ขอความช่วยเหลือจากผู้รู้และผู้มีประสบการณ์ใช้งาน รถนิสสัน ทีคะ(จนปัญญาและมืดแปดด้านจริงๆคะ)
ปัญหามีอยู่ว่า เจ้าของกระทู้พึ่งได้รับการเปลี่ยนเกียร์ยกลูก เป็นเกียร์ cvt ของรถ นิสสันลิวิน่า 2015 จากเคสอุบัติเหตุ โดยบริษัทประกันเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนชุดเกียร์นี้ ประมาณแสนกว่านิดๆนะคะ เจ้าของกระทูรับรถมาใช้เมื่อ 29/01/2562 จากศูนย์นิสสัน(ขออนุญาติยังไม่ระบุสาขานะคะ) คือ จะบอกว่าเกียร์นี้เปลี่ยนจากศูนย์นิสสันโดยตรงค่ะ
ต่อมาก็มีการนำรถเข้าเช็คระยะ 100,00 โล พร้อมตรวจเช็ครถฟรี 22 รายการตามที่นิสสันส่งข้อความโปรโมชั่นแจ้งลูกค้า เราเลยเอารถเข้ารับบริการที่ศูนย์นิสสันจังหวัดกำแพงเพชร รายการที่ทำวันที่ 2/3/2562
- ตรวจเช็คฟรี 22 รายการ
- เช็คระยะ 100,000 กิโล
- เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง(เจ้าของเห็นว่ามีโปรลด 50% ก็จัดไป ทั้งๆที่ยังไม่ถึงระยะที่ต้องเปลี่ยน ขาดอีก 1,5xx กิโล)
- เปลี่ยนหลอดไฟท้ายที่ขาด 2 หลอด
พอวันที่ 17/3/2562 ก็ขับรถเข้ามาทำธุระที่ กทม โดยวิ่งออกจาก จ.กำแพงเพชร พอถึงช่วงบางปะหัน รถมีอาการ เข็มรอบเครื่องสะวิง ที่ 2-3 x1,000r/min แต่เกียร์เร่งไม่ขึ้นโดยลดระดับลงจาก 110 ลงมา 80 60 และ 20 จนเร่งไม่ขึ้น รถไม่ไป เราก็จอดรถสักพักแล้วค่อยๆขับประคองจอดบ้านเพื่อนแถวๆบางปะอิน เพื่อจะได้นำรถเข้าศูนย์ในวันจันทร์
วันที่ 18/3/2562 เราเอารถเข้าศูนย์เช็คได้รับการแจ้งว่า พบว่าสายไฟชำรุดเนื้องจากน้ำกลั่นเดือดจากแบตเตอรี่ ทำให้เกิดความเสียหายไปที่สายไฟ จุดศูนย์รวมปลั๊ก ขอเวลาให้ช่างหาทางแก้ไขแล้วจะโทรแจ้งลูกค้า
วันที่ 19/3/2562 จนท โทรแจ้งเราว่า ช่างไม่สามารถแก้ไขได้ ต้องเปลี่ยนเกียร์ยกลูกใหม่ ค่าใช้จ่ายประมาน 125,xxx บาท เราอึ้งแล้วก็ตกใจมาก เพราะรายการนี้เราค้องจ่าย เนื่องจากไม่อยู่ในเงื่อนไขการรับประกันเกียร์ที่พึ่งจะยกลูกไป น้ำตาตก โลกจะถล่ม ด้วยความที่เราก็ไม่รู้เรื่องเครื่องยนต์เลย เราแปลกใจว่า แบตเตอรี่ของเราเสื่อมหรอ?ทำไมน้ำกลั่นถึงเดือดจนไปทำความเสียหายสายไฟเกียร์ได้ จนท บอกว่า น่าจะเกิดจากการเติมน้ำกลั่นเกินขีดกำหนด เอ้า!!! เราไม่เคยเติมเองเลย รถเข้าศูนย์ตลอด และล่าสุด2/3/2562 ก็พึ่งเข้าศูนย์มานี่คะ จนท แจ้งว่าตรวจสอบไม่ได้ว่าเติมจากศูนย์ไหน แต่ทางศูนย์ของเราไม่ได้เติม
ทำอะไรไม่ถูกเลยตอนนั้น ก็ขอเจ้าหน้าที่ วางสายไปว่าขอปรึกษาทางบ้านก่อน แล้วจะติดต่อกลับไป
*** ต่อจากนี้คือ เราคุยกับที่บ้านปรึกษาไม่มีปัญญาหาเงินมาเป็นแสนแน่ๆ เพราะรอบที่แล้วที่เปลี่ยนเกียร์ไป ถึงเป้นประกันจ่ายค่าเกียร์แต่ค่าลากจุงค่าของเหลว บราๆๆเราออกไปก็หลายตังค์อยู่ เราเลยคิดว่าคงต้องออกมาซ่อมศูนย์ข้างนอกดีกว่า แต่เรายังจ้องใจประเด็นที่เกียรลุกใหม่นี้ พึ่งเปลี่ยนและขับใช้งานยังไม่ถึง 1,000 กิโล ไม่เกิน 2 เดือนด้วยซ้ำทำไมถึงพังได้อย่างรวดเร็วขนาดนี้
วันที่ 20/03/2562 เราเข้าไปศูนย์เพื่อขอคุยกับ ผจก สาขา ก่อนตัดสินใจว่าจะเอารถออกมาซ่อมศูนย์ดีมั้ย
วันนี้ได้คุยในห้องประชุม ผจก ชี้แจงว่า ช่างตรวจสอบว่า พบว่าน้ำกลั่นไปทำลายชุดไฟตรงปลั๊ก ทำให้เกียร์มีปัญหา แต่เนื่องจากชุดเกียร์ของรถรุ่นใหม่ไม่สามารถแยกซ่อมเฉพาะส่วนได้เลยต้องยกลูกใหม่ และเนื่องจากไม่ได้เป้นความเสียหายในเกียร์ที่เปลี่ยนไป แต่มันเกิดจากการกระทำภายนอก(น้ำกลั่นแบตเตอรรี่ที่เดือดทำให้เกิดการชอร์ตของสายไฟ จึงไม่อยู่ในประกันอะไหล่ที่เปลี่ยนไปใหม่ และก็ไม่ได้เกิดจากการเคิมน้ำกลั่นเกินของที่ศูนย์นี้ เพราะถ้าเกิดมันต้องเกิดนานแล้วเพราะรับรถไปตั้งแต่ 29มกรา แต่ก็เห้นใจลูกค้า เขาจะลองเปลี่ยนปลั๊กตัวเมียให้คุมค่าใช้จ่ายที่ไม่เกิน 3,000 บาท ค่าแรงจะไม่คิดเพื่อช่วยลูกค้า ขอเวลา 1 อาทิตย์ แต่ไม่รับประกันว่าอาการจะหาย เพราะถ้าเปลี่ยนปลั๊กไปแล้วโชคดีเกียร์ทำงานสมุตก็ถือว่าลูกค้าโชคดี แต่ถ้าไม่ไฟที่เปลี่ยนก็อาจจะช๊อตทำให้เกียร์เสียหายกว่าเดิมก้ได้ (ใจก็คิดแล้วเราจะรอให้เค้าทดสอบหาพระแสงอะไรในเมื่อมันก็ไม่หายอยู่ดี) แต่ ผจก โทรสอบถามสาขาให้เราแล้ว ****สาขาไม่มีอะไหล่ ปลั๊กตัวเมียที่บอก จบข่าว เราเลยบอกว่าตะเอารถออกไปอุ่เพราะสู้ราคาไม่ไหว(เดี่ยวมีต่อ)
เกียร์ cvt nissan livina พัง(ขอคำแนะนำจากผู้รู้คะ)
ปัญหามีอยู่ว่า เจ้าของกระทู้พึ่งได้รับการเปลี่ยนเกียร์ยกลูก เป็นเกียร์ cvt ของรถ นิสสันลิวิน่า 2015 จากเคสอุบัติเหตุ โดยบริษัทประกันเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนชุดเกียร์นี้ ประมาณแสนกว่านิดๆนะคะ เจ้าของกระทูรับรถมาใช้เมื่อ 29/01/2562 จากศูนย์นิสสัน(ขออนุญาติยังไม่ระบุสาขานะคะ) คือ จะบอกว่าเกียร์นี้เปลี่ยนจากศูนย์นิสสันโดยตรงค่ะ
ต่อมาก็มีการนำรถเข้าเช็คระยะ 100,00 โล พร้อมตรวจเช็ครถฟรี 22 รายการตามที่นิสสันส่งข้อความโปรโมชั่นแจ้งลูกค้า เราเลยเอารถเข้ารับบริการที่ศูนย์นิสสันจังหวัดกำแพงเพชร รายการที่ทำวันที่ 2/3/2562
- ตรวจเช็คฟรี 22 รายการ
- เช็คระยะ 100,000 กิโล
- เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง(เจ้าของเห็นว่ามีโปรลด 50% ก็จัดไป ทั้งๆที่ยังไม่ถึงระยะที่ต้องเปลี่ยน ขาดอีก 1,5xx กิโล)
- เปลี่ยนหลอดไฟท้ายที่ขาด 2 หลอด
พอวันที่ 17/3/2562 ก็ขับรถเข้ามาทำธุระที่ กทม โดยวิ่งออกจาก จ.กำแพงเพชร พอถึงช่วงบางปะหัน รถมีอาการ เข็มรอบเครื่องสะวิง ที่ 2-3 x1,000r/min แต่เกียร์เร่งไม่ขึ้นโดยลดระดับลงจาก 110 ลงมา 80 60 และ 20 จนเร่งไม่ขึ้น รถไม่ไป เราก็จอดรถสักพักแล้วค่อยๆขับประคองจอดบ้านเพื่อนแถวๆบางปะอิน เพื่อจะได้นำรถเข้าศูนย์ในวันจันทร์
วันที่ 18/3/2562 เราเอารถเข้าศูนย์เช็คได้รับการแจ้งว่า พบว่าสายไฟชำรุดเนื้องจากน้ำกลั่นเดือดจากแบตเตอรี่ ทำให้เกิดความเสียหายไปที่สายไฟ จุดศูนย์รวมปลั๊ก ขอเวลาให้ช่างหาทางแก้ไขแล้วจะโทรแจ้งลูกค้า
วันที่ 19/3/2562 จนท โทรแจ้งเราว่า ช่างไม่สามารถแก้ไขได้ ต้องเปลี่ยนเกียร์ยกลูกใหม่ ค่าใช้จ่ายประมาน 125,xxx บาท เราอึ้งแล้วก็ตกใจมาก เพราะรายการนี้เราค้องจ่าย เนื่องจากไม่อยู่ในเงื่อนไขการรับประกันเกียร์ที่พึ่งจะยกลูกไป น้ำตาตก โลกจะถล่ม ด้วยความที่เราก็ไม่รู้เรื่องเครื่องยนต์เลย เราแปลกใจว่า แบตเตอรี่ของเราเสื่อมหรอ?ทำไมน้ำกลั่นถึงเดือดจนไปทำความเสียหายสายไฟเกียร์ได้ จนท บอกว่า น่าจะเกิดจากการเติมน้ำกลั่นเกินขีดกำหนด เอ้า!!! เราไม่เคยเติมเองเลย รถเข้าศูนย์ตลอด และล่าสุด2/3/2562 ก็พึ่งเข้าศูนย์มานี่คะ จนท แจ้งว่าตรวจสอบไม่ได้ว่าเติมจากศูนย์ไหน แต่ทางศูนย์ของเราไม่ได้เติม
ทำอะไรไม่ถูกเลยตอนนั้น ก็ขอเจ้าหน้าที่ วางสายไปว่าขอปรึกษาทางบ้านก่อน แล้วจะติดต่อกลับไป
*** ต่อจากนี้คือ เราคุยกับที่บ้านปรึกษาไม่มีปัญญาหาเงินมาเป็นแสนแน่ๆ เพราะรอบที่แล้วที่เปลี่ยนเกียร์ไป ถึงเป้นประกันจ่ายค่าเกียร์แต่ค่าลากจุงค่าของเหลว บราๆๆเราออกไปก็หลายตังค์อยู่ เราเลยคิดว่าคงต้องออกมาซ่อมศูนย์ข้างนอกดีกว่า แต่เรายังจ้องใจประเด็นที่เกียรลุกใหม่นี้ พึ่งเปลี่ยนและขับใช้งานยังไม่ถึง 1,000 กิโล ไม่เกิน 2 เดือนด้วยซ้ำทำไมถึงพังได้อย่างรวดเร็วขนาดนี้
วันที่ 20/03/2562 เราเข้าไปศูนย์เพื่อขอคุยกับ ผจก สาขา ก่อนตัดสินใจว่าจะเอารถออกมาซ่อมศูนย์ดีมั้ย
วันนี้ได้คุยในห้องประชุม ผจก ชี้แจงว่า ช่างตรวจสอบว่า พบว่าน้ำกลั่นไปทำลายชุดไฟตรงปลั๊ก ทำให้เกียร์มีปัญหา แต่เนื่องจากชุดเกียร์ของรถรุ่นใหม่ไม่สามารถแยกซ่อมเฉพาะส่วนได้เลยต้องยกลูกใหม่ และเนื่องจากไม่ได้เป้นความเสียหายในเกียร์ที่เปลี่ยนไป แต่มันเกิดจากการกระทำภายนอก(น้ำกลั่นแบตเตอรรี่ที่เดือดทำให้เกิดการชอร์ตของสายไฟ จึงไม่อยู่ในประกันอะไหล่ที่เปลี่ยนไปใหม่ และก็ไม่ได้เกิดจากการเคิมน้ำกลั่นเกินของที่ศูนย์นี้ เพราะถ้าเกิดมันต้องเกิดนานแล้วเพราะรับรถไปตั้งแต่ 29มกรา แต่ก็เห้นใจลูกค้า เขาจะลองเปลี่ยนปลั๊กตัวเมียให้คุมค่าใช้จ่ายที่ไม่เกิน 3,000 บาท ค่าแรงจะไม่คิดเพื่อช่วยลูกค้า ขอเวลา 1 อาทิตย์ แต่ไม่รับประกันว่าอาการจะหาย เพราะถ้าเปลี่ยนปลั๊กไปแล้วโชคดีเกียร์ทำงานสมุตก็ถือว่าลูกค้าโชคดี แต่ถ้าไม่ไฟที่เปลี่ยนก็อาจจะช๊อตทำให้เกียร์เสียหายกว่าเดิมก้ได้ (ใจก็คิดแล้วเราจะรอให้เค้าทดสอบหาพระแสงอะไรในเมื่อมันก็ไม่หายอยู่ดี) แต่ ผจก โทรสอบถามสาขาให้เราแล้ว ****สาขาไม่มีอะไหล่ ปลั๊กตัวเมียที่บอก จบข่าว เราเลยบอกว่าตะเอารถออกไปอุ่เพราะสู้ราคาไม่ไหว(เดี่ยวมีต่อ)