วันที่ 13 มีค 2562  ผมและกลุ่มเพื่อนมายื่นขอวีซ่าประเทศโครเอเชียที่ vfs global จามจุรีสแควร์ ชั้น 4 ตั้งแต่ 7.30 น เจอจนท vfs แจ้งว่าไม่มีคิว ให้รอ ไม่มีเก้าอี้นั่งรอ หลายคนก็นั่งรอที่พื้น เพราะแจ้งว่าเปิด 8.30 น  คนรอที่อยากได้คิวแรก ก็พยายามนั่งพื้นแถวประตู ทุกคนรวมทั้งกลุ่มผมดูอนาถมาก   เมื่อพวกผมได้รับคิวแล้วก็ได้เข้ามานั่งรอที่หน้าเคาว์เตอร์ 54  ลูกค้าที่เข้าก่อนหน้ากลุ่มผมได้รับแจ้งว่าใบยื่นขอวีซ่าที่ลงทะเบียนออนไลน์และพิมพ์ฉบับกระดาษมายื่นที่ vfs ต้องมีรูปภาพหน้าของผู้ยื่นขอปรากฎบนใบยื่นขอวีซ่า  แต่ที่ลูกค้านำมายื่นเป็นฉบับที่ไม่มีรูปภาพหน้า เหตุเพราะว่าเขาไม่สามารถ upload รูปภาพเข้าระบบได้ และบนเวปไซต์สถานฑูต   https://crovisa.mvep.hr/  (ซึ่งเข้าเวปไซต์ผ่านทางเวปไซต์ vsf  <https://www.vfsglobal.com/croatia/thailand/Thai/Tourist.html>)  ระบุไว้ว่า ไม่จำเป็นต้อง upload แต่การ upload จะช่วยในกระบวนการขอวีซ่าเร็วขึ้น   ลูกค้ากลุมนั้นรวมถึงกลุ่มผมและอีกหลายคนมีปัญหาเหมือนกันที่ไม่สามารถ upload รูปภาพได้ ทุกคนจึงต้องไปลงทะเบียนออนไลน์ใหม่  เพื่อนของผมคนที่ช่วยลงทะเบียนให้ทุกคนในกลุ่มบอกว่าได้พยายามลงข้อมูลเพื่อลงทะเบียนในเวปไซต์ซ้ำแล้วหลายรอบก็ไม่สามารถ upload ได้ จึงไม่ได้พยายามต่อที่จะ upload เพราะที่เวปไซต์ระบุไว้ว่า ไม่จำเป็นต้อง upload  

เมื่อได้รับคำยืนยันจาก จนท vfs ว่าไม่ขอรับยื่นเอกสาร ให้ลูกค้าไปทำการลงทะเบียนออนไลน์ใหม่ซึ่งต้องให้มีรูปภาพหน้าปรากฎบนใบยื่นขอวีซ่า โดยที่ทุกคนก็ยังไม่มีใครที่รู้ว่าต้องทำอย่างไรเพื่อจะให้ upload รูปภาพได้  หลายคนต้องพยายามหาทางกันเองโดยไม่ทราบอนาคต  โชคดีที่เพื่อนคนที่ช่วยลงทะเบียนให้ นำ notebook มาด้วย จึงไปช่วยกัน พยายามลงทะเบียนออนไลน์ซ้ำๆ วนไปมาหลายรอบแต่ก็ไม่สำเร็จ  โชคดีมีคนทราบมาว่าร้านค้าขายอุปกรณ์ IT ชั้น 3 ซึ่งเปิดเวลา 10 น อาจช่วยเหลือได้ ทุกคนก็ต้องรอจนกว่าร้านจะเปิด  

เวลา 10 น ทุกคนก็ไปยืนออแถวหน้าร้าน IT  พนง ร้านแจ้งให้ทุกคนทราบว่ารูปภาพจะต้องปรับขนาดในคอมพิวเตอร์ให้มีขนาดตรงกับขนาดที่ระบุไว้ในหน้าลงทะเบียน  (ซึ่งเราจะไม่สามารถเห็นข้อกำหนดเกี่ยวกับรูปภาพที่จะ upload ได้จนกว่าจะถึงขั้นตอนสุดท้ายของการลงทะเบียน  และถึงแม้ได้เห็นข้อกำหนดนั้น หลายคนก็ไม่สามารถเข้าใจได้)  ยังไงก็ตามทุกคนก็ไม่มีใครทำเป็นเลย  พนง ร้านจึงช่วยปรับขนาดรูปภาพให้เป็นไปตามที่ระบุในขั้นตอนการลงทะเบียน  โดยที่ พนง ต้องสแกนรูปภาพเข้าคอมฯ ก่อนแล้วจึงทำการปรับขนาดรูปให้ได้   ในขณะที่กลุ่มผมลงทะเบียนใหม่อีกครั้งโดยเครื่องคอมเพียงเครื่องเดียว  ลูกค้ากลุ่มอื่นที่ upload รูปภาพตามขนาดที่ระบุได้แล้ว ก็พิมพ์ฉบับกระดาษแล้วนำกลับไปยื่นเอกสารอีกครั้ง  ก็ยังคงมีปัญหาอีก จนท vsf ก็ยังไม่รับเอกสาร เพราะ รูปภาพที่ upload ขึ้นไม่เต็มกรอบรูปภาพบนแบบฟอร์ม แล้วให้ลูกค้ากลับไปทำมาใหม่  เขาจึงรีบกลับมาแจ้งให้กับทุกคนรวมทั้งกลุ่มผมให้รับทราบว่าทุกคนต้องลงทะเบียนใหม่หมดอีกรอบ กลุ่มผมต้องลงทะเบียนใหม่อีกรอบ กว่าจะเสร็จเรียบร้อยก็ถึงเวลาเกือบ 12 น  ซึ่งเป็นเวลาที่ vsf ก็ปิดทำการในช่วงเที่ยง  ทุกคนรีบไปกินข้าว แล้วรีบกลับไปรอที่หน้าประตู vsf เพื่อรอรับคิวใหม่ ซึ่งหน้าประตูวุ่นวายมาก มีคนมาคอยถาม จนท หน้าประตูตลอดเวลา ต้องไปรอตรงไหน ทำอะไร อย่างไร ไม่มีป้ายชี้แจงให้ลูกค้าต้องทำอย่างไร  

เวลา 13 น พวกผมเข้าไปรับคิวใหม่ แล้วไปรอที่เคาว์เตอร์ 54 เมื่อยื่นเอกสารใหม่ก็ต้องตกใจอีกครั้งเพราะ จนท vfs แจ้งว่าใบจองโรงแรมแต่ละโรงแรมต้องระบุชื่อของทุกคน  แต่เอกสารใบจองโรงแรม (8 โรงเเรม) ของพวกผมไม่ได้ระบุชื่อของทุกคน มีแต่ชื่อของเพื่อนที่ช่วยจอง ที่เป็นเช่นนี้เพราะบนเวปไซต์ลงทะเบียนระบุให้ยื่นใบจองโรงแรม แต่ไม่ได้ระบุว่าต้องลงชื่อของทุกคนในกลุ่ม  พวกผมจึงต้องไปใส่ข้อมูลเพิ่มในใบจองโรงแรมทีละโรงแรมผ่านทางเวปไซต์  นอกจากนั้น จนท vsf ก็ขอสำเนาหน้า passport เพิ่มเติม แต่พวกผมส่วนใหญ่ไม่ได้เตรียมไว้เนื่องจากบนเวปไซต์ไม่ได้ระบุให้เตรียมสำเนาหน้า passport  

พวกเราจึงขอพบกับ supervisor เพื่อต้องการที่จะไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก  supervisor ผู้ชายไม่ทราบชื่อได้ออกมาพบ เขารับฟัง แต่ฟังอย่างไม่เข้าใจในเกือบทุกเรื่อง เช่น  

ประเด็นรูปภาพ เขาบอกว่าได้แจ้งสถานทูตโครเอเชียแล้ว แต่ก็ไม่มีการปรับเวปไซต์ จึงไม่รู้จะทำอย่างไร จึงได้แค่แจ้งลูกค้า ณ หน้าเคาเตอร์ ตอนที่มายื่นเอกสารอย่างที่เป็นอยู่  พวกผมก็งงพอควรกับคำตอบ เพราะ vsf ก็มีเวปไซต์ของตนเอง    

ประเด็นเอกสารโรงแรม เขาบอกว่า vsf ได้แสดงรายการเอกสารที่ต้องเตรียมสำหรับการยื่นเอกสารไว้อยู่แล้ว และโดยปกติแล้วในการจองโรงแรมจะต้องมีการลงชื่อผู้เข้าพักทุกคน พวกผมก็งงอีกเพราะรายการดังกล่าวไม่ได้ระบุให้มีการลงชื่อผู้เข้าพักทุกคน และการจองโรงแรมโดยปกติที่พวกผมเคยทำเพื่อพักในยุโรปที่ผ่านมาหลายประเทศ พวกผมก็ไม่เคยที่จะต้องใส่ชื่อผู้เข้าพักทุกคน จะมีก็เพียงแต่ชื่อผู้จอง ซึ่งก็เป็นเอกสารที่ยอมรับเพื่อประกอบการทำวีซ่า จึงถือว่าเรื่องนี้ไม่น่าจะใช่เรื่องโดยปกติ. นอกจากนั้น เขาบอกเพิ่มเติมว่าถ้าลูกค้าไม่เพิ่มชื่อผู้พักทุกคนในใบจองโรงแรม จะยื่นก็ได้ แต่ก็ไม่รับรองว่าจะผ่าน  

ประเด็นสำเนาหน้า passport เขาบอกว่าถ้าลูกค้าไม่ส่งสำเนาไปด้วย เขาก็ไม่รับรองว่าการขอวีซ่าจะผ่านหรือไม่  พวกผมก็รู้สึกไม่สบายใจทั้งๆ ที่พวกผมก็เตรียมเอกสารทั้งหมดตามที่ระบุบนเวปไซต์ซึ่งใบสำเนาหน้า passport ไม่ปรากฎเป็นเอกสารประกอบการยื่นขอวีซ่า  และที่รู้สึกแย่เพิ่มเติมเพราะเขาบอกว่าเท่าที่เขาทำได้คือจะแจ้งลูกค้าตอนมายื่นเอกสารหน้าเคาเตอร์แล้ว   เมื่อผมย้อนไปว่าถ้าเป็นเช่นนี้เมื่อลูกค้าไม่เชื่อข้อมูลบนเวปไซต์แล้วเตรียมเอกสารมาเกินกว่าที่จำเป็น ก็จะทำให้ จนท vsf เสียเวลาคัดเลือกเอกสารอีกและเอกสารที่เตรียมมาเกินก็ไม่แน่ว่าจะตรงตามที่ต้องการเสมอไป  เขาบอกว่าถ้าลูกค้าประสงค์ที่จะส่งเอกสารเพิ่มเกินกว่าที่ระบุไว้ในเวปไซต์ เขาก็จะทำเรื่องส่งให้ก็ได้  

การสนทนากับ supervisor คนนี้ นอกจากเหนื่อยใจแล้ว ก็ยังไม่เกิดประโยชน์  ไม่มีความหมายแต่อย่างไร  

พวกผมไปเพิ่มชื่อในใบจองโรงแรมทั้งหมด และ print เป็นเอกสารทั้งหมดอีก ประมาณเกือบ 200 แผ่น และทำสำเนาหน้า passport เพิ่ม จัดเรียงเอกสารให้เป็นลำดับใหม่ ขีด highlight ชื่อนามสกุลของแต่ละคนในใบจองโรงแรมให้ตรงตามชื่อของผู้ยื่นเอกสาร  พวกผมเตรียมเอกสารรอบนี้ใช้เวลาจนถึงเวลาประมาณ 15 น กว่า แล้วกลับมารอ จนท ดำเนินการจนถึงเวลา 16.17 น เสียค่าวีซ่าคนละ 5293 บาท แต่จริงแล้วพวกผมเสียเงินเพื่อการยื่นขอวีซ่าครั้งนี้มากกว่านั้นเยอะ พวกผมหลายคนต้องยกเลิกงานช่วงบ่ายทั้งหมด   การยื่นขอวีซ่าครั้งนี้เป็นเรื่องที่เจ็บไปอีกนาน......ใครอยากไปโครเอเชียก็คงต้องคิดกันหนักหน่อย