ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่าเรามีแฟนเป็นผู้ชายมาโดยตลอด แต่ก็เคยรู้สึกดีกับผู้หญิงด้วยกันแต่ไม่ได้สานความสัมพันธ์ต่อเพราะคิดว่าตัวเองไม่น่าจะรักผู้หญิงด้วยกันได้ แต่หลังๆมานี้ เรากลับเอ่ะใจว่าบางทีตัวเองอาจจัดอยู่ในกลุ่ม bisexual ก็ได้ และเรื่องที่จะขอความคิดเห็นจากเพื่อนๆในพันทิปก็คือ เราดันรู้สึกดีกับทอมคนนึง เรื่องมันเริ่มเมื่อคราวที่เราเจอผู้ชายแย่ๆที่เข้ามาหลอกจนเราเสียศูนย์ไปเลยก็ว่าได้ ขอไม่เอ่ยว่าเรื่องเป็นยังไง เอาเป็นว่าเป็นเรื่องที่แย่ที่สุดเท่าที่เคยมีในชีวิตก็ว่าได้
เราขอแทนชื่อทอมคนนี้ว่าพี่คิมแล้วกัน ช่วงที่เราตัดสินใจเดินออกจากชีวิตผู้ชายที่มาหลอก เรามีโอกาสได้รู้จักกับพี่คิมผ่านรุ่นน้องคนนึง แกเป็นคนอัธยาศัยดี พูดเก่ง มองคนได้ทะลุทะลวงมาก นั่นหมายความว่าแกเป็นที่ปรึกษาที่ดีเลยแหล่ะ พี่คิมรู้เรื่องเลวร้ายที่เกิดขึ้นกับเราและให้กำลังใจจนในที่สุดเราหลุดออกมาจากผู้ชายคนนี้ได้
เราเริ่มคุยกับพี่คิมมากขึ้นเพราะมีโอกาสได้ทำงานร่วมกัน โดนที่แกนั้นให้ความช่วยเหลือเราเป็นอย่างดี พี่คิมมีความเป็นผู้ใหญ่มากที่สำคัญไม่เห็นแกจะวิจารณ์ใครเลย ซึ่งเราชอบมาก พอได้รู้จักกันมากขึ้นรู้ตัวอีกทีเราก็หวั่นไหวไปแล้ว พี่คิมสามารถหยอกล้อเล่นกับทุกคนแบบถึงเนื้อถึงตัว ต่างจากกับเราที่แกไม่เคยถึงเนื้อถึงตัวเลย จนตอนแรกคิดว่าหรือเพราะตัวเองดูเป็นคนซีเรียสแกเลยไม่กล้าละมั้ง เราคลุกคลีอยู่กับพี่คิมอยู่พักใหญ่จนในที่สุดก็มีเหตุให้ต้องจากกัน แกยังพาเราไปเที่ยวและเลี้ยงส่งอยู่เลย แต่ก่อนจะลาก็มีโอกาสได้กอด ก็รู้สึกดีนะแต่เราก็กอดลาทุกคน เพราะเป็นคนขึ้อ้อนและ skinship เลยทีเดียว แต่ไม่เคยทำกับพี่คิมหรอก
แม้ว่าเรากับพี่คิมจะไม่ได้ทำงานด้วยกันแล้วเราก็ยังคุยกันทางไลน์ แกจะวีดีโอผ่านไลน์มาบ้างแต่ส่วนมากก็คุยกันผ่านข้อความ ซึ่งก็คุยกันบ่อยมากกว่าช่วงที่ทำงานด้วยกันด้วยซ้ำ ด้วยความที่เรารู้สึกดีกับพี่คิม บทสนทนาก็มักจะซ่อนความห่วงใยอยู่ในนั้นเสมอ พี่แกก็คงพอเดาออกว่าเรามีใจให้จึงทำตัวห่างกันไปพักนึง จนเราคิดว่าควรทำใจได้แล้วเพราะยังไงมันก็ผิดอยู่ดี
แต่แล้ววันนึงแกกลับมา พร้อมบทสนทนาที่เริ่มรู้สึกว่าต่างออกไป เช่น ปกติเวลาคุยกันจะตัดบทหายไปเลย แต่ตอนนี้มักจะบอกว่าไปทำ...แล้วนะ ไว้คุยกัน หรือกินข้าวรึยัง ซึ่งเป็นคำถามที่ไม่เคยถามเลยตั้งแต่รู้จักกันมา ส่งรูปนั่นนี่มาให้ดูบ้าง บางทีก็คิดว่านี่อ่อยฉันรึเปล่า หรือเพราะชอบพูดเล่นส่งมุกกันไปมาอยู่แล้ว เราโพส์อะไรแกก็ react เร็วกว่าที่เคย
เอาจริงคือมันทำให้เรารู้สึกดีขึ้นมาอีกแล้ว แต่ก็พยายามคิดว่าแกอาจจะเป็นห่วงในฐานะพี่น้อง แต่ใจเรานี่สิมันเริ่มให้ความหวังตัวเองขึ้นมาอีกแล้ว ขอสารภาพเลยละกันพี่คิมมีแฟนแล้ว และคบกันมานานมากกว่า 6 ปี แม้ว่าจะเคยบอกว่าไม่รู้ว่าที่จริงยังรักกันอยู่ไหม แต่แกก็ยังคบกับเขาอยู่
เราพยายามเก็บความรู้สึกเอาไว้ในใจนะ เพราะยังอยากให้พี่คิมอยู่ในชีวิต เพราะแกเป็นคนที่น่าคบมากไม่ว่าจะในฐานะอะไร และรู้ว่าบางครั้งที่แสดงออกเพราะเรารู้สึกดีกับเขามันเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำเพราะมันผิด ถ้าแกโสดก็ว่าไปอย่าง เลยอยากระบายและขอความคิดเห็นจากเพื่อนๆในพ้นทิป ว่าเราจะถอยยังไงดีแต่ก็ยังอยากเป็นพี่น้องกับเขา และสิ่งที่เขาทำคิดว่าเขาเป็นห่วงเราเฉยๆใช่ไหม คำถามที่สองมันอาจจะดูให้ความหวังตัวเองนะ แต่เราก็สับสน และพยายามอยู่
จะถอยยังไงดี
เราขอแทนชื่อทอมคนนี้ว่าพี่คิมแล้วกัน ช่วงที่เราตัดสินใจเดินออกจากชีวิตผู้ชายที่มาหลอก เรามีโอกาสได้รู้จักกับพี่คิมผ่านรุ่นน้องคนนึง แกเป็นคนอัธยาศัยดี พูดเก่ง มองคนได้ทะลุทะลวงมาก นั่นหมายความว่าแกเป็นที่ปรึกษาที่ดีเลยแหล่ะ พี่คิมรู้เรื่องเลวร้ายที่เกิดขึ้นกับเราและให้กำลังใจจนในที่สุดเราหลุดออกมาจากผู้ชายคนนี้ได้
เราเริ่มคุยกับพี่คิมมากขึ้นเพราะมีโอกาสได้ทำงานร่วมกัน โดนที่แกนั้นให้ความช่วยเหลือเราเป็นอย่างดี พี่คิมมีความเป็นผู้ใหญ่มากที่สำคัญไม่เห็นแกจะวิจารณ์ใครเลย ซึ่งเราชอบมาก พอได้รู้จักกันมากขึ้นรู้ตัวอีกทีเราก็หวั่นไหวไปแล้ว พี่คิมสามารถหยอกล้อเล่นกับทุกคนแบบถึงเนื้อถึงตัว ต่างจากกับเราที่แกไม่เคยถึงเนื้อถึงตัวเลย จนตอนแรกคิดว่าหรือเพราะตัวเองดูเป็นคนซีเรียสแกเลยไม่กล้าละมั้ง เราคลุกคลีอยู่กับพี่คิมอยู่พักใหญ่จนในที่สุดก็มีเหตุให้ต้องจากกัน แกยังพาเราไปเที่ยวและเลี้ยงส่งอยู่เลย แต่ก่อนจะลาก็มีโอกาสได้กอด ก็รู้สึกดีนะแต่เราก็กอดลาทุกคน เพราะเป็นคนขึ้อ้อนและ skinship เลยทีเดียว แต่ไม่เคยทำกับพี่คิมหรอก
แม้ว่าเรากับพี่คิมจะไม่ได้ทำงานด้วยกันแล้วเราก็ยังคุยกันทางไลน์ แกจะวีดีโอผ่านไลน์มาบ้างแต่ส่วนมากก็คุยกันผ่านข้อความ ซึ่งก็คุยกันบ่อยมากกว่าช่วงที่ทำงานด้วยกันด้วยซ้ำ ด้วยความที่เรารู้สึกดีกับพี่คิม บทสนทนาก็มักจะซ่อนความห่วงใยอยู่ในนั้นเสมอ พี่แกก็คงพอเดาออกว่าเรามีใจให้จึงทำตัวห่างกันไปพักนึง จนเราคิดว่าควรทำใจได้แล้วเพราะยังไงมันก็ผิดอยู่ดี
แต่แล้ววันนึงแกกลับมา พร้อมบทสนทนาที่เริ่มรู้สึกว่าต่างออกไป เช่น ปกติเวลาคุยกันจะตัดบทหายไปเลย แต่ตอนนี้มักจะบอกว่าไปทำ...แล้วนะ ไว้คุยกัน หรือกินข้าวรึยัง ซึ่งเป็นคำถามที่ไม่เคยถามเลยตั้งแต่รู้จักกันมา ส่งรูปนั่นนี่มาให้ดูบ้าง บางทีก็คิดว่านี่อ่อยฉันรึเปล่า หรือเพราะชอบพูดเล่นส่งมุกกันไปมาอยู่แล้ว เราโพส์อะไรแกก็ react เร็วกว่าที่เคย
เอาจริงคือมันทำให้เรารู้สึกดีขึ้นมาอีกแล้ว แต่ก็พยายามคิดว่าแกอาจจะเป็นห่วงในฐานะพี่น้อง แต่ใจเรานี่สิมันเริ่มให้ความหวังตัวเองขึ้นมาอีกแล้ว ขอสารภาพเลยละกันพี่คิมมีแฟนแล้ว และคบกันมานานมากกว่า 6 ปี แม้ว่าจะเคยบอกว่าไม่รู้ว่าที่จริงยังรักกันอยู่ไหม แต่แกก็ยังคบกับเขาอยู่
เราพยายามเก็บความรู้สึกเอาไว้ในใจนะ เพราะยังอยากให้พี่คิมอยู่ในชีวิต เพราะแกเป็นคนที่น่าคบมากไม่ว่าจะในฐานะอะไร และรู้ว่าบางครั้งที่แสดงออกเพราะเรารู้สึกดีกับเขามันเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำเพราะมันผิด ถ้าแกโสดก็ว่าไปอย่าง เลยอยากระบายและขอความคิดเห็นจากเพื่อนๆในพ้นทิป ว่าเราจะถอยยังไงดีแต่ก็ยังอยากเป็นพี่น้องกับเขา และสิ่งที่เขาทำคิดว่าเขาเป็นห่วงเราเฉยๆใช่ไหม คำถามที่สองมันอาจจะดูให้ความหวังตัวเองนะ แต่เราก็สับสน และพยายามอยู่