Samsung ได้ทำการเปิดตัวตระกูล A ที่มาในชื่อ A10 A20 A30 A50 และได้ทำการยกเลิกชื่อ J Series ทั้งหลายไปหมดแล้ว รวมถึง A7 A9 อะไรพวกนั้นไม่มีแล้วนะจะเป็นเลข 2 หลักแบบนี้ไปทั้งหมด ส่วนรุ่น M นั้นจะเป็นการขายออนไลน์ซึ่งยังไม่มีแผนการทำตลาดในไทยนะครับในตอนนี้ แน่นอนว่าเรามาดูกันสดๆร้อนๆเลยพรีวิว ทดลองเล่นเกม นิดหน่อย ดูอุปกรณ์ในกล่องกัน และ ฟีเจอร์มีอะไรน่าสนใจกันบ้างครับเรามาส่องพรีวิวนี้กันดีกว่า
คำเดียวที่ออกมาเลยคือ Samsung ไม่กั๊กแล้ว แน่นอนว่าถ้าจะลุยตลาดแบบนี้ต้องไม่งกแล้ว หลายๆอย่างจัดเต็มรวมถึงการที่ใช้ Type-C ในเรทราคานี้ถือว่าว้าวมากๆครับทั้ง 2 ตัวเลยแหละ ในครั้งนี้เราจะมาพรีวิวกันก่อนคือ 30 และ 50 รุ่นสูงสุด และ รุ่นรองลงมาที่น่าสนใจครับ ส่วนทางด้านราคานั้นเปิดมาทั้งหมดเลยจะมีราคา
- GALAXY A50 – 11,490 6GB/128GB Fastcharge
- GALAXY A30 – 7,290 4GB/64GB Fastcharge
- GALAXY A20 – 5,890 3GB/32GB Fastcharge
- GALAXY A10 – 4,490 2GB/32GB
ถือว่าทาง Samsung เปิดราคามาดีรวมถึงสเปคฟีเจอร์อะไรต่างนั้นจัดเต็มกว่าเดิมทั้งรองรับชาร์จไว แม้จะไม่ได้ไวมากเท่าไรเป็นรุ่นเดิมที่ใช้กันมานานมากๆแบบเดียวกับ Note 9 เลยนั้นเองครับ รวมถึงการใช้กล้องที่ F1.9-F1.7 ทั้งหมด และ Exynos ทุกรุ่นแต่บอกเลยว่ารุ่น 50 เร็วลื่นใช้งานได้ดีสู้ Snap ได้สบายครับสำหรับใครที่กังวล และ ใช้วัสดุเป็น Glassstic แบบใหม่จริงๆก็คือ พลาสติกที่มีการเล่นแสงสีเหมือนกระจกนั้นเองครับ รวมถึงหน้าจอแบบมีติ่ง Infinity V Infinity U ทั้งหลายทำให้ขอบจอนั้นบางกว่าเดิม และในรุ่น 50 นั้นรองรับ สแกนนิ้วบนหน้าจอแบบ Optical และ กล้องหลังมุมกว้าง 123 องศา ในทั้ง A20 A30 A50 เลยด้วยครับถือว่าน่าสนใจมากๆเลย
SPEC SAMSUNG GALAXY A50
- Super AMOLED 6.4 นิ้ว Infinity-U FHD+ 19.5:9
- Exynos 9610
- RAM 6GB STORAGE 128GB เพิ่ม microSD สูงสุด 512GB
- กล้องหน้า 25 ล้านพิกเซล fix focus (f/2.0)
- กล้องหลัง 3 เลนส์ Wide 25MP Autofocus (f/1.7) Depth 5MP (f/2.2) Ultra-Wide 123 องศา 8MP (f/2.2)
- USB-C 2.0
- Bluetooth v5.0
- รู 3.5 มม.
- ถาดซิม แบบ 3 Slots
- แบตเตอรี่ 4,000 mAh รองรับ Fast Charge 15W แบบเดียวกับ Note 9 S9
- ระบบสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ แบบ Optical
- มีให้เลือก 3 สี ดำ, ขาว และน้ำเงิน 3D Glasstic
- ราคา 11,490 บาท
SPEC SAMSUNG GALAXY A30
- จอ Super AMOLED 6.4 นิ้ว Infinity-U FHD+ 19.5:9
- Exynos 7885
- RAM 4GB STORAGE 64 GB เพิ่ม microSD สูงสุด 512GB
- กล้องหน้า 16 ล้านพิกเซล fix focus (f/2.0)
- กล้องหลัง 2 เลนส์ Wide 16MP Autofocus (f/1.7) Ultra-Wide 5MP 123 องศา (f/2.2) ไม่มีจับระยะ แต่ถ่ายละลายหลังโดยการจับใบหน้าคน คนละแบบกับของ A50
- USB-C 2.0
- Bluetooth v5.0
- รู 3.5 มม.
- ถาดซิม แบบ 3 Slots
- แบตเตอรี่ 4,000 mAh รองรับ Fast Charge 15W แบบเดียวกับ Note 9 S9
- ระบบสแกนลายนิ้วมือด้านหลังเครื่อง
- มีให้เลือก 3 สี ดำ, ขาว และน้ำเงิน 3D Glasstic
- ราคา 7,290 บาท
UNBOX —– แกะกล่อง อุปกรณ์เหมือนกันทั้ง 2 รุ่น รวมถึงที่ชาร์จ
A30 นั้นตัวเครื่องสีดำ อุปกรณ์ภายในก็จะเป็นสีดำเหมือนกันครับ รวมถึงอุปกรณ์อะไรทั้งหลายนั้นเหมือนกับรุ่นพี่ A50 ทั้งหมดไม่ว่าจะเป็น หูฟัง เคส ที่ชาร์จอะไรทั้งหลายแบบเดียวกันหมด เคสมีความหนาอะไรใช้ได้ปกป้องตัวเครื่อง เลนส์กล้องอะไรได้ดีครับ และ เข้ารูปได้ดีไม่บางเกินไป หัวชาร์จแถมแบบ Fastcharge 15W ที่ใช้กันมานานมากตั้งแต่ Galaxy S6 จนถึง S9 มาให้ ครับ ส่วนหูฟังนั้นเป็นแบบ Earbud พลาสติกที่ธรรมดามากๆเลย
แน่นอนว่ามันเหมือนกันทุกอย่างครับ ยกเว้นสีที่เป็นสีขาว พวก หูฟัง เคส ที่ชาร์จอะไรทั้งหลายแบบเดียวกันหมด เคสมีความหนาอะไรใช้ได้ปกป้องตัวเครื่อง เลนส์กล้องอะไรได้ดีครับ และ เข้ารูปได้ดีไม่บางเกินไป หัวชาร์จแถมแบบ Fastcharge 15W ที่ใช้กันมานานมากตั้งแต่ Galaxy S6 จนถึง S9 มาให้ ครับ ส่วนหูฟังนั้นเป็นแบบ Earbud พลาสติกที่ธรรมดามากๆเลย แต่ตัวกล่อง A50 จะซ่อนของไว้ตรงฝากล่องเหมือนกล่องของ S10+ นั้นเองครับ
DESIGN
การออกแบบกันหน่อยทั้ง 2 รุ่นมีการวางอะไหลายๆอย่างคล้ายกันอย่างมากครับทั้งตัวกล้อง ปุ่ม ทุกอย่างมันเหมือนกันหมดเลยแหละ ยกเว้นจำนวนกล้อง สแกนนิ้ว และ ตัวการใช้สีซึ่งวัสดุทั้ง 2 รุ่นนั้นเรียกแบบใหม่ว่า Glasstic กลาสติก จริงๆมันก็คือ พลาสติกแหละแต่เป็นการซ้อนเลเยอร์หลายๆเลเยอร์ทำให้เหมือนกระจกซึ่ง Samsung คิดมาเองเลยชื่อนี้ รวมถึงการเล่นสีก็แตกต่างกัน รุ่น 50 นั้นจะเป็นสีที่สะท้อนแสงคล้ายๆมุก มีสีรุ้งสวยงาม แต่รุ่น 30 นั้นจะเป็นการเล่นลวดลายแบบแนวแทยงก็สวยกันคนละแบบ ซึ่งของทาง A50 นั้นแอบคล้ายในรุ่น S10+ เลยแหละ
หน้าจอทั้ง 2 รุ่นมาแบบเดียวกันคือ Super AMOLED ขนาด 6.4 นิ้ว Infinity-U FHD+ (1080 x 2340) อัตราส่วน 19.5:9 รองรับการใช้งาน Always On ได้สบาย จอสวยและสว่างมากๆในงบนี้กล้าพูดว่าจอมันสวยและทำได้ดีอันดับต้นๆเลยแหละ มีติ่งหน้าจอแบบ U แสดงผลได้ดีนะครับ และหน้าตา OneUI Android 9 สดๆร้อนๆ
เป็นติ่งครั้งแรกๆของทางค่ายนี้แน่นอนว่าสามารถปิดติ่งหน้าจอได้สบายครับไม่ต้องกังวลตามภาพเลยเมื่อปิดเปิดจะเห็นว่าขอบนั้นจะหนาขึ้นพอสมควร อันนี้ก็แล้วแต่คนชอบนะครับว่าปิดหรือเปิดยังไง แต่เล่นเกมอะไรก็ไม่ได้บังอะไร
อย่างที่บอกว่าการออกแบบอะไรหลายๆอย่างนั้นเหมือนกันรวมถึงตำแหน่งทุกด้านครับ ด้านล่างนั้นเป็น ลำโพง- รูไมค์ ช่อง Type-C และ รู 3.5 มม. ถือว่าราคา 7000-11000 แต่ได้ Type-C บางแบรนด์มองค้อนเลยแหละ
ทางด้านบนนั้นเรียบๆไม่มีอะไรมีเพียงแค่ รูไมค์ ในทั้ง 2 รุ่นเหมือนกันและฝาหลังนั้นโค้งรับมือได้ค่อนข้างดีครับ ส่วนปุ่มด้านอื่นๆนั้น ตำแหน่งเดียวกันที่ด้านขวา Power- เพิ่ม-ลดเสียง ครับอยู่ตำแหน่งเดียวกันทั้ง 2 รุ่นเลย
ฝาหลังจะเห็นการเล่นสีและใช้เลเยอร์ที่แตกต่างกัน ถ้าชอบสีรุ้งๆเล่นแสงสีเยอะๆไปทาง A50 แต่ถ้าชอบแนวทแยงเล่นกับแสงแปลกๆตา ก็ไปทาง A30 ครับ พร้อมกับกล้อง 50 นั้นมาพร้อม 3 ตัว และไม่มีสแกนนิ้วด้านหลัง เพราะสแกนนิ้วบนหน้าจอเท่ๆไปเลย แต่ของ A30 นั้นเป็นสแกนนิ้วด้านหลังตัวเครื่องครับ ตามเรทราคากันไปและกล้องมี 2 ตัวเท่านั้น วัสดุเอาจริงๆมันสวยเลยแหละ แต่พลาสติกยังไงก็อาจจะเกิดขนแมวได้ง่ายแน่ๆครับเวลาใช้งานไม่ใส่เคส
ANTUTU
มาส่องคะแนนกันหน่อยสำหรับทั้ง 30-50 CPU นั้นคุ้นเคยกันดีสำหรับทาง A30 เพราะเป็น Exynos 7885 จากที่แอดมินได้เช็คในแอป Antutu นะครับ เป็นรุ่นที่คุ้นเคยกันดีที่ขายก่อนหน้านี้ในทั้ง A7 และรุ่นอื่นๆครับ ทำคะแนนไปได้ 106769 คะแนน ก็ตามเรทราคาของมันประมาณ 7พันกว่าบาท แต่ในรุ่น A50 นั้นใช้ 9610 ตัวใหม่แรงพอๆกับ Snap 660 เลยทีเดียวและใช้งานเล่นเกมที่ลองทำได้ดีเลยแหละครับ คะแนนไปได้ 142796 คะแนนเลยแหละ แต่ทั้งนี้ก็ต้องรอดูใช้งานจริงๆกันอีกทีว่าจะลื่นไหลในระยะยาวได้แค่ไหน และ GPU นั้นรองรับเล่นเกมจริงจังได้แค่ไหน
GAMING
การทดสอบสำหรับเล่นเกมนั้นต้องบอกว่า เรามีเวลาลองได้แค่ A50 ที่ใช้ EXYNOS 9610 และทำคะแนนได้สูงถึง 140K จากที่ลองก็พบว่าภาพนั้นสามารถเปิดสุดได้เลยและเล่นได้ลื่นครับ จะมีกระตุกบางช่วงนิดหน่อยลองดูการเล่นเกมจริงๆแบบสดๆได้เลย ว่าภาพและความลื่นไหลเป็นยังไงในเกม PUBG นั้นเองครับ ทางเราลองได้แค่เกมเดียวแอบเสียดายนิดหน่อยเลยพอทราบอะไรได้นิดหน่อยว่าถ้าเล่นเยอะๆปรับภาพสุดนั้นจะเป็นยังไงบ้างครับสำหรับ A50
ALWAYS ON DISPLAY
ก็มีมาให้ทั้ง 2 รุ่นครับ สามารถปรับแต่งแบบเดียวกับ Galaxy S10 พวกนั้นได้เลยปรับแต่งได้เยอะมากๆทั้งรุ่น A30 A50 เลยนะ จอมันก็สวยเลยแหละจากที่ได้ลองคมชัดสีสวย จอทำได้ดี แต่พวกปัญหาอะไรก็ต้องดูกันไปว่าจอม่วงอะไรที่เจอกันในรุ่นก่อนหน้านั้นแก้หายกันไปยังครับและในรุ่นนี้จะมีการเปลี่ยนอะไรไหม ก็ต้องติดตามกันไปแต่โดยส่วนตัว ในงบประมาณนี้จอมันสวยนะอาจจะเป็นจุดเด่นที่ดีสำหรับตัวนี้ และ สู้แสงอะไรได้ค่อนข้างดีมากๆเลย
UnderScreen FingerPrint Optical
A50 นั้นเด่นกว่าคือสแกนนิ้วใต้หน้าจอครับแบบ OPTICAL แบบเดียวกับพวก V15 Pro /R17Pro/Oneplus 6t พวกนั้นเลยคือไม่ใช่แบบรุ่นพี่ S10/10+ นั้นเอง จะเห็นเป็นแสงเขียวๆฟ้าๆออกมาเพราะ แบบ OPTICAL นั้นจะต้องใช้แสงช่วยในการบันทึกลายนิ้วมือครับ ส่วนในการใช้งานก็ทำได้ไวปกติตามแบบ Optical ครับ แต่เหมือนจะไวไม่เท่าพวก Oneplus 6T / R17 Pro พวกนั้นนะเมื่อลองใช้งานแอบมีหน่วงนิดหน่อยแบบ 0.2 วิครับและแน่นอนไม่ไวเท่า S10+ ที่แอดมินถืออยู่
กล้องอะไรหลายๆอย่างนั้นค่อนข้างคล้ายกันแต่ที่แตกต่างกันคือ 3 กล้องของ A50 นั้นจะมีตัววัดระยะมาให้ทำให้ถ่ายละลายหลังได้ไม่จำเป็นต้องเป็นหน้าคน แต่ถ้า A30 นั้นจะต้องใช้หน้าคนเท่านั้นในการถ่ายหน้าชัดหลังเบลอ ถ้าไม่มีหน้าคนนั้นจะไม่สามารถถ่ายได้เพราะไม่มีกล้องจับระยะนั้นเองครับ ส่วนกล้องมุมกว้าง ปกติอะไรเท่ากันทั้งหมด รวมถึงกล้องหน้าด้วย *** แต่วีดีโอนั้นทาง A50 จะถ่าย Slowmotion HyperLapse ได้ แต่ A30 ถ่ายไม่ได้นะครับ แต่วีดีโอปกติถ่ายได้ FHD เท่ากัน และ โหมดโปรในภาพนิ่ง ไม่สามารถปรับ Shutter อะไรได้เลยครับ
[SR] Preview แกะกล่อง Samsung Galaxy A30 และ A50 ตัวล่าสุดเมื่อซัมซุงจัดเต็มมาให้ !
Samsung ได้ทำการเปิดตัวตระกูล A ที่มาในชื่อ A10 A20 A30 A50 และได้ทำการยกเลิกชื่อ J Series ทั้งหลายไปหมดแล้ว รวมถึง A7 A9 อะไรพวกนั้นไม่มีแล้วนะจะเป็นเลข 2 หลักแบบนี้ไปทั้งหมด ส่วนรุ่น M นั้นจะเป็นการขายออนไลน์ซึ่งยังไม่มีแผนการทำตลาดในไทยนะครับในตอนนี้ แน่นอนว่าเรามาดูกันสดๆร้อนๆเลยพรีวิว ทดลองเล่นเกม นิดหน่อย ดูอุปกรณ์ในกล่องกัน และ ฟีเจอร์มีอะไรน่าสนใจกันบ้างครับเรามาส่องพรีวิวนี้กันดีกว่า
คำเดียวที่ออกมาเลยคือ Samsung ไม่กั๊กแล้ว แน่นอนว่าถ้าจะลุยตลาดแบบนี้ต้องไม่งกแล้ว หลายๆอย่างจัดเต็มรวมถึงการที่ใช้ Type-C ในเรทราคานี้ถือว่าว้าวมากๆครับทั้ง 2 ตัวเลยแหละ ในครั้งนี้เราจะมาพรีวิวกันก่อนคือ 30 และ 50 รุ่นสูงสุด และ รุ่นรองลงมาที่น่าสนใจครับ ส่วนทางด้านราคานั้นเปิดมาทั้งหมดเลยจะมีราคา
- GALAXY A50 – 11,490 6GB/128GB Fastcharge
- GALAXY A30 – 7,290 4GB/64GB Fastcharge
- GALAXY A20 – 5,890 3GB/32GB Fastcharge
- GALAXY A10 – 4,490 2GB/32GB
ถือว่าทาง Samsung เปิดราคามาดีรวมถึงสเปคฟีเจอร์อะไรต่างนั้นจัดเต็มกว่าเดิมทั้งรองรับชาร์จไว แม้จะไม่ได้ไวมากเท่าไรเป็นรุ่นเดิมที่ใช้กันมานานมากๆแบบเดียวกับ Note 9 เลยนั้นเองครับ รวมถึงการใช้กล้องที่ F1.9-F1.7 ทั้งหมด และ Exynos ทุกรุ่นแต่บอกเลยว่ารุ่น 50 เร็วลื่นใช้งานได้ดีสู้ Snap ได้สบายครับสำหรับใครที่กังวล และ ใช้วัสดุเป็น Glassstic แบบใหม่จริงๆก็คือ พลาสติกที่มีการเล่นแสงสีเหมือนกระจกนั้นเองครับ รวมถึงหน้าจอแบบมีติ่ง Infinity V Infinity U ทั้งหลายทำให้ขอบจอนั้นบางกว่าเดิม และในรุ่น 50 นั้นรองรับ สแกนนิ้วบนหน้าจอแบบ Optical และ กล้องหลังมุมกว้าง 123 องศา ในทั้ง A20 A30 A50 เลยด้วยครับถือว่าน่าสนใจมากๆเลย
SPEC SAMSUNG GALAXY A50
- Super AMOLED 6.4 นิ้ว Infinity-U FHD+ 19.5:9
- Exynos 9610
- RAM 6GB STORAGE 128GB เพิ่ม microSD สูงสุด 512GB
- กล้องหน้า 25 ล้านพิกเซล fix focus (f/2.0)
- กล้องหลัง 3 เลนส์ Wide 25MP Autofocus (f/1.7) Depth 5MP (f/2.2) Ultra-Wide 123 องศา 8MP (f/2.2)
- USB-C 2.0
- Bluetooth v5.0
- รู 3.5 มม.
- ถาดซิม แบบ 3 Slots
- แบตเตอรี่ 4,000 mAh รองรับ Fast Charge 15W แบบเดียวกับ Note 9 S9
- ระบบสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ แบบ Optical
- มีให้เลือก 3 สี ดำ, ขาว และน้ำเงิน 3D Glasstic
- ราคา 11,490 บาท
SPEC SAMSUNG GALAXY A30
- จอ Super AMOLED 6.4 นิ้ว Infinity-U FHD+ 19.5:9
- Exynos 7885
- RAM 4GB STORAGE 64 GB เพิ่ม microSD สูงสุด 512GB
- กล้องหน้า 16 ล้านพิกเซล fix focus (f/2.0)
- กล้องหลัง 2 เลนส์ Wide 16MP Autofocus (f/1.7) Ultra-Wide 5MP 123 องศา (f/2.2) ไม่มีจับระยะ แต่ถ่ายละลายหลังโดยการจับใบหน้าคน คนละแบบกับของ A50
- USB-C 2.0
- Bluetooth v5.0
- รู 3.5 มม.
- ถาดซิม แบบ 3 Slots
- แบตเตอรี่ 4,000 mAh รองรับ Fast Charge 15W แบบเดียวกับ Note 9 S9
- ระบบสแกนลายนิ้วมือด้านหลังเครื่อง
- มีให้เลือก 3 สี ดำ, ขาว และน้ำเงิน 3D Glasstic
- ราคา 7,290 บาท
UNBOX —– แกะกล่อง อุปกรณ์เหมือนกันทั้ง 2 รุ่น รวมถึงที่ชาร์จ
A30 นั้นตัวเครื่องสีดำ อุปกรณ์ภายในก็จะเป็นสีดำเหมือนกันครับ รวมถึงอุปกรณ์อะไรทั้งหลายนั้นเหมือนกับรุ่นพี่ A50 ทั้งหมดไม่ว่าจะเป็น หูฟัง เคส ที่ชาร์จอะไรทั้งหลายแบบเดียวกันหมด เคสมีความหนาอะไรใช้ได้ปกป้องตัวเครื่อง เลนส์กล้องอะไรได้ดีครับ และ เข้ารูปได้ดีไม่บางเกินไป หัวชาร์จแถมแบบ Fastcharge 15W ที่ใช้กันมานานมากตั้งแต่ Galaxy S6 จนถึง S9 มาให้ ครับ ส่วนหูฟังนั้นเป็นแบบ Earbud พลาสติกที่ธรรมดามากๆเลย
แน่นอนว่ามันเหมือนกันทุกอย่างครับ ยกเว้นสีที่เป็นสีขาว พวก หูฟัง เคส ที่ชาร์จอะไรทั้งหลายแบบเดียวกันหมด เคสมีความหนาอะไรใช้ได้ปกป้องตัวเครื่อง เลนส์กล้องอะไรได้ดีครับ และ เข้ารูปได้ดีไม่บางเกินไป หัวชาร์จแถมแบบ Fastcharge 15W ที่ใช้กันมานานมากตั้งแต่ Galaxy S6 จนถึง S9 มาให้ ครับ ส่วนหูฟังนั้นเป็นแบบ Earbud พลาสติกที่ธรรมดามากๆเลย แต่ตัวกล่อง A50 จะซ่อนของไว้ตรงฝากล่องเหมือนกล่องของ S10+ นั้นเองครับ
DESIGN
การออกแบบกันหน่อยทั้ง 2 รุ่นมีการวางอะไหลายๆอย่างคล้ายกันอย่างมากครับทั้งตัวกล้อง ปุ่ม ทุกอย่างมันเหมือนกันหมดเลยแหละ ยกเว้นจำนวนกล้อง สแกนนิ้ว และ ตัวการใช้สีซึ่งวัสดุทั้ง 2 รุ่นนั้นเรียกแบบใหม่ว่า Glasstic กลาสติก จริงๆมันก็คือ พลาสติกแหละแต่เป็นการซ้อนเลเยอร์หลายๆเลเยอร์ทำให้เหมือนกระจกซึ่ง Samsung คิดมาเองเลยชื่อนี้ รวมถึงการเล่นสีก็แตกต่างกัน รุ่น 50 นั้นจะเป็นสีที่สะท้อนแสงคล้ายๆมุก มีสีรุ้งสวยงาม แต่รุ่น 30 นั้นจะเป็นการเล่นลวดลายแบบแนวแทยงก็สวยกันคนละแบบ ซึ่งของทาง A50 นั้นแอบคล้ายในรุ่น S10+ เลยแหละ
หน้าจอทั้ง 2 รุ่นมาแบบเดียวกันคือ Super AMOLED ขนาด 6.4 นิ้ว Infinity-U FHD+ (1080 x 2340) อัตราส่วน 19.5:9 รองรับการใช้งาน Always On ได้สบาย จอสวยและสว่างมากๆในงบนี้กล้าพูดว่าจอมันสวยและทำได้ดีอันดับต้นๆเลยแหละ มีติ่งหน้าจอแบบ U แสดงผลได้ดีนะครับ และหน้าตา OneUI Android 9 สดๆร้อนๆ
เป็นติ่งครั้งแรกๆของทางค่ายนี้แน่นอนว่าสามารถปิดติ่งหน้าจอได้สบายครับไม่ต้องกังวลตามภาพเลยเมื่อปิดเปิดจะเห็นว่าขอบนั้นจะหนาขึ้นพอสมควร อันนี้ก็แล้วแต่คนชอบนะครับว่าปิดหรือเปิดยังไง แต่เล่นเกมอะไรก็ไม่ได้บังอะไร
อย่างที่บอกว่าการออกแบบอะไรหลายๆอย่างนั้นเหมือนกันรวมถึงตำแหน่งทุกด้านครับ ด้านล่างนั้นเป็น ลำโพง- รูไมค์ ช่อง Type-C และ รู 3.5 มม. ถือว่าราคา 7000-11000 แต่ได้ Type-C บางแบรนด์มองค้อนเลยแหละ
ทางด้านบนนั้นเรียบๆไม่มีอะไรมีเพียงแค่ รูไมค์ ในทั้ง 2 รุ่นเหมือนกันและฝาหลังนั้นโค้งรับมือได้ค่อนข้างดีครับ ส่วนปุ่มด้านอื่นๆนั้น ตำแหน่งเดียวกันที่ด้านขวา Power- เพิ่ม-ลดเสียง ครับอยู่ตำแหน่งเดียวกันทั้ง 2 รุ่นเลย
ฝาหลังจะเห็นการเล่นสีและใช้เลเยอร์ที่แตกต่างกัน ถ้าชอบสีรุ้งๆเล่นแสงสีเยอะๆไปทาง A50 แต่ถ้าชอบแนวทแยงเล่นกับแสงแปลกๆตา ก็ไปทาง A30 ครับ พร้อมกับกล้อง 50 นั้นมาพร้อม 3 ตัว และไม่มีสแกนนิ้วด้านหลัง เพราะสแกนนิ้วบนหน้าจอเท่ๆไปเลย แต่ของ A30 นั้นเป็นสแกนนิ้วด้านหลังตัวเครื่องครับ ตามเรทราคากันไปและกล้องมี 2 ตัวเท่านั้น วัสดุเอาจริงๆมันสวยเลยแหละ แต่พลาสติกยังไงก็อาจจะเกิดขนแมวได้ง่ายแน่ๆครับเวลาใช้งานไม่ใส่เคส
ANTUTU
มาส่องคะแนนกันหน่อยสำหรับทั้ง 30-50 CPU นั้นคุ้นเคยกันดีสำหรับทาง A30 เพราะเป็น Exynos 7885 จากที่แอดมินได้เช็คในแอป Antutu นะครับ เป็นรุ่นที่คุ้นเคยกันดีที่ขายก่อนหน้านี้ในทั้ง A7 และรุ่นอื่นๆครับ ทำคะแนนไปได้ 106769 คะแนน ก็ตามเรทราคาของมันประมาณ 7พันกว่าบาท แต่ในรุ่น A50 นั้นใช้ 9610 ตัวใหม่แรงพอๆกับ Snap 660 เลยทีเดียวและใช้งานเล่นเกมที่ลองทำได้ดีเลยแหละครับ คะแนนไปได้ 142796 คะแนนเลยแหละ แต่ทั้งนี้ก็ต้องรอดูใช้งานจริงๆกันอีกทีว่าจะลื่นไหลในระยะยาวได้แค่ไหน และ GPU นั้นรองรับเล่นเกมจริงจังได้แค่ไหน
GAMING
การทดสอบสำหรับเล่นเกมนั้นต้องบอกว่า เรามีเวลาลองได้แค่ A50 ที่ใช้ EXYNOS 9610 และทำคะแนนได้สูงถึง 140K จากที่ลองก็พบว่าภาพนั้นสามารถเปิดสุดได้เลยและเล่นได้ลื่นครับ จะมีกระตุกบางช่วงนิดหน่อยลองดูการเล่นเกมจริงๆแบบสดๆได้เลย ว่าภาพและความลื่นไหลเป็นยังไงในเกม PUBG นั้นเองครับ ทางเราลองได้แค่เกมเดียวแอบเสียดายนิดหน่อยเลยพอทราบอะไรได้นิดหน่อยว่าถ้าเล่นเยอะๆปรับภาพสุดนั้นจะเป็นยังไงบ้างครับสำหรับ A50
ALWAYS ON DISPLAY
ก็มีมาให้ทั้ง 2 รุ่นครับ สามารถปรับแต่งแบบเดียวกับ Galaxy S10 พวกนั้นได้เลยปรับแต่งได้เยอะมากๆทั้งรุ่น A30 A50 เลยนะ จอมันก็สวยเลยแหละจากที่ได้ลองคมชัดสีสวย จอทำได้ดี แต่พวกปัญหาอะไรก็ต้องดูกันไปว่าจอม่วงอะไรที่เจอกันในรุ่นก่อนหน้านั้นแก้หายกันไปยังครับและในรุ่นนี้จะมีการเปลี่ยนอะไรไหม ก็ต้องติดตามกันไปแต่โดยส่วนตัว ในงบประมาณนี้จอมันสวยนะอาจจะเป็นจุดเด่นที่ดีสำหรับตัวนี้ และ สู้แสงอะไรได้ค่อนข้างดีมากๆเลย
UnderScreen FingerPrint Optical
A50 นั้นเด่นกว่าคือสแกนนิ้วใต้หน้าจอครับแบบ OPTICAL แบบเดียวกับพวก V15 Pro /R17Pro/Oneplus 6t พวกนั้นเลยคือไม่ใช่แบบรุ่นพี่ S10/10+ นั้นเอง จะเห็นเป็นแสงเขียวๆฟ้าๆออกมาเพราะ แบบ OPTICAL นั้นจะต้องใช้แสงช่วยในการบันทึกลายนิ้วมือครับ ส่วนในการใช้งานก็ทำได้ไวปกติตามแบบ Optical ครับ แต่เหมือนจะไวไม่เท่าพวก Oneplus 6T / R17 Pro พวกนั้นนะเมื่อลองใช้งานแอบมีหน่วงนิดหน่อยแบบ 0.2 วิครับและแน่นอนไม่ไวเท่า S10+ ที่แอดมินถืออยู่
กล้องอะไรหลายๆอย่างนั้นค่อนข้างคล้ายกันแต่ที่แตกต่างกันคือ 3 กล้องของ A50 นั้นจะมีตัววัดระยะมาให้ทำให้ถ่ายละลายหลังได้ไม่จำเป็นต้องเป็นหน้าคน แต่ถ้า A30 นั้นจะต้องใช้หน้าคนเท่านั้นในการถ่ายหน้าชัดหลังเบลอ ถ้าไม่มีหน้าคนนั้นจะไม่สามารถถ่ายได้เพราะไม่มีกล้องจับระยะนั้นเองครับ ส่วนกล้องมุมกว้าง ปกติอะไรเท่ากันทั้งหมด รวมถึงกล้องหน้าด้วย *** แต่วีดีโอนั้นทาง A50 จะถ่าย Slowmotion HyperLapse ได้ แต่ A30 ถ่ายไม่ได้นะครับ แต่วีดีโอปกติถ่ายได้ FHD เท่ากัน และ โหมดโปรในภาพนิ่ง ไม่สามารถปรับ Shutter อะไรได้เลยครับ
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้