ถ้าโดนทวงถามเรื่องความไว้ใจ คุณก็ขอวัดใจไปเลย คือให้เขาโอนที่ดินมาให้คุณถือไว้ หรือขอลงชื่อเป็นเจ้าของร่วมในโฉนด แลกกับเงินสองแสน

ประเด็นแรก เป็นหนี้บัตรเครดิต 150000 บาท!! เอ่อ คุณไม่มีวินัยการเงิน จัดการเรื่องนี้ด่วน จดบันทึกรายรับรายจ่ายซะ อย่าเอาเงินอนาคตมาใช้

ประเด็นที่ 2 เป็นหนี้ 150000 บาท คิดจะกู้ 700000 บาท ยังหาธุรกิจทำไม่ได้ก็อย่าเพิ่งกู้เยอะ กู้เกินมา 550000 เลยนะ ดอกเบี้ยค่ะดอกเบี้ย บานทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการ ลงทุนน้อยๆ ค่อยๆ ต่อยอดอย่าทุ่มไปหมดหน้าตัก วางแผน ทยอยลงทุนดูตลาดก่อน

ถ้าทำตามข้อ 2 ก็สามารถบอกแฟนคุณได้ว่าไม่มีเงิน จบนะ

ประเด็นที่ 3 นี่เป็นบททดสอบความรักบทหนึ่ง คุยกับแฟนให้เข้าใจ ทำความเข้าใจใหม่ว่าเงินน่ะกู้มา เสียดอกเบี้ย และที่ไม่ให้แม่แฟนเพราะอะไร  จะเกิดผลกระทบกับคุณอย่างไรถ้าแม่แฟนไม่จ่ายหนี้ นี่ไม่ใช่การเชื่อหรือไม่เชื่อใจแต่มันคือความเสี่ยงที่คุณรับผลกระทบตามมาไม่ไหว

แทนที่จะเถียงว่าให้ไม่ให้เงินแฟน ถามแฟนกลับไปว่าทำไมต้องเอาโฉนดออกมา why? ให้แฟนคุณตั้งสติได้ทบทวนตนเอง ผ่อน 2 แสนเอง ถ้าเดือนละหมื่น ไม่ถึง 2 ปีก็หมด ทำไมต้องรีบเอาโฉนดออกมา

เรื่องเงินทองไม่เข้าใครออกใคร ถ้าแม่ยายจะเอาให้ได้จริงๆ
- ทำสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษร โดยคนให้กู้คือพ่อคุณแม่คุณก็ได้ คนกลางที่คิดว่าพอมีปัญหาจะสามารถทวงหนี้ได้
- มีอะไรมาค้ำประกัน ก็ที่ดินนั่นแหละ จะจำนองหรือขายฝากก็ว่าไป อย่าทำสัญญาลอยๆโดยไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกันเด็ดขาด เพราะตอนทวง เจ้าหนี้น้ำตาตกมาหลายคนแล้ว

มันไม่มีทางเป็นค่าสินสอดในสายตาแม่แฟนกับแฟนคุณหรอกค่ะ
    เดี๋ยวพอจะแต่งงาน เค้าก็เรียกสินสอดอีก
  ดังนั้น  อย่าให้ยืมเด็ดขาด เงินก้อนนี้มีสิทธิเป็นหนี้สูญ
   ถ้าจะต้องทะเลาะ เพราะเรื่องนี้ก็เลิกกันไปเถอะ
    คุณจะได้ไม่ต้องแต่งงานกับคนที่พาทั้งตัวเองและแม่มาเบียดเบียนคุณ