเข้าไปเช็คอิน  จะมีเจ้าหน้าที่ชั่งน้ำหนักกระเป๋า  ชั่งเสร็จจะติดสติ๊กเกอร์ไว้กับกระเป๋า
2.  เช็คอิน  กับตู้อัตโนมัติ  โดยใช้เลขบุคกิ้ง
3.  โหลดกระเป๋า  โดยสามารถโหลดได้ที่เคาเตอร์
หลังโหลดกระเป๋าแล้ว  เดินต่อเข้าไปด้านในอาคาร  จะเป็นโซนร้านอาหาร  ร้านของฝาก
หลังผ่านจุดตรวจแล้ว  เรามารอขึ้นเครื่อง  รอบนี้ได้ Gate D150 เป็น Bus gate ต้องนั่สบัสต่อเพื่อไปขึ้นเครื่องอีกที
ฮอกไกโด (Hokkaido ) เป็นทั้งภูมิภาค ชื่อของเกาะ และยังเป็นหนึ่งใน 47 จังหวัดของประเทศญี่ปุ่น โดยชื่อมีความหมายตามตัวว่า “ทางสู่ทะเลเหนือ”
Hokkaido
     เกาะฮอกไกโดตั้งอยู่ทางตอนเหนือสุดของประเทศญี่ปุ่น พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นภูเขา จึงมีอากาศหนาวเย็นและมีหิมะปกคลุมเป็นเวลาหลายเดือน อุณหภูมิโดยเฉลี่ยตลอดทั้งปีอยู่ที่ประมาณ 21 องศา อากาศในช่วงหน้าร้อนอยู่ที่ประมาณ 33 องศา แต่ไม่ได้ร้อนอบอ้าวมากเหมือนกับในโตเกียว ส่วนในช่วงหนาวที่สุดในประมาณเดือนมกราคมอุณหภูมิอาจจะลงไปอยู่ต่ำกว่า -10 องศาเลยทีเดียว ดังนั้น หากมาท่องเที่ยวฮอกไกโดในช่วงฤดูหนาวจึงควรเตรียมพร้อมรับกับสภาพอากาศอันหนาวจัด

ฤดูกาลของฮอกไกโด
แบ่งได้เป็น 4 ฤดู คือ
     ฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม – พฤษภาคม) อุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 3 – 10 องศา
     ฤดูร้อน (มิถุนายน – สิงหาคม) อุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 16 – 24 องศา
     ฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน-พฤศจิกายน) อุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 7 – 15 องศา
     ฤดูหนาว (ธันวาคม-กุมภาพันธ์) อุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 1 – ลบ 5 องศา

ถึงสนามบิน CTS  ต้นเดือนมีนาคม  รอบๆ สนามบินหิมะยังไม่ละลาย
    หลังรับกระเป๋าแล้วเดินออกมาเลี้ยวซ้ายจะเป็นทางไป  JR  train,  International, Parking,  Car  Rental, Bus  Counter
เดินมาตามทางซ้ายมือจะเป็นเก้าอี้นั้งพัก ขวาจะเป็นร้านค้า  มี Lowson  
เดินต่อมาจะเจอ Counter  Bus  สำหรับคนที่ต้องการนั่งบัสไปเมืองต่างๆ ซื้อตั๋วได้ที่นี้  เช่น Noboribetsu
เราจะนั่งรถไฟ JR เข้าไป  Sapporo Stion  และจะแลก JR  Hokkaido  Pass
Counter JR มีจุดสำหรับแลก  Pass โดยเฉพาะ  เจ้าหน้าที่บริการดีมาก 
JR Hokkaido  Pass จะแลกพาสต้องเตรียม Passport และวันที่เริ่มใช้พาสวันแรก
วันนี้เรายังไม่เริ่มใช้  JR Hokkaido  Pass  ต้องซื้อตั๋ว JR rapid airport
การเดินทางจาก CTS - Sapporo Station  โดยรถไฟ JR
    -Reverved  seat  1,590 เยน    Non - Revered seat 1,070 เยน  ใช้เวลา 37 นาที
                        CTS - Otaru  Station
    -Revered  seat 2,300 เยน      Non - Revered  seat 1,780 เยน  ใช้เวลา 86 นาที
สำหรับคนที่ไม่อยากต่อคิวซื้อตั๋วที่เคาเตอร์  สามารถซื้อตั๋วได้ที่ตู้หยอดเหรียญ
ถึง Sapporo Staion เราฝากกระเป๋าใบใหญ่ไว้  เอาแค่กระเป๋าใบเล็กไป Hakodate คืนนี้
JR  Sapporo  Map 
Sapporo  Sabway  Map
     การเดินทางใน  Sapporo  ส่วนใหญ่จะใช้รถไฟใต้ดิน  แต่ถ้าไปเมืองอื่น  จะนั่งรถไฟ JR เป็นหลัก  มีนั่งรถบัสบ้างเล็กน้อย
ฝากกระเป๋าแล้ว  เดินเล่นในเมือง Sapporo  ต้นเดือนมีนาคม   อากาศใน Sapporo  ยังหนาวอยู่  กลางวัน -2 - 4  องศาเซลเซียส  กลางคืน - 4 – 1 องศาเซลเซียส หิมะตามริมถนนยังไม่ละลาย เดินต้องระวังลื่นล้ม
ชื่อสินค้า:   Hokkaido , Sapporo , Asahikawa , otaru , Biei
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่