ตามหัวข้อเลยค่ะ เราทำงานที่นี่มาเป็นเวลา1ปีกว่าๆ เราเป็นพนักงานรับรถทั่วไปอยู่ที่ร้านแต่งรถแห่งนึง ตามที่คุยไว้ตอนที่มาสมัครงานเราเป็นแค่คนต้อนรับลูกค้าและเช็คสต็อกสินค้า สักพักแฟนของเจ้าของร้านก็เปิดบริษัทอยู่ข้างๆร้านเดิม แต่นายจ้างบอกให้เราดูแลทั้งบริษัทและร้านแต่งรถ เราทำงาน 10 ชั่วโมง แต่ถ้าวันไหนที่นายจ้างไม่อยู่เราต้องอยู่ดูแลยาวไปถึง 12-14 ชั่วโมง โดยไม่ได้โอทีตามกฎของร้าน พอเราไปถาม นายจ้างว่าทำไมเราถึงไม่ได้โอที นายจ้างบอกว่า ตัดที่มีโอทีออกไปแล้ว แบบนี้คืออะไรคะ ?? แต่เราก็ไม่ได้เรียกร้องอะไร สักพักทางนายจ้างเดินมาบอกว่าให้เราไปดูแลแค่บริษัทอย่างเดียว เช็คสต็อก ดูแลลูกค้า หยิบของให้ลูกค้า คือทำทุกอย่างคนเดียวบวกกับให้ลงไปช่วยงานช่างทำรถเพิ่มอีกด้วย แล้งจะปรับเงินเดือนขึ้นให้ ตามที่ตกลงคุยไว้แบบนี้ พออีกวันมาบอกว่าฐานเงินเดือนลดลง จากปกติเราได้ 12,000 บาท ถูกลดลงมาเหลือ 9000บาท ให้เหตุผลเนื่องจากมีค่าคอมแล้ว แต่ค่าคอมที่ได้ในการเชียร์ขายสินค้าได้สูงสุดอยู่ที่27บาท แล้วรถฝั่งทางบริษัทเข้าอย่างมากแค่วันละ 5 คัน จากที่คำนวนดูแล้ว ยอดที่หายไป 3000 ไม่มีทางได้แน่ๆ และที่คุยว่าให้ดูแลแค่บริษัท แต่ตอนนี้กลับมาดูแล 2 ที่เหมือนเดิม และถูกหักเงินประกันเพิ่มอีก 5000 ตามกฎของร้าน (เงินประกันของทางร้านคือ เงินส่วนเนี้ยถ้าสินค้าภายในร้านได้รับความเสียหายจะหักจากส่วนนี้ และถ้าจะลาออกจะได้เงินส่วนนี้คืน แต่ถ้าลาออกไม่แจ้งล่วงหน้าก่อน 1 เดือน จะไม่ได้รับเงินส่วนนี้ และถึงจะแจ้งก่อน1เดือน จะได้เงินคืนในอีก1เดือนถัดไป คือหลังจากที่ออกไปแล้ว1เดือน) และทางร้านและบริษัทไม่มีประกันสังคมให้ เวลาพนักงานบาดเจ็บจากที่ทำงานก็ไม่สามารถไปหาหมอได้ เพราะกลัวไม่มีเงินใช้กัน และนายจ้างก็ไม่ได้ให้เงินไปรักษา แบบนี้สามารถฟ้องกรมแรงงานได้ไหมคะ?
ถูกนายจ้างลดเงินเดือนลง 3000 บาท โดยให้เหตุผลว่ามีค่าคอม ทำอย่างไรดีคะ❔