สวัสดีครับ วันนี้จะมารีวิวประสบการณ์จากการซื้อคอนโดในโครงการ Whizdom 101 ของ MSDQ ครับ โดยคอนโดที่ผมซื้อนั้นเป็นตึกแรกชื่อ Whizdom Connect ห้องผมเป็นห้องหัวมุมทางทิศเหนือขนาด 42.5 ตรม ราคา 5.6 ล้านบาท ผมก็ผ่อนดาวน์มาเรื่อย ๆ ตั้งแต่ปี 2558 จนเมื่อ 25 ก.พ. ปี 61 ก็ได้เข้าตรวจโครงการเป็นครั้งแรก
หลังจากตรวจก็พบข้อบกพร่องหลายจุด เช่นไฟในห้องกระพริบทุกดวง ประตูระเบียงบานพับหลุด สีถลอก ฯลฯ แต่ที่มีปัญหามากที่สุดคือห้องน้ำ กระเบื้องกระเดิดเยอะมาก และเมื่อเคาะจะพบว่าฉาบปูนไม่เต็ม กระเบื้องห้องน้ำต้องรื้อออกใหม่ทั้งหมด และเมื่อเปิดฝ้าห้องน้ำดูพบอุปกรณ์เสพยาที่ช่างโครงการทิ้งไว้ เรื่องนี้เจ้าหน้าที่โครงการก็อยู่ด้วยขณะพบอุปกรณ์ดังกล่าว
ผมได้แจ้งแก้ไขข้อบกพร่องที่หน้างานไป และส่งเอกสาร defect ให้ทาง CS จากนั้น 1 เดือนต่อมาผมก็ได้เข้าตรวจห้องครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 23 มี.ค. 61 พบว่ากระเบื้องห้องน้ำยังไม่ได้รับการแก้ไข defect ใหญ่ ๆ ทั้งหมดยังไม่ได้รับการแก้ไข และเพิ่งสังเกตเห็นว่าปูนที่ฉาบหนังกำแพงตรงบริเวณระเบียงเว้าแหว่ง ฉาบไว้ไม่เต็ม
ผมจึงได้แจ้งให้ช่างโครงการที่เข้าร่วมตรวจแก้ไข และส่งเอกสารข้อบกพร่องให้ทาง CS ในวันต่อมา แต่หลังจากการตรวจดังกล่าวผมก็โดนทาง CS ข่มขู่ตลอดเวลาว่าจะตัดสิทธิโปรโมชั่นผมหากผมไม่รีบโอนห้อง ทั้ง ๆ ที่ห้องดังกล่าวยังไม่ได้รับการแก้ไขใดๆ ผมจึงนัดตรวจห้องครั้งที่ 3 วันที่ 10 พ.ค. 61 ซึ่งทาง CS ได้ confirm ว่า defect ทุกอย่างได้รับการแก้ไขหมดแล้ว
แต่เมื่อถึงเช้าวันที่ 10 พ.ค. 61 ทาง CS ได้โทรมาแจ้งว่าห้องยังแก้ไขไม่เรียบร้อย ขอเลื่อนการตรวจไปก่อน ผมแจ้งไปว่าผมขอเข้าตรวจเท่าที่ตรวจได้ก่อน แต่ทาง CS ยืนยันว่าไม่สามารถให้เข้าตรวจห้องดังกล่าวได้ แล้วที่ผมโดนข่มขู่ว่าให้รีบโอนนี่คืออะไร?
หลังจากนั้นทาง CS ก็เงียบหายไป ไม่ติดต่อผมกลับมาอีกเลย แม้จะเลยวันกำหนดโอนกรรมสิทธิ์ไปแล้วก็ตาม จนผมแวะเข้าไปดูเมื่อวันที่ 4 ก.ย 61 (แวะไปดูเฉย ๆ ไม่ได้นัดตรวจเป็นทางการ) ก็ช็อคมากครับ กระเบื้องห้องน้ำก็ยังไม่เรียบร้อยเหมือนเดิม ไร้ยาแนว และมีการรื้อฝ้าในห้องนอนผมออกมา เมื่อถามเจ้าหน้าที่ว่าเหตุใดต้องรื้อฝ้าผมออกมา ก็ไม่สามารถตอบคำถามได้ จนสุดท้ายผมไล่บี้จึงได้คำตอบว่ามีน้ำรั่วซึ่ม ยังไม่ทันอยู่ก็น้ำรั่วซะแล้ว
ล่วงเลยมาจนกระทั่งเดือน ธ.ค. ผมจึงตามเรื่องไปยัง CS ว่าห้องผมซ่อมแซมเสร็จเรียบร้อยดีหรือยัง และได้เข้าตรวจวันที่ 14 ธ.ค. 61 พบว่าห้องยังแก้ไขไม่เรียบร้อยหลายจุด ไฟในห้องยังกระพริบตลอดเวลายังให้คำตอบไม่ได้ว่าเกิดจากสาเหตุใด บริเวณใต้ราวกั้นระเบียงและกันสาดปูนที่ยื่นออกไปมีน้ำขัง ยังเห็นเป็นคราบน้ำอยู่จากการฉาบปูนที่ไม่ได้ระดับ และผนังระเบียงยังเว้าแหว่งอยู่
1 สัปดาห์ต่อมาทาง CS แจ้งว่าห้องแก้ไข defect ทั้งหมดแล้ว อยากให้ผมรีบโอนเพื่อจะยังรักษา promotion ฟรีค่าส่วนกลาง 2 ปีอยู่ ในช่วงนั้นเป็นช่วงสิ้นปีผมงานยุ่งมาก ไม่สามารถไปตรวจห้องได้ ถึงได้ถามย้ำไปหลายครั้งว่าแก้ไขทุกรายการแล้วใช่ไหม ทาง CS ยืนยันว่าได้แก้ไขข้อบกพร่องทุกรายการแล้ว ผมจึงโอนห้องชุดดังกล่าวไปเมื่อวันที่ 27 ธ.ค. 61
แต่หลังจากนั้นผมนัดรับกุญแจห้อง แต่ทาง CS แจ้งว่าขอให้ฝากกุญแจไว้ก่อน เนื่องจากยังไม่ได้แก้ไข defect ที่ผมได้แจ้งไปในเอกสารครั้งก่อน งงไหมครับ? หลอกผมให้โอนห้อง บอกว่าห้องเรียบร้อยแล้ว แต่พอผมจะรับกุญแกห้องกลับบอกว่ายังไม่ได้แก้ไข
ผมจึงแจ้งแก่ทาง CS ว่าผมให้เวลาในการแก้ไขให้เสร็จสิ้นก่อนวันที่ 15 ก.พ. 62 และนัดตรวจห้องในวันที่ 19 ก.พ. 62
เมื่อเข้าตรวจก็ยังพบว่าห้องยังอยู่ในสภาพเดิม ไฟทุกดวงยังกระพริบเหมือนเดิม ปูนที่ระเบียงยังเว้าแหว่งไม่ได้ระดับ ระเบียงมีน้ำขัง ห้องน้ำส่วนเปียกมีน้ำขังและมีกลิ่น บานพับคอมแอร์ตรงระเบียงก็ยังหลุดอยู่เหมือนเดิม ไม่ได้รับการแก้ไข บานจับประตูบิ่นทั้งด้านนอกและในเกิดจากการกระแทก
ในวันที่ 20 ก.พ. 62 ผมจึงได้ส่งจดหมายไปยังบริษัทผ่านทาง CS เพื่อเรียกร้องค่าชดเชยจากการไม่สามารถใช้ประโยชน์จากห้องชุดดังกล่าวได้ และให้ทางเลือกแก่ทางโครงการว่าจะแก้ไขห้องดังกล่าวให้เสร็จสมบูรณ์ หรือจะให้ผมเอาช่างเข้าแก้ไขเอง เพราะมีระบุในสัญญาจะซื้อจะขายว่าผมสามารถนำช่างเข้าซ่อมและเรียกเก็บได้ในกรณีที่ทางโครงการไม่สามารถแก้ไขข้อบกพร่องได้ใน 30 วัน โดยทางโครงการมีหน้าที่เป็นผู้จ่ายค่าซ่อม
จนเมื่อวานนี้คือ 21 มี.ค. 62 ห้องผมก็ยังไม่ได้รับการแก้ไข defect ไฟยังกระพริบตลอดเวลา ทำให้ไม่สามารถเข้าอยู่ได้ ซึ่งในกรณีของหลาดไฟเกิดจากระบบการวางไฟของคอนโด แค่เปลี่ยนหลอดไฟไม่สามารถแก้ไขการกระพริบได้ ทางโครงการเสนอผมว่าจะมอบเงินให้ผม 30,000 บาท เพื่อยอมรับ defect ทั้งหมด (กระเบื้องห้องน้ำบิ่น นำขังที่ห้องน้ำและระเบียง ผนังฉาบปูนไม่เต็มเลื้อยไปมา ไฟกระพริบ ลูกบิดประตูบิ่น เก็บงานไม่เรียบร้อย) แล้วจบเรื่องกันไป หรือจะให้ทางโครงการซ่อมไปเรื่อย ๆ ไม่มีกำหนดเสร็จ
ผมจึงตอบกลับไปว่า 30,000 บาทแค่ซ่อมห้องน้ำยังไม่พอเลย ทางโครงการก็บอกว่าเคสอื่น ๆ ก็ให้เท่านี้เหมือนกัน หรือไม่ก็ให้ซ่อมจนกว่าลูกค้าจะยอมแพ้ไปเอง แต่ก็บอกไม่ได้ว่าจะซ่อมเสร็จเมื่อไหร่ เพราะขนาดกระเบื้องห้องน้ำซ่อมมาปีกว่าแล้วก็ยังไม่เสร็จ
ผมไม่ได้บอกว่าทุกห้องมีปัญหาแบบผมนะครับ หลาย ๆ ชั้นทำงานเรียบร้อยมาก(แต่ละชั้นคนละบริษัทกัน) ผมอาจดวงซวยที่เจอห้องที่ห่วยขนาดนี้ แต่ที่แน่ ๆ คือความรับผิดชอบของทาง CS และบริษัทต่ำมากครับ หากใครคิดจะซื้อรบกวนตรวจสอบห้องดี ๆ ทุกซอกทุกมุม หรือหากใครจะโอนก็อย่ายอมโอนง่าย ๆ แบบผม อย่าไปเชื่อผมปากพล่อย ๆ ของ CS จนกว่าคุณจะได้ไปตรวจหน้างานให้แน่ใจนะครับ ผมเสียดอกเบี้ยธนาคารไปทุกเดือน ๆ แต่ก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะได้เข้าอยู่เมื่อไหร่ หรือทางโครงการจะรับผิดชอบอย่างไร
ส่วนทางนิติก็ปฏิเสธการซ่อม defect ดังกล่าวให้ครับ เนื่องจากเป็น defect ที่พบตั้งแต่ก่อนโอนกรรมสิทธิ์
ตอนนี้ตึก Whizdom Essence ในโครงการ Whizdom 101 กำลังทยอยเข้าตรวจ ก็ขอเป็นกำลังใจให้ลูกบ้านทุกคนผ่านพ้นไปด้วยดี เจอแต่งานคุณภาพดี ๆ นะครับ
หากใครอยากจะเข้าไปดูความชุ่ยของห้องผมสามารถติดต่อมาได้เลยครับ ผมอนุญาต เพราะยังไงสภาพตอนนี้ก็ไม่สามารถเข้าอยู่ได้ครับ ผมฝากกุญแจห้องไว้ที่โครงการ
[CR] รีวิว Whizdom 101 ใครจะซื้อจะโอนคิดดูให้ดี
หลังจากตรวจก็พบข้อบกพร่องหลายจุด เช่นไฟในห้องกระพริบทุกดวง ประตูระเบียงบานพับหลุด สีถลอก ฯลฯ แต่ที่มีปัญหามากที่สุดคือห้องน้ำ กระเบื้องกระเดิดเยอะมาก และเมื่อเคาะจะพบว่าฉาบปูนไม่เต็ม กระเบื้องห้องน้ำต้องรื้อออกใหม่ทั้งหมด และเมื่อเปิดฝ้าห้องน้ำดูพบอุปกรณ์เสพยาที่ช่างโครงการทิ้งไว้ เรื่องนี้เจ้าหน้าที่โครงการก็อยู่ด้วยขณะพบอุปกรณ์ดังกล่าว
ผมได้แจ้งแก้ไขข้อบกพร่องที่หน้างานไป และส่งเอกสาร defect ให้ทาง CS จากนั้น 1 เดือนต่อมาผมก็ได้เข้าตรวจห้องครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 23 มี.ค. 61 พบว่ากระเบื้องห้องน้ำยังไม่ได้รับการแก้ไข defect ใหญ่ ๆ ทั้งหมดยังไม่ได้รับการแก้ไข และเพิ่งสังเกตเห็นว่าปูนที่ฉาบหนังกำแพงตรงบริเวณระเบียงเว้าแหว่ง ฉาบไว้ไม่เต็ม
ผมจึงได้แจ้งให้ช่างโครงการที่เข้าร่วมตรวจแก้ไข และส่งเอกสารข้อบกพร่องให้ทาง CS ในวันต่อมา แต่หลังจากการตรวจดังกล่าวผมก็โดนทาง CS ข่มขู่ตลอดเวลาว่าจะตัดสิทธิโปรโมชั่นผมหากผมไม่รีบโอนห้อง ทั้ง ๆ ที่ห้องดังกล่าวยังไม่ได้รับการแก้ไขใดๆ ผมจึงนัดตรวจห้องครั้งที่ 3 วันที่ 10 พ.ค. 61 ซึ่งทาง CS ได้ confirm ว่า defect ทุกอย่างได้รับการแก้ไขหมดแล้ว
แต่เมื่อถึงเช้าวันที่ 10 พ.ค. 61 ทาง CS ได้โทรมาแจ้งว่าห้องยังแก้ไขไม่เรียบร้อย ขอเลื่อนการตรวจไปก่อน ผมแจ้งไปว่าผมขอเข้าตรวจเท่าที่ตรวจได้ก่อน แต่ทาง CS ยืนยันว่าไม่สามารถให้เข้าตรวจห้องดังกล่าวได้ แล้วที่ผมโดนข่มขู่ว่าให้รีบโอนนี่คืออะไร?
หลังจากนั้นทาง CS ก็เงียบหายไป ไม่ติดต่อผมกลับมาอีกเลย แม้จะเลยวันกำหนดโอนกรรมสิทธิ์ไปแล้วก็ตาม จนผมแวะเข้าไปดูเมื่อวันที่ 4 ก.ย 61 (แวะไปดูเฉย ๆ ไม่ได้นัดตรวจเป็นทางการ) ก็ช็อคมากครับ กระเบื้องห้องน้ำก็ยังไม่เรียบร้อยเหมือนเดิม ไร้ยาแนว และมีการรื้อฝ้าในห้องนอนผมออกมา เมื่อถามเจ้าหน้าที่ว่าเหตุใดต้องรื้อฝ้าผมออกมา ก็ไม่สามารถตอบคำถามได้ จนสุดท้ายผมไล่บี้จึงได้คำตอบว่ามีน้ำรั่วซึ่ม ยังไม่ทันอยู่ก็น้ำรั่วซะแล้ว
ล่วงเลยมาจนกระทั่งเดือน ธ.ค. ผมจึงตามเรื่องไปยัง CS ว่าห้องผมซ่อมแซมเสร็จเรียบร้อยดีหรือยัง และได้เข้าตรวจวันที่ 14 ธ.ค. 61 พบว่าห้องยังแก้ไขไม่เรียบร้อยหลายจุด ไฟในห้องยังกระพริบตลอดเวลายังให้คำตอบไม่ได้ว่าเกิดจากสาเหตุใด บริเวณใต้ราวกั้นระเบียงและกันสาดปูนที่ยื่นออกไปมีน้ำขัง ยังเห็นเป็นคราบน้ำอยู่จากการฉาบปูนที่ไม่ได้ระดับ และผนังระเบียงยังเว้าแหว่งอยู่
1 สัปดาห์ต่อมาทาง CS แจ้งว่าห้องแก้ไข defect ทั้งหมดแล้ว อยากให้ผมรีบโอนเพื่อจะยังรักษา promotion ฟรีค่าส่วนกลาง 2 ปีอยู่ ในช่วงนั้นเป็นช่วงสิ้นปีผมงานยุ่งมาก ไม่สามารถไปตรวจห้องได้ ถึงได้ถามย้ำไปหลายครั้งว่าแก้ไขทุกรายการแล้วใช่ไหม ทาง CS ยืนยันว่าได้แก้ไขข้อบกพร่องทุกรายการแล้ว ผมจึงโอนห้องชุดดังกล่าวไปเมื่อวันที่ 27 ธ.ค. 61
แต่หลังจากนั้นผมนัดรับกุญแจห้อง แต่ทาง CS แจ้งว่าขอให้ฝากกุญแจไว้ก่อน เนื่องจากยังไม่ได้แก้ไข defect ที่ผมได้แจ้งไปในเอกสารครั้งก่อน งงไหมครับ? หลอกผมให้โอนห้อง บอกว่าห้องเรียบร้อยแล้ว แต่พอผมจะรับกุญแกห้องกลับบอกว่ายังไม่ได้แก้ไข
ผมจึงแจ้งแก่ทาง CS ว่าผมให้เวลาในการแก้ไขให้เสร็จสิ้นก่อนวันที่ 15 ก.พ. 62 และนัดตรวจห้องในวันที่ 19 ก.พ. 62
เมื่อเข้าตรวจก็ยังพบว่าห้องยังอยู่ในสภาพเดิม ไฟทุกดวงยังกระพริบเหมือนเดิม ปูนที่ระเบียงยังเว้าแหว่งไม่ได้ระดับ ระเบียงมีน้ำขัง ห้องน้ำส่วนเปียกมีน้ำขังและมีกลิ่น บานพับคอมแอร์ตรงระเบียงก็ยังหลุดอยู่เหมือนเดิม ไม่ได้รับการแก้ไข บานจับประตูบิ่นทั้งด้านนอกและในเกิดจากการกระแทก
ในวันที่ 20 ก.พ. 62 ผมจึงได้ส่งจดหมายไปยังบริษัทผ่านทาง CS เพื่อเรียกร้องค่าชดเชยจากการไม่สามารถใช้ประโยชน์จากห้องชุดดังกล่าวได้ และให้ทางเลือกแก่ทางโครงการว่าจะแก้ไขห้องดังกล่าวให้เสร็จสมบูรณ์ หรือจะให้ผมเอาช่างเข้าแก้ไขเอง เพราะมีระบุในสัญญาจะซื้อจะขายว่าผมสามารถนำช่างเข้าซ่อมและเรียกเก็บได้ในกรณีที่ทางโครงการไม่สามารถแก้ไขข้อบกพร่องได้ใน 30 วัน โดยทางโครงการมีหน้าที่เป็นผู้จ่ายค่าซ่อม
จนเมื่อวานนี้คือ 21 มี.ค. 62 ห้องผมก็ยังไม่ได้รับการแก้ไข defect ไฟยังกระพริบตลอดเวลา ทำให้ไม่สามารถเข้าอยู่ได้ ซึ่งในกรณีของหลาดไฟเกิดจากระบบการวางไฟของคอนโด แค่เปลี่ยนหลอดไฟไม่สามารถแก้ไขการกระพริบได้ ทางโครงการเสนอผมว่าจะมอบเงินให้ผม 30,000 บาท เพื่อยอมรับ defect ทั้งหมด (กระเบื้องห้องน้ำบิ่น นำขังที่ห้องน้ำและระเบียง ผนังฉาบปูนไม่เต็มเลื้อยไปมา ไฟกระพริบ ลูกบิดประตูบิ่น เก็บงานไม่เรียบร้อย) แล้วจบเรื่องกันไป หรือจะให้ทางโครงการซ่อมไปเรื่อย ๆ ไม่มีกำหนดเสร็จ
ผมจึงตอบกลับไปว่า 30,000 บาทแค่ซ่อมห้องน้ำยังไม่พอเลย ทางโครงการก็บอกว่าเคสอื่น ๆ ก็ให้เท่านี้เหมือนกัน หรือไม่ก็ให้ซ่อมจนกว่าลูกค้าจะยอมแพ้ไปเอง แต่ก็บอกไม่ได้ว่าจะซ่อมเสร็จเมื่อไหร่ เพราะขนาดกระเบื้องห้องน้ำซ่อมมาปีกว่าแล้วก็ยังไม่เสร็จ
ผมไม่ได้บอกว่าทุกห้องมีปัญหาแบบผมนะครับ หลาย ๆ ชั้นทำงานเรียบร้อยมาก(แต่ละชั้นคนละบริษัทกัน) ผมอาจดวงซวยที่เจอห้องที่ห่วยขนาดนี้ แต่ที่แน่ ๆ คือความรับผิดชอบของทาง CS และบริษัทต่ำมากครับ หากใครคิดจะซื้อรบกวนตรวจสอบห้องดี ๆ ทุกซอกทุกมุม หรือหากใครจะโอนก็อย่ายอมโอนง่าย ๆ แบบผม อย่าไปเชื่อผมปากพล่อย ๆ ของ CS จนกว่าคุณจะได้ไปตรวจหน้างานให้แน่ใจนะครับ ผมเสียดอกเบี้ยธนาคารไปทุกเดือน ๆ แต่ก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะได้เข้าอยู่เมื่อไหร่ หรือทางโครงการจะรับผิดชอบอย่างไร
ส่วนทางนิติก็ปฏิเสธการซ่อม defect ดังกล่าวให้ครับ เนื่องจากเป็น defect ที่พบตั้งแต่ก่อนโอนกรรมสิทธิ์
ตอนนี้ตึก Whizdom Essence ในโครงการ Whizdom 101 กำลังทยอยเข้าตรวจ ก็ขอเป็นกำลังใจให้ลูกบ้านทุกคนผ่านพ้นไปด้วยดี เจอแต่งานคุณภาพดี ๆ นะครับ
หากใครอยากจะเข้าไปดูความชุ่ยของห้องผมสามารถติดต่อมาได้เลยครับ ผมอนุญาต เพราะยังไงสภาพตอนนี้ก็ไม่สามารถเข้าอยู่ได้ครับ ผมฝากกุญแจห้องไว้ที่โครงการ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น