อาจารย์เคยบอกว่าถ้าตอนเรียนมหาวิทยาลัยแล้วยังไม่มีแฟน ก็จะหายากแล้วนะ ตอนนั้นแทบหงายตกเก้าอี้ เพราะอาจารย์ทำไมพึ่งมาบอกตอนปี 4 เทอมสุดท้าย มันก็ไม่ทันการณ์แล้ว แล้วชีวิตก็ล่วงเลยมาจนถึงจะแตะเลข 3 มองข้างๆ ยังไม่มีใคร ขณะที่เพื่อนๆ ในสมัยประถมมัธยมพาเหรดแต่งงาน มีลูกกันเป็นทิวแถว แต่เรายังไม่มีแววเลยสักที ถ้าริจะเป็นโสด หรือจะโสดแบบไม่ได้ตั้งใจ หัวใจเราจึงต้องเข้มแข็ง กับการเผชิญเรื่องราวต่อไปนี้
1. คำถามเบสิคที่ถาโถมมาใส่เป็นประจำ คือ มีแฟนยัง อันนี้ใสๆ แต่พอโตมาเขาจะไม่ใช้ศัพท์ว่าแฟนแล้ว เขาจะถามตรงๆ ตัวโตๆ ว่า เมื่อไหร่จะเอาเมีย/ผัว...
เราจึงต้องเข้มแข็งและยืนยันในหลักการ สุดแล้วแต่ใครจะตอบว่ายังไง หรือไม่รู้จะตอบว่าไง ก็บอกไปว่า ไม่อยากมีเมีย/ผัว ที่ยุ่งเรื่องของคนอื่นเหมือนคนที่กำลังถามอยู่
2. เราจะต้องเผชิญหน้ากับความเหงาตัวเท่าช้าง 10 ตัว ในบางครั้ง ยิ่งเวลาอยู่คนเดียวมันจะมีอารมณ์เปล่าเปลี่ยว แต่ขอให้เรามีสติ และหากิจกรรมทำอย่าให้ว่าง นอกจากการทำงานแล้ว ผมจะระบายด้วยการเขียนนิยาย เพื่อจิตจะได้ไม่ว่าง
3. เราจะต้องชินกับการไปไหนมาไหนคนเดียว ซึ่งหลายคนบอกว่าอยู่กับเพื่อน แต่เพื่อนรอบๆข้างตัวเรา เขาจะทยอยแต่งงานมีครอบครัวไปเรื่อยๆ นอกเสียจากเพื่อนที่คิดว่าจะเป็นโสดไปพร้อมกับเรา อันนั้นเป็นอีกกรณีหนึ่ง แต่สำหรับคนที่เพื่อนเข้าวินไปหมดแล้ว นอกจากครอบครัวคือ พ่อแม่พี่น้องแล้ว เราก็จะต้องใช้ชีวิตให้ชินกับการอยู่ลำพัง ดูหนังคนเดียว กินข้าวคนเดียว ไปเที่ยวคนเดียว
4. อนาคตเราจะไม่มีลูก นั้นคือยามชรามาเราต้องดูแลตัวเอง บางคนอาจมีหลานที่เป็นลูกของ น้อง หรือ พี่ อันนี้ก็ดีไป ส่วนใครที่เป็นลูกคนเดียว แล้วดันเป็นโสด ญาติมีไม่มาก เราจะต้องเข้มแข็งที่จะก้าวไปสู่ปั้นปลายอย่างสง่างาม ดูแลตัวเอง เก็บตังค์ตั้งแต่วันนี้ และต้องเผชิญหน้ากับคำถามที่ว่า แก่ไปใครจะดูแลถ้าไม่มีลูกหลาน ขอให้เรายืนยันในหลักการ ใช่ว่าทุกคนที่มีลูกลูกจะดูแล บางทีแก่มาเราอาจจะเจอคนที่มีลูกในบ้านพักคนชราก็ได้ ขณะที่เราอยู่บ้านเราเองใช้ชีวิตอย่างสดใส
5. เมื่อเราเห็นเพื่อนหรือคนรอบข้างมีครอบครัวมีลูก ดูมีความสุข ขอให้เราอย่าหดหู่กับความโสดของตัวเอง หรือน้อยเนื้อต่ำใจ แต่ให้เราเปลี่ยนเป็นความยินดีให้กับเขา ยินดีที่ได้เห็นคนรักกัน ยินดีที่เห็นเขามีโซ่ทองคล้องใจ และก็ยินดีกับตัวเราว่า โชคดีเหลือเกินที่ไม่มีภาระอย่างเขา
6. ถ้าเราโสด และต้องแอบรักใครไปด้วย โดยปลายทางของการแอบรักคือความไม่สมหวัง เนื่องด้วยเหตุผลใดก็แล้วแต่ สิ่งที่เราต้องเผชิญคือความเจ็บ ยิ่งแอบรักคนมีคู่ และเป็นคนใกล้ตัว เรายิ่งจะเจ็บ ก็ขอให้เราเข้มแข็ง และยืนยันในหลักการที่ว่า รักแท้คือการได้เห็นคนที่เรารักมีความสุข ให้คิดเสียว่าเรากับเขาทำบุญกับเขามาแค่นี้ ตรงนี้อาจต้องใช้ความกล้าหาญและความเข้มแข็งอย่างมาก
7. ให้เราเข้าใจว่า เราไม่ได้โสดอยู่คนเดียว ทุกวันนี้มีคนโสดมากมาย และเขาจะเป็นเพื่อนหัวอกเดียวกันกับเรา คนเรานั้นเกิดมาก็มาตัวเปล่าผ้าสักชิ้นก็ไม่มี ยามตายไปก็ย่อมต้องไปคนเดียว สำหรับคนโสดจะตายตาหลับเพราะว่าไม่ต้องห่วงคนอยู่หลัง
8. การปลดปล่อยพลังทางเพศ คนโสดก็คือคนย่อมมีคามต้องการทางเพศ ซึ่งเราจะต้องเผชิญข้อคำถามว่า คนโสดมันปลดปล่อยอย่างไร ยิ่งไม่เที่ยวกลางคืนยิ่งตกเป็นที่ต้องสงสัย ผมว่าคนโสดย่อมมีการปลดปล่อยพลังด้วยวิธีของตัวเอง ส่วนถ้าพวกขี้สงสัยถาม ก็ตอบมันไปว่า อ่อ ก็เอากับเมี.../ผั.... มึ.... ไง มันจะได้เลิกสงสัย....555
อายุ 30 ยังโสด จึงต้องโครตเข้มแข็ง
1. คำถามเบสิคที่ถาโถมมาใส่เป็นประจำ คือ มีแฟนยัง อันนี้ใสๆ แต่พอโตมาเขาจะไม่ใช้ศัพท์ว่าแฟนแล้ว เขาจะถามตรงๆ ตัวโตๆ ว่า เมื่อไหร่จะเอาเมีย/ผัว...
เราจึงต้องเข้มแข็งและยืนยันในหลักการ สุดแล้วแต่ใครจะตอบว่ายังไง หรือไม่รู้จะตอบว่าไง ก็บอกไปว่า ไม่อยากมีเมีย/ผัว ที่ยุ่งเรื่องของคนอื่นเหมือนคนที่กำลังถามอยู่
2. เราจะต้องเผชิญหน้ากับความเหงาตัวเท่าช้าง 10 ตัว ในบางครั้ง ยิ่งเวลาอยู่คนเดียวมันจะมีอารมณ์เปล่าเปลี่ยว แต่ขอให้เรามีสติ และหากิจกรรมทำอย่าให้ว่าง นอกจากการทำงานแล้ว ผมจะระบายด้วยการเขียนนิยาย เพื่อจิตจะได้ไม่ว่าง
3. เราจะต้องชินกับการไปไหนมาไหนคนเดียว ซึ่งหลายคนบอกว่าอยู่กับเพื่อน แต่เพื่อนรอบๆข้างตัวเรา เขาจะทยอยแต่งงานมีครอบครัวไปเรื่อยๆ นอกเสียจากเพื่อนที่คิดว่าจะเป็นโสดไปพร้อมกับเรา อันนั้นเป็นอีกกรณีหนึ่ง แต่สำหรับคนที่เพื่อนเข้าวินไปหมดแล้ว นอกจากครอบครัวคือ พ่อแม่พี่น้องแล้ว เราก็จะต้องใช้ชีวิตให้ชินกับการอยู่ลำพัง ดูหนังคนเดียว กินข้าวคนเดียว ไปเที่ยวคนเดียว
4. อนาคตเราจะไม่มีลูก นั้นคือยามชรามาเราต้องดูแลตัวเอง บางคนอาจมีหลานที่เป็นลูกของ น้อง หรือ พี่ อันนี้ก็ดีไป ส่วนใครที่เป็นลูกคนเดียว แล้วดันเป็นโสด ญาติมีไม่มาก เราจะต้องเข้มแข็งที่จะก้าวไปสู่ปั้นปลายอย่างสง่างาม ดูแลตัวเอง เก็บตังค์ตั้งแต่วันนี้ และต้องเผชิญหน้ากับคำถามที่ว่า แก่ไปใครจะดูแลถ้าไม่มีลูกหลาน ขอให้เรายืนยันในหลักการ ใช่ว่าทุกคนที่มีลูกลูกจะดูแล บางทีแก่มาเราอาจจะเจอคนที่มีลูกในบ้านพักคนชราก็ได้ ขณะที่เราอยู่บ้านเราเองใช้ชีวิตอย่างสดใส
5. เมื่อเราเห็นเพื่อนหรือคนรอบข้างมีครอบครัวมีลูก ดูมีความสุข ขอให้เราอย่าหดหู่กับความโสดของตัวเอง หรือน้อยเนื้อต่ำใจ แต่ให้เราเปลี่ยนเป็นความยินดีให้กับเขา ยินดีที่ได้เห็นคนรักกัน ยินดีที่เห็นเขามีโซ่ทองคล้องใจ และก็ยินดีกับตัวเราว่า โชคดีเหลือเกินที่ไม่มีภาระอย่างเขา
6. ถ้าเราโสด และต้องแอบรักใครไปด้วย โดยปลายทางของการแอบรักคือความไม่สมหวัง เนื่องด้วยเหตุผลใดก็แล้วแต่ สิ่งที่เราต้องเผชิญคือความเจ็บ ยิ่งแอบรักคนมีคู่ และเป็นคนใกล้ตัว เรายิ่งจะเจ็บ ก็ขอให้เราเข้มแข็ง และยืนยันในหลักการที่ว่า รักแท้คือการได้เห็นคนที่เรารักมีความสุข ให้คิดเสียว่าเรากับเขาทำบุญกับเขามาแค่นี้ ตรงนี้อาจต้องใช้ความกล้าหาญและความเข้มแข็งอย่างมาก
7. ให้เราเข้าใจว่า เราไม่ได้โสดอยู่คนเดียว ทุกวันนี้มีคนโสดมากมาย และเขาจะเป็นเพื่อนหัวอกเดียวกันกับเรา คนเรานั้นเกิดมาก็มาตัวเปล่าผ้าสักชิ้นก็ไม่มี ยามตายไปก็ย่อมต้องไปคนเดียว สำหรับคนโสดจะตายตาหลับเพราะว่าไม่ต้องห่วงคนอยู่หลัง
8. การปลดปล่อยพลังทางเพศ คนโสดก็คือคนย่อมมีคามต้องการทางเพศ ซึ่งเราจะต้องเผชิญข้อคำถามว่า คนโสดมันปลดปล่อยอย่างไร ยิ่งไม่เที่ยวกลางคืนยิ่งตกเป็นที่ต้องสงสัย ผมว่าคนโสดย่อมมีการปลดปล่อยพลังด้วยวิธีของตัวเอง ส่วนถ้าพวกขี้สงสัยถาม ก็ตอบมันไปว่า อ่อ ก็เอากับเมี.../ผั.... มึ.... ไง มันจะได้เลิกสงสัย....555