Samsung อาจจะไม่ได้เน้นตระกูล A อะไรมากหรือง่ายๆคือไม่ได้เด่นในเรื่องของสมาร์ทโฟนช่วงเรทราคา ไม่เกิน 1 หมื่น หรือ หมื่นต้นๆเท่าไรนักในแต่ก่อน แต่ในตอนนี้มันเปลี่ยนไปแล้วครั้งนี้เค้ากลับมาแล้ว และกลับมาแบบน่าตกใจจนมองอีกทีว่ามันคือ Samsung ใช่ไหมเพราะมันไม่กั๊กแล้ว มันจัดเต็มมาให้แล้ว จัดเต็มยังไง เรามาดูกันคร่าวๆ มาพร้อม USB-C และ กล้องหลัง 3 ตัวมุมกว้าง กล้องหน้า 25MP มาพร้อม Exynos 9610 และ RAM 6 GB STORAGE 128GB อีกทั้งยังเปิดราคามาน่าสนใจมากๆ เรียกได้ว่าไม่ยอมแล้วหละสำหรับค่ายนี้เค้ากลับมาแล้วแล้วมาดูกันว่าตระกูล A รอบใหม่ที่ยกเครื่องใหม่ ทั้งการวางตลาดและ ยอมทิ้ง J A รุ่นก่อนมาเริ่มต้นใหม่จะเป็นยังไงและการลงทุนครั้งนี้มันจะดีหรือว้าวแค่ไหนกันสำหรับ Samsung Galaxy A50 ตัวนี้เรามาชมรีวิวกันเลยครับ


Samsung Galaxy A50 เปิดตัวมาด้วยเสียงตอบรับที่ดีมากๆในแง่ของแบรนด์นี้ทั้งด้านราคาและสเปคที่ให้มารวมถึงการออกแบบต่างๆนั้นจัดเต็มมากขึ้น รุ่นนี้มาพร้อมกับ หน้าจอเป็นแบบ Infinity-U เทคโนโลยี Super AMOLED ส่วนระบบความปลอดภัยมีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ อีกทั้งยังใช้การเชื่อมต่อแบบ USB-C ด้วย และแน่นอนการออกแบบฝาหลังแบบใหม่ที่เรียกว่า Glasstic ที่เป็นการเล่นเลเยอร์สีได้สวยงามเหมือนกับกระจกเลยทีเดียวอีกทั้งยังมาพร้อม Exynos ตัวใหม่ Exynos 9610 ที่คะแนนและความแรงเอาเรื่องเลยแหละ และกล้องหลังมุมกว้าง 123 องศา พร้อมกับ กล้องจับระยะ ด้วยรวมทั้งหมด 3 ตัวและ มาพร้อม One UI Android 9.0 และ RAM 6GB / STORAGE 128GB UFS2.0 ด้วยนะ ถือว่าไม่เลวเลยครับ ในราคาหมื่นต้นๆครั้งนี้มาน่ากลัวมากๆ



สำหรับราคาในรุ่นนี้นั้นจะเปิดมาพร้อมกับพี่น้องหลากหลายตัวคือ

- GALAXY A50 – 11,490 6GB/128GB Fastcharge
- GALAXY A30 – 7,290 4GB/64GB Fastcharge
- GALAXY A20 – 5,890 3GB/32GB Fastcharge
- GALAXY A10 – 4,490 2GB/32GB

A50 นั้นมาพร้อมกับสี ดำ แบบที่รีวิว และ สีขาว และ น้ำเงินครับ จะเล่นสีฝาหลังแตกต่างกันไปเลย



UNBOX

ตัวกล่องอุปกรณ์ มีมาให้ครบทั้งเคสและฟิลม์ ตัวกล่องออกแบบการวางข้างในคล้ายๆกับตัว S10 แต่แตกต่างกันในด้านของการออกแบบธีมสีเป็นต้น ในตัวกล่องนี้จะเปินธีมสีขาวเป็นหลัก

- ตัวเครื่อง A50
- เคสใสแบบ TPU
- หูฟังแบบ Earbud
- ที่ชาร์จ
- สายชาร์จ USB-C
- คู่มือ ที่จิ้มซิม
- ฟิล์มกันรอยหน้าจอติดมาให้แล้ว


DESIGN

การออกแบบในรุ่นนี้การวางตำแหน่งกล้องอะไรอาจจะไม่ได้เปลี่ยนแปลงมากนักแต่ที่เห็นชัดๆเลยคือการออกแบบฝาหลังที่สวยกว่าเดิมและโค้งรับมือมากกว่าเดิม อีกทั้งยังมีการเล่นกับแสงได้สวยและหลากหลายมุมมากๆ รวมถึงการสแกนนิ้วก็ไปอยู่บนหน้าจอทั้งหมดทำให้ฝาหลังนั้นเรียบๆครับ การวางกล้องยังคงวางเรียงกัน 3 ตัวเหมือนเดิมพร้อมกับไฟแฟลช งานประกอยอะไรทำได้ตามระดับของมัน ฝาหลังยังคงเป็นพลาสติก แต่มาในชื่อ Glasstic แทนเพราะใช้การออกแบบเล่นแสงสีเหมือนกับกระจกเลยแหละ ส่วนการจับถนัดมือโค้งรับได้ดี และไม่ใหญ่เกินไปครับ


ด้านหน้าเป็นหน้าจอที่มาพร้อมหน้าจอขนาดใหญ่เอาเรื่องครั้งนี้ทาง Samsung ก็มีติ่งหน้าจอกับเค้าแล้วมาในชื่อ INFINITY U Display 6.4 นิ้ว ชนิด Super AMOLED อัตราส่วน 19.5:9 เป็นจอที่สวยกว่าคู่แข่งแบบชัดเจนเลยนะอันนี้ชอบครับ ส่วนติ่งหน้าจอนั้นสามารถปิดได้ปกติเลย แต่ชอบความสดและคมของจอภาพค่ายนี้จริงๆ


ขอบบนหน้าจอนั้นเป็นหน้าจอติ่งแบบ Infinity U Display มาพร้อม กล้องหน้า และ รูลำโพงแบบที่เห็นในภาพเลย สามารถปิดติ่งได้ก็จะเป็นเหมือนรุ่นก่อนๆถ้าเราปิดติ่งไปครับ การสแดงผลบริเวณนั้นก็จะถูกปิดออกไปเลยแต่ขอบทำได้บางจริงๆนะในด้านบนและขอบข้างถือว่าเป็นอีกรุ่นที่หน้าจอสวยและโดดเด่นกว่าคู่แข่ง


ขอบล่างหน้าจอเป็นปุ่มควบคุมปกติ 3 ปุ่มครับพร้อมกับการรองรับการใช้งานแบบเต็มหน้าจอแบบเดียวกับรุ่นพี่เลยแหละเพราะใช้ระบบเดียวกัน รวมถึงขอบล่างนั้นต้องบอกว่ามีความหนาปกติในเรทราคานี้ และทำให้บางค่อนข้างยาก


ขอบล่างนั้นเป็นที่อยู่ของ ช่องหูฟัง 3.5 มม. พอร์ต Type-C รูไมค์ และ ก็ ลำโพงหลักครับ เป็นอีกค่ายที่ใส่ Type-C เข้ามาในเรทราคานี้ถือว่าทำได้ดีกว่าคู่แข่งหลายๆตัวครับเพราะบางค่ายยังคงเป็นแบบเก่าอยู่เลย


ขอบด้านบนนั้นไม่มีอะไรมากครับเป็นรูไมค์เพียง 1 รูเท่านั้นและจะเห็นฝาหลังโค้งลงมารับมือได้ดีเวลาใช้งานครับและกล้องหลังนั้นนูนเล็กน้อยไม่ได้น่าเกลียดอะไรในส่วนของเลนส์กล้องหลัง


มาที่ขอบด้านข้างเป็นปุ่ม เพิ่ม-ลด เสียง และ ปุ่ม Power ครับ วัสดุขอบเงาทั้งหมดและปุ่มก็เป็นวัสดุเงาเช่นเดียวกัน


ขอบด้านนี้จะเป็นที่อยู่ของถาดซิมที่รองรับแบบ Triple Slot ครับ ไม่ต้องเลือกใช้งาน สามารถใส่ทั้ง 2 ซิมรวมถึงเพิ่มความจุได้ตามความต้องการเลย


แน่นอนว่ากล้องหลังก็เป็นอีกจุดเด่นคือมาพร้อม 3 ตัว รองรับมุมกว้าง ระยะปกติ และ สำหรับวัดความลึก กล้องหลัง 25+8+5 ล้านพิกเซล รูรับแสง F1.7 พร้อมฟีเจอร์ AR Emoji, Live Focus, Bixby Vision, Scene Optimizer ตรวจจับฉาก ได้ตามแต่สถานะของการถ่ายครับ ส่วนฝาหลังเป็นการเล่นสีสวยงามมากๆ เหมือนกับสีรุ้งของแสงเลย และความเงาคล้ายกระจกครับ เป็นวัสดุชื่อว่า Glasstic นั้นเองเป็นพลาสติกที่สวยแบบกระจกสวยจริงๆ


SPEC

- ระบบ Android 9.0 Pie + ONE UI
- หน้าจอไร้ขอบแบบ Infinity-U 6.4 นิ้ว Super AMOLED Full HD+
- CPU Exynos 9610 + GPU Mali G72 MP3
- RAM 6GB
- STORAGE 128GB รองรับ MicroSD Card
- กล้องหลัง 3 ตัว : เลนส์หลัก 25MP (f/1.7) + เลนส์ Ultra-wide 123° 8MP (f/2.2) +
- เลนส์จับความลึก 5MP (f/2.2)
- กล้องหน้า 25MP (f/2.0)
- เซ็นเซอร์สแกนนิ้วมือบนหน้าจอ
- ช่องเชื่อมต่อ USB-C
- รูหูฟัง 3.5 มม.
- แบตเตอรี่ 4000 mAh รองรับชาร์จไว 15W
- ขนาดตัวเครื่อง 158.5 x 74.7 x 7.7 มม.
- สีที่วางจำหน่าย สีดำ สีขาว สีน้ำเงิน


PERFORMANCE

ประสิทธิภาพของตัวเครื่องรุ่นนี้มาพร้อมกับ Exynos 9610 + GPU Mali G72 MP3 แน่นอนว่าความแรงไว้ใจได้ครับสู้ Snap 660 สบายเลยทำคะแนน Antutu ไปได้ทั้งหมด 144071 คะแนน ส่วนด้านความปลอดภัยรองรับ L1 ได้รองรับการดู Netflix HD สบายครับค่ายนี้ ทางด้านหน่วยความจำนั้นเป็น UFS2.0 นะครับทำคะแนนได้ 499 เกือบ 500 เลยแหละ ถือว่าดีนะให้ตัวนี้มา ส่วนทางด้านคะแนน GEEKBENCH ทำได้ามราคากับ 1712/5393


SYSTEM UI

หน้าตานั้นสวยงามขึ้นเยอะเลยเรียกกันว่า One UI ที่มีการเปลี่ยนมาไม่นานครับ หน้าตารวมๆสวยงามเลยนะ ในหน้าล็อคนั้นมีรูปลายนิ้วเราก็สามารถสแกนนิ้วได้เลยครับ ส่วนหน้าตา ไอคอน และ อุณหภูมิอะไรก็ไปอยู่มุมซ้ายสวยงามเลยครับ ส่วนหน้าตารวมๆก็เรียบสวยขึ้นนะอันนี้แอบชอบครับการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้


หน้าตาการแจ้งเตือน ตั้งค่าอะไรนั้นมาในโทนสีขาวฟ้าครับ ไอคอนอะไรปรับเปลี่ยนหน้าตาได้เรียบขึ้นและแตะได้ง่ายขึ้นครับ การแจ้งเตือนสามารถกดเคลียร์ได้ และเมื่อลากลงมานั้นก็เข้าการตั้งค่าได้ง่าย และ สามารถปรับแสงหน้าจอได้รวมถึงมีเวลาอะไรบอกอยู่ตรงกลาง ด้านบนครับ ส่วนการแบ่งหน้าจอนั้นสบายๆมีไปหลายหน้าจอตามใจชอบเลย


คียบอร์ดนั้นเป็นภาษาไทย ของทาง Samsung เองหลายๆคนอาจจะชอบกันครับ สำหรับเรื่อง RAM 6GB นั้นใช้ประมาณครึ่งๆ 3.5 GB ครับ ใช้งานได้สบายๆเหลือๆ ส่วนตัวความจุนั้น เหลือ 110 โดยประมาณครับถ้าตัดแอป และ เพลง รูปภาพอะไรหมดเหลือแค่ระบบนะครับ ระบบจะประมาณ 14 GB โดยประมาณครับ


การใช้งานแอพคู่ก็รองรับทั้ง 3 แอพครับตามภาพเลยคือ Facebook Line Massenger รวมถึงตัวเสียงก็สามารถ ปรับเสียง Atmos ได้และปรับ EQ ได้ค่อนข้างเยอะครับรวมถึงการเล่น Effect เสียงแบบเดียวกับ S10 เลยนะ การควบคุม Gesture นั้นสามารถใช้งานได้ค่อนข้างหลากหลายทั้ง ยกขึ้นแล้วติด เคาะหน้าจอ ปัดฝ่ามือก็มีมาให้ทั้งหมด


การแจ้งเตือนอัจฉริยะก็มีมาให้ครับ รวมถึงการปิดติ่งหน้าจอก็รองรับอยู่ และสามารถเปลี่ยนการควบคุมเป็นแบบเต็มหน้าจอได้ และสามารถสลับปุ่มนำทางทั้งหมดได้ครับว่าจะเอาไปด้านไหน หรือใช้แบบเดิมๆกับเครื่องก็ได้เช่นกัน


THEME

ธีมการออกแบบนั้นสามารถเปลี่ยนอะไรต่างๆได้ทั้งหมดครับพวกหน้าจอ แอพต่างๆ หน้าจอ AOD พวกนี้ครับ และตัวธีมนั้นมีทั้งแบบเสียตัง และ ไม่เสียตังสามารถเลือกได้ค่อนข้างเยอะทั้งแบบน่ารักๆต่าง หรือ เท่ๆก็มีครับ แต่การเปลี่ยนแปลงหลักๆนั้นก็อาจจะไม่ได้เยอะแยะอะไรมาก ไม่ได้เปลี่ยนพวกหน้าแจ้งเตือน หรือ ตามแอพเท่าไรครับ


ONSCREEN FINGERPRINT

สแกนนิ้วใต้หน้าจอครับแบบ OPTICAL แบบเดียวกับพวก V15 Pro /R17Pro/Oneplus 6t พวกนั้นเลยคือไม่ใช่แบบรุ่นพี่ S10/10+ นั้นเอง จะเห็นเป็นแสงเขียวๆฟ้าๆออกมาเพราะ แบบ OPTICAL นั้นจะต้องใช้แสงช่วยในการบันทึกลายนิ้วมือครับ ส่วนในการใช้งานก็ทำได้ไวปกติตามแบบ Optical ครับและแน่นอนไม่ไวเท่า S10+ ที่แอดมินถืออยู่ แต่เอาจริงๆเลยจากที่ลองมันสแกนนิ้วติดได้ยากกว่าตัวอื่นเหมือนกันครับ บางทีก็สแกนไม่เข้าเลย อันนี้น่าจะมีอัพเดทอะไรตามมานะครับแต่ในตอนนี้ที่ลองยังไม่ค่อยไวเท่าไรและบางทีสแกนเปลดล็อคไม่ค่อยแม่นเท่าไร


SCREEN INFINITY U- DISPLAY

หน้าจอในรุ่นนี้ถือว่าเป็นจุดเด่นที่ค่อนข้างทำให้มันแตกต่างคือหน้าจอสวยมากจริงๆแบบ sAMOLED ที่มีคุณภาพจากค่ายนี้ครับใช้งานได้ดีและไม่มีปัญหาอะไรเลยแหละ หน้าจอ Super AMOLED ขนาด 6.4 นิ้ว การออกแบบ หน้าจอแบบ Infinity-U ในความละเอียด FullHD+ ครับ ตัวนี้จอจากที่ลองคือสู้แสงได้ดี และ มีความคมชัดและความเข้มอะไรค่อนข้างดีมาก หน้าจอรองรับการแสดงผลของสีได้ค่อนข้างกว้างครับ ถือว่าเป็นจอในเรทราคานี้ที่ทำได้ดีกว่าตัวอื่นๆแบบชัดเจน รวมถึงการสัมผัสการทัชอะไรนั้นทำได้ดีลื่นและไม่มีอะไรติดขัดครับผมในการใช้งาน รวมถึงเล่นเกม