#เรื่องเล่าหน้าเตา วันนี้อาจจะไม่เกี่ยวกับการทำอาหาร แต่จะขอพูดเรื่อง cyberbully ซักหน่อย 😔
เมื่อวานนุ้ยถอดผ้ากันเปื้อนแล้วค่ะ เผื่อใครยังไม่ทราบ 😂 เรียกได้ว่าสู่ขิตกันแล้ว😊 ถึงตรงนี้ในโซเชียลก็มีหลายคนพูดว่า "ในที่สุดนุ้ยก็ไปซะที" "สมควรออกแล้ว" บางคนถึงขั้นบอกว่าถ้านุ้ยออกจะแก้ผ้าวิ่งรอบบ้าน etc. 😂 นุ้ยเคยพูดไปแล้วเกี่ยวกับความตั้งใจและ passion ของนุ้ยที่มีต่อรายการนี้ นุ้ยยังคงยืนยันคำพูดนั้นว่านุ้ยเข้ามาตรงนี้ด้วยใจที่อยากทำอาหารจริงๆ นุ้ยไม่ได้คาดหวังจะให้ทุกคนมาเข้าใจ แต่การที่นุ้ยถูกด่าทอต่างๆนานานั้น (ซึ่งเยอะมากจนเรียกได้ว่าถ้าได้เงินเม้นละบาทนุ้ยน่าจะเอามาผ่อนบ้านได้หลายเดือนเลย) ในตอนแรกบอกเลยว่ารู้สึกแย่มาก รู้สึกว่ามันไม่แฟร์ มีคำพูดเยอะมากที่อยากจะตอบกลับคอมเม้นเหล่านั้นเป็นรายๆไป แรกๆคิดมากจนต้องทานยาต้านเศร้า แต่พอถูกด่าบ่อยครั้งเข้า นุ้ยก็รู้สึกว่า เออ ถ้าคำพูดเหล่านี้มันบั่นทอนจิตใจเราขนาดนั้น ก็ไม่ต้องเข้าไปสนใจดีกว่า เพราะสนใจไปมันก็ไม่ก่อให้เกิดรายได้ แถมคนเหล่านั้นพอด่าเราเสร็จเค้าก็วางมือถือแล้วไปใช้ชีวิตของเค้า ไปกินหมูกะทะ ไปดูไลฟ์สดขายของ ฯลฯ เค้าไม่ได้มา participate อะไรกับชีวิตเราเลย เค้าไม่สนใจหรอกว่าเราจะรู้สึกยังไง นุ้ยเลยบรรลุได้ว่าเราต้องไม่หวั่นไหวไปกับคำพูดเหล่านั้นแล้วโฟกัสแต่พลังบวกดีกว่า ซึ่งนั่นต้องใช้ความเข้มแข็งของจิตใจมากๆเลยนะ
บางคนติเพื่อก่อ บางคนด่าเอาสนุก มีอยู่คอมเม้นนึงค่ะที่นุ้ยอ่านแล้วสะดุด เค้าพูดว่า "เป็นนุ้ยนี่ดีเนอะ แค่ทำตัวสนิทกับทุกคนก็ถูกเซฟแล้ว" ขอตอบตรงนี้เลยค่ะว่า ถูกต้องค่ะ นุ้ยสนิทกับทุกคนจริงๆ ทุกคนเป็นพี่ เป็นน้อง เป็นเพื่อน การที่เราจะสนิทกับใครซักคนได้นั้น สิ่งที่ต้องแลกมาคือ ความจริงใจ ทุกคนจริงใจต่อกัน และทุกคนก็สัมผัสได้ถึงความจริงใจนั้นค่ะ ส่วนเรื่องของการถูกเซฟหรือไม่นั้น มันเป็นเกมค่ะ เราก็แค่เดินไปตามเกมเท่านั้นเอง
ในขณะเดียวกันก็มีเพื่อนเก่าที่ไม่ได้คุยกันมาหลายปีแล้วมาคอมเม้นว่า "เพิ่งได้ดูรายการ เธอก็เป็นเธออ่ะ" คอมเม้นนี้ทำนุ้ยน้ำตาไหล และทำให้นุ้ยตัดสินใจที่จะ ignore คอมเม้นด้านลบต่างๆไปเลย เพราะนุ้ยรู้แล้วว่า ยังมีคนที่เข้าใจเราและรักเราอยู่
มีมือถืออยู่ในมือทุกวันนี้เหมือนมีอาวุธ ที่เราจะสามารถทำร้ายใครก็ได้ด้วยคำพูดแย่ๆ นุ้ยมาพูดในวันนี้ไม่ใช่แค่เพื่อตัวเอง แต่สังคมทุกวันนี้มีการ bully ด้วยถ้อยคำที่สนุกปากอยู่มากมายเหลือเกิน ตอนพิมพ์คุณสะใจ แต่คุณคงลืมไปว่าคุณอาจจะกำลังฆ่าคนๆนั้นอยู่โดยไม่รู้ตัว คนไทยลืมง่ายค่ะ ด่าคนอื่นวันนี้ สามวันเจ็ดวันก็ลืมแล้ว แต่พอคุณลืมแล้วใครจะรับผิดชอบความรู้สึกของคนถูกด่าล่ะ 😔
หลายๆคนตีความหมายของคำว่า free speech ผิดไป อิสระทางความคิดเห็นนั้น ไม่ได้หมายความว่าคุณจะใช้พื้นที่สื่อสาธารณะเพื่อด่าทอ ล้อเลียนใครก็ได้ เพียงเพราะว่าคนอื่นไม่รู้ว่าคุณเป็นใคร มีผู้ใหญ่ท่านนึงเคยบอกว่า คนมันด่าเราแค่ในเน็ตเท่านั้นแหละ ถ้าคนๆนั้นเดินมาเจอเราตัวเป็นๆ เค้าก็ไม่กล้ามาชี้หน้าด่าเราหรอก เพราะเค้าเก่งกันแต่ในมือถือ จริงค่ะ 😌
victims is not a victim นุ้ยอยากเป็นกำลังใจให้ทุกคนที่ประสบปัญหา cyberbully ให้เข้มแข็ง เพราะสุดท้ายแล้ว internet troll เหล่านี้แค่ต้องการเหยื่อ หากเราเข้มแข็งพอที่จะไม่สนใจ ไม่ตอบโต้ คนเหล่านี้ก็จะเลิกราไปเอง มันเป็นเพียงแค่ฝุ่นควันที่เข้าตา แม้ว่าจะเคืองตาแต่ไม่นานมันจะหายไปค่ะ เราไม่จำเป็นต้องเอาตัวลงไปเกลือกให้ฝุ่นควันเหล่านั้นมันสกปรกติดตัวเรา แรกๆคุณจะรู้สึกว่า มันจะไปเข้มแข็งง่ายๆได้ยังไง ไม่เป็นกูไม่รู้หรอก แต่เชื่อเถอะค่ะ ถ้าคุณทำได้ คุณจะ beyond คนพวกนั้น แล้วมองสิ่งเหล่านั้นเป็นแค่เห็บไรที่ก่อความรำคาญเท่านั้นเอง ------------------------------------ เพิ่มเติมหน่อยนะคะ เหมือนจะมีบางท่านยังไม่เข้าใจสิ่งที่นุ้ยต้องการจะสื่อ คำว่า cyberbully ไม่ได้หมายความเฉพาะการเหยียดกันที่รูปร่างหน้าตา แต่หมายถึงคำพูดเสียดสีที่มีความรุนแรง ในกรณีของนุ้ยนี้นุ้ยยินดีรับคำวิจารณ์ทุกอย่างค่ะ แต่คำว่า bully ของนุ้ยในที่นี้กล่าวถึงความเห็นที่ไม่สุภาพ ไม่ให้เกียรติกัน คุณจะบอกว่านุ้ยไม่เก่งก็ได้ จะบอกว่าไม่ชอบที่นุ้ยเอาไม้มาทุบมีดก็ได้ นุ้ยยินดีรับฟังและนุ้ยได้กล่าวคำขอโทษไปแล้วในสิ่งที่ไม่สมควร แต่เมื่อไหร่ที่คุณเรียกนุ้ยว่า อีนั่น อีนี่ อีตลาดล่าง อีสันดานต่ำ ไสหัวไป น่าจะออกไปตั้งนานแล้ว อีช้างลาก ฯลฯ นุ้ยขอถามกลับไปว่า คุณเป็นใครและมีสิทธิ์อะไรมาใช้ถ้อยคำเหล่านี้กับนุ้ยคะ หวังว่าจะเข้าใจมากขึ้นค่ะ
------------------------------------------------------------------------
#Respect #cyberbully #masterchefthailandseason3
Zazny C. Morel
ความในใจ ‘นุ้ย มาสเตอร์เชฟฯ’ หลังถูก bully ‘มีมือถือก็เหมือนมีอาวุธ’