น้ำหนักกระเป๋าload วันนั้นฉันก็เอามาเท่านี้ ทำไมวันนี้เอาไปไม่ได้!

เป็นคำถามที่พบเจอบ่อยมากในการทำงานนั่งเคาเตอร์ เลยอยากให้ข้อมูลกับผู้โดยสารจะได้ไม่หงุดหงิดเวลาพนักงานแจ้งกระเป๋าน้ำหนักเกินนะคะ

ทั่วโลกเรามีสายการบินมากมาย ซึ่งแต่ละสายการบินมีการจำกัดจำนวนชิ้นหรือน้ำหนักกระเป๋าไม่เท่ากัน! เราแบ่งเป็น2คอนเซปหลักๆคือ ตามจำนวนชิ้น(Piece concept)​ และตามน้ำหนัก(weight concept)

แบบตามจำนวนชิ้นนั้น บางสายการบินอาจจะอนุญาตแค่ 1 ชิ้นต่อท่านเท่านั้น แต่ส่วนใหญ่สายการบินจะกำหนดที่ 2 ชิ้น ชิ้นละไม่เกิน 23 กิโล ในกรณีนี้ผู้โดยสารบางท่านอาจจะคิดว่า งั้นรวมแล้วฉันได้ 46 กิโลสินะ งั้นใส่ใบใหญ่30โล ใบเล็ก16โลละกัน ไม่ได้นะคะ แบบนี้ถือว่าผิด ต้องจำกัดที่ใบละ23กิโลกรัมเท่านั้นค่ะ

ต่อมาเป็นแบบแบ่งตามน้ำหนัก บางสายการบินกำหนดที่32กิโล ซึ่งการแบ่งตามน้ำหนักนี้ ผู้โดยสารจะมีกระเป๋ากี่ใบก็ได้ แต่น้ำหนักห้ามเกินที่สายการบินกำหนดนะคะ

เราอาจจะคุ้นชินกับการใช้บริการสายการบินใดสายการบินหนึ่งบ่อยๆจึงใช้วิธีจดจำว่า อ๋อฉันบินกับสายนี้น้ำหนัก30กิโลกรัมเสมอ เราขอแนะนำให้ผู้โดยสารเชคตั๋วเดินทางเสมอว่า ตั๋วของผู้โดยสารนั้นให้น้ำหนักเท่าไหร่ เพราะตั๋วในแต่ละชั้นก็ยังมีsub class ย่อยลงไปอีก ตั๋วโปรโมชั่นอาจจะได้น้ำหนักน้อยกว่าปกติ หรือสายการบินมีการเปลี่ยนแปลงน้ำหนักกระเป๋า ผู้โดยสารจะได้ไม่ต้องเสียเวลาและเสียความรู้สึกกับการต้องจ่ายค่าน้ำหนักกระเป๋าเพิ่มที่หน้าเคาเตอร์ซึ่งมันแพงมากๆ อยากบอกว่าพนักงานก็ไม่อยากเก็บเงินผู้โดยสารเลย จริงๆนะคะอมยิ้ม42

น้ำหนักเกินไม่กี่โล ให้ฉันหน่อยจะเป็นไรไป ช่วยไม่ได้หรอ! 
เราอยากช่วยค่ะ แต่ด้วยหน้าที่ทำไม่ได้จริงๆ การใส่น้ำหนักลงในจอ เขาจะนำไปคำนวณกับน้ำหนักอื่นๆเพื่อให้เครื่องบินเกิดความบาลานซ์และบินได้อย่างราบลื่น ถ้าเราช่วยผู้โดยสารหลายๆท่าน เราใส่น้ำหนักน้อยกว่าความเป็นจริงในขณะที่สัมภาระน้ำหนักเกินไปมาก อาจจะมีผลกับความปลอดภัยต่อตัวผู้โดยสารเองได้ค่ะ

สุดท้ายนี้ก่อนแพคกระเป๋าเตรียมตัวบิน เชคในตั๋วเพื่อตรวจสอบสิทธิในการโหลดสัมภาระทุกครั้งนะคะ เพื่อลดการเกิดค่าใช้จ่ายที่ไม่พึงประสงค์และความราบลื่นสบายใจตลอดเที่ยวบินค่ะ
เพี้ยนลอย

Edit : แก้ไขคำผิด
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่