MSN บันเทิง
กับหนังสารคดี REAL ME : BNK48 ที่ทำอยู่เป็นอย่างไรบ้าง?
“ก็ถ่ายกันตั้งแต่ปีที่แล้ว เหลืออีก 2 คิวก็จะปิดกล้องแล้ว”
ทำรุ่น 1 หรือรุ่น 2 ?
“รวมกันค่ะ เป็นการเล่าเรื่องของน้องรุ่น 1 และรุ่น 2 รวมกัน ก็น่าจะได้ชมประมาณช่วงเดือนกันยายนค่ะ”
ยากหรือง่ายยังไง เพราะก่อนหน้านี้ก็มี เต๋อ นวพล ทำภาค 1 ไปแล้ว?
“เอ่อ ยากไหม มันอาจจะด้วยตัวคอนเทนต์ที่มันป๊อปมาก แล้วก็คือเริ่มต้นก็ต้องบอกตรงๆว่าเราก็ไม่ได้รู้เลย ไม่รู้จักว่าวงอะไร เราก็ต้องเริ่มจากทำความรู้จัก ก็ทุกวันต้องฟังเพลงทุกเพลง ตอนนี้ร้องได้แล้ว(หัวเราะ) แล้วก็ดูไอจีน้องทุกวัน ว่าเขาทำอะไร แล้วก็ดูหนังของเต๋อก่อน ว่าเขาเล่าเรื่องอะไร แล้วพอเราทำเรื่องถัดมาเราจะเล่ามุมไหน ทีนี้เรื่องแรกเขาเพิ่งทำไปปีหนึ่ง เราก็เลยคุยกับทางต้นสังกัดว่าเรื่องนี้มันน่าจะเพิ่มเส้นเรื่องที่มันมีความเป็นฟีเจอร์เข้าไปมากขึ้น มันก็จะมีเส้นเรื่อง แล้วก็จะมีสิ่งที่น้องทำในชีวิตประจำวันจริงๆ แล้วก็สิ่งที่เราไม่เคยเห็นน้อง”
แสดงว่าจะแตกต่างจากภาคแรก BNK48 : Girl Don’t Cry แน่ๆ?
“มันจะเป็นคนละแบบเลยค่ะ เพราะว่าผู้กำกับคนละอยู่แล้ว พอ Real me จะเล่าถึงน้องรุ่นที่ 1 รุ่นที่ 2 มันก็มีแง่มุมที่น่าสนใจอยู่ค่ะ แล้วส่วนตัวเราก็รู้สึกว่าแบบ ตอนแรกก็คิดหนักเหมือนกัน ว่าจะทำดีไหม เพราะเราไม่รู้จัก แต่พอเรารู้สึกว่าน้องเป็นเด็กผู้หญิง เราอยากเล่าเรื่องเด็กผู้หญิงกลุ่มหนึ่ง ที่เขามีความฝัน จริงๆมันเป็นเรื่องที่ยากค่ะ แล้วก็ค่อนข้างกดดัน แต่ว่าความยากและความกดดันที่เขาเจอ มันทำให้เขาค้นพบตัวเองและใจตัวเองมากขึ้น ก็เล่าเยอะไม่ได้(หัวเราะ)”
เรากดดันแค่ไหน บรรดาโอตะจะคาดหวังอยากจะเห็นมาก ว่าเป็นอย่างไร?
“คือหนังมันจะต่างจากรายการทีวี ที่ว่ามันจะมีประเด็นของมัน ที่มันจะพูด แล้วเราก็ตองไม่ได้จริงๆ ว่าเราจะเห็นใครเยอะใครน้อย แต่ว่าเราเล่าเรื่องทุกคน แต่ทีนี้มันอยู่ที่ว่า ใครต่างหาก ที่จะทำให้เราตามเรื่องของเขา ทุกวันก็จะต้องคุยกันในกองถ่าย ว่าเราขาดน้องคนไหนหรือเปล่า ต้องท่องชื่อให้ได้ สมมติคนนี้ไม่มาวันนี้ อีกวันหนึ่งเราก็ต้องเจาะอีกคนเป็นพิเศษ เราก็พยายามจะเล่าเรื่องทุกคน แต่ว่าน้อง 51 คนค่ะ จริงๆ เราไม่ได้โฟกัสที่ตัวบุคคล แต่โฟกัสที่คำว่า BNK อยากให้คนที่ไม่รู้จักเลยเข้าใจ จริงๆก็อย่างซัพพอร์ตนะคะ เพราะว่าเขาเป็นเด็กผู้หญิง เราก็เป็นผู้หญิง แล้วเราเห็นผู้หญิงลุกขึ้นมาทำอะไรที่ตัวเองอยากทำ เราก็รู้สึกว่ามันมีอะไรที่น่าสนใจ”
คนบอกว่าเราท้าทายกว่าพี่เต๋อตรงที่ต้องเจอทั้งรุ่น 1 รุ่น 2 ?
“ยากเหมือนกันค่ะ แล้วอายุก็ห่างมากด้วย คือทุกวันต้องไปอ่าน ไปฟังเพลง คือเราอยากทำให้หนังเรื่องนี้ คนเข้าใจมากขึ้นว่าไอดอลคืออะไร ทำไมมันถึงเกิดคัลเจอร์นี้ขึ้น ก็พยายามไปให้ลึก ไปถ่ายที่ญี่ปุ่นด้วย พยายามเล่าเรื่องว่าจุดกำเนิด นี่โดสปอยหนังแล้วนะ (หัวเราะ) ตอนนี้เหลือถ่าย 2 คิว”
ที่มา : ไลน์@ข่าวสดบันเทิง
อ่านบทสัมภาษณ์เต็มๆได้ที่
https://www.msn.com/th-th/entertainment/celebrity/โดนัท-มนัสนันท์-เผยข่าวดี-สารคดี-bnk48-ใกล้เสร็จ-เรื่องความรัก-เข้าใจกันมากขึ้น/ar-BBV3JEa?ocid=spartandhp
อัพเดท REAL ME : BNK48 - โดนัท-มนัสนันท์ เผยข่าวดี สารคดี BNK48 ใกล้เสร็จ
กับหนังสารคดี REAL ME : BNK48 ที่ทำอยู่เป็นอย่างไรบ้าง?
“ก็ถ่ายกันตั้งแต่ปีที่แล้ว เหลืออีก 2 คิวก็จะปิดกล้องแล้ว”
ทำรุ่น 1 หรือรุ่น 2 ?
“รวมกันค่ะ เป็นการเล่าเรื่องของน้องรุ่น 1 และรุ่น 2 รวมกัน ก็น่าจะได้ชมประมาณช่วงเดือนกันยายนค่ะ”
ยากหรือง่ายยังไง เพราะก่อนหน้านี้ก็มี เต๋อ นวพล ทำภาค 1 ไปแล้ว?
“เอ่อ ยากไหม มันอาจจะด้วยตัวคอนเทนต์ที่มันป๊อปมาก แล้วก็คือเริ่มต้นก็ต้องบอกตรงๆว่าเราก็ไม่ได้รู้เลย ไม่รู้จักว่าวงอะไร เราก็ต้องเริ่มจากทำความรู้จัก ก็ทุกวันต้องฟังเพลงทุกเพลง ตอนนี้ร้องได้แล้ว(หัวเราะ) แล้วก็ดูไอจีน้องทุกวัน ว่าเขาทำอะไร แล้วก็ดูหนังของเต๋อก่อน ว่าเขาเล่าเรื่องอะไร แล้วพอเราทำเรื่องถัดมาเราจะเล่ามุมไหน ทีนี้เรื่องแรกเขาเพิ่งทำไปปีหนึ่ง เราก็เลยคุยกับทางต้นสังกัดว่าเรื่องนี้มันน่าจะเพิ่มเส้นเรื่องที่มันมีความเป็นฟีเจอร์เข้าไปมากขึ้น มันก็จะมีเส้นเรื่อง แล้วก็จะมีสิ่งที่น้องทำในชีวิตประจำวันจริงๆ แล้วก็สิ่งที่เราไม่เคยเห็นน้อง”
แสดงว่าจะแตกต่างจากภาคแรก BNK48 : Girl Don’t Cry แน่ๆ?
“มันจะเป็นคนละแบบเลยค่ะ เพราะว่าผู้กำกับคนละอยู่แล้ว พอ Real me จะเล่าถึงน้องรุ่นที่ 1 รุ่นที่ 2 มันก็มีแง่มุมที่น่าสนใจอยู่ค่ะ แล้วส่วนตัวเราก็รู้สึกว่าแบบ ตอนแรกก็คิดหนักเหมือนกัน ว่าจะทำดีไหม เพราะเราไม่รู้จัก แต่พอเรารู้สึกว่าน้องเป็นเด็กผู้หญิง เราอยากเล่าเรื่องเด็กผู้หญิงกลุ่มหนึ่ง ที่เขามีความฝัน จริงๆมันเป็นเรื่องที่ยากค่ะ แล้วก็ค่อนข้างกดดัน แต่ว่าความยากและความกดดันที่เขาเจอ มันทำให้เขาค้นพบตัวเองและใจตัวเองมากขึ้น ก็เล่าเยอะไม่ได้(หัวเราะ)”
เรากดดันแค่ไหน บรรดาโอตะจะคาดหวังอยากจะเห็นมาก ว่าเป็นอย่างไร?
“คือหนังมันจะต่างจากรายการทีวี ที่ว่ามันจะมีประเด็นของมัน ที่มันจะพูด แล้วเราก็ตองไม่ได้จริงๆ ว่าเราจะเห็นใครเยอะใครน้อย แต่ว่าเราเล่าเรื่องทุกคน แต่ทีนี้มันอยู่ที่ว่า ใครต่างหาก ที่จะทำให้เราตามเรื่องของเขา ทุกวันก็จะต้องคุยกันในกองถ่าย ว่าเราขาดน้องคนไหนหรือเปล่า ต้องท่องชื่อให้ได้ สมมติคนนี้ไม่มาวันนี้ อีกวันหนึ่งเราก็ต้องเจาะอีกคนเป็นพิเศษ เราก็พยายามจะเล่าเรื่องทุกคน แต่ว่าน้อง 51 คนค่ะ จริงๆ เราไม่ได้โฟกัสที่ตัวบุคคล แต่โฟกัสที่คำว่า BNK อยากให้คนที่ไม่รู้จักเลยเข้าใจ จริงๆก็อย่างซัพพอร์ตนะคะ เพราะว่าเขาเป็นเด็กผู้หญิง เราก็เป็นผู้หญิง แล้วเราเห็นผู้หญิงลุกขึ้นมาทำอะไรที่ตัวเองอยากทำ เราก็รู้สึกว่ามันมีอะไรที่น่าสนใจ”
คนบอกว่าเราท้าทายกว่าพี่เต๋อตรงที่ต้องเจอทั้งรุ่น 1 รุ่น 2 ?
“ยากเหมือนกันค่ะ แล้วอายุก็ห่างมากด้วย คือทุกวันต้องไปอ่าน ไปฟังเพลง คือเราอยากทำให้หนังเรื่องนี้ คนเข้าใจมากขึ้นว่าไอดอลคืออะไร ทำไมมันถึงเกิดคัลเจอร์นี้ขึ้น ก็พยายามไปให้ลึก ไปถ่ายที่ญี่ปุ่นด้วย พยายามเล่าเรื่องว่าจุดกำเนิด นี่โดสปอยหนังแล้วนะ (หัวเราะ) ตอนนี้เหลือถ่าย 2 คิว”
ที่มา : ไลน์@ข่าวสดบันเทิง
อ่านบทสัมภาษณ์เต็มๆได้ที่
https://www.msn.com/th-th/entertainment/celebrity/โดนัท-มนัสนันท์-เผยข่าวดี-สารคดี-bnk48-ใกล้เสร็จ-เรื่องความรัก-เข้าใจกันมากขึ้น/ar-BBV3JEa?ocid=spartandhp