สวัสดีค่ะ เพื่อนๆ ชาว BP ทุกท่าน หลังจากที่สิงอยู่ห้องนี้มานานหลายปี ได้เวลามาแบ่งปันประสบการณ์การท่องเที่ยวของตัวเองบ้างแล้ว การเดินทางของเราในครั้งนี้เกิดจากหลายปีที่แล้วได้ดูรายการหนังพาไป ตอนพุกามค่ะ แล้วประทับใจมาก ก็เลยตั้งใจไว้ว่าจะต้องไปให้ได้สักครั้งในชีวิต ตอนนี้เมื่อทุกอย่างพร้อม ก็ได้เวลากาวันหยุด จองตั๋วเครื่องบิน และบังคับเพื่อนแล้วล่ะค่ะ
ทริปนี้เราเดินทางวันที่ 10 - 15 กุมภาพันธ์ 2019 ใช้เวลาทั้งหมด 6 วัน 5 คืน ไปทั้งหมด 3 เมือง คือ มัณฑเลย์ พุกาม พินอูลวิน
เราเดินทาง โดยสายการบินแอร์เอชียร์ Flight 244 Don Mueang - Mandalay เวลา 11.10 – 12.25 จองล่วงหน้า 1 เดือน ได้ราคา 3,078 บาท
แผนการเดินทางคร่าวๆ ดังนี้
DAY 1: INWA – Amarapura เมืองอังวะ - อมรปุระ
DAY 2: BAGAN :: ' พุกาม ' เมืองแห่งทะเลเจดีย์
DAY 3: PYIN OO LWIN' หรือเมืองเมเมียว (Maymyo)
DAY 4: GOKTEIK VIADUCT สะพานก๊อกเต๊ก
DAY 5: MANDALAY มัณฑะเลย์ ราชธานีเก่า
DAY6: MANDALAY พิธีล้างพระพักต์พระมหามัยมุนี
เอาล่ะ เกริ่นมาซะเยอะ เริ่มเที่ยวกันได้เลย .....
มิง – กา – ลา – บา สวัสดีเมียนมาร์
หลังจากผ่านตม. รอรับกระเป๋าแล้วก็ตรงออกมาด้านนอก ภายในอาคารผู้โดยสารขาเข้า ก็จะเจอเคาเตอร์เซอร์วิสต่างๆ เรียงกันไปเยอะพอสมควร
จากนั้นทำการแลกเงิน อัตราแลกเปลี่ยนวันที่ไป 1USD = 1,530 จ๊าด เราเลือกร้าน OOREDOO เพื่อซื้อซิมการ์ดค่ะ แพ็คเกจเลือกได้ตามสะดวก
หลังจากนั้น ติดต่อรถแท็กซี่ที่ค้าท์เตอร์ Tourism information เพื่อพาเที่ยวที่เมืองอังวะ-อมรปุระ และไปดูพระอาทิตย์ตกที่สะพานไม้อุเบ็งกันก่อน
หลังจากนั้นก็ให้เขาไปส่งทิ้งไว้ที่สถานีรถบัสไปพุกาม
ได้เป็นรถ Toyota Wish ราคา 35 USD หรือ 52,000 จ๊าด (ฮื้ออ...แพง) พร้อมทั้งซื้อตั๋วรถบัสด้วยเลย รอบดึกสุดคือ เวลา 2ทุ่มครึ่ง (ใช้เวลาประมาณ 5 ชั่วโมง) ของบริษัท Moe Thout Tun ในราคา 8 USD
รอสักครู่ก็จะมีคนมาเรียกไปขึ้นรถที่ด้านนอกสนามบินค่ะ มีน้องผู้ชายวัยรุ่นมาช่วยถือกระเป๋าไปที่รถ ไอ้เราก็แอบคิดว่าโห...บริการดีจัง คุ้มค่ากับที่จ่ายแพง แต่ๆๆๆ .... ที่ไหนได้ ก่อนรถออก น้องตะโกนเข้ามาในรถ ทิปๆ อ้าวเห้ยยย ..... เลยควักจ่ายเงินให้ไปอีก 1,000 จ๊าด แบบงงๆ
นั่งรถมาได้สักเกือบๆ ชั่วโมง ก็มาถึงเมืองอังวะ แล้วค่ะ ตอนนี้ก็บ่ายโมงกว่าๆ แล้ว หิวค่ะขอแวะกินข้าวที่ร้านอาหารแถวๆ ที่จอดรถตรงท่าเรือ
อาหารมื้อแรกของเรา สั่งแบบกันตายมาก ขอแบบเซฟตัวเองที่สุด เพราะต้องเดินทางอีกไกลคืนนี้ ผัดหมี่เมียนร์มาร์สไตส์
เอาล่ะ หลังจากอิ่มเรียบร้อย แท็กซี่จะพาไปที่ท่าเรือ ที่อยู่ใกล้ๆ กัน เพื่อซื้อตั๋วเรือข้ามฟาก คนละ 1,500 จ๊าด ส่วนเค้าจะรอเราอยู่ที่นี่ นะ
นั่งเรือแป้บเดียวก็ถึงแล้วแล้วค่ะ พาหนะหลักของนักท่องเที่ยวที่เมืองนี้คือ... 'รถม้า' แต่ๆๆๆ เราต้องเสียตังค์นะ ราคา 10,000 จ๊าด นั่ง 2 คน เค้าจะพาเราเที่ยว 4 ที่เที่ยวหลักๆ ระหว่างทางก็จะผ่านอุโมงค์ต้นไม้ หมู่บ้าน ไร่นา และสวนของชาวบ้านไปเรื่อยๆ ตอนนี้แนะนำผ้าปิดจมูกนะคะ ฝุ่นเยอะมาก
Yadana Hsemee Pagoda Complex หมู่เจดีย์ยานาดา ซินเม
เป็นซากปรักหักพังของวัดโบราณที่อยู่กลางทุ่งนา บริเวณข้างๆจะมีพระประธาน และเสาที่ยังคงเหลืออยู่ให้เดินสำรวจด้วยและ ภายในอุโบสถคาดว่าเป็นศิลปะอยุธยาทั้งลักษณะการตกแต่งเสาอุโบสถและฐานชุกชีพระประธาน
มีชาวบ้านมานั่งขายรูปที่วาดเองสดๆ ตรงนั้นเลย ท่านใดชอบงานศิลปะ สามารถอุดหนุนได้ราคาไม่แพงค่ะ
Bagaya Monastery วัดบากะยา
ตัววัดแกะสลักจากไม้สักทั้งหลัง แถมยังมีเสาไม้ที่ทั้งใหญ่ และสูงอยู่โดยรอบตัว 200 กว่าต้น ที่นีมีร่องรอยของโยเดียชัดเจน นั้นคือไม้แกะสลักรูปครุฑยุดนาค ศิลปะไทยผสมกับพม่า บริเวณหัวเสาของวิหาร ที่นี่เราต้องซื้อบัตรเข้าชมเมืองด้วยนะ ราคา 10,000 จ๊าด
เก็บไว้ดีๆนะ บัตรนี้จะครอบคลุมที่เที่ยวมัณฑะเลย์หลักๆ เกือบทุกที่ ยกเว้นเมืองมิงกุน
ระหว่างทางเดินกลับไปขึ้นรถม้า ตามสองข้างถนนก็จะมีร้านขายของที่ระลึก ขนมพื้นบ้าน อยู่เต็มไปหมด (จำรถม้า และหน้าตาของคนขับของตัวเองให้ดีนะคะ เพราะระหว่าทางรถม้าเยอะมาก หน้าตาก็คล้ายๆกัน)
ฮื้ออออ น้องม้าตกทุ่งนา
Nanmyint Watch Tower หอคอยแห่งเมืองอังวะ
เหตุผลที่เอียง เป็นเพราะว่าเกิดจากแผ่นดินไหวค่ะ ปัจจุบันไม่เปิดให้เดินขึ้นไปแล้วนะ เพราะเขากลัวว่าหอคอยถล่มลงมา
มีไม้ปิดกั้นไว้อย่างดี ถ่ายรูปได้เฉพาะแค่ภายนอกเท่านั้น
Maha Aungmye Bonzan วัดมหาอังยีบองซาน
หรือวัดมนุออกจอง วิหารก่ออิฐถือปูนสีเหลืองๆ อยู่ในผังสี่เหลี่ยมผืนผ้า ถ่ายรูปสวยค่ะ แต่เราถ่ายไม่สวย 555
หลังจากนั้นรถม้าก็มาส่งเราที่จุดเริ่มต้น เพื่อนั่งเรือข้ามฟากกลับไปหาแท็กซี่ที่จอดรอเราอยู่
U-Bein Bridge สะพานอูเบ็ง
สะพานไม้สักที่ยาวที่สุดในโลก ความยาวไปกลับรวมกันเกือบ 4 กิโลเมตร เป็น หนึ่งในสิ่งที่ห้ามพลาดเมื่อมาเยือนมัณฑะเลย์ คือดูพระอาทิตย์ตกที่สะพานอูเบ็งแห่งนี้แหละค่ะ
แต่ๆๆๆๆ.... เราไปถึงประมาณสี่โมงกว่าๆ แดดยังเปรี้ยงอยู่เลย ก็ว่าจะไปเดินเล่นบนสะพานพอขึ้นไปถึงเท่านั้นแหละ โอ้โห...ทั้งทัวร์ไทย จีน แขก ฝรั่ง รวมถึง ชาวบ้าน เดินกันจนเต็มสะพาน ไม่มีที่จะเดิน เลย ยอมแพ้ค่ะ เปลี่ยนแผนลงมาเดินเล่นข้างล่างแทน ถ่ายรูปแป้บๆ ก็พอค่ะ ทั้งร้อน ทั้งฝุ่น ฮืออออ.... ไม่ดูก็ได้ พระอาทิตย์ตกเนี่ย !!
แวะไหว้พระตรงวันที่อยู่ข้างๆ สะพาน พระประธานงามมาก และใหญ่มาก เสร็จแล้วก็เดินดูของที่ขายอยู่ตามริมถนนไปเรื่อยๆ ทีเด็ดอยู่ที่ร้านนี้ค่ะ ร้านไอติมมะพร้าวแก่ ย้ำค่ะ มะพร้าวแก่ ตามภาพ 555 แต่อร่อยมากนะ รสชาดกลมกล่อมเค็มๆ มันๆ สดชื่น หายเหนื่อย ราคาแค่ 1,000 จ๊าดเอง ต้องลอง !!!
หลังจากนั้นรถแท็กซี่ก็พาเราไปส่งไว้ที่สถานีขนส่ง Kywel Sel Kan เพื่อรอขึ้นรถไปพุกามคืนนี้
รถจะหยุดพักให้กินข้าว และเข้าห้องน้ำตามอัธยาศัย 1 ครั้ง ประมาณ 5 ทุ่มค่ะ จากนั้นวิ่งยาวๆ พี่เค้าขับรถขึ้นเขาเร็วมาก แซงได้หวาดเสียวสุดๆ
OMG !!!! ยิ่งกว่า Fast and Furious หลับบ้าง ตื่นบ้าง ไปตลอดทาง เดี๋ยวไปต่อค่ะ ...
[CR] MYANMAR : มัณฑเลย์ พุกาม พินอูลวิน (นั่งรถม้า-แว๊นมอเตอร์ไซ-ขี่รถไฟ)
ทริปนี้เราเดินทางวันที่ 10 - 15 กุมภาพันธ์ 2019 ใช้เวลาทั้งหมด 6 วัน 5 คืน ไปทั้งหมด 3 เมือง คือ มัณฑเลย์ พุกาม พินอูลวิน
เราเดินทาง โดยสายการบินแอร์เอชียร์ Flight 244 Don Mueang - Mandalay เวลา 11.10 – 12.25 จองล่วงหน้า 1 เดือน ได้ราคา 3,078 บาท
แผนการเดินทางคร่าวๆ ดังนี้
DAY 1: INWA – Amarapura เมืองอังวะ - อมรปุระ
DAY 2: BAGAN :: ' พุกาม ' เมืองแห่งทะเลเจดีย์
DAY 3: PYIN OO LWIN' หรือเมืองเมเมียว (Maymyo)
DAY 4: GOKTEIK VIADUCT สะพานก๊อกเต๊ก
DAY 5: MANDALAY มัณฑะเลย์ ราชธานีเก่า
DAY6: MANDALAY พิธีล้างพระพักต์พระมหามัยมุนี
เอาล่ะ เกริ่นมาซะเยอะ เริ่มเที่ยวกันได้เลย .....
จากนั้นทำการแลกเงิน อัตราแลกเปลี่ยนวันที่ไป 1USD = 1,530 จ๊าด เราเลือกร้าน OOREDOO เพื่อซื้อซิมการ์ดค่ะ แพ็คเกจเลือกได้ตามสะดวก
หลังจากนั้น ติดต่อรถแท็กซี่ที่ค้าท์เตอร์ Tourism information เพื่อพาเที่ยวที่เมืองอังวะ-อมรปุระ และไปดูพระอาทิตย์ตกที่สะพานไม้อุเบ็งกันก่อน
หลังจากนั้นก็ให้เขาไปส่งทิ้งไว้ที่สถานีรถบัสไปพุกาม
ได้เป็นรถ Toyota Wish ราคา 35 USD หรือ 52,000 จ๊าด (ฮื้ออ...แพง) พร้อมทั้งซื้อตั๋วรถบัสด้วยเลย รอบดึกสุดคือ เวลา 2ทุ่มครึ่ง (ใช้เวลาประมาณ 5 ชั่วโมง) ของบริษัท Moe Thout Tun ในราคา 8 USD
รอสักครู่ก็จะมีคนมาเรียกไปขึ้นรถที่ด้านนอกสนามบินค่ะ มีน้องผู้ชายวัยรุ่นมาช่วยถือกระเป๋าไปที่รถ ไอ้เราก็แอบคิดว่าโห...บริการดีจัง คุ้มค่ากับที่จ่ายแพง แต่ๆๆๆ .... ที่ไหนได้ ก่อนรถออก น้องตะโกนเข้ามาในรถ ทิปๆ อ้าวเห้ยยย ..... เลยควักจ่ายเงินให้ไปอีก 1,000 จ๊าด แบบงงๆ
นั่งรถมาได้สักเกือบๆ ชั่วโมง ก็มาถึงเมืองอังวะ แล้วค่ะ ตอนนี้ก็บ่ายโมงกว่าๆ แล้ว หิวค่ะขอแวะกินข้าวที่ร้านอาหารแถวๆ ที่จอดรถตรงท่าเรือ
อาหารมื้อแรกของเรา สั่งแบบกันตายมาก ขอแบบเซฟตัวเองที่สุด เพราะต้องเดินทางอีกไกลคืนนี้ ผัดหมี่เมียนร์มาร์สไตส์
เอาล่ะ หลังจากอิ่มเรียบร้อย แท็กซี่จะพาไปที่ท่าเรือ ที่อยู่ใกล้ๆ กัน เพื่อซื้อตั๋วเรือข้ามฟาก คนละ 1,500 จ๊าด ส่วนเค้าจะรอเราอยู่ที่นี่ นะ
นั่งเรือแป้บเดียวก็ถึงแล้วแล้วค่ะ พาหนะหลักของนักท่องเที่ยวที่เมืองนี้คือ... 'รถม้า' แต่ๆๆๆ เราต้องเสียตังค์นะ ราคา 10,000 จ๊าด นั่ง 2 คน เค้าจะพาเราเที่ยว 4 ที่เที่ยวหลักๆ ระหว่างทางก็จะผ่านอุโมงค์ต้นไม้ หมู่บ้าน ไร่นา และสวนของชาวบ้านไปเรื่อยๆ ตอนนี้แนะนำผ้าปิดจมูกนะคะ ฝุ่นเยอะมาก
เก็บไว้ดีๆนะ บัตรนี้จะครอบคลุมที่เที่ยวมัณฑะเลย์หลักๆ เกือบทุกที่ ยกเว้นเมืองมิงกุน
แต่ๆๆๆๆ.... เราไปถึงประมาณสี่โมงกว่าๆ แดดยังเปรี้ยงอยู่เลย ก็ว่าจะไปเดินเล่นบนสะพานพอขึ้นไปถึงเท่านั้นแหละ โอ้โห...ทั้งทัวร์ไทย จีน แขก ฝรั่ง รวมถึง ชาวบ้าน เดินกันจนเต็มสะพาน ไม่มีที่จะเดิน เลย ยอมแพ้ค่ะ เปลี่ยนแผนลงมาเดินเล่นข้างล่างแทน ถ่ายรูปแป้บๆ ก็พอค่ะ ทั้งร้อน ทั้งฝุ่น ฮืออออ.... ไม่ดูก็ได้ พระอาทิตย์ตกเนี่ย !!
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้