สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 2
ตามตรง เราก็เฉยๆนะคะ
คืออย่างตอนอยู่เมืองไทย เวลาไปเที่ยวต่างจังหวัดคุณรู้สึกยังไงเวลาเจอคนที่มาจากจังหวัดเดียวกันอะค่ะ สำหรับเราคือเฉยๆเหมือนตอนอยู่เมืองไทยนั่นแหละค่ะ
คือรู้สึกแปลกนิดๆที่คนแปลกหน้าจะมาชวนพูดคุยอะค่ะ. เราคุยกับพ่อแม่พี่น้องและญาติๆที่เมืองไทยประจำ เลยไม่ได้รู้สึกโหยหาคนไทยในประเทศที่เราอยู่นักอะค่ะ
เจอก็เฉยๆอะค่ะ. ไม่ได้ดีใจหรือตื่นเต้นอะไร.
คืออย่างตอนอยู่เมืองไทย เวลาไปเที่ยวต่างจังหวัดคุณรู้สึกยังไงเวลาเจอคนที่มาจากจังหวัดเดียวกันอะค่ะ สำหรับเราคือเฉยๆเหมือนตอนอยู่เมืองไทยนั่นแหละค่ะ
คือรู้สึกแปลกนิดๆที่คนแปลกหน้าจะมาชวนพูดคุยอะค่ะ. เราคุยกับพ่อแม่พี่น้องและญาติๆที่เมืองไทยประจำ เลยไม่ได้รู้สึกโหยหาคนไทยในประเทศที่เราอยู่นักอะค่ะ
เจอก็เฉยๆอะค่ะ. ไม่ได้ดีใจหรือตื่นเต้นอะไร.
ความคิดเห็นที่ 13
เคยมีกระทู้หัวเรื่อง จริงแล้วฝรั่งเขาอัธยาศัยดีกว่าเราหรือป่าว ชอบทัก ชอบคุยกับคนแปลกหน้า สวนกันก็ทัก แต่ของไทยยิ้มเพราะฟังไม่ออก?
https://ppantip.com/topic/36438417/comment34
เราเคยไปตอบเอาไว้ที่ คห 34 ดังนี้ …
กระทู้*เป็นคนระวังคำพูดจนมากเกินไป แก้ไงดีครับ
https://ppantip.com/topic/35588646/comment2
กระทู้*โดนคุณครูหาว่าเป็นคนshyในอเมริกาต้องทำยังไงครับ
https://ppantip.com/topic/36429889/comment4
"เห็นแท็กหัวข้อนักเรียนแลกเปลี่ยน_หากว่า จขกท ยังเป็นเยาวชนที่อยู่ในวัยรุ่น วัยเรียน
ก็ต้องดูพื้นฐานของตนเองก่อนว่า ถูกเลี้ยงดู อบรม ทั้งจากที่บ้าน และ ที่โรงเรียนมาอย่างไร
ถูกประคบประหงมมากไปหรือเปล่า หรือ ถูกเลี้ยงดูมาในสังคมที่แบ่งเขาแบ่งเราไม่มีการโอภาปราศัยกับคนอื่นๆ ในสังคม
(เพราะคนไทยส่วนใหญ่ โดยเฉพาะคนเมืองหลวง ระดับคนชั้นกลางขึ้นไป ในทุกวันนี้มักจะไม่คุยกับคนแปลกหน้าในสังคมเดียวกัน
เพราะสภาพสังคมไม่เอื้ออำนวยนั่นเอง อีกทั้งสังคมมีการแบ่งชนชั้นวรรณะ มีการแข่งขัน มีการจับผิดกันอยู่ตลอดเวลา
คนก็เซ้นท์ซิทีฟกับคำพูด ทำให้คนในสังคมหลีกเลี่ยงที่จะพูดคุยกัน และ สอนลูกหลานไม่ให้คุยกับคนแปลกหน้าด้วย )"
กระทู้*ทำไมเวลาเราเจอคนรู้จักที่ไม่ได้เจอกันนาน เรามักจะหลบสายตา เเล้วเเกล้งไม่เห็น??
https://ppantip.com/topic/35590037/comment12
"จากประสบการณ์ในการติดต่อสื่อสารกับคนมาหลากหลายสัญชาติ หลากหลายสถานะภาพทางสังคม เศรษฐกิจ การศึกษา
คนเอเชียส่วนใหญ่ และ คนไทยส่วนใหญ่เป็นแบบนี้เยอะ
คือ ส่วนใหญ่จะทำเป็นมองไม่เห็นใครก่อน หรือ รู้จักแต่จะไม่ทักก่อน
เพราะคนไทยส่วนใหญ่ ไม่จริงใจกัน คบกันผิวเผิน ประเมินคนจากภายนอก สีผิว ฐานะ
บางครั้งถ้าไม่เห็นผลประโยชน์ ไม่เห็นคอนเน็คชั่น จะไม่สานต่อ ไม่อยากรู้จัก
เพราะคนไทยส่วนใหญ่เข้าสังคมไม่เก่ง ขาดการอบรมเรื่องมารยาทสังคม ทักษะความรู้รอบตัวน้อยจึงขาดเรื่องคุย
คนไทยส่วนใหญ่ถูกเลี้ยงดูมาแบบไม่ให้แสดงความคิดเห็น ห้ามหือ ห้ามอือ จึงขาดความมั่นใจในตัวเอง
คนไทยบางส่วนรู้สึกอึดอัดที่จะต้องพูดต้องคุยกับผู้อื่นในสังคม เพราะไม่ชอบพูดความจริง
เวลาจะพูดจะตอบอะไรก็คิดนานมาก เพราะขาดความจริงใจ เวลาพูดจะพูดในสิ่งที่ทำให้ตัวเองดูดี หรือไม่ได้พูดจากใจ
ลับลมคมในเยอะ พูดจาอ้อมโลก ไม่ตรงไปตรงมา หลีกเลี่ยงการแสดงความคิดเห็น ขาดวิสัยทัศน์ที่ดี
คนส่วนใหญ่ไม่คุยกับคนอื่นด้วย เพราะคนไทย คนเอเชีย ส่วนใหญ่ชอบละลาบละล้วงถามเรื่องส่วนตัวกันแบบไม่มีมารยาท
เช่น ถามเรื่องเงินเดือน ถามเรื่องการมีรถมีบ้าน ถามเรื่องอาชีพ ถามเรื่องแต่งงานหรือไม่แต่งงาน ถามเรื่องส่วนตัวตั้งแต่ 10 คำถามแรกที่เจอกัน
บางพวกก็จะขายของ หาคอนเน็คชั่น หรือ ชวนไปเปลี่ยนศาสนา ทำให้คนไม่ไว้ใจกันเอง เพราะกลัวการหาผลประโยชน์
คนไทยบางกลุ่มก็ไม่คุยกับคนอื่นเพราะถือตัว เย่อหยิ่ง เห็นคนอื่นเป็นคนละชนชั้น
คนไทยบางคนถืออาวุโส คนอายุมากกว่าไม่ทักคนอายุน้อยกว่าก่อน คนที่สถานะภาพทางสังคมสูงกว่าตำแหน่งสูงกว่าไม่ทักผู้น้อยก่อน
สังคมเต็มไปด้วยชนชั้นวรรณะ ระบบอาวุโส กฏต่างๆ ที่มาจากตรรกะประหลาดๆ ที่มองไม่เห็น
คนไทยส่วนใหญ่ยึดติดเรื่องสังคมกลุ่ม พวกพ้อง แบ่งเป็นก๊กเป็นเหล่า เป็นแบบนี้มาตั้งแต่โบราณ
เพราะฉนั้นคนไทยส่วนใหญ่จะไม่ทักทายไม่โอภาปราศัยกับคนนอกกลุ่ม เพราะถือว่าไม่ใช่พวกพ้อง
การเป็นคนเฟรนด์ลี่ที่เป็นอย่างจริงใจ ไม่ได้หมายความว่าจะต้องไปไหนมาไหนเป็นกลุ่ม ไม่ได้หมายความว่าทำอะไรด้วยตนเองไม่ได้
ไม่ได้หมายความว่าอยู่คนเดียวลำพังไม่ได้
มีคนไทยเยอะแยะไป ที่รักสันโดษ สามารถไปไหนมาไหนคนเดียวได้ แต่เป็นคนเฟรนด์ลี่ เป็นมิตรกับคน
สามารถทักทายคนแปลกหน้าในสังคมได้อย่างไม่เคอะเขิน
เพราะเขาเข้าสังคมเป็นนั่นเอง ดูคนเป็น ไม่ดูถูกคน รู้จักพูดคุย แต่ไม่ใช่ว่าเขาไม่ระวังตัว ไม่ใช่ว่าจะไม่รู้จักคัดกรองคน
คนไทยส่วนใหญ่ไม่เคยชินกับการพูดกับคนแปลกหน้า แม้กระทั่งการทักทายสวัสดี ขอบคุณ ก็ทำไม่เป็น
อีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้คนไทยส่วนใหญ่ และ คนเอเชียส่วนใหญ่ ขาดเสน่ห์เวลาที่พูดคุยมากๆ คือ
เวลาคุยแล้วจะ "ตานิ่ง" หรือ "หน้านิ่ง" หรือ พูดคุยแบบไม่สบตาคน
นี่คือประสบการณ์ที่เจอมาจากการเป็นพลเมืองไทย และ เป็นพลเมืองเอเชียมาหลายสิบปี
โตมากับวัฒนธรรมแบบนี้ เห็นอะไรแบบนี้มาเยอะ จึงมองเห็นทะลุแบบนี้"
***เวลาที่อยู่ใน ปท ไทย หรือ เวลาที่เดินทางไป ปท อื่นๆ หรือ อยู่ ปท อื่นๆ
สิ่งที่คนไทยอย่างเราทำเป็นเรื่องปกติในชีวิตประจำวัน คือทักทายคนในสังคมเสมอ
เวลาที่เราขึ้น-ลงแท็กซี่ ขึ้น-ลงรถเมล์ ขึ้น-ลงเครื่องบิน
การเจอ ต.ม. ของประเทศต่างๆ ไปซื้อของ ไปไปรษณีย์ ไปติดต่ออะไรต่างๆ
ไปร้านกาแฟ ไปร้านอาหาร เดินเข้าออกโรงแรม ฯลฯ เราทักทายคนในสังคมด้วยกันเสมอ พูดขอบคุณทุกคนเสมอ
โดยเฉพาะการทักทายขอบคุณพนักงานบริการ
***เราโตมาในสังคมไทยแบบเก่าที่คนยังทักทายกันอยู่ มีการพูดคุยกันกับคนแปลกหน้าในสังคม
ถูกสอนมาแบบนี้ เห็นมาแบบนี้แต่เด็กทั้งจากสภาพแวดล้อมที่บ้าน สถานศึกษา และ สังคมที่เราอยู่
รวมถึงการมีโอกาสได้เดินทาง การได้ใช้ชีวิตใน ตปท
สิ่งเหล่านี้ทำให้การทักทายคนแปลกหน้าถือเป็นเรื่องปกติมากสำหรับคนไทยอย่างเรา บางวันเจอคนเป็นสิบๆ สัญชาติ
บางวันเดินปะปนไปบนท้องถนนกับคนเป็นสิบๆ สัญชาติ หรือ บางครั้งใช้ชีวิตอยู่ร่วมในเมืองที่เป็นบ้านร่วมกับคนอีกเป็นร้อยสัญชาติ
คนไทยบางคนที่เราเจอ คิดว่าเราเว่อร์ บอกว่าทำไมต้องทักคนแปลกหน้า ทำไมต้องขอบคุณทำไมต้องทักพนักงาน
(เพราะคนไทยส่วนใหญ่คิดว่า พนักงานต้องทำงาน คนขับแท็กซี่ต้องบริการ แล้วได้รับเงินเป็นสิ่งตอบแทน เพราะฉนั้นถือเป็นหน้าที่ของพนักงาน
ของคนขับรถที่ต้องทำอยู่แล้ว คนที่จ่ายเงินไม่จำเป็นต้องไปขอบคุณพวกเขา
นอกจากนี้ตรรกะป่วยๆ ของคนบางกลุ่ม ก็ยังถือเป็นบุญคุณที่มีต่อพวกเขา (พนักงานบริการ) อีกต่างหาก ว่า(ตนเอง)ทำให้พวกเขามีรายได้
มีงานทำ แต่กลับลืมนึกถึงการอยู่ร่วมกันในสังคมดีๆ ของคนในอาชีพต่างๆ ที่ต่างก็ต้องพึ่งพาอาศัยกันตามวงจรปกติในสังคม
ที่คนควรจะเคารพซึ่งกันและกัน สามารถทักทาย ขอบคุณกันได้โดยปราศจากชนชั้นวรรณะ ปราศจากการแบ่งแยกโดยอาชีพ
ปราศจากการคิดถึงแต่เรื่องเงินๆ ทองๆ เรื่องกำไร ขาดทุน ส่วนเรื่องของจิตใจเรื่องของมารยาททำหล่นหายไปไหนกันหมด? )
***สมัยนี้พนักงานขายของตามห้างร้าน ที่เมืองไทยส่วนใหญ่ โดยเฉพาะตามย่านใจกลางเมือง ตามห้างหรูๆ ศูนย์การค้าหรูๆ
พนักงานส่วนใหญ่มักจะไปต่อไม่เป็นเลย หรือ ไม่พูดอะไรเลย เมื่อเจอเราทักทาย (เพราะเขาเคยชิน
กับการที่ถูกปฏิบัติมาแบบต้องรับคำสั่ง ต้องบริการ ต้องๆๆๆ และ ถูกล้างสมองด้วยตรรกะที่คนส่วนใหญ่
ชอบท่องจำกันว่า ลูกค้าคือพระเจ้านั่นเอง_ แต่ถ้าไปเดินห้าง แล้วเจอพนักงานที่กินค่าคอมฯ ทัก หรือ พนักงานที่ต้องทำยอดให้ได้ตามเป้า
หรือ พวกหลอกขายครอสต่างๆ นาๆ ทักลูกค้าแบบเฟรนด์ลี่เกินเหตุ ทักแบบเฟคๆ ยิ้มเฟคๆ อันนี้ต้องระวัง ห้ามตกหลุม และ ต้องรู้จักปฏิเสธ)
คนขับแท็กซี่ที่เมืองไทยบางคนถึงกับหันมามองหน้าเราบอกว่า ปกติไม่ค่อยเจอคนไทยเปิดประตูรถมาแล้วพูดคำว่า สวัสดีก่อนเลย
เขาบอกว่า ปกติจะเจอคนส่วนใหญ่แค่บอกสั้นๆ แนวออกคำสั่ง ว่าจะไปไหน แค่นั้นสั้นๆ ห้วนๆ หลายๆ คนไม่พูดคำว่า ค่ะ หรือ ครับ ต่อท้ายด้วยซ้ำไป
คนขับมอเตอร์ไซค์รับจ้างบางคนยิ้ม (ออกแนวไม่เข้าใจ) หรือ หัวเราะ (แนวไม่เข้าใจ) แล้วบอกเราว่า จะขอบคุณอะไรเหรอ แล้วทำไมต้องทัก
เพราะเขาไม่คุ้นเคยนั่นเอง เขาคิดว่าเราเว่อร์
คนไทยระดับบนๆ ส่วนใหญ่ หรือ บางส่วนที่เขาไม่ทักทายคนอื่นทั่วๆ ไปในสังคมก็มีเยอะ เพราะคนเหล่านั้นเขาคิดไปเอง
ตามแบบไทยๆ ที่เขาเคยชินว่า คนอื่นๆ อยู่กันคนละสถานะกับเขา อยู่กันคนละแวดวงสังคมกับเขา
เป็นคนละชนชั้นกัน เพราะฉนั้นไม่ต้องคลุกคลี ไม่ต้องพูดคุยกับคนที่สถานะภาพทางสังคมต่ำกว่า
ถ้าหากว่าไม่มีผลประโยชน์ในทางตรง หรือ ทางอ้อม หรือ หากไม่ต้องทำดีด้วยตามมารยาทเพื่อสร้างภาพ
เป็นเรื่องจริงที่ว่า สังคมไทย บางส่วนเป็นแบบนี้
***หลายๆ คนที่เดินทางบ่อยๆ ให้ลองสังเกตุดู ที่สนามบินสุวรรณภูมิ พนักงานในหลายแผนก
โดยเฉพาะพนักงานของสายการบินต่างๆ เขามักจะหลีกเลี่ยงการพูดคุยกับ ผดส หรือ มักจะคุยแบบ
ไม่ไว้วางใจเลย เพราะเขาเจอมาเยอะ จนต้องมีกลไกในการป้องกันตนเอง โดยการหลีกเลี่ยง
ด้วยการพูดให้น้อย หรือ ไม่พูดเลย พนักงานธนาคารตามเคาน์เตอร์ต่างๆ ของหลายธนาคาร
โดยเฉพาะในย่านเจริญๆ ของกรุงเทพฯ ก็เป็นแบบนี้ หลายๆ คนเขาจะไหว้ จะทักทาย แต่หน้านิ่ง ตานิ่ง
ไม่ค่อยเป็นมิตร พยายามพูดน้อยๆ หรือ ไม่พูดเลย เพราะหากเกิดเพลี่ยงพล้ำ เขาอาจจะต้องโดนให้กราบ
โดนอัดคลิปประจานแบบที่คนบางกลุ่มในสังคมไทยที่แย่ๆ อย่างในปัจจุบันนี้ชอบทำกัน หรือ เขาอาจจะเสียงานได้ด้วยความไม่ยุติธรรม
เพราะฉนั้นพนักงานบริการหลายๆ แห่งใน ปท ไทย โดยเฉพาะพนักงานสายการบิน พนักงานธนาคาร พนักงานโรงแรม
เขามักจะหลีกเลี่ยงการพูดคุยกับลูกค้า ในหลายๆ กรณี หลายๆ แห่ง พนักงานจะถูกสอน ถูกบรี๊ฟมาแบบนั้นเลย
ซึ่งนับเป็นเรื่องที่น่าเศร้ามาก สำหรับสังคมที่ต้องอยู่กันแบบไม่ไว้ใจกันแบบนี้
คนเหล่านั้นส่วนใหญ่ที่เขาไม่เข้าใจ ไปต่อไม่เป็น หรือ คิดว่าการทักทายกับคนอื่นๆ ในสังคมเป็นเรื่องแปลก
เพราะพวกเขาไม่คุ้นเคยกับการอยู่ร่วมกันในสังคมที่คนสามารถมีความรู้สึกเท่าเทียมกัน และ สามารถเห็นคุณค่าของผู้อื่นได้นั่นเอง
อีกทั้งคนรุ่นใหม่ในสมัยนี้มักจะเติบโตกันมาแบบถูกตามใจ หรือ ไม่ได้รับการอบรมเรื่องมารยาทสังคมนั่นเอง
***เวลาที่เราอยู่ ตปท หรือ เวลาที่เดินทางโดยเฉพาะ การไปใน ปท ที่เจริญแล้ว หรือ ใน ปท ที่คนอยู่กันอย่างเคารพซึ่งกันและกัน
ไม่แบ่งเขาแบ่งเรา คนรู้สึกเท่าเทียมกัน หรือ คนไม่มีลับลมคมใน หรือ เวลาที่อยู่ในสังคมอินเตอร์ อยู่เมืองที่อินเตอร์
ผู้คนในสังคมมักจะทักทายกันเสมอ หรือ ไม่ก็ต้องไปในสังคมชนบทบ้านๆ ของแทบจะทุกประเทศ คนจะเป็นมิตรมาก
เท่าที่เจอคนมา คนฟิลิปปินส์ คนคิวบา คนอิหร่าน คนเอธิโอเปีย คนแคนาดา เป็นมิตรที่สุดแล้ว เท่าที่เจอคนมา
คนดูไบ และ คนตะวันออกกลางอีกหลายๆ ชาติก็น่ารัก ตรงไปตรงมา ชอบก็บอกว่าชอบ ไม่ชอบก็แสดงเลย
คนหลายๆ ประเทศเขาสามารถทักทาย มีไมตรีต่อผู้อื่นได้โดยที่ไม่ต้องคิดซับคิดซ้อนมาก
ถือเป็นเรื่องของวัฒนธรรม ประเพณี มารยาทสังคม สภาพแวดล้อม ระบบความคิดของคนในสังคมก็มีส่วนมาก
***เวลาที่เราเจอคนเอเชียด้วยกัน ใน ตปท โดย "ส่วนใหญ่" ถ้าเห็นผู้หญิง หรือ ผู้ชาย
แต่งตัวเป๊ะๆ จัดๆ มีจริตเยอะ นวยนาด ท่าทางไม่เป็นธรรมชาติ มาดเยอะ หรือ ทำหน้านิ่งๆ มีมาดหยิ่ง เชิ่ดๆ ปึ่งๆ ดูไม่เป็นมิตร ไม่ไว้ใจคน
มีภาษากายที่ระแวดระวังตัวอยู่ตลอดเวลา หรือ ถ้าอยู่เป็นกลุ่มจะเสียงดังมีความเคลื่อนไหวเยอะ
แต่หากอยู่คนเดียวจะมีท่าทางไม่มั่นใจในตัวเอง บางครั้งต้องกดโทรศัพท์เล่น หรือ ต้องคุยโทรศัพท์เป็นเพื่อน
สันนิษฐานไว้ก่อนได้เลยว่า นั่นคือ คนไทยด้วยกันเอง และ กว่าร้อยละเก้าสิบเปอร์เซ็นต์ ไม่มีพลาด ใช่จริงๆ
น้อยครั้งมากๆๆๆๆๆ ที่เราจะเจอคนที่เป็นมิตร เพราะส่วนใหญ่จะเจอประเภทตั้งแง่ลบใส่กันไว้ก่อน
หรือ ปล่อยรังสีอำมหิต ออกมาตั้งการ์ดใส่กันไว้ก่อนเสมอ
***ที่เมืองไทย โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ หากมีโอกาส ลองไปยิ้ม หรือ ทักคนแปลกหน้า หรือ ชวนคุยหากมีโอกาสเหมาะๆ สิ
จะพบปฏิกิริยาตอบกลับที่สามารถสัมผัสได้เลยว่า คน "ส่วนใหญ่" เขาจะคิดอยู่ไม่กี่อย่างหรอก เช่น คุณบ้าหรือเปล่า? เว่อร์หรือเปล่า?
หรือ เขาคิดว่า คุณต้องการผลประโยชน์อะไรจากเขา และ ส่วนใหญ่เขาจะประเมินสถานะของคุณทันที โดยแสกนดูจากสิ่งหลายๆ อย่างโดยเฉพาะสิ่งที่เห็นด้วยตาจากภายนอก บางคนจะนิ่งนาน ปากไม่พูด แต่หน้าคิด มีสีหน้ากังวล อึดอัด ไม่ไว้ใจ สายตานิ่งๆ จะทำการประเมินไปด้วย
และ จะตั้งกลไกในการระแวดระวังตัวทันที
เวลาที่เรานั่งเครื่องบิน ถ้าหากว่าคนที่นั่งข้างๆ เป็นคนไทย มีบ้างเหมือนกัน แต่มีคนไทยน้อยคนมากที่จะสนทนากับเรา
ต่อให้เรายิ้มทักทาย บางคนก็หยิ่งใส่ เชิ่ดใส่เลย แต่ถ้าเจอคนชาติอื่นๆ มักจะได้สนทนา แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้บ้าง
หากมีโอกาส
https://ppantip.com/topic/36438417/comment34
เราเคยไปตอบเอาไว้ที่ คห 34 ดังนี้ …
กระทู้*เป็นคนระวังคำพูดจนมากเกินไป แก้ไงดีครับ
https://ppantip.com/topic/35588646/comment2
กระทู้*โดนคุณครูหาว่าเป็นคนshyในอเมริกาต้องทำยังไงครับ
https://ppantip.com/topic/36429889/comment4
"เห็นแท็กหัวข้อนักเรียนแลกเปลี่ยน_หากว่า จขกท ยังเป็นเยาวชนที่อยู่ในวัยรุ่น วัยเรียน
ก็ต้องดูพื้นฐานของตนเองก่อนว่า ถูกเลี้ยงดู อบรม ทั้งจากที่บ้าน และ ที่โรงเรียนมาอย่างไร
ถูกประคบประหงมมากไปหรือเปล่า หรือ ถูกเลี้ยงดูมาในสังคมที่แบ่งเขาแบ่งเราไม่มีการโอภาปราศัยกับคนอื่นๆ ในสังคม
(เพราะคนไทยส่วนใหญ่ โดยเฉพาะคนเมืองหลวง ระดับคนชั้นกลางขึ้นไป ในทุกวันนี้มักจะไม่คุยกับคนแปลกหน้าในสังคมเดียวกัน
เพราะสภาพสังคมไม่เอื้ออำนวยนั่นเอง อีกทั้งสังคมมีการแบ่งชนชั้นวรรณะ มีการแข่งขัน มีการจับผิดกันอยู่ตลอดเวลา
คนก็เซ้นท์ซิทีฟกับคำพูด ทำให้คนในสังคมหลีกเลี่ยงที่จะพูดคุยกัน และ สอนลูกหลานไม่ให้คุยกับคนแปลกหน้าด้วย )"
กระทู้*ทำไมเวลาเราเจอคนรู้จักที่ไม่ได้เจอกันนาน เรามักจะหลบสายตา เเล้วเเกล้งไม่เห็น??
https://ppantip.com/topic/35590037/comment12
"จากประสบการณ์ในการติดต่อสื่อสารกับคนมาหลากหลายสัญชาติ หลากหลายสถานะภาพทางสังคม เศรษฐกิจ การศึกษา
คนเอเชียส่วนใหญ่ และ คนไทยส่วนใหญ่เป็นแบบนี้เยอะ
คือ ส่วนใหญ่จะทำเป็นมองไม่เห็นใครก่อน หรือ รู้จักแต่จะไม่ทักก่อน
เพราะคนไทยส่วนใหญ่ ไม่จริงใจกัน คบกันผิวเผิน ประเมินคนจากภายนอก สีผิว ฐานะ
บางครั้งถ้าไม่เห็นผลประโยชน์ ไม่เห็นคอนเน็คชั่น จะไม่สานต่อ ไม่อยากรู้จัก
เพราะคนไทยส่วนใหญ่เข้าสังคมไม่เก่ง ขาดการอบรมเรื่องมารยาทสังคม ทักษะความรู้รอบตัวน้อยจึงขาดเรื่องคุย
คนไทยส่วนใหญ่ถูกเลี้ยงดูมาแบบไม่ให้แสดงความคิดเห็น ห้ามหือ ห้ามอือ จึงขาดความมั่นใจในตัวเอง
คนไทยบางส่วนรู้สึกอึดอัดที่จะต้องพูดต้องคุยกับผู้อื่นในสังคม เพราะไม่ชอบพูดความจริง
เวลาจะพูดจะตอบอะไรก็คิดนานมาก เพราะขาดความจริงใจ เวลาพูดจะพูดในสิ่งที่ทำให้ตัวเองดูดี หรือไม่ได้พูดจากใจ
ลับลมคมในเยอะ พูดจาอ้อมโลก ไม่ตรงไปตรงมา หลีกเลี่ยงการแสดงความคิดเห็น ขาดวิสัยทัศน์ที่ดี
คนส่วนใหญ่ไม่คุยกับคนอื่นด้วย เพราะคนไทย คนเอเชีย ส่วนใหญ่ชอบละลาบละล้วงถามเรื่องส่วนตัวกันแบบไม่มีมารยาท
เช่น ถามเรื่องเงินเดือน ถามเรื่องการมีรถมีบ้าน ถามเรื่องอาชีพ ถามเรื่องแต่งงานหรือไม่แต่งงาน ถามเรื่องส่วนตัวตั้งแต่ 10 คำถามแรกที่เจอกัน
บางพวกก็จะขายของ หาคอนเน็คชั่น หรือ ชวนไปเปลี่ยนศาสนา ทำให้คนไม่ไว้ใจกันเอง เพราะกลัวการหาผลประโยชน์
คนไทยบางกลุ่มก็ไม่คุยกับคนอื่นเพราะถือตัว เย่อหยิ่ง เห็นคนอื่นเป็นคนละชนชั้น
คนไทยบางคนถืออาวุโส คนอายุมากกว่าไม่ทักคนอายุน้อยกว่าก่อน คนที่สถานะภาพทางสังคมสูงกว่าตำแหน่งสูงกว่าไม่ทักผู้น้อยก่อน
สังคมเต็มไปด้วยชนชั้นวรรณะ ระบบอาวุโส กฏต่างๆ ที่มาจากตรรกะประหลาดๆ ที่มองไม่เห็น
คนไทยส่วนใหญ่ยึดติดเรื่องสังคมกลุ่ม พวกพ้อง แบ่งเป็นก๊กเป็นเหล่า เป็นแบบนี้มาตั้งแต่โบราณ
เพราะฉนั้นคนไทยส่วนใหญ่จะไม่ทักทายไม่โอภาปราศัยกับคนนอกกลุ่ม เพราะถือว่าไม่ใช่พวกพ้อง
การเป็นคนเฟรนด์ลี่ที่เป็นอย่างจริงใจ ไม่ได้หมายความว่าจะต้องไปไหนมาไหนเป็นกลุ่ม ไม่ได้หมายความว่าทำอะไรด้วยตนเองไม่ได้
ไม่ได้หมายความว่าอยู่คนเดียวลำพังไม่ได้
มีคนไทยเยอะแยะไป ที่รักสันโดษ สามารถไปไหนมาไหนคนเดียวได้ แต่เป็นคนเฟรนด์ลี่ เป็นมิตรกับคน
สามารถทักทายคนแปลกหน้าในสังคมได้อย่างไม่เคอะเขิน
เพราะเขาเข้าสังคมเป็นนั่นเอง ดูคนเป็น ไม่ดูถูกคน รู้จักพูดคุย แต่ไม่ใช่ว่าเขาไม่ระวังตัว ไม่ใช่ว่าจะไม่รู้จักคัดกรองคน
คนไทยส่วนใหญ่ไม่เคยชินกับการพูดกับคนแปลกหน้า แม้กระทั่งการทักทายสวัสดี ขอบคุณ ก็ทำไม่เป็น
อีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้คนไทยส่วนใหญ่ และ คนเอเชียส่วนใหญ่ ขาดเสน่ห์เวลาที่พูดคุยมากๆ คือ
เวลาคุยแล้วจะ "ตานิ่ง" หรือ "หน้านิ่ง" หรือ พูดคุยแบบไม่สบตาคน
นี่คือประสบการณ์ที่เจอมาจากการเป็นพลเมืองไทย และ เป็นพลเมืองเอเชียมาหลายสิบปี
โตมากับวัฒนธรรมแบบนี้ เห็นอะไรแบบนี้มาเยอะ จึงมองเห็นทะลุแบบนี้"
***เวลาที่อยู่ใน ปท ไทย หรือ เวลาที่เดินทางไป ปท อื่นๆ หรือ อยู่ ปท อื่นๆ
สิ่งที่คนไทยอย่างเราทำเป็นเรื่องปกติในชีวิตประจำวัน คือทักทายคนในสังคมเสมอ
เวลาที่เราขึ้น-ลงแท็กซี่ ขึ้น-ลงรถเมล์ ขึ้น-ลงเครื่องบิน
การเจอ ต.ม. ของประเทศต่างๆ ไปซื้อของ ไปไปรษณีย์ ไปติดต่ออะไรต่างๆ
ไปร้านกาแฟ ไปร้านอาหาร เดินเข้าออกโรงแรม ฯลฯ เราทักทายคนในสังคมด้วยกันเสมอ พูดขอบคุณทุกคนเสมอ
โดยเฉพาะการทักทายขอบคุณพนักงานบริการ
***เราโตมาในสังคมไทยแบบเก่าที่คนยังทักทายกันอยู่ มีการพูดคุยกันกับคนแปลกหน้าในสังคม
ถูกสอนมาแบบนี้ เห็นมาแบบนี้แต่เด็กทั้งจากสภาพแวดล้อมที่บ้าน สถานศึกษา และ สังคมที่เราอยู่
รวมถึงการมีโอกาสได้เดินทาง การได้ใช้ชีวิตใน ตปท
สิ่งเหล่านี้ทำให้การทักทายคนแปลกหน้าถือเป็นเรื่องปกติมากสำหรับคนไทยอย่างเรา บางวันเจอคนเป็นสิบๆ สัญชาติ
บางวันเดินปะปนไปบนท้องถนนกับคนเป็นสิบๆ สัญชาติ หรือ บางครั้งใช้ชีวิตอยู่ร่วมในเมืองที่เป็นบ้านร่วมกับคนอีกเป็นร้อยสัญชาติ
คนไทยบางคนที่เราเจอ คิดว่าเราเว่อร์ บอกว่าทำไมต้องทักคนแปลกหน้า ทำไมต้องขอบคุณทำไมต้องทักพนักงาน
(เพราะคนไทยส่วนใหญ่คิดว่า พนักงานต้องทำงาน คนขับแท็กซี่ต้องบริการ แล้วได้รับเงินเป็นสิ่งตอบแทน เพราะฉนั้นถือเป็นหน้าที่ของพนักงาน
ของคนขับรถที่ต้องทำอยู่แล้ว คนที่จ่ายเงินไม่จำเป็นต้องไปขอบคุณพวกเขา
นอกจากนี้ตรรกะป่วยๆ ของคนบางกลุ่ม ก็ยังถือเป็นบุญคุณที่มีต่อพวกเขา (พนักงานบริการ) อีกต่างหาก ว่า(ตนเอง)ทำให้พวกเขามีรายได้
มีงานทำ แต่กลับลืมนึกถึงการอยู่ร่วมกันในสังคมดีๆ ของคนในอาชีพต่างๆ ที่ต่างก็ต้องพึ่งพาอาศัยกันตามวงจรปกติในสังคม
ที่คนควรจะเคารพซึ่งกันและกัน สามารถทักทาย ขอบคุณกันได้โดยปราศจากชนชั้นวรรณะ ปราศจากการแบ่งแยกโดยอาชีพ
ปราศจากการคิดถึงแต่เรื่องเงินๆ ทองๆ เรื่องกำไร ขาดทุน ส่วนเรื่องของจิตใจเรื่องของมารยาททำหล่นหายไปไหนกันหมด? )
***สมัยนี้พนักงานขายของตามห้างร้าน ที่เมืองไทยส่วนใหญ่ โดยเฉพาะตามย่านใจกลางเมือง ตามห้างหรูๆ ศูนย์การค้าหรูๆ
พนักงานส่วนใหญ่มักจะไปต่อไม่เป็นเลย หรือ ไม่พูดอะไรเลย เมื่อเจอเราทักทาย (เพราะเขาเคยชิน
กับการที่ถูกปฏิบัติมาแบบต้องรับคำสั่ง ต้องบริการ ต้องๆๆๆ และ ถูกล้างสมองด้วยตรรกะที่คนส่วนใหญ่
ชอบท่องจำกันว่า ลูกค้าคือพระเจ้านั่นเอง_ แต่ถ้าไปเดินห้าง แล้วเจอพนักงานที่กินค่าคอมฯ ทัก หรือ พนักงานที่ต้องทำยอดให้ได้ตามเป้า
หรือ พวกหลอกขายครอสต่างๆ นาๆ ทักลูกค้าแบบเฟรนด์ลี่เกินเหตุ ทักแบบเฟคๆ ยิ้มเฟคๆ อันนี้ต้องระวัง ห้ามตกหลุม และ ต้องรู้จักปฏิเสธ)
คนขับแท็กซี่ที่เมืองไทยบางคนถึงกับหันมามองหน้าเราบอกว่า ปกติไม่ค่อยเจอคนไทยเปิดประตูรถมาแล้วพูดคำว่า สวัสดีก่อนเลย
เขาบอกว่า ปกติจะเจอคนส่วนใหญ่แค่บอกสั้นๆ แนวออกคำสั่ง ว่าจะไปไหน แค่นั้นสั้นๆ ห้วนๆ หลายๆ คนไม่พูดคำว่า ค่ะ หรือ ครับ ต่อท้ายด้วยซ้ำไป
คนขับมอเตอร์ไซค์รับจ้างบางคนยิ้ม (ออกแนวไม่เข้าใจ) หรือ หัวเราะ (แนวไม่เข้าใจ) แล้วบอกเราว่า จะขอบคุณอะไรเหรอ แล้วทำไมต้องทัก
เพราะเขาไม่คุ้นเคยนั่นเอง เขาคิดว่าเราเว่อร์
คนไทยระดับบนๆ ส่วนใหญ่ หรือ บางส่วนที่เขาไม่ทักทายคนอื่นทั่วๆ ไปในสังคมก็มีเยอะ เพราะคนเหล่านั้นเขาคิดไปเอง
ตามแบบไทยๆ ที่เขาเคยชินว่า คนอื่นๆ อยู่กันคนละสถานะกับเขา อยู่กันคนละแวดวงสังคมกับเขา
เป็นคนละชนชั้นกัน เพราะฉนั้นไม่ต้องคลุกคลี ไม่ต้องพูดคุยกับคนที่สถานะภาพทางสังคมต่ำกว่า
ถ้าหากว่าไม่มีผลประโยชน์ในทางตรง หรือ ทางอ้อม หรือ หากไม่ต้องทำดีด้วยตามมารยาทเพื่อสร้างภาพ
เป็นเรื่องจริงที่ว่า สังคมไทย บางส่วนเป็นแบบนี้
***หลายๆ คนที่เดินทางบ่อยๆ ให้ลองสังเกตุดู ที่สนามบินสุวรรณภูมิ พนักงานในหลายแผนก
โดยเฉพาะพนักงานของสายการบินต่างๆ เขามักจะหลีกเลี่ยงการพูดคุยกับ ผดส หรือ มักจะคุยแบบ
ไม่ไว้วางใจเลย เพราะเขาเจอมาเยอะ จนต้องมีกลไกในการป้องกันตนเอง โดยการหลีกเลี่ยง
ด้วยการพูดให้น้อย หรือ ไม่พูดเลย พนักงานธนาคารตามเคาน์เตอร์ต่างๆ ของหลายธนาคาร
โดยเฉพาะในย่านเจริญๆ ของกรุงเทพฯ ก็เป็นแบบนี้ หลายๆ คนเขาจะไหว้ จะทักทาย แต่หน้านิ่ง ตานิ่ง
ไม่ค่อยเป็นมิตร พยายามพูดน้อยๆ หรือ ไม่พูดเลย เพราะหากเกิดเพลี่ยงพล้ำ เขาอาจจะต้องโดนให้กราบ
โดนอัดคลิปประจานแบบที่คนบางกลุ่มในสังคมไทยที่แย่ๆ อย่างในปัจจุบันนี้ชอบทำกัน หรือ เขาอาจจะเสียงานได้ด้วยความไม่ยุติธรรม
เพราะฉนั้นพนักงานบริการหลายๆ แห่งใน ปท ไทย โดยเฉพาะพนักงานสายการบิน พนักงานธนาคาร พนักงานโรงแรม
เขามักจะหลีกเลี่ยงการพูดคุยกับลูกค้า ในหลายๆ กรณี หลายๆ แห่ง พนักงานจะถูกสอน ถูกบรี๊ฟมาแบบนั้นเลย
ซึ่งนับเป็นเรื่องที่น่าเศร้ามาก สำหรับสังคมที่ต้องอยู่กันแบบไม่ไว้ใจกันแบบนี้
คนเหล่านั้นส่วนใหญ่ที่เขาไม่เข้าใจ ไปต่อไม่เป็น หรือ คิดว่าการทักทายกับคนอื่นๆ ในสังคมเป็นเรื่องแปลก
เพราะพวกเขาไม่คุ้นเคยกับการอยู่ร่วมกันในสังคมที่คนสามารถมีความรู้สึกเท่าเทียมกัน และ สามารถเห็นคุณค่าของผู้อื่นได้นั่นเอง
อีกทั้งคนรุ่นใหม่ในสมัยนี้มักจะเติบโตกันมาแบบถูกตามใจ หรือ ไม่ได้รับการอบรมเรื่องมารยาทสังคมนั่นเอง
***เวลาที่เราอยู่ ตปท หรือ เวลาที่เดินทางโดยเฉพาะ การไปใน ปท ที่เจริญแล้ว หรือ ใน ปท ที่คนอยู่กันอย่างเคารพซึ่งกันและกัน
ไม่แบ่งเขาแบ่งเรา คนรู้สึกเท่าเทียมกัน หรือ คนไม่มีลับลมคมใน หรือ เวลาที่อยู่ในสังคมอินเตอร์ อยู่เมืองที่อินเตอร์
ผู้คนในสังคมมักจะทักทายกันเสมอ หรือ ไม่ก็ต้องไปในสังคมชนบทบ้านๆ ของแทบจะทุกประเทศ คนจะเป็นมิตรมาก
เท่าที่เจอคนมา คนฟิลิปปินส์ คนคิวบา คนอิหร่าน คนเอธิโอเปีย คนแคนาดา เป็นมิตรที่สุดแล้ว เท่าที่เจอคนมา
คนดูไบ และ คนตะวันออกกลางอีกหลายๆ ชาติก็น่ารัก ตรงไปตรงมา ชอบก็บอกว่าชอบ ไม่ชอบก็แสดงเลย
คนหลายๆ ประเทศเขาสามารถทักทาย มีไมตรีต่อผู้อื่นได้โดยที่ไม่ต้องคิดซับคิดซ้อนมาก
ถือเป็นเรื่องของวัฒนธรรม ประเพณี มารยาทสังคม สภาพแวดล้อม ระบบความคิดของคนในสังคมก็มีส่วนมาก
***เวลาที่เราเจอคนเอเชียด้วยกัน ใน ตปท โดย "ส่วนใหญ่" ถ้าเห็นผู้หญิง หรือ ผู้ชาย
แต่งตัวเป๊ะๆ จัดๆ มีจริตเยอะ นวยนาด ท่าทางไม่เป็นธรรมชาติ มาดเยอะ หรือ ทำหน้านิ่งๆ มีมาดหยิ่ง เชิ่ดๆ ปึ่งๆ ดูไม่เป็นมิตร ไม่ไว้ใจคน
มีภาษากายที่ระแวดระวังตัวอยู่ตลอดเวลา หรือ ถ้าอยู่เป็นกลุ่มจะเสียงดังมีความเคลื่อนไหวเยอะ
แต่หากอยู่คนเดียวจะมีท่าทางไม่มั่นใจในตัวเอง บางครั้งต้องกดโทรศัพท์เล่น หรือ ต้องคุยโทรศัพท์เป็นเพื่อน
สันนิษฐานไว้ก่อนได้เลยว่า นั่นคือ คนไทยด้วยกันเอง และ กว่าร้อยละเก้าสิบเปอร์เซ็นต์ ไม่มีพลาด ใช่จริงๆ
น้อยครั้งมากๆๆๆๆๆ ที่เราจะเจอคนที่เป็นมิตร เพราะส่วนใหญ่จะเจอประเภทตั้งแง่ลบใส่กันไว้ก่อน
หรือ ปล่อยรังสีอำมหิต ออกมาตั้งการ์ดใส่กันไว้ก่อนเสมอ
***ที่เมืองไทย โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ หากมีโอกาส ลองไปยิ้ม หรือ ทักคนแปลกหน้า หรือ ชวนคุยหากมีโอกาสเหมาะๆ สิ
จะพบปฏิกิริยาตอบกลับที่สามารถสัมผัสได้เลยว่า คน "ส่วนใหญ่" เขาจะคิดอยู่ไม่กี่อย่างหรอก เช่น คุณบ้าหรือเปล่า? เว่อร์หรือเปล่า?
หรือ เขาคิดว่า คุณต้องการผลประโยชน์อะไรจากเขา และ ส่วนใหญ่เขาจะประเมินสถานะของคุณทันที โดยแสกนดูจากสิ่งหลายๆ อย่างโดยเฉพาะสิ่งที่เห็นด้วยตาจากภายนอก บางคนจะนิ่งนาน ปากไม่พูด แต่หน้าคิด มีสีหน้ากังวล อึดอัด ไม่ไว้ใจ สายตานิ่งๆ จะทำการประเมินไปด้วย
และ จะตั้งกลไกในการระแวดระวังตัวทันที
เวลาที่เรานั่งเครื่องบิน ถ้าหากว่าคนที่นั่งข้างๆ เป็นคนไทย มีบ้างเหมือนกัน แต่มีคนไทยน้อยคนมากที่จะสนทนากับเรา
ต่อให้เรายิ้มทักทาย บางคนก็หยิ่งใส่ เชิ่ดใส่เลย แต่ถ้าเจอคนชาติอื่นๆ มักจะได้สนทนา แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้บ้าง
หากมีโอกาส
แสดงความคิดเห็น
ทำไมเวลาที่เจอคนไทยด้วยกันที่ ตปท พอทักชวนคุย เค้าก็เฉยๆ เจอแบบนี้เกือบ ทุกคนเลย
แบบไม่ได้แคร์ว่า เจอคนประเทศเดียวกัน ในที่ต่างแดน ตอนคุยกัน เค้าก็ตอบตามเป็นมารยาทแค่นั้น แต่ก็ไม่ได้อะไรเลย ส่วนตัวผมนะ ทุกครั้งที่ผมเจอคนไทย ผมก็ดีใจ ชวนคุย ถามว่ามานานยังครับ มาเที่ยวหรอครับ ชอบไหมครับ อะไรแบบนี้ แต่ทักคนที่เจอ เค้าก็เหมือนกับไม่อยากคุยด้วย ไม่ว่าจะเป็นนักศึกษา ที่มาเรียนต่อ ป.โท หรือ คนที่มาเที่ยว ก็เหมือนเดิม ไม่มีอะไรต่าง
หรืออาจเป็นเพราะผมอยู่อังกฤษ มานาน 11 ปี ถึงได้ดีใจเพราะไม่ค่อยได้เจอ คนไทย ส่วนพวกเค้าอยู่ไทย เคเาเจอบ่อย ไม่ต้องการเจอคนไทยอีก แบบนั้นรึเปร่า?? ตัวผมก็รู้สึก Awkward มากเลย จนผมชินแล้ว เหมือนกับว่า ทุกครั้งถ้าเจอคนไทย ในต่างแดน ก็คงต้อง เฉยๆ จะไม่ชวนคุยแล้วละ เพราะเจอแบบนี้ ตลอด
แต่อยากได้เหตุผลเพราะอะไรหรอถึงเป็นแบบนั้น