ก่อนอื่นต้องขอเล่า...เราเป็นเด็กสาวคนนึงตั้งแต่จำความได้ก็อาศัยอยู่กับยาย
เรามีแฟนคนแรกตอนอยู่ปี1ซึ่งเจอกันตอนเราอยู่มอ.6 แต่เราพึ่งบอกยายเมื่อตอนเราอยู่ปี2 แรกๆก็เหมือนจะดีแต่คบกันไปได้เกือบ3ปีสุดท้ายแฟนเราก็มีกิ๊ก เราจึงตัดสินใจเลิก เราใช้เวลาทำใจอยู่นานเกือบปี จนได้คุยกับรุ่นพี่ในสาขาซึ่งพี่เขาได้จบการศึกษาไปแล้ว ต้องย้อนไปตอนเราอยู่ปี2แล้วพี่เขาอยู่ปี3 เราเกลียดขี้หน้าพี่คนนี้มากกกก(ก.ไก่ล้านตัว) แต่ช่วงเรากำลังสอบแล้วก็มีทำโปรเจคจบเราไปคุยปรึกษาพี่เขาได้ยังไงไม่รู้ คุยไปคุยมาเป็นแฟนกันเฉยย55 หลังจากเราเรียนจบเราก็พยายามหางานที่เรากับพี่เขาจะได้อยู่ด้วยกัน หางานที่แรกเราได้งานทำ เป็นโรงงานที่อยู่ใกล้บ้าน แต่มันขัดความตั้งใจเราที่ตั้งไว้ ทำให้เราลีลาขอผลัดวันเริ่มทำงานกับทางโรงงานอยู่2เดือนเต็ม เราก็ไม่ได้งานที่ทำให้เราอยู่กับแฟนได้ เราคิดว่าควรเลิกดื้อละ ควรเริ่มทำงานได้แล้ว...นี่คือจุดเริ่มต้นของทุกสิ่งที่กำลังเกิด นับว่าเป็นเรื่องดีอย่างนึงคือเราได้อยู่บ้าน อยู่ใกล้ยายที่อายุมากแล้ว ช่วงแรกที่ไปทำงาน เรารู้สึกว่าเบื่อและอยากลาออกทุกวัน เพราะทุกคนกำลังยุ่งจนไม่มีเวลา ที่นี่จะไม่มีคนสอนงาน ต้องพยายามหาความรู้ใส่ตัว เราโชคดีที่วันที่เข้าทำงานมีเพื่อนผญเข้ามาพร้อมเราคนนึง เพื่อนคนนี้ตอนแรกเราคิดว่าน่าจะเข้ากับเราไม่ได้แน่ๆแต่สุดท้ายเพื่อนคนนี้แหระคือเพื่อนที่เราสนิทสุดๆ แรกๆเราและเพื่อนไปกินข้าวด้วยกัน2คนตลอด เพราะว่าเรามาพร้อมกัน จนวันนึงมีพี่ที่แผนกชอบเพื่อนเรา แล้วก็คุยกับเพื่อนเรา ทำให้เราเพื่อนได้ไปกินข้าวกับพี่คนที่ชอบเพื่อนเรา กับเพื่อนในแกงส์พี่เขา ซึ่งคนในกลุ่มนั้นมีพี่คนนึงซึ่งเราก็นั่งข้างเขาตลอด เขาเป็นคนตลก ปากดีหน่อยๆ (ปากร้าย ปากหมา) เป็นคนออกแนวขวางโลก เราก็เป็นคนไม่ยอมคนด้วยสิ พูดอะไรขัดหูเราก็จะเถียงตลอด จนคนรอบข้างแซว แรกๆเราก็ไม่คิดอะไร เพราะปกติเรากวนตีน จำได้ว่าวันแรกที่ไปทำงานเราก็เจอพี่เขา ขอใช้สรรพนามพี่คนนี้ว่า”นาง”ละกัน นางถามว่าเราชื่อไร ทำข้อมูลทั่วไป ด้วยความที่สันดานเราเป็นเด็กกวนตีนเป็นทุนเดิม ก็กวนตีนไปเรื่อย นางก็ถามว่ากวนตีนแบบนี้มีแฟนยัง เราก็ตอบไปเห็นแบบนี้มีแฟนนะครับบบ หลังจากนั้นไม่นาน เราก็ถูกลากชื่อเข้าไลน์แผนก ในไลน์กลุ่มจะสามารถคุยได้ทั้งงานทั้งเรื่องทั่วไป เราไม่ได้สนใจอะไร จนวันนึงเราต้องติดต่องานกับเพื่อนคนอื่นในแผนก เราจึงบอกให้เขาแอดไลน์มา เมื่อเพื่อนแอดไลน์เสร็จเราก็รอสักพักทำไมไม่ขึ้นสักทีจนเราไปคุยกับเพื่อนคนนั่นที่แอดมา ทำให้รู้ว่าถ้ามีคนแอดมามันจะไปขึ้นที่รายชื่อที่แนะนำ เราก็เข้าไปดู ปรากฏว่ามีชื่อนางด้วย ด้วยความกลัวว่าจะน่าแตกป่าวน้า หรืออาจจะขึ้นชื่อคนแนะนำมาเฉยๆพี่เขาไม่น่าจะแอดเราหรอกมั้ง เราก็เงียบไปเป็นเดือน แล้วด้วยเราเริ่มสนิทกับนางมากขึ้นๆเพราะนั่งกินข้าวข้างกันตลอด กัดกันตลอด เราเลยถามไปว่า “พี่แอดไลน์หนูมากรอ” แล้วพี่เขาก็ได้ตอบว่าเขาแอดตั้งแต่วันแรกที่เรามาทำงานละ เราก็งงๆแล้วก็กดรับไปไม่ได้รู้สึกอะไร จนมาพักหลังๆถูกแซวบ่อยขึ้นๆ ทำให้เราเริ่มอยากรู้จักนิสัยใจคอนางมากขึ้น เหมือนพักหลังๆเราพยายามมองข้ามความไม่ชอบส่วนตัวแล้วใช้ความรู้สึกมอง เห้ยพอเวลามีปัญหาไม่ว่าใคร นางจะพูดหมาๆของนางไปเหมือนเดิม แต่ในคำพูดหมาๆของนาง มันมีอะไรซ่อนอยู่เสมอ เราได้ข้อคิดหลายอย่างจากนางเสมอ มันทำให้เราอยากรุจักนางเข้าไปอีก ก่อนอื่นบ้านเรากับนางอยู่คนละทางกันเลยยย ปกติยายจะมารับเรา แล้วบ้านนางจะอยู่ไปในทางโซนใกล้เมือง สามรถเดินทางผ่านเมือนไปหรือเลี่ยงเมืองไปก็ได้ เราเลยปฏิบัติการขอติดรถนางเข้าเมือง เพราะเราอยากรู้จักนาง เราตื่นเต้นมาก กลัวก็กลัว เห้ยนางเป็นคนน่ารัก แบบที่เราไม่เคยเห็นตอนอยู่ในโรงงานมาก่อน บทสนทนาระหว่างการเดินทางก็ดำเนินไปเรื่อยๆ นางพูดเหมือนคนเหงา ด้วยความไม่ได้คิดอะไร เราจึงบอกว่าพี่ก็มีแฟนดีจะได้มีคนคลายเหงา พี่เขาก็ยิ้มแบบแปลกๆ เวลาผ่านไปเร็วมากจนถึงที่หมายละ คืนนั้นเรากลับมาถึงบ้านครุ่นคิดทั้งคืนว่าเกิดอะไรขึ้นกับใจเรานะ แล้วพร้อมกับบอกตัวเองว่า ไม่ได้นะ เรามีแฟนแล้ว เราก็ไปทำงานใช้ชีวิตปกติแต่พี่ในกลุ่มก็เริ่มแซวมากขึ้นๆๆๆ จนเราแบบไม่ไหวละ เราเริ่มคิดแล้วหวะ ประกอบกับพี่ในกลุ่มมาสปอยเราประมาณว่า พี่มีอะไรจะบอกพี่ดูออกว่าเพื่อนพี่ชอบน้อง ชอบจริงๆ ที่นี้หระครับ เตลิด!! มาพักหลังๆเราเหมือนอยากรู้ว่านางคิดยังไง ก็เลยแบบคุยกับนางมากขึ้น จนคนในที่ทำงานเริ่มสงสัยแล้วแซวหนักขึ้น ทำให้นางพยายามตีตัวออกห่างเรามากขึ้น แต่ด้วยแบบเราอยากรู้คำตอบ เราไม่เป็นอันทำอะไร ให้พี่ในกลุ่มช่วยไปคุยกับนาง จนได้ความว่า นางชอบเราจริงๆแต่นางมีเหตุผลที่ไม่สามารถคบเราได้ก็คือนางมีแฟนแล้ว นางกลัวคนอื่นมองเราไม่ดี เพราะมีคนในที่ทำงานรู้จักแฟนนาง นางจำเป็นต้องทำแบบนี้ เราได้รู้ก็จุกไปแปบ เราก็มีแฟนแล้วด้วย เลยรู้สึกว่าเรื่องนี้ไม่ควรเกิด แต่ด้วยอยากรู้จากปากนางจริงๆ เลยทักไปหานาง นางบอกเออชอบ แต่จะทำไงได้พี่มีแฟนแล้ว เราจึงบอกนางว่า เราเองก็รู้สึกดี เรื่องนี้ก็จบ แต่มันไม่จบจริงๆ เราก็ใช้ชีวิตปกติทุกวัน เราก็คอยดูแลเอาใจใส่แต่มากกว่าคนอื่น เราพึ่งมารู้ทีหลังว่าปกตินางจะกลับบ้านทางเลี่ยงเมืองซึ่งไม่ผ่านในเมือง แต่นางก็ไปส่งเรา แล้วนางก็ชอบพูดเหมือนพยายามทำให้เราหึง แต่ทุกครั้งก็ทำเป็นหยิ่งใส่เรา ไม่สนใจเรา ล่าสุดนางโกรธเรา เพราะเราคุยกับเพื่อนที่เข้ามาใหม่เรื่องผชระหว่างกินข้าว ขากลับแผนกเพื่อนคนนั้นไปอีกทาง เราเลยเดินกลับกับนาง2คน นางพูดกับเราว่า “อยากมีผัวมากหรอ” เราวิปมากบอกพี่ทำไมต้องพูดแรงขนาดนี้อ่า แค่คุยกันเฉยๆปะ นางก็บอกถ้าพูดไม่ดีก็ไม่ต้องมาคุย เราเลยบอกโอเครพี่ไม่คุยก็ไม่ต้องคุย แล้วนางก็เมินเราคนเดียว พอเจอเราก็จะทำหน้าเมิน ไม่มองใส่ สุดท้ายเราต้องเป็นคนพูดกับนาง ให้นางเลิกทำแบบนี้ อะไรวะ คนสมควรงอนต้องเป็นเราดิ ตอนนี้เรารู้สึกว่าที่เราไม่ได้เกินเลย แต่มันผิดตรงที่เรากำลังให้อีกคนเข้ามาแทรกความรู้สึกของเรากับแฟน แล้วเราเองกำลังเข้าไปแทรกแซงนางกับแฟนนางด้วย มันผิดนะ ทุกครั้งที่พยายาม เห็นหน้ากันทุกวัน ก็ทำให้มีความรู้ดีขึ้นมา โอ้ยยย!!!เพลียใจ ตอนแรกเราก็ไม่เชื่อหรอกว่าระยะทางก็มีส่วน. 😐
ปล่อยให้ความถูกใจมาก่อนถูกต้องได้ไง
เรามีแฟนคนแรกตอนอยู่ปี1ซึ่งเจอกันตอนเราอยู่มอ.6 แต่เราพึ่งบอกยายเมื่อตอนเราอยู่ปี2 แรกๆก็เหมือนจะดีแต่คบกันไปได้เกือบ3ปีสุดท้ายแฟนเราก็มีกิ๊ก เราจึงตัดสินใจเลิก เราใช้เวลาทำใจอยู่นานเกือบปี จนได้คุยกับรุ่นพี่ในสาขาซึ่งพี่เขาได้จบการศึกษาไปแล้ว ต้องย้อนไปตอนเราอยู่ปี2แล้วพี่เขาอยู่ปี3 เราเกลียดขี้หน้าพี่คนนี้มากกกก(ก.ไก่ล้านตัว) แต่ช่วงเรากำลังสอบแล้วก็มีทำโปรเจคจบเราไปคุยปรึกษาพี่เขาได้ยังไงไม่รู้ คุยไปคุยมาเป็นแฟนกันเฉยย55 หลังจากเราเรียนจบเราก็พยายามหางานที่เรากับพี่เขาจะได้อยู่ด้วยกัน หางานที่แรกเราได้งานทำ เป็นโรงงานที่อยู่ใกล้บ้าน แต่มันขัดความตั้งใจเราที่ตั้งไว้ ทำให้เราลีลาขอผลัดวันเริ่มทำงานกับทางโรงงานอยู่2เดือนเต็ม เราก็ไม่ได้งานที่ทำให้เราอยู่กับแฟนได้ เราคิดว่าควรเลิกดื้อละ ควรเริ่มทำงานได้แล้ว...นี่คือจุดเริ่มต้นของทุกสิ่งที่กำลังเกิด นับว่าเป็นเรื่องดีอย่างนึงคือเราได้อยู่บ้าน อยู่ใกล้ยายที่อายุมากแล้ว ช่วงแรกที่ไปทำงาน เรารู้สึกว่าเบื่อและอยากลาออกทุกวัน เพราะทุกคนกำลังยุ่งจนไม่มีเวลา ที่นี่จะไม่มีคนสอนงาน ต้องพยายามหาความรู้ใส่ตัว เราโชคดีที่วันที่เข้าทำงานมีเพื่อนผญเข้ามาพร้อมเราคนนึง เพื่อนคนนี้ตอนแรกเราคิดว่าน่าจะเข้ากับเราไม่ได้แน่ๆแต่สุดท้ายเพื่อนคนนี้แหระคือเพื่อนที่เราสนิทสุดๆ แรกๆเราและเพื่อนไปกินข้าวด้วยกัน2คนตลอด เพราะว่าเรามาพร้อมกัน จนวันนึงมีพี่ที่แผนกชอบเพื่อนเรา แล้วก็คุยกับเพื่อนเรา ทำให้เราเพื่อนได้ไปกินข้าวกับพี่คนที่ชอบเพื่อนเรา กับเพื่อนในแกงส์พี่เขา ซึ่งคนในกลุ่มนั้นมีพี่คนนึงซึ่งเราก็นั่งข้างเขาตลอด เขาเป็นคนตลก ปากดีหน่อยๆ (ปากร้าย ปากหมา) เป็นคนออกแนวขวางโลก เราก็เป็นคนไม่ยอมคนด้วยสิ พูดอะไรขัดหูเราก็จะเถียงตลอด จนคนรอบข้างแซว แรกๆเราก็ไม่คิดอะไร เพราะปกติเรากวนตีน จำได้ว่าวันแรกที่ไปทำงานเราก็เจอพี่เขา ขอใช้สรรพนามพี่คนนี้ว่า”นาง”ละกัน นางถามว่าเราชื่อไร ทำข้อมูลทั่วไป ด้วยความที่สันดานเราเป็นเด็กกวนตีนเป็นทุนเดิม ก็กวนตีนไปเรื่อย นางก็ถามว่ากวนตีนแบบนี้มีแฟนยัง เราก็ตอบไปเห็นแบบนี้มีแฟนนะครับบบ หลังจากนั้นไม่นาน เราก็ถูกลากชื่อเข้าไลน์แผนก ในไลน์กลุ่มจะสามารถคุยได้ทั้งงานทั้งเรื่องทั่วไป เราไม่ได้สนใจอะไร จนวันนึงเราต้องติดต่องานกับเพื่อนคนอื่นในแผนก เราจึงบอกให้เขาแอดไลน์มา เมื่อเพื่อนแอดไลน์เสร็จเราก็รอสักพักทำไมไม่ขึ้นสักทีจนเราไปคุยกับเพื่อนคนนั่นที่แอดมา ทำให้รู้ว่าถ้ามีคนแอดมามันจะไปขึ้นที่รายชื่อที่แนะนำ เราก็เข้าไปดู ปรากฏว่ามีชื่อนางด้วย ด้วยความกลัวว่าจะน่าแตกป่าวน้า หรืออาจจะขึ้นชื่อคนแนะนำมาเฉยๆพี่เขาไม่น่าจะแอดเราหรอกมั้ง เราก็เงียบไปเป็นเดือน แล้วด้วยเราเริ่มสนิทกับนางมากขึ้นๆเพราะนั่งกินข้าวข้างกันตลอด กัดกันตลอด เราเลยถามไปว่า “พี่แอดไลน์หนูมากรอ” แล้วพี่เขาก็ได้ตอบว่าเขาแอดตั้งแต่วันแรกที่เรามาทำงานละ เราก็งงๆแล้วก็กดรับไปไม่ได้รู้สึกอะไร จนมาพักหลังๆถูกแซวบ่อยขึ้นๆ ทำให้เราเริ่มอยากรู้จักนิสัยใจคอนางมากขึ้น เหมือนพักหลังๆเราพยายามมองข้ามความไม่ชอบส่วนตัวแล้วใช้ความรู้สึกมอง เห้ยพอเวลามีปัญหาไม่ว่าใคร นางจะพูดหมาๆของนางไปเหมือนเดิม แต่ในคำพูดหมาๆของนาง มันมีอะไรซ่อนอยู่เสมอ เราได้ข้อคิดหลายอย่างจากนางเสมอ มันทำให้เราอยากรุจักนางเข้าไปอีก ก่อนอื่นบ้านเรากับนางอยู่คนละทางกันเลยยย ปกติยายจะมารับเรา แล้วบ้านนางจะอยู่ไปในทางโซนใกล้เมือง สามรถเดินทางผ่านเมือนไปหรือเลี่ยงเมืองไปก็ได้ เราเลยปฏิบัติการขอติดรถนางเข้าเมือง เพราะเราอยากรู้จักนาง เราตื่นเต้นมาก กลัวก็กลัว เห้ยนางเป็นคนน่ารัก แบบที่เราไม่เคยเห็นตอนอยู่ในโรงงานมาก่อน บทสนทนาระหว่างการเดินทางก็ดำเนินไปเรื่อยๆ นางพูดเหมือนคนเหงา ด้วยความไม่ได้คิดอะไร เราจึงบอกว่าพี่ก็มีแฟนดีจะได้มีคนคลายเหงา พี่เขาก็ยิ้มแบบแปลกๆ เวลาผ่านไปเร็วมากจนถึงที่หมายละ คืนนั้นเรากลับมาถึงบ้านครุ่นคิดทั้งคืนว่าเกิดอะไรขึ้นกับใจเรานะ แล้วพร้อมกับบอกตัวเองว่า ไม่ได้นะ เรามีแฟนแล้ว เราก็ไปทำงานใช้ชีวิตปกติแต่พี่ในกลุ่มก็เริ่มแซวมากขึ้นๆๆๆ จนเราแบบไม่ไหวละ เราเริ่มคิดแล้วหวะ ประกอบกับพี่ในกลุ่มมาสปอยเราประมาณว่า พี่มีอะไรจะบอกพี่ดูออกว่าเพื่อนพี่ชอบน้อง ชอบจริงๆ ที่นี้หระครับ เตลิด!! มาพักหลังๆเราเหมือนอยากรู้ว่านางคิดยังไง ก็เลยแบบคุยกับนางมากขึ้น จนคนในที่ทำงานเริ่มสงสัยแล้วแซวหนักขึ้น ทำให้นางพยายามตีตัวออกห่างเรามากขึ้น แต่ด้วยแบบเราอยากรู้คำตอบ เราไม่เป็นอันทำอะไร ให้พี่ในกลุ่มช่วยไปคุยกับนาง จนได้ความว่า นางชอบเราจริงๆแต่นางมีเหตุผลที่ไม่สามารถคบเราได้ก็คือนางมีแฟนแล้ว นางกลัวคนอื่นมองเราไม่ดี เพราะมีคนในที่ทำงานรู้จักแฟนนาง นางจำเป็นต้องทำแบบนี้ เราได้รู้ก็จุกไปแปบ เราก็มีแฟนแล้วด้วย เลยรู้สึกว่าเรื่องนี้ไม่ควรเกิด แต่ด้วยอยากรู้จากปากนางจริงๆ เลยทักไปหานาง นางบอกเออชอบ แต่จะทำไงได้พี่มีแฟนแล้ว เราจึงบอกนางว่า เราเองก็รู้สึกดี เรื่องนี้ก็จบ แต่มันไม่จบจริงๆ เราก็ใช้ชีวิตปกติทุกวัน เราก็คอยดูแลเอาใจใส่แต่มากกว่าคนอื่น เราพึ่งมารู้ทีหลังว่าปกตินางจะกลับบ้านทางเลี่ยงเมืองซึ่งไม่ผ่านในเมือง แต่นางก็ไปส่งเรา แล้วนางก็ชอบพูดเหมือนพยายามทำให้เราหึง แต่ทุกครั้งก็ทำเป็นหยิ่งใส่เรา ไม่สนใจเรา ล่าสุดนางโกรธเรา เพราะเราคุยกับเพื่อนที่เข้ามาใหม่เรื่องผชระหว่างกินข้าว ขากลับแผนกเพื่อนคนนั้นไปอีกทาง เราเลยเดินกลับกับนาง2คน นางพูดกับเราว่า “อยากมีผัวมากหรอ” เราวิปมากบอกพี่ทำไมต้องพูดแรงขนาดนี้อ่า แค่คุยกันเฉยๆปะ นางก็บอกถ้าพูดไม่ดีก็ไม่ต้องมาคุย เราเลยบอกโอเครพี่ไม่คุยก็ไม่ต้องคุย แล้วนางก็เมินเราคนเดียว พอเจอเราก็จะทำหน้าเมิน ไม่มองใส่ สุดท้ายเราต้องเป็นคนพูดกับนาง ให้นางเลิกทำแบบนี้ อะไรวะ คนสมควรงอนต้องเป็นเราดิ ตอนนี้เรารู้สึกว่าที่เราไม่ได้เกินเลย แต่มันผิดตรงที่เรากำลังให้อีกคนเข้ามาแทรกความรู้สึกของเรากับแฟน แล้วเราเองกำลังเข้าไปแทรกแซงนางกับแฟนนางด้วย มันผิดนะ ทุกครั้งที่พยายาม เห็นหน้ากันทุกวัน ก็ทำให้มีความรู้ดีขึ้นมา โอ้ยยย!!!เพลียใจ ตอนแรกเราก็ไม่เชื่อหรอกว่าระยะทางก็มีส่วน. 😐