ผมเป็นสมาชิกบัตร Rabbit มาหลายปีมาก
จำไม่ได้ว่ากี่ปีแล้ว

คือเห็นว่าสะดวกดีครับ  ไม่ต้องไปต่อคิวแลกเหรียญ
ระยะหลังมีร้านค้า ศูนย์อาหาร รับบัตรนี้
ผมเลยชอบใจ  เพราะไม่ต้องพกเงินทีละมากๆ  
เวลาใช้ก็ได้ส่วนลดด้วย

หลังๆ เห็นสะดวก  เลยย่ามใจ เติมเงินเก็บไว้ในบัตรทีละหลักพันบาท
เคยคิดเหมือนกัน  ว่าทำแบบนี้เหมือนเราเอาเงินไปให้เขาล่วงหน้า
เกิดบัตรหายขึ้นมา เงินสูญแน่

ผมไปลงทะเบียนบัญชี Rabbit Reward ไว้ในเน็ต  แล้วโหลดแอพไว้เช็คในโทรศัพท์
ตอนเติมเงินครั้งล่าสุดเมื่อต้นเดือนนี้  ก็จัดการให้เขาลงทะเบียนด้วยบัตรประชาชนเป็นที่เรียบร้อย

เวลาไปไหนมาไหน ผมจะเก็บบัตรไว้ในกระเป๋าเล็กสำหรับใส่บัตร
แล้วใส่ในกระเป๋าสะพายใหญ่อีกที   คือหายยาก  ถ้ากระเป๋าใหญ่ไม่หาย

เรื่องของเรื่อง  เมื่อคืนไปงานเลี้ยง เลยไม่อยากสะพายกระเป๋าใหญ่ไป
แยกบัตร Rabbit ออกมาพกเดี่ยวเป็นครั้งแรก
พอขากลับจะขึ้นรถไฟฟ้า  สิ่งที่เคยกลัวก็เกิดขึ้น
บัตรหายครับ

คิดในใจว่าน่าจะมีทางออก   เพราะเราเพิ่งลงทะเบียนบัตรไป
ไปติดต่อเจ้าหน้าที่ที่สถานี  เขาให้โทรแจ้ง Call Center
ซึ่งใช้เวลาโทรอยู่นาน เพราะไม่ได้คุยกับมนุษย์เสียที 
กด 1 กด 2 กด 3  ตามที่เขาบอก กดวนไปมา
น้องที่สถานีก็ช่วยเหลือไม่ได้มาก  แกก็บอกแค่ว่าให้กดเลขตามที่เขาบอก
สุดท้าย รปภ.สถานีถูกส่งมายืนกดดันผม
ทำนองว่า เอ็งไปหยอดตู้ซื้อตั๋วเสียดีดี  อย่ามาถามวุ่นวาย

ผมซื้อตั๋วได้ ก็พยายามโทรอีกตอนอยู่บนรถไฟฟ้า
โชคดีกดเบอร์ต่อถูก ได้คุยกับมนุษย์เสียที  อย่างน้อยหวังจะให้เขาอายัดบัตรให้
ผมบอกข้อมูลส่วนตัวกับผู้รับสายจนหมดเปลือก ครบถ้วนทุกประการ
บอกรหัส และข้อมูลทุกอย่าง บอกสถานที่ที่เติมเงินครั้งล่าสุด
สุดท้าย Call Center บอกว่า  ยังไม่มีข้อมูลบัตรของผม
จะแจ้งเรื่องไว้ให้  ให้ผมโทรมาติดตามอีกที
แต่เมื่อคืนเป็นวันศุกร์  ถ้าจะติดตาม ให้โทรมาวันจันทร์ อังคาร
เพราะเสาร์อาทิตย์ไม่มีคนทำงาน

กลางวันวันนี้ ผมร้อนใจ  ลองโทรหาเขาอีกที
ผู้รับสายแจ้งว่า เรื่องเพิ่งแจ้งมาเมื่อคืนตอนห้าทุ่มกว่าเอง
ผมก็บอกว่า บัตรนี้  มันไม่เหมือนบัตร ATM นะ
ใครถือไปเอาไปใช้ได้ทันทีเลย  มันไม่ต้องใช้รหัสอะไร
ทางโน้นก็บอกว่า  จะเร่งตามเรื่องให้
เพราะข้อมูลที่ผมลงทะเบียนไว้ มันไม่ได่ส่งมาแบบ Online
(คือลงทะเบียนไว้วันที่ 3  นี่วันที่ 15,16 แล้ว
ข้อมูลยังไม่บันทึกลงฐานข้อมูลกลาง)

สรุปว่า คราวนี้ถ้าไม่ได้เงินที่เติมไว้คืนมา
ก็จะไม่ใช้บัตร Rabbit อีกแล้ว   จนกว่าจะมีวิธีป้องกันหรืออายัดบัตรได้ดีกว่านี้
(ไหนจะค่ามัดจำบัตรตอนสมัครตอนแรกอีก)
จะบอกว่าเป็นความสะเพร่าของผมเอง ที่เติมเงินไปเยอะ  แล้วดันทำบัตรหาย
แต่ก็คิดถึงคนที่ซื้อเที่ยวโดยสาร แบบรายเดือนเหมา 30 หรือ 40 เที่ยว
ต้องจ่ายหลักพันบาทเหมือนกัน
(แต่เงินในบัตรคงเอาไปใช้ยากกว่า แบบที่ผมเอาเงินไปใส่ไว้ในบัตร)

ยังไงถ้าผู้ประกอบกิจการ หาทางออกบรรเทาทุกข์ให้ผู้บริโภคได้บ้าง
จะปลอดภัยน่าใช้ขึ้นมาทีเดียว

แบบนี้ไม่ไหว อันตรายมากครับ