เกาะนาวโอพี และหัวใจมรกต   เขียนรีวิวไว้จะได้ไม่ลืมรายละเอียด ไว้กลับมาอ่านตอนคิดถึง
จุดเริ่มต้นเริ่มจากความชอบล้วนๆ เกาะนาวโอพีอยากไปนานหลายปีแล้ว เจอในรีวิวสวยมาก แต่ยังไม่มีโอกาส ส่วนหัวใจมรกต รู้จักและเห็นครั้งแรกตอนนักข่าวช่อง 7 ไปในช่วงอนุวัติจัดให้ เห็นแล้วแบบอื้มต้องไปบ้าง แต่ตอนนั้นดูตั๋วเครื่องบินแล้วแพงมากๆ เนื่องจากมีแค่นกแอร์สายการบินเดียว ต่อมาเมื่อปลายปี 60 แอร์เอเชียเปิดเส้นทางระนอง ในใจนี่แบบบบ ได้ไปแล้วเว้ยย คือตอนนั้นคิดว่าระนองไกลมาก ถ้านั่งรถทัวร์คงเหนื่อย 555  แต่ก็ยังไม่ได้ไปในทันที เริ่มจากวางแผนการเดินทางต่างๆ ค่าใช้จ่าย ช่วงที่ทะเลสวย ระหว่างนั้นก็เริ่มเก็บเงินมาเรื่อยๆ เดือนละ 1,000 บาท 2 คนกับผู้ชายอ้วนๆ  เราโดยหาข้อมูลในอากู๋ก็มีหลายบริษัท เราอ่านเปรียบเทียบโปรแกรมหลายๆที่ และรีวิวการใช้บริการของแต่ละที่ มาลงตัวที่ นาวโอพี ไปกับ เลิฟอันดามัน หัวใจมรกต ไปกับแกรนด์ทราเวล (2 บ. นี้มีทัวไปทั้งนาวโอพีและหัวใจมรกต) ตอนแรกจะใช้บริการของเลิฟทั้ง 2 ทริป แต่หัวใจมรกต เลิฟไม่มีบุฟเฟ่อาหารเย็นที่ โรงแรมแกรนด์อันดามัน ทั้งที่ราคาเท่ากัน ที่เลือกแกรนด์เพราะชื่อบริษัทชื่อเดียวกับชื่อ รร. น่าจะในเครือเดียวกัน และอ่านรีวิวของทัวอื่นๆ เหมือนกับว่ารับลูกค้ามาก็ส่งให้แกรนด์อยู่ดี  จนถึงช่วงที่มีงาน ททท. (1 ก.ย.61) ก็ทำการจองทัวร์นาวโอพี ราคา 3500 บาท/คน (ปกติ 3,900)  หัวใจมรกตก็ 3,500 บาท/คน (ปกติ 3,900) มัดจำไว้หัวละ 1,000 / คน  (ไม่ระบุวันเดินทาง) ทั้ง 2 ทัว จ่ายเงินไป 4,000 บาท จองทางไลน์นะคะ ไม่ได้ไปที่งานเอง เพราะอยู่ตจว.นั่งรถไปก็เสียค่าใช้จ่าย ไม่คุ้มกับส่วนลดแค่นี้ 555  ตอนแรกเซลของแกรนด์บอกว่าราคานี้ในงานเท่านั้น เราเลยบอกว่างั้นไม่เป็นไร คงได้ของบ.อื่น สุดท้ายก็อินบ็อคมาบอกว่าได้ค่ะ  ต่อไปก็รอโปรโมชั่นจากสายการบิน ได้ขาไป 13 มี.ค.62 ราคา 1,055 /2คน ขากลับ16 มี.ค.62 ราคา 2,055 บาท/2คน ประมาณกลางเดือน ก.พ.62 ก็ได้โอนเงินค่าทัวที่เหลือ พร้อมถ่ายรูปส่งบัตรประชาชนด้านหน้า ด้านหลัง ไปให้ทั้ง 2 บริษัท  พร้อมจองที่พัก 3 คืน ที่สมาย บูทิค โฮเทล เราเลือกที่พักหน้าบ่อน้ำพุร้อนรักษะวาริน ไม่พักในโซนกลางเมือง เพราะจะได้ไปเที่ยวบ่อน้ำพุร้อนได้ง่ายๆ ไม่ต้องเช่ารถหรือนั่งรถโดยสารให้เปลือง
13 มีนาคม 2562   เดินทางถึงสนามบินระนองอย่างปลอดภัย อากาศปลอดโปร่ง ไม่มีฝน  พอถึงสนามบินได้ศึกษามาแล้วว่าปัจจุบันมีรถโดยสารประจำทาง ที่จะมารอรับเฉพาะเวลาที่จะมีเที่ยวบินลงเท่านั้น เลยเดินออกมาส่องหน้าสนามบิน เห็นรถจอดอยู่หน้าประตูฝั่งตรงข้ามเลย  แต่เพื่อความมั่นใจแอบถามเจ้าหน้าที่ที่ยืนอยู่ข้างหน้าว่าคันนี้เข้าเมืองมั้ยคะ ขึ้นเลยหรือซื้อตั๋วก่อน จนท.บอกขึ้นได้เลยครับ ขึ้นรถเป็นคนแรกเลย นึกว่าจะไม่ค่อยมีคนมาขึ้น ปรากฎว่าไม่นานเริ่มมีนักท่องเที่ยวมาขึ้นจนเต็มทั้งคนไทยและต่างชาติ ระยะทางจากสนามบินไปในตัวเมืองระนองประมาณ 25 กม. พอรถจะออกลุงคนขับก็จะถามว่าใครพักที่ไหนกันบ้าง จะได้ส่งตามเส้นทาง ใช้เวลานานพอสมควร ชั่วโมงกว่าๆ เพราะต้องวนไปส่งทุกคน กว่าจะถึงที่พักก็ประมาณบ่าย 3 ค่าโดยสาร 50 บาท/คน
 
เช็คอินเก็บของเสร็จ เดินเข้าไปเที่ยวในบ่อน้ำพุร้อนรักษะวาริน และกินข้าว ในบ่อน้ำพุ จะมีร้านอาหารที่ขึ้นชื่ออยู่ข้างใน ชื่อคุ้นลิ้น มาแล้วต้องลอง 
ในโดมนั้นพื้นปูนร้อนมาก  เห็นคนมานอน นั่ง มีแค่ผผ้าปูรองเอง ส่วนเราแค่นั่งแป๊บเดียวก็ไม่ไหวแล้ว 555
 จากนั้นเข้าร้านอาหารประมาณ 16.30 น. สั่งมา 4 อย่างสั่งอาหารเสร็จไม่นานก็มาเสริฟ  ใบเหลียงผัดไข่ อร่อยดี ปูนิ่มทอดกระเทียม ไม่โอเค ปีกไก่ทอด ไม่โอเค ยำปลาหมึก รสชาติอร่อยดี แต่ๆๆๆๆ มาฉุกคิดหลังจากกินได้ไม่นานว่าอาหารมาเร็วจัง และแต่ละจานไม่มีความร้อนแม้แต่นิดเดียว เสมือนทำไว้แล้ว ตักมาเสริฟเท่านั้น 5555 สรุปร้านนี้รีวิวดี แต่สำหรับเรา ไม่ผ่านจ้า ราคาก็แรงเป็นปกติตามชื่อเสียงของร้านอันนี้เข้าใจ แต่แค่ไม่ประทับใจเท่านั้น  5555
กินอิ่มก็เดินกลับที่พัก สำหรับที่พักชื่อสมายบูติกโฮเทล เป็นตึก 2 คูหา เราพักที่นี่ 3 คืนเลย สะดวกดี ตอนหาที่พักได้เปิดดูใน Google Maps เห็นว่าอยู่หน้าบ่อน้ำพุ และอยู่ใกล้ 7- 11 ร้านขายยา ค่อนข้างจะสะดวก เลยพักที่นี่
รูปนี้จากเพจของโรงแรมนะคะ
ห้องสวย สะอาด ครบครันทุกอย่าง เสียอย่างเดียวที่นอนเป็นแบบสปริงราคาถูกอ่า บอกไม่ถูก 555 แข็งๆ แต่ไม่เป็นไร นอนได้ แอบคิดในใจ เอาที่นอนใยมะพร้าวยังจะนอนสบายกว่านี้
     วันที่ 14 มี.ค.62 (พฤหัสบดี)
      รอรถตู้มารับไปนาวโอพีกันจ้า  รถมาถึง 07.40 น. เดินทางไปท่าเรือของเลิฟอันดามัน ใช้เวลาไม่นาน เข้าไปเชคอินพร้อมรับอาหารเช้า คนเยอะพอสมควร แต่แยกกันไปคนละเกาะ
รถคันนี้มีของขายหลายอย่างที่จำเป็นสำหรับการดำน้ำ 

ประมาณ 09.00 น. ออกเดินทางสู่เกาะสอง (ประเทศพม่า) เพื่อทำเรื่องผ่านแดน ประมาณ เกือบ 20 นาที ก็ถึง แต่เรานั่งอยู่ที่เรือ ไม่ต้องไปไหน ไกด์จัดการให้เรียบร้อยแล้ว แต่เฉพาะชาวต่างชาติ ต้องขึ้นไปกับไกด์ด้วย  จากนั้นก็เริ่มเดินทางไปเกาะนาวโอพี ใช้เวลาประมาณ 1.30 ชม. ถึงหาดมาดาม เพื่อส่งเจ้าหน้าที่ไปจัดเตรียมอาหาร หากใครที่ไม่ไปดำน้ำก็สามารถลงที่นี่ได้เลย ใช้เวลาไม่นานก็ไปยังจุดดำน้ำ ชื่อจุดอะไรจำไม่ได้แล้วไกด์บอกอยู่นะคะ แต่ลืม ทริปนี้ไกด์ที่ดูแลชื่อไกด์ตั้กกี้ และก็มีทีมอีก 3-4 คน  ไกด์เป็นสาวสองที่ตลกและเอนเตอร์เทนเก่งดีค่ะ เสียดายไม่มีรูปใต้น้ำ วันที่ไปนั้นไกด์บอกว่าน้ำจะขุ่นนิดนึง ปกติจะใสกว่านี้มาก ขุ่นมาอาทิตย์นึงได้ อาจเกิดจากมรสุมที่ผ่านมา ในใจนี่แบบเฮ้อออออ อุตส่าห์เลือกช่วงมาแล้วนะ  พอลงไปดำน้ำ ก็มีจุดที่ใสมองเห็นปะการังชัดเจน ปลาเล็กปลาใหญ่ สีสันสวยงาม เจอหมึกตัวใหญ่ด้วย โลกใต้ทะเลของที่นี่อุดมสมบูรณ์จริงๆ ส่วนน้ำที่ว่าขุ่นนั้นจะเป็นแบบมีตะกอนขาวๆ ไม่ได้ขุ่นแบบน้ำจืดนะคะ  ไปดำน้ำจุดที่ 2  ไกด์ตั้กกี้ยังไม่ให้ลูกทัวร์ลง นางดำน้ำแบบเร็วมาก ไปเช็คสภาพทะเล กระแสน้ำให้ก่อน พอไปถึงจุดนั้น นางก็ส่งสัญญาณมาว่าไม่ให้ลง ให้ไปจุดอื่น แล้วนางก็ว่าน้ำกลับมาด้วยความรวดเร็ว 555 นางน่ารัก มองนางพูดแล้วเราเพลิน  พพอถึงจุดดำน้ำที่สองก็สวยเหมือนกัน แต่ตอนนั้นเริ่มหิวแล้วมองเห็นปลาตัวใหญ่ๆ ในใจก็คิดแต่ว่าตัวนี้กินได้มั้ยนะ 555  พอไกด์บอกว่าไปค่าาาา ขึ้นค่ะ ไปกินข้าวกัน  ใช้เวลาแป็บเดียวก็มาถึงหาดมาดาม เพื่อกินข้าว  ทริปนี้ดำน้ำเสร็จ ขึ้นเรือมีน้ำอัดลมกระป๋องเย็นๆ บริการตลอดเวลาเลยค่ะ เหนื่อยๆมาก็ชื่นใจ
อาหารเป็นแบบบุฟเฟ่นะคะ ตักได้จนกว่าจะอิ่ม ยกเว้นซีฟู้ด จำกัดคนละจาน น้ำผลไม้ทิปโก้ 100%  กาแฟ โกโก้ ขนมไทย คุกกี้ มีไม่อั้น เต็มที่ มีส้มตำด้วยนะคะ 2 สาวประจำครกตำกันอย่างไม่หยุดหย่อน  เสียอย่างเดียว ไม่มีตำปูปลาร้า  ขัดใจข้ายิ่งนัก 555  แต่อาหารอร่อยทุกอย่างค่ะ 
พอกินอิ่มก็พักผ่อนตามอัธยาศัยบนหาดมาดามได้เลยจ้า มุมไหนสวยก็จัดไปเลย แน่นอนใครมาต้องมีรูปคู่กับชิงช้ายักษ์ ประหนึ่งว่าไปมัลดีฟ

ดื่มด่ำกันเต็มที่  15.30 น. ก็ได้เวลาบ้ายบายนาวโอพีกันแล้ว 

สเตปเดิมค่ะ แวะเกาะสองก่อนจัดการเอกสารเรียบร้อยก็กลับฝั่งไทย รถตู้ไปส่งตามโรงแรม  ถึงที่พักก็อาบน้ำ หาของกินกัน เมื่อวานเราได้เล็งๆไว้แล้วว่าจะมากินร้านนี้ ร้านน้ำพริกลุงหนุ่ม อยู่ไม่ไกลจากที่พัก ติดถนนใหญ่เลย เดินมาลอง รสชาติอร่อยถูกใจ ปรุงสดๆร้อนๆ ราคาไม่แพง  แต่ใบเหลียงผัดใส่วุ้นเส้นด้วย เราว่ามันไม่เข้ากันเท่าไหร่ แต่โดยรวมถูกใจค่ะ

15 มีนาคม 2562
หัวใจมรกต รอรถตู้มารับที่โรงแรมเหมือนเดิม รถมาเกือบ 8.00 น. ไปเชคอินที่ท่าเรือของแกรนด์ทราเวล มีอาหารเช้าให้เหมือนกัน ทางเดียวกันกับของเลิฟ อยู่ติดๆกัน สามารถมองเห็นจุดเชคอินของเลิฟ  วันนี้คนเยอะหว่าเมื่อวาน อาจจะเพราะเป็นวันศุกร์ ชา กาแฟ ขนมไทย ปาท่องโก๋ หมี่ผัด ข้ามต้ม เลือกได้ตามสบายค่ะ  พอกินอิ่มคนที่ไปหัวใจมรกตจะถูกแยกไปส่งอีกที่นึงด้านใน  พอไปถึงเหมือนเป็นโรงแรม แต่ให้เราไปรวมตัวกันที่ร้านกาแฟ ร้านใหญ่ห้องกระจก ยื่นลงไปในทะเลนิดนึง ขายของฝากของที่ละลึกด้วย ประมาณ 9.00 น. เริ่มออกเดินทางไปเกาะสอง ฝั่งพม่า ทำเรื่องผ่านแดน เหมือนเดิมค่ะ เรารออยู่บนเรือ ไม่นาน ออกเดินทางต่อ แวะรับอาหารกลางวันและลูกทัวเพิ่มที่โรงแรมแกรนด์อันดามัน  ที่เกาะสน พม่า เสร็จแล้วก็เดินทางต่อ ประมาณ 1 ชม. ถึงหัวใจมรกต ทริปนี้ไปกับไกด์ฮันนี่เป็นผู้หญิงอวบนิดๆ ในใจคิดว่าคงไม่เอนเตอร์เทรนเหมือนไกด์ตักกี้เมื่อวาน และมีไกด์จากพม่า แต่พูดไทยได้ที่มาดูแลด้วยเนื่องจากในกรุ๊ปมีคนพม่ามาด้วย แต่ฟังเขาพูดกันทำไมเหมือนเป็นภาษาจีน สุดท้ายมีคนสงสัยเหมือนกัน เลยถามไกด์ฮันนี่ ได้ความว่าเป็นภาษาจีนแบบพม่าๆ ไกด์คุยกันรู้เรื่อง