สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 6
เข้ามา update หน่อยเผื่อท่านใดสนใจอยากลงทุนกับ Jitta Wealth ครับ ผมเริ่มลงปลายเดือน Nov 2017 กับ Jitta Wealth ตอนนั้นดัชนีประมาณ 1700 จุด ปัจจุบัน (April 2020) SET อยู่ประมาณ 1260 จุด ระยะเวลา 29 เดือน SET ลงประมาณ -26% ในขณะที่ Jitta Wealth ลงไป -35% ตามรูป (NAV เริ่มต้น Jitta ประมาณ 10 บ.) ถ้าวัดผลตอบแทนเป็นรายปี port ผมยังไม่มีปีไหนให้ผลตอบแทนเป็นบวก
จริงๆไม่อยากโทษทาง Jitta เพราะเครื่องมือเขาก็ดี และเขาเองก็มีเจตนาดี ตอน port บวก ผมก็เห็นเขาเอา port ลูกสาว CEO มาโชว์ (ตอนนั้น port ลูกค้าอย่างผมยังติดลบ ) แถมถ้าใครไปดู CEO เขาออกรายการ ถ้ามีใครถามเขาว่าควรเข้าลงทุนตอนไหน เขามักจะตอบว่าควรลงทุนทันที ไม่ควรรอหรือจับสภาวะตลาด เพราะไม่มีใครรู้ล่วงหน้าว่าตลาดจะขึ้นหรือลง (แต่ก่อนผมติดตามเขาประจำ เพราะผมก็แฟนปู่ Buffet เหมือนกัน แต่ตอนนี้พอศึกษาหาความรู้มากขึ้น คห.ส่วนตัวมองว่า ปัจจัยความถูกแพงของตลาด ซึ่งเราดูได้ผ่าน PE PBV Band ควรเป็นปัจจัยสำคัญในการเข้าลงทุน)
ผมแค่อยากจะเตือนผู้ที่ลงทุนว่า เครื่องมือของ Jitta เปรียบเสมือนกระจกมองหลังของรถยนต์ ซึ่งถ้าคุณจะดูแค่นั้นมันไม่พอ มันต้องดูอนาคตกิจการของบริษัท ผ่านการศึกษารายงานประจำปี สภาพเศรษฐกิจสังคมปัจจุบัน Megatrend อนาคต ซึ่งเขาตัดพวกนี้ออกหมดเพื่อป้องกัน Bias จากอารมณ์นักลงทุน ผลก็เลยเป็นอย่างที่เห็น หุ้นที่เลือกผ่านเครื่องมือของ Jitta 30 ตัว (ผมตั้งชื่อให้ใหม่เป็น Jitta Index แล้วกัน) ยังแพ้ดัชนีภาพรวมทั้งตลาดอย่าง SET Index (์ถ้า NAV ของ Jitta รวมผลตอบแทนจากเงินปันผลแล้ว คงยิ่งแพ้หนักเข้าไปอีก)
ที่กล่าวมาทั้งหมดไม่ตั้งใจจะโทษ Jitta เพราะก่อนลงทุน CEO เขาก็โทรมาอธิบายกับนังลงทุนทุกคน ถึงความเข้าใจ/หลักการลงทุนของ Jitta เพียงแต่อยากจะเตือนให้ศึกษา พิจารณาให้รอบคอบก่อนที่จะลงทุนอะไร ส่วน port ผมตั้งใจจะทิ้งไว้จนครบ 5 ปี ซึ่งผมคิดว่าเป็นระยะเวลาที่ยาวนานพอ แล้วดูว่าผลตอบแทนตอนนั้นจะเป็นเท่าไร หลักการของ Jitta ยังใช้ได้ไหม (ซึ่งผมคิดว่าถ้าเขายังไม่พัฒนา Algorithm คงแพ้ SET เหมือนปัจจุบัน) แล้วจะมา update ที่กระทู้นี้อีกครั้ง (ถ้าไม่ลืม)
จริงๆไม่อยากโทษทาง Jitta เพราะเครื่องมือเขาก็ดี และเขาเองก็มีเจตนาดี ตอน port บวก ผมก็เห็นเขาเอา port ลูกสาว CEO มาโชว์ (ตอนนั้น port ลูกค้าอย่างผมยังติดลบ ) แถมถ้าใครไปดู CEO เขาออกรายการ ถ้ามีใครถามเขาว่าควรเข้าลงทุนตอนไหน เขามักจะตอบว่าควรลงทุนทันที ไม่ควรรอหรือจับสภาวะตลาด เพราะไม่มีใครรู้ล่วงหน้าว่าตลาดจะขึ้นหรือลง (แต่ก่อนผมติดตามเขาประจำ เพราะผมก็แฟนปู่ Buffet เหมือนกัน แต่ตอนนี้พอศึกษาหาความรู้มากขึ้น คห.ส่วนตัวมองว่า ปัจจัยความถูกแพงของตลาด ซึ่งเราดูได้ผ่าน PE PBV Band ควรเป็นปัจจัยสำคัญในการเข้าลงทุน)
ผมแค่อยากจะเตือนผู้ที่ลงทุนว่า เครื่องมือของ Jitta เปรียบเสมือนกระจกมองหลังของรถยนต์ ซึ่งถ้าคุณจะดูแค่นั้นมันไม่พอ มันต้องดูอนาคตกิจการของบริษัท ผ่านการศึกษารายงานประจำปี สภาพเศรษฐกิจสังคมปัจจุบัน Megatrend อนาคต ซึ่งเขาตัดพวกนี้ออกหมดเพื่อป้องกัน Bias จากอารมณ์นักลงทุน ผลก็เลยเป็นอย่างที่เห็น หุ้นที่เลือกผ่านเครื่องมือของ Jitta 30 ตัว (ผมตั้งชื่อให้ใหม่เป็น Jitta Index แล้วกัน) ยังแพ้ดัชนีภาพรวมทั้งตลาดอย่าง SET Index (์ถ้า NAV ของ Jitta รวมผลตอบแทนจากเงินปันผลแล้ว คงยิ่งแพ้หนักเข้าไปอีก)
ที่กล่าวมาทั้งหมดไม่ตั้งใจจะโทษ Jitta เพราะก่อนลงทุน CEO เขาก็โทรมาอธิบายกับนังลงทุนทุกคน ถึงความเข้าใจ/หลักการลงทุนของ Jitta เพียงแต่อยากจะเตือนให้ศึกษา พิจารณาให้รอบคอบก่อนที่จะลงทุนอะไร ส่วน port ผมตั้งใจจะทิ้งไว้จนครบ 5 ปี ซึ่งผมคิดว่าเป็นระยะเวลาที่ยาวนานพอ แล้วดูว่าผลตอบแทนตอนนั้นจะเป็นเท่าไร หลักการของ Jitta ยังใช้ได้ไหม (ซึ่งผมคิดว่าถ้าเขายังไม่พัฒนา Algorithm คงแพ้ SET เหมือนปัจจุบัน) แล้วจะมา update ที่กระทู้นี้อีกครั้ง (ถ้าไม่ลืม)
แสดงความคิดเห็น
มีใครลงทุนกับ Jitta wealth ไหมครับ