ประสบการณ์ลุ้นสุดแสนเจ็บปวดของเด็กบ้านนอก
เริ่มจากว่า เราเป็นเด็กต่างจังหวัดที่เข้ามาเรียนในกรุงเทพ แล้วเราอยากรู้เส้นทางว่าบริเวณหอพักนั้นมีรถสายไหนไปไหน ผ่านสถานที่อะไรบ้าง มีวันหนึ่งเรานั่งรถเมล์จากบางรักไปสยาม เพื่อไปเที่ยวตามประสาเด็กนักศึกษา ปกติแล้วเราจะกลับรถสายเดิมกลับเสมอ แต่มาครั้งนี้เราเลือกที่จะกลับรถเมล์อีกสาย ซึ่งขับผ่านบริเวณหอพักเรา เราขึ้นมานั่งบนรถแล้วมีป้าวัยกลายคนเดินเข้ามา แกเป็นกระเป๋ารถเมล์ เราบอกแกว่าจะไปลงสุรศักดิ์ ป้าแกก็รับทราบแล้วเก็บตัง จากนั้นเรานั่งรถมาเรื่อยๆ จนถึงแยกสุรศักดิ์ เรากดกริ่งจะลง แต่ป้าแกบอกว่า เลยป้ายที่จะลงมาแล้ว เราก็ไม่ได้เดือดร้อนอะไร ไปลงป้ายถัดไปก็ได้ แล้วทีนี้ป้าแกก็พูดทำนองดูถูกเหยียดหยามเราว่า พูดแล้วก็ไม่ฟัง บอกให้ลงป้ายนี้(คิดในใจ ป้าแกบอกชื่อป้ายนี้ด้วยหรอตอนรถผ่านมา) ป้าแกพูดเสียงดังมากจนทำให้ผู้โดยสารคนอื่นหันมามองว่าเกิดอะไรขึ้น เราก็ไม่ได้อะไรมากกับคำที่ป้าแกพูด แต่ด้วยลักษณะการพูดและน้ำเสียงนั้นมันทำให้เราเสียความรู้สึก เราจึงตัดสินใจบอกให้คนขับรถเปิดประตูให้ แล้วเราก็เดินออกจากรถที่กลางแยกไฟแดงตรงนั้นเลย ผมได้แต่คิดในใจเสมอว่าผมทำอะไรผิด ผมแค่ไม่ใช่คนพื้นที่ พูดกันดีๆก็ได้ ค่ารถเราก็จ่ายให้คุณ เราคิดหลายสิ่งมากเลยนะ นี่ขนาดเราเป็นนักศึกษายังพูดขนาดนี้ แล้วถ้าเจอคนต่างจังหวัดคนอื่นที่เขาไม่เคยเข้ามาในกรุงเทพเลยจะขนาดไหน นึกถึงใจเขาใจเรามั่งนะครับ ถ้าเกิดเรื่องนี้กับคุณ คุณจะรู้สึกอย่างไร
อยากฝากถึงหัวหน้าอู่รถเมล์สายที่ผ่านแยกสุรศักดิ์ด้วยนะครับ ให้อบรมเรื่องมารยาททางสังคม และจรรยาบรรณวิชาชีพในด้านการบริการด้วย เราไม่อยากให้คนอื่นเจอเรื่องแบบนี้ ขอบคุณครับ
เปิดประสบการณ์การนั่งรถเมล์ในกรุงเทพ ของเด็กต่างจังหวัด
เริ่มจากว่า เราเป็นเด็กต่างจังหวัดที่เข้ามาเรียนในกรุงเทพ แล้วเราอยากรู้เส้นทางว่าบริเวณหอพักนั้นมีรถสายไหนไปไหน ผ่านสถานที่อะไรบ้าง มีวันหนึ่งเรานั่งรถเมล์จากบางรักไปสยาม เพื่อไปเที่ยวตามประสาเด็กนักศึกษา ปกติแล้วเราจะกลับรถสายเดิมกลับเสมอ แต่มาครั้งนี้เราเลือกที่จะกลับรถเมล์อีกสาย ซึ่งขับผ่านบริเวณหอพักเรา เราขึ้นมานั่งบนรถแล้วมีป้าวัยกลายคนเดินเข้ามา แกเป็นกระเป๋ารถเมล์ เราบอกแกว่าจะไปลงสุรศักดิ์ ป้าแกก็รับทราบแล้วเก็บตัง จากนั้นเรานั่งรถมาเรื่อยๆ จนถึงแยกสุรศักดิ์ เรากดกริ่งจะลง แต่ป้าแกบอกว่า เลยป้ายที่จะลงมาแล้ว เราก็ไม่ได้เดือดร้อนอะไร ไปลงป้ายถัดไปก็ได้ แล้วทีนี้ป้าแกก็พูดทำนองดูถูกเหยียดหยามเราว่า พูดแล้วก็ไม่ฟัง บอกให้ลงป้ายนี้(คิดในใจ ป้าแกบอกชื่อป้ายนี้ด้วยหรอตอนรถผ่านมา) ป้าแกพูดเสียงดังมากจนทำให้ผู้โดยสารคนอื่นหันมามองว่าเกิดอะไรขึ้น เราก็ไม่ได้อะไรมากกับคำที่ป้าแกพูด แต่ด้วยลักษณะการพูดและน้ำเสียงนั้นมันทำให้เราเสียความรู้สึก เราจึงตัดสินใจบอกให้คนขับรถเปิดประตูให้ แล้วเราก็เดินออกจากรถที่กลางแยกไฟแดงตรงนั้นเลย ผมได้แต่คิดในใจเสมอว่าผมทำอะไรผิด ผมแค่ไม่ใช่คนพื้นที่ พูดกันดีๆก็ได้ ค่ารถเราก็จ่ายให้คุณ เราคิดหลายสิ่งมากเลยนะ นี่ขนาดเราเป็นนักศึกษายังพูดขนาดนี้ แล้วถ้าเจอคนต่างจังหวัดคนอื่นที่เขาไม่เคยเข้ามาในกรุงเทพเลยจะขนาดไหน นึกถึงใจเขาใจเรามั่งนะครับ ถ้าเกิดเรื่องนี้กับคุณ คุณจะรู้สึกอย่างไร
อยากฝากถึงหัวหน้าอู่รถเมล์สายที่ผ่านแยกสุรศักดิ์ด้วยนะครับ ให้อบรมเรื่องมารยาททางสังคม และจรรยาบรรณวิชาชีพในด้านการบริการด้วย เราไม่อยากให้คนอื่นเจอเรื่องแบบนี้ ขอบคุณครับ