สวัสดีครับ ชาว Pantip มาต่อจากกระทู้แรกกันครับ หลังจากที่บินมาถึง Sao Paulo แล้วผ่านไปคืนแรก วันต่อมาผมจะต้องบินไปยังเมือง Sao Luis ซึ่งเป็นเมืองตั้งต้นสำหรับการเดินทางไปสู่อุทยานแห่งชาติ Lencois Maranhenses ครับ ฝากรีวิวแรกด้วยครับ
ตะลุยแดนแซมบ้า (Brazil) Part I : เดินทางสู่ประเทศบราซิล (by Turkish Airlines) และคืนแรกใน Sao Paulo
https://ppantip.com/topic/38680288
ตะลุยแดนแซมบ้า (Brazil) Part III : อุทยานแห่งชาติ Lencois Maranhenses “ทะเลทรายชุ่มน้ำแห่งเดียวในโลก”
https://ppantip.com/topic/38686857
ตะลุยแดนแซมบ้า (Brazil) Part IV : มหานคร Sao Paulo “มหานครนิวยอร์คแห่งอเมริกาใต้”
https://ppantip.com/topic/38687022
หลังจากเช็คเอาท์โรงแรมคืนแรกที่เซาเปาโลแล้ว ผมก็เดินทางมายังสนามบิน GRU อีกเพื่อเดินทางไปยังเมือง Sao Luis โดยจากโพสต์ที่แล้วผมยังหาซิมการ์ดไม่ได้ จึงต้องมาเสี่ยงดวงอีกรอบที่สนามบินเพราะถ้าบินไปที่อื่นต่อคงหายากแล้วเพราะไม่ใช่เมืองใหญ่เหมือน Sao Paulo และถึงแม้หลายคนจะบอกว่ามันไม่มีแต่สุดท้ายผมหาซิมได้ครับ
แน่นอนมันไม่ได้หาง่าย เพราะไม่มี shop เครือข่ายมือถือแบบ official ในสนามบิน แล้วเราเป็นคนต่างชาติลงทะเบียนเองไม่ได้อีก ผมได้ลองเดินถามไปทั่วร้านขายยาบ้าง ร้ายขายของที่ระลึกบ้าง จนไปถามร้านขายอุปกรณ์มือถือร้านนึงในสนามบิน พนักงานร้านเป็นน้องผู้หญิงจะช่วยผมหาซิมและลงทะเบียนให้ แต่นางเรียกเงินผม 100R$ จ้าาาา นางพูดภาษาอังกฤษแทบไม่ได้แต่นางใช้ google translate พยายามสื่อสารกับผม ผมก็ต้องยอมเพราะไม่มีวิธีอื่น แล้วผมก็จนปัญญาแล้วถ้าไปถึง Sao Luis คงไม่มีแน่นอน สุดท้ายก็ได้ซิมของ Vivo มาโดยนางจัดการให้โดยนางใส่เลข CPF ของนางเองลงทะเบียนให้จนเล่นเนตได้ซะที (แต่ก็คือเสีย 100 R$ ทั้งที่ซิมราคาแค่ 10 R$ แถมได้เนตมาแค่ 2 Gbs เท่านั้น หึหึ ก็ช่างแม่ม กูรวยๆท่องไว้ ปัญหาทุกอย่างแก้ไขได้ด้วยเงินๆๆๆๆ555) ทีนี้คือก็คิดว่าเนตตัวเองคงไม่มากพอถึงวันกลับแน่นอน แต่ก็มีเนตใช้แล้ว เอาตัวรอดไปก่อนตอนนี้ 555
ขามาจากเมืองไทยผมบินลงที่ Terminal 3 แต่วันนี้จะบินภายในประเทศไปอีกเมืองนึงต้องมาที่ Terminal 2 ครับ เอาภาพบรรยากาศสนามบิน GRU Terminal 2 ซึ่งเป็น Domestic มาให้ชมครับ
การเดินทางจาก Sao Paulo ไป Sao Luis ผมใช้บริการสายการบิน LATAM Airlines โดยสายการบินนี้เป็นสายการบินใหญ่ที่มีเครือข่ายร่วมกันในภูมิภาคลาตินอเมริกา โดยแบ่งเป็นสายการบินย่อยๆคือ LATAM Peru, Brazil, Argentina, Chile, Paraguay, Ecaudor, Colombia รูปนี้คือ Counter สำหรับ bag drop ครับ ส่วนเช็คอินผมทำออนไลน์มาแล้ว ต้องมาปริ๊นท์ Boarding pass กับ Tag กระเป๋าผ่านเครื่อง Kiosk ที่เรียงๆอยู่ในสนามบินครับ
ผมเดินทางโดยสายการบิน LATAM Brazil รูทเป็นเครื่อง Airbus A321 ลำเล็ก ใช้เวลาบิน 3 ชั่วโมงครึ่ง เป็นชั้นประหยัด ซึ่งทั้งเคบินมีแต่ชั้นประหยัด ไม่มีชั้นธุรกิจเลยครับ โชคดีที่ผมมีบัตร Priority pass จึงสามารถใช้เข้า Lounge ของสายการบิน GOL เป็นสายการบินนึงของบราซิลได้ครับ (จริงๆมานึกออกทีหลังว่าเข้า Lounge ของ LATAM ก็ได้นี่หว่าเพราะเป็นสมาชิกสายการบิน one world ระดับ sapphire อยู่ครับ)
ภาพบรรยากาศเครื่อง A321 ครับ เก้าอี้ไม่มีจอ display หน้าที่นั่ง เก้าอี้แบบเสียตังค์จะดีกว่าตรงที่มีช่อง usb เพิ่มมาแค่นั้น โดยในรูทมีเสิร์ฟน้ำอย่างเดียว แต่มีอาหารขายแบบเสียตังค์ หนังสือหน้าที่นั่ง ใบสาธิตความปลอดภัย รวมถึงประกาศบนเครื่องไม่มีภาษาอังกฤษเลยจ้า!!!
LATAM Airlines เป็น Full service ก็จริงแต่รูทในประเทศเสิร์ฟแต่น้ำเปล่าครับ ถ้าหิวมีอาหารขาย ผมเลยซื้อแซนวิชมาลองทานดู ราคา 20 เรียล (ราวๆ 180 บาท) ง่อยมากกก ขนมปังไม่อร่อย มีชีสกับแฮมบางๆซึ่งต้องกัดเข้าไปลึกๆถึงจะเจอ 555
ประเทศบราซิลเป็นประเทศใหญ่นะครับ ขนาดบินในประเทศยังใช้เวลา 3 ชั่วโมงครึ่ง (พอๆกับกรุงเทพ-ไทเป เลยทีเดียว) ตอนนี้ก็บินมาถึงเมือง Sao Luis แล้วครับ อยู่ภาคเหนือของบราซิลครับ
หลังจากลงเครื่อง ก็มีเต้น carnival ต้อนรับนักท่องเที่ยวตรงสายพานรับกระเป๋าด้วย
สนามบินเมือง Sao Luis มีชื่อเต็มว่าท่าอากาศยาน Marechal Cunha Machado International Airport ชื่อเป็นนานาชาติก็จริง แต่สนามบินก็ราวๆ สนามบิน ตจว บ้านเรา มี 3-4 เกต สายพานรับกระเป๋า 2 จุด เอาภาพในสนามบินมาให้ชมกันครับ
การเดินทางเข้าเมืองไปโรงแรมก็ใช้บริการแท็กซี่สนามบิน มีเคาเตอร์ taxi ตามรูปเป็นเรตเหมาราคา 65 เรียล (500 กว่าบาท) ระยะทางราวๆ 14 กิโลเมตร จนท ขายตั๋ว taxi ไม่เข้าใจภาษาอังกฤษเลยจ้าาาา กด google translate รัวๆครับ
มารู้จักเมือง Sao Luis กันก่อนครับ เมืองนี้เป็นเมืองหลวงของรัฐ Maranhao (มารันเยา) อยู่ทางภาคเหนือของบราซิล ไกลจากนครเซาเปาโลราวๆ 3,100 กิโลเมตรครับ ประเทศบราซิลเคยเป็นเมืองขึ้นของโปรตุเกสมาก่อนในช่วงล่าอาณานิคมแต่เมือง Sao Luis เป็นเพียงไม่กี่เมืองในบราซิลที่เคยเป็นเขตอาณานิคมของฝรั่งเศสมาก่อน ก่อนจะตกเป็นของโปรตุเกสในช่วงศตวรรษที่ 17 ทำให้แม้สถาปัตยกรรมเมืองนี้จะเป็นสไตล์ Portugese แต่ผังเมืองและระบบถนนเป็น grid style แบบฝรั่งเศสครับ (ข้อมูลจากในเนตนะครับ แต่ผมดูไม่ออกหรอกว่ามันเป็นยังไง 555) ในส่วนของย่าน Historico Centro ของที่นี่จึงได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกของ UNESCO ในปี 1997 อีกด้วยครับ
จุดประสงค์ที่ผมเดินทางมาในเมือง Sao Luis จริงๆไม่ได้ตั้งใจมาเที่ยวเมืองนี้สักเท่าไหร่ครับ แต่เมืองนี้ใกล้ที่สุดที่เราสามารถบินมาลงได้สำหรับการไปอุทยานแห่งชาติ Lencois Maranhenses ซึ่งเป็น Highlight ของทริปนี้ครับ ซึ่งเดี๋ยวผมจะรีวิวใน Part III ต่อจากอันนี้นะครับ สิ่งหนึ่งที่ต้องรู้ไว้สำหรับการมาเมืองนี้คือเรื่องของความปลอดภัยครับ เมือง Sao Luis ถูกจัดเป็นเมืองที่ติด 1 ใน 50 เมืองที่อันตรายที่สุดในโลก และยังเป็นเมืองที่มีอาชญากรรมสูงอันดับต้นๆของบราซิลด้วยครับ แค่ฟังก็เริ่มไม่น่าเที่ยวแล้ว 555
ในส่วนของโรงแรมที่ Sao Luis ผมไม่ได้พักในตรงใจกลางเมืองครับ แต่พักในโซนที่ติดทะเล ห่างจากใจกลางเมืองราวๆ 6-7 km ซึ่งรีวิวมาแล้วว่าโซนติดทะเลจะปลอดภัยกว่าโซนใจกลางเมืองพอสมควรครับ โรงแรมนี้ชื่อว่า Praiabella Hotel ครับ เอาภาพบรรยากาศโรงแรมมาให้ชมครับ
ผมมาถึงโรงแรมราวๆ 5 โมงเย็นครับ ซึ่งแน่นอนว่าอีกไม่ถึง 2 ชั่วโมงพระอาทิตย์ก็ตกแล้วครับ ผมจึงไม่สมควรออกไปไหนไกลแล้วครับ เลยวางแผนว่าเย็นนี้ก็เที่ยวแถวโซนชายหาดแทนครับ ซึ่งโซนชายหาดก็จะมี Landmark ของ Sao Luis ที่สำคัญก็คืออนุสาวรีย์ชาวประมงครับ (Monumento ao Pescador) ห่างจากโรงแรมเลียบชายหาดไปราวๆ 3 กิโลกว่าๆครับ เลยตัดสินใจเรียกอูเบอร์ไปครับ ค่าอูเบอร์ราวๆ 10 เรียลเองครับ (ราวๆ 90 บาท) หน้าตาประมาณนี้ครับ
นั่งกินลมทะเลสักพักนึง ดูลาดเลาแถวนี้สักพักนึงก็รู้สึกว่าไม่อันตรายอะไร ขากลับเลยตัดสินใจเดินกลับโรงแรม โดยเดินเลียบชายหาดไปเรื่อยๆครับ บรรยากาศก็จะประมาณนี้
ตามทางก็มีกลุ่มวัยรุ่นบราซิลเล่นบอลชายหาดกันด้วยครับ
มีร้านขายน้ำมะพร้าวริมหาดหลายร้านมากเลยครับ
ถึงโรงแรมก็หิวอาหารเย็นพอดีเลย เลยสั่งอาหารทานในโรงแรมนี่แหละครับ เมนูมีแต่ภาษาโปรตุเกส พนักงานก็พูดอังกฤษไม่ได้ครับ ได้จานนี้มาเป็นลาซานย่าครับ เลี่ยนมาก 555
จบสำหรับวันแรกที่ Sao Luis ครับ วันรุ่งขึ้นผมจะต้องเดินทางไปหมู่บ้าน Barreirinhas ซึ่งเปรียบเสมือนปากทางสู่อุทยานแห่งชาติ Lencois Maranhenses ซึ่งรถ Shuttle Van Transfer ที่ผมจองทางเนตไว้จะมารับตอนเช้า 7 โมงครับ แล้วจะไปอยู่ใน Barreirinhas กับ Lencois Maranhenses 3 วันแล้วถึงนั่งรถกลับมาที่เมืองนี้อีกครั้งเพื่อขึ้นเครื่องบินกลับ Sao Paulo ครับ ซึ่งผมจะขอยกส่วนของ Barreirinhas กับ Lencois Maranhenses ไปเขียนในโพสต่อไปนะครับ ก็จะขอข้ามมาเล่าเรื่องต่อของวันที่กลับเที่ยวเมืองนี้อีกครั้งในอีก 4 วันข้างหน้าครับ
ชื่อสินค้า: Sao Luis, Maranhao, Brazil
[CR] ตะลุยแดนแซมบ้า (Brazil) Part II : เมือง Sao Luis (UNESCO Heritage City)
สวัสดีครับ ชาว Pantip มาต่อจากกระทู้แรกกันครับ หลังจากที่บินมาถึง Sao Paulo แล้วผ่านไปคืนแรก วันต่อมาผมจะต้องบินไปยังเมือง Sao Luis ซึ่งเป็นเมืองตั้งต้นสำหรับการเดินทางไปสู่อุทยานแห่งชาติ Lencois Maranhenses ครับ ฝากรีวิวแรกด้วยครับ
ตะลุยแดนแซมบ้า (Brazil) Part I : เดินทางสู่ประเทศบราซิล (by Turkish Airlines) และคืนแรกใน Sao Paulo
https://ppantip.com/topic/38680288
ตะลุยแดนแซมบ้า (Brazil) Part III : อุทยานแห่งชาติ Lencois Maranhenses “ทะเลทรายชุ่มน้ำแห่งเดียวในโลก”
https://ppantip.com/topic/38686857
ตะลุยแดนแซมบ้า (Brazil) Part IV : มหานคร Sao Paulo “มหานครนิวยอร์คแห่งอเมริกาใต้”
https://ppantip.com/topic/38687022
หลังจากเช็คเอาท์โรงแรมคืนแรกที่เซาเปาโลแล้ว ผมก็เดินทางมายังสนามบิน GRU อีกเพื่อเดินทางไปยังเมือง Sao Luis โดยจากโพสต์ที่แล้วผมยังหาซิมการ์ดไม่ได้ จึงต้องมาเสี่ยงดวงอีกรอบที่สนามบินเพราะถ้าบินไปที่อื่นต่อคงหายากแล้วเพราะไม่ใช่เมืองใหญ่เหมือน Sao Paulo และถึงแม้หลายคนจะบอกว่ามันไม่มีแต่สุดท้ายผมหาซิมได้ครับ
แน่นอนมันไม่ได้หาง่าย เพราะไม่มี shop เครือข่ายมือถือแบบ official ในสนามบิน แล้วเราเป็นคนต่างชาติลงทะเบียนเองไม่ได้อีก ผมได้ลองเดินถามไปทั่วร้านขายยาบ้าง ร้ายขายของที่ระลึกบ้าง จนไปถามร้านขายอุปกรณ์มือถือร้านนึงในสนามบิน พนักงานร้านเป็นน้องผู้หญิงจะช่วยผมหาซิมและลงทะเบียนให้ แต่นางเรียกเงินผม 100R$ จ้าาาา นางพูดภาษาอังกฤษแทบไม่ได้แต่นางใช้ google translate พยายามสื่อสารกับผม ผมก็ต้องยอมเพราะไม่มีวิธีอื่น แล้วผมก็จนปัญญาแล้วถ้าไปถึง Sao Luis คงไม่มีแน่นอน สุดท้ายก็ได้ซิมของ Vivo มาโดยนางจัดการให้โดยนางใส่เลข CPF ของนางเองลงทะเบียนให้จนเล่นเนตได้ซะที (แต่ก็คือเสีย 100 R$ ทั้งที่ซิมราคาแค่ 10 R$ แถมได้เนตมาแค่ 2 Gbs เท่านั้น หึหึ ก็ช่างแม่ม กูรวยๆท่องไว้ ปัญหาทุกอย่างแก้ไขได้ด้วยเงินๆๆๆๆ555) ทีนี้คือก็คิดว่าเนตตัวเองคงไม่มากพอถึงวันกลับแน่นอน แต่ก็มีเนตใช้แล้ว เอาตัวรอดไปก่อนตอนนี้ 555
ขามาจากเมืองไทยผมบินลงที่ Terminal 3 แต่วันนี้จะบินภายในประเทศไปอีกเมืองนึงต้องมาที่ Terminal 2 ครับ เอาภาพบรรยากาศสนามบิน GRU Terminal 2 ซึ่งเป็น Domestic มาให้ชมครับ
การเดินทางจาก Sao Paulo ไป Sao Luis ผมใช้บริการสายการบิน LATAM Airlines โดยสายการบินนี้เป็นสายการบินใหญ่ที่มีเครือข่ายร่วมกันในภูมิภาคลาตินอเมริกา โดยแบ่งเป็นสายการบินย่อยๆคือ LATAM Peru, Brazil, Argentina, Chile, Paraguay, Ecaudor, Colombia รูปนี้คือ Counter สำหรับ bag drop ครับ ส่วนเช็คอินผมทำออนไลน์มาแล้ว ต้องมาปริ๊นท์ Boarding pass กับ Tag กระเป๋าผ่านเครื่อง Kiosk ที่เรียงๆอยู่ในสนามบินครับ
ผมเดินทางโดยสายการบิน LATAM Brazil รูทเป็นเครื่อง Airbus A321 ลำเล็ก ใช้เวลาบิน 3 ชั่วโมงครึ่ง เป็นชั้นประหยัด ซึ่งทั้งเคบินมีแต่ชั้นประหยัด ไม่มีชั้นธุรกิจเลยครับ โชคดีที่ผมมีบัตร Priority pass จึงสามารถใช้เข้า Lounge ของสายการบิน GOL เป็นสายการบินนึงของบราซิลได้ครับ (จริงๆมานึกออกทีหลังว่าเข้า Lounge ของ LATAM ก็ได้นี่หว่าเพราะเป็นสมาชิกสายการบิน one world ระดับ sapphire อยู่ครับ)
ภาพบรรยากาศเครื่อง A321 ครับ เก้าอี้ไม่มีจอ display หน้าที่นั่ง เก้าอี้แบบเสียตังค์จะดีกว่าตรงที่มีช่อง usb เพิ่มมาแค่นั้น โดยในรูทมีเสิร์ฟน้ำอย่างเดียว แต่มีอาหารขายแบบเสียตังค์ หนังสือหน้าที่นั่ง ใบสาธิตความปลอดภัย รวมถึงประกาศบนเครื่องไม่มีภาษาอังกฤษเลยจ้า!!!
LATAM Airlines เป็น Full service ก็จริงแต่รูทในประเทศเสิร์ฟแต่น้ำเปล่าครับ ถ้าหิวมีอาหารขาย ผมเลยซื้อแซนวิชมาลองทานดู ราคา 20 เรียล (ราวๆ 180 บาท) ง่อยมากกก ขนมปังไม่อร่อย มีชีสกับแฮมบางๆซึ่งต้องกัดเข้าไปลึกๆถึงจะเจอ 555
ประเทศบราซิลเป็นประเทศใหญ่นะครับ ขนาดบินในประเทศยังใช้เวลา 3 ชั่วโมงครึ่ง (พอๆกับกรุงเทพ-ไทเป เลยทีเดียว) ตอนนี้ก็บินมาถึงเมือง Sao Luis แล้วครับ อยู่ภาคเหนือของบราซิลครับ
หลังจากลงเครื่อง ก็มีเต้น carnival ต้อนรับนักท่องเที่ยวตรงสายพานรับกระเป๋าด้วย
สนามบินเมือง Sao Luis มีชื่อเต็มว่าท่าอากาศยาน Marechal Cunha Machado International Airport ชื่อเป็นนานาชาติก็จริง แต่สนามบินก็ราวๆ สนามบิน ตจว บ้านเรา มี 3-4 เกต สายพานรับกระเป๋า 2 จุด เอาภาพในสนามบินมาให้ชมกันครับ
การเดินทางเข้าเมืองไปโรงแรมก็ใช้บริการแท็กซี่สนามบิน มีเคาเตอร์ taxi ตามรูปเป็นเรตเหมาราคา 65 เรียล (500 กว่าบาท) ระยะทางราวๆ 14 กิโลเมตร จนท ขายตั๋ว taxi ไม่เข้าใจภาษาอังกฤษเลยจ้าาาา กด google translate รัวๆครับ
มารู้จักเมือง Sao Luis กันก่อนครับ เมืองนี้เป็นเมืองหลวงของรัฐ Maranhao (มารันเยา) อยู่ทางภาคเหนือของบราซิล ไกลจากนครเซาเปาโลราวๆ 3,100 กิโลเมตรครับ ประเทศบราซิลเคยเป็นเมืองขึ้นของโปรตุเกสมาก่อนในช่วงล่าอาณานิคมแต่เมือง Sao Luis เป็นเพียงไม่กี่เมืองในบราซิลที่เคยเป็นเขตอาณานิคมของฝรั่งเศสมาก่อน ก่อนจะตกเป็นของโปรตุเกสในช่วงศตวรรษที่ 17 ทำให้แม้สถาปัตยกรรมเมืองนี้จะเป็นสไตล์ Portugese แต่ผังเมืองและระบบถนนเป็น grid style แบบฝรั่งเศสครับ (ข้อมูลจากในเนตนะครับ แต่ผมดูไม่ออกหรอกว่ามันเป็นยังไง 555) ในส่วนของย่าน Historico Centro ของที่นี่จึงได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกของ UNESCO ในปี 1997 อีกด้วยครับ
จุดประสงค์ที่ผมเดินทางมาในเมือง Sao Luis จริงๆไม่ได้ตั้งใจมาเที่ยวเมืองนี้สักเท่าไหร่ครับ แต่เมืองนี้ใกล้ที่สุดที่เราสามารถบินมาลงได้สำหรับการไปอุทยานแห่งชาติ Lencois Maranhenses ซึ่งเป็น Highlight ของทริปนี้ครับ ซึ่งเดี๋ยวผมจะรีวิวใน Part III ต่อจากอันนี้นะครับ สิ่งหนึ่งที่ต้องรู้ไว้สำหรับการมาเมืองนี้คือเรื่องของความปลอดภัยครับ เมือง Sao Luis ถูกจัดเป็นเมืองที่ติด 1 ใน 50 เมืองที่อันตรายที่สุดในโลก และยังเป็นเมืองที่มีอาชญากรรมสูงอันดับต้นๆของบราซิลด้วยครับ แค่ฟังก็เริ่มไม่น่าเที่ยวแล้ว 555
ในส่วนของโรงแรมที่ Sao Luis ผมไม่ได้พักในตรงใจกลางเมืองครับ แต่พักในโซนที่ติดทะเล ห่างจากใจกลางเมืองราวๆ 6-7 km ซึ่งรีวิวมาแล้วว่าโซนติดทะเลจะปลอดภัยกว่าโซนใจกลางเมืองพอสมควรครับ โรงแรมนี้ชื่อว่า Praiabella Hotel ครับ เอาภาพบรรยากาศโรงแรมมาให้ชมครับ
ผมมาถึงโรงแรมราวๆ 5 โมงเย็นครับ ซึ่งแน่นอนว่าอีกไม่ถึง 2 ชั่วโมงพระอาทิตย์ก็ตกแล้วครับ ผมจึงไม่สมควรออกไปไหนไกลแล้วครับ เลยวางแผนว่าเย็นนี้ก็เที่ยวแถวโซนชายหาดแทนครับ ซึ่งโซนชายหาดก็จะมี Landmark ของ Sao Luis ที่สำคัญก็คืออนุสาวรีย์ชาวประมงครับ (Monumento ao Pescador) ห่างจากโรงแรมเลียบชายหาดไปราวๆ 3 กิโลกว่าๆครับ เลยตัดสินใจเรียกอูเบอร์ไปครับ ค่าอูเบอร์ราวๆ 10 เรียลเองครับ (ราวๆ 90 บาท) หน้าตาประมาณนี้ครับ
นั่งกินลมทะเลสักพักนึง ดูลาดเลาแถวนี้สักพักนึงก็รู้สึกว่าไม่อันตรายอะไร ขากลับเลยตัดสินใจเดินกลับโรงแรม โดยเดินเลียบชายหาดไปเรื่อยๆครับ บรรยากาศก็จะประมาณนี้
ตามทางก็มีกลุ่มวัยรุ่นบราซิลเล่นบอลชายหาดกันด้วยครับ
มีร้านขายน้ำมะพร้าวริมหาดหลายร้านมากเลยครับ
ถึงโรงแรมก็หิวอาหารเย็นพอดีเลย เลยสั่งอาหารทานในโรงแรมนี่แหละครับ เมนูมีแต่ภาษาโปรตุเกส พนักงานก็พูดอังกฤษไม่ได้ครับ ได้จานนี้มาเป็นลาซานย่าครับ เลี่ยนมาก 555
จบสำหรับวันแรกที่ Sao Luis ครับ วันรุ่งขึ้นผมจะต้องเดินทางไปหมู่บ้าน Barreirinhas ซึ่งเปรียบเสมือนปากทางสู่อุทยานแห่งชาติ Lencois Maranhenses ซึ่งรถ Shuttle Van Transfer ที่ผมจองทางเนตไว้จะมารับตอนเช้า 7 โมงครับ แล้วจะไปอยู่ใน Barreirinhas กับ Lencois Maranhenses 3 วันแล้วถึงนั่งรถกลับมาที่เมืองนี้อีกครั้งเพื่อขึ้นเครื่องบินกลับ Sao Paulo ครับ ซึ่งผมจะขอยกส่วนของ Barreirinhas กับ Lencois Maranhenses ไปเขียนในโพสต่อไปนะครับ ก็จะขอข้ามมาเล่าเรื่องต่อของวันที่กลับเที่ยวเมืองนี้อีกครั้งในอีก 4 วันข้างหน้าครับ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น