สวัสดีค่ะ ขอแนะนำตัวก่อน เราเป็นคุณแม่วัย32ปีค่ะ มีลูกสาวสองคน คนสุดท้องอายุ15ค่ะ เรื่องเริ่มเกิดมาสักพักแล้ว เราหย่ากับสามีและปลีกตัวมาทำงานที่บ้านเกิดตั้งแต่น้องอายุ12ปี พร้อมแต่งงานใหม่ค่ะ ส่วนลูก เราให้สิทธิ์น้องในการเลือกค่ะว่าอยากอยู่กับใคร ลูกคนโตเลือกอยู่กับสามีเก่า ส่วนคนเล็กเลือกอยู่กับเราค่ะ พักหลัง น้องเริ่มไม่ค่อยคุยกับเรา ตีตัวออกห่าง ส่วนหนึ่งเราคิดว่าเป็นเพราะเราทำงานไม่ได้เข้าบ้านเลย เวลาส่วนใหญ่จะหมดไปกับการทำงาน เราฝากน้องไว้ให้ยายกับตาเขาดูแลค่ะ ส่วนเราก็ทำงาน บ้านที่นอนก็เป็นบ้านของสามีใหม่ เราเคยถามน้องนะคะว่าอยากมานอนกับแม่ไหม น้องบอกเราว่าไม่เป็นไร อยากนอนคนเดียว เราก็ไม่อยากขัดใจน้อง นานๆทีอาทิตย์ละครั้ง เราจะเข้าไปดูแลทำความสะอาดหรือซักผ้าให้น้อง รวมๆแล้วเจอกันแค่3-4ชม. เป็นแบบนี้มาสามปีค่ะ จนช่วงนี้ น้องสอบเข้าม.4 เราหวังกับน้องมากๆ ตลอดสามปี เราพยายามพูดกับน้องตลอดว่าเราทำงานหนักเพื่อน้องนะ ถ้าไม่มีน้อง เราไม่ทำ ที่เราไม่อยู่ด้วยก็เพราะทำงานหาเงินมาให้น้อง เราไม่อยากให้น้องคิดมาก เราพยายามหาที่เรียนพิเศษให้น้อง แต่น้องดูไม่ชอบเลย เราเลยคิดไปว่าคงเป็นความขี้เกียจ แต่ลึกๆเราก็เข้าใจ เพราะตัวบ้านกับรร.ของน้องห่างกันเกือบ50โล ไม่มีใครไปส่งน้องได้เลย น้องจึงต้องหัดขับมอไซ และขับไปเองทุกวัน ช่วงนั้นเราทะเลาะกับน้องถึงขั้นโทรหาเพื่อนน้อง จนน้องยอมเรียน หลังจากนั้น น้องก็มีท่าทางแปลกๆ ไม่เข้ามาคุยกับเราแบบแต่ก่อน น้องไม่ค่อยยิ้ม ไม่ค่อยหัวเราะ เราถามอะไรก็ตอบบ้าง ไม่ตอบบ้าง คุยกันนับคำได้ จากตอนแรกที่เวลาน้องอารมณ์ไม่ดี น้องจะเหวี่ยง ตอนนี้กลายเป็นน้องเงียบลง พอน้องสอบติดห้องเรียนดีๆ เราดีใจมาก ชวนน้องไปฉลอง แต่น้องดูไม่อยากไปเลย พอเราถาม น้องก็ยิ้ม แล้วตอบว่าแล้วแต่แม่เลย หนูได้หมด เราทำอะไรผิดไปหรือป่าว ทำไมน้องถึงเปลี่ยนไปแบบนี้
ลูกตีตัวออกห่าง แม่อย่างเราทำอะไรผิดหรอคะ