เด็กส่งดอกไม้

                         เด็กส่งดอกไม้
     
                                 ...
 
 
.                ประตูเหล็กม้วนเลื่อนขึ้น ปุยปรอยหิมะหล่นลงมาไม่ถึงพื้นดีก็อันตรธานไปในสายลม ประตูเหล็กถูกดันขึ้นไปจนสุดเผยให้เห็นห้องกระจกที่ประตูเปิดอ้าซ่า เจ้าของร้านสาววัยกลางคนเดินเข้าเดินออกร้าน สาละวนอยู่กับการหอบแจกันดอกไม้หลากสีสันออกมาวางด้านหน้า เธอสลัดแขนขาไปมาเป็นระยะเพื่อยืดเส้นยืดสาย

.       วันนี้ที่เมืองริคุเบ็ทสึอากาศค่อนข้างเย็น เมื่อคืนมีหิมะโปรยลงมานิดหน่อยแต่ไม่หนักถึงขนาดทำให้ถนนขาวโพลน ทว่าถึงอากาศจะหนาวสักเท่าไหร่หากบรรยากาศที่นี่ยังคงอบอุ่นเสมอในทุกฤดู ด้วยความที่เป็นเมืองชนบทเล็ก ๆ อันรายล้อมไปด้วยป่าและขุนเขาบนเกาะฮกไกโด ผู้คนแถบนี้ใครจะไปใครจะมาก็ล้วนคุ้นหน้าคุ้นตากันเป็นอย่างดี ส่งยิ้มทักทายให้กันเป็นเรื่องปกติ มีของฝากติดไม้ติดมือมอบให้แก่กัน

.       เสียงสืบเท้าฉึบฉับดังตรงมายังร้านขายดอกไม้อย่างกระฉับกระเฉง

.      " อ้าวนั่น ! วันนี้เด็กส่งดอกไม้ของเรามาแต่เช้าเลยนะคะเนี่ย " เจ้าของร้านสาวหันไปตามเสียงแล้วอุทานขึ้นมา

.      ภาพจับไปยังเด็กส่งดอกไม้คนที่ว่า กลับปรากฏเป็นร่างหญิงวัยชราตัวเล็กบอบบางคนหนึ่ง สวมรองเท้าผ้าใบเดินแบกเป้ใบโตสีชมพูมาด้วยท่าทางแข็งขัน ชูแขนโบกไม้โบกมือให้กับเจ้าของร้าน

.      อากิโกะสิริอายุได้ 71 ปีแล้ว แต่ด้วยความร่าเริงขี้เล่นและสุขภาพที่ดีเกินวัยของเธอ ชาวเมืองจึงพร้อมใจกันตั้งฉายาให้เธอว่า"เด็กพันปี" ตอนนี้อากิโกะปลดเกษียณจากการเป็นเสมียนแล้วจึงมารับงานส่งดอกไม้ในเมืองบ้านเกิดเพื่อหาอะไรทำยามว่าง

.      " อากิโกะจัง ไม่หนาวหรอคะเนี่ย เดินตัวปลิวมาเลย ขนาดหนูวัยนี้ยังมีสั่น ๆ เลย บรื๋อ.." เจ้าของร้านพูดพลางกอดอกทำตัวสั่น หน้าตาเธอบ่งบอกวัยว่าอยู่ประมาณสี่สิบต้น ๆ

.     " สบ๊าย..สบายจ้ะคุณมิโฮะ หนาวกว่านี้อิชั้นก็ยังไหว ดูนี่ดูนี่ ! " อากิโกะเดินมาหยุดที่ร้านพร้อมปลดกระเป๋าสะพายลง ยกแขนเล็กๆขึ้นสองข้างภายใต้ชุดวอร์มสีเหลืองอย่างทะมัดทะแมง ทำท่าเบ่งกล้ามโชว์

.     " วันนี้อากิโกะจังจะเอาดอกอะไรบ้างคะ บ้านคุณซาโต้ข้างร้านขายปลาสมัครรับดอกไม้แบบรายสัปดาห์วันแรก อากิโกะจังมีข้อมูลเขารึยังเอ่ย ? "

.     ภาพตัดไปที่โปสเตอร์พื้นขาวประดับกิ่งดอกไม้ล้อมเป็นกรอบติดอยู่หน้าร้าน ข้อความบนพื้นแผ่นระบุว่า : 'ร้านดอกไม้มิโฮะ รับจัดดอกไม้นอกสถานที่และส่งดอกไม้ถึงบ้าน มีผู้เชี่ยวชาญคัดเลือกดอกไม้ให้เหมาะสมกับวันดี ๆ ของคุณ.. ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่เบอร์ 015726-1823'

.    " อิชั้นเตรียมมาเรียบร้อยแล้วค่ะ " อากิโกะยื่นกระดาษเล็ก ๆ ส่งให้เจ้าของร้าน ข้างในเขียนชื่อดอกไม้สิบสี่ชนิดซึ่งพอดีกับจำนวนบ้านที่เธอต้องไปส่งในวันนี้ แต่ละชนิดมีจำนวนมากน้อยลดหลั่นกันไปตามแต่ความประสงค์ของบ้านแต่ละหลัง

.    " ไม่นึกเลยน้า...คนหนุ่มกล้ามโตแบบซาโต้คุงก็ชอบดอกไม้กับเขาด้วย เห็นวิ่งซนไปมาตั้งแต่อ้อนแต่ออก " อากิโกะพูดพร้อมรับดอกไม้ที่มิโฮะหอบมาให้ตามรายชื่อที่ระบุ เธอเอาดอกไม้ทั้งหมดใส่ลงช่องพิเศษบนเป้ที่เป็นเหมือนกระบอกกลวงด้านนอกสุดของกระเป๋า เสร็จแล้วครอบถุงพลาสติกใสไว้อีกทีนึง

.     " วันนี้จะเดินไปเหรอคะ เย็นอยู่นะคะอากาศ " มิโฮะถามอย่างกังวล

.    " เย็น ๆ อย่างนี้นี่แหละค่ะต้องเดิน ไม่เดินเดี๋ยวตัวแข็งเป๊กตายก่อนแก่กันพอดี " อากิโกะหัวเราะเสียงดังลั่น ทำเอามิโฮะพลอยหัวเราะตามไปด้วย

.    " แหม อากิโกะจังแข็งแรงขนาดนี้รับรองว่าอายุยืนไปอีกน้านนานค่า... เดินทางปลอดภัยนะค้า~ " มิโฮะโบกมือบ๊ายบาย อากิโกะยิ้มกว้างโบกมือบ๊ายบายตอบก่อนออกเดินไปตามทางริมถนน

.      วันเสาร์รถราวิ่งน้อย จากปกติที่น้อยอยู่แล้วก็ยิ่งน้อยเข้าไปใหญ่ ริมถนนเป็นบ้านแบบชนบทญี่ปุ่นหลังย่อมไร้รั้วรอบขอบชิด รูปทรงละม้ายกันหมด จะมีต่างก็แค่สีสัน ผู้คนในเมืองริคุเบ็ทสึเลือกที่จะพักผ่อนอยู่กับบ้านมากกว่าในวันหยุด ถนนหนทางจากที่มีเสียงเครื่องยนต์ฮึ่มฮ่ำในวันทำงาน กลับกลายเป็นเสียงเจื้อยแจ้วของนกโรบิ้นญี่ปุ่นกู่ขานรับเช้าวันใหม่อย่างเบิกบานเข้ามาแทนที่ นกร้องสอดรับกับจังหวะก้าวเดินของอากิโกะจนเกิดเป็นทำนองดนตรีแห่งรุ่งอรุณ--ที่ขณะนี้หยุดชั่วครู่อยู่ที่หน้าบ้านหลังหนึ่งใกล้กับร้านขายปลา

.      " ซาโต้คูง...ดอกไม้มาส่งจ้าา " อากิโกะเลือกที่จะตะโกนเข้าไปในบ้านทั้งที่ปุ่มออดอยู่ตรงหน้า

.     " โอ๊ะ ๆ มาแล้วคร้าบ เสียงดังฟังชัดจังน้า..เด็กส่งดอกไม้คนนี้ " ชายหนุ่มอายุสามสิบเศษเดินจากบ้านมาเปิดประตูให้ทั้งชุดนอนแพรบาง

.      " ดูซิ ! พ่อเด็กคนนี้  เดี๋ยวได้หวัดกินหรอก อากาศเย็นแบบนี้ใส่ชุดบางเชียว..น่าตีจริง ๆ " อากิโกะเดินเข้าบ้านไปพร้อมบ่นเจ้าบ้านที่หัวเราะแหะ ๆ อย่างเดียว พูดไม่ทันขาดคำซาโต้ก็จามฮัดชิ่วพร้อมไอค่อกแค่ก...ดูเหมือนเขาจะเป็นหวัดเข้าให้เสียแล้ว

.      " นั่นไง ๆ หวัดลงคอแล้ว พออากาศเริ่มเย็นก็เป็นแบบนี้ตลอดเลยเนี่ยซาโต้คุง ไม่เปลี่ยนเล้ยย " อากิโกะเข้ามานั่งในบ้านราวกับคนคุ้นเคยพร้อมควานหาของบางอย่างในกระเป๋าเป้ที่วางบนตัก

.      " เอ้านี่จ้ะ..ยาบาคุมอนโดโตะ1ตำรับโบราณ กินสามเวลาก่อนอาหาร ดื่มน้ำร้อนตามเยอะ ๆ เดี๋ยวเดียวหายไอแน่นอนเชื่ออิชั้น ! " อากิโกะยื่นยาที่เหมือนเตรียมมาจากบ้านให้ซาโต้

.     " ส่วนนี่ดอกนิวะโตโคะ2นะจ๊ะ... " อากิโกะหยิบดอกไม้พุ่มสีขาวยื่นให้เป็นกำ " ...กลิ่นมันช่วยทำให้หายหวัดไวขึ้น หรือจะเอาไปต้มเป็นชาดื่มได้ยิ่งดี "

.     " โอ้โห !? อากิจัง ผมพึ่งสั่งดอกไม้ครั้งแรกเองนะ ไหงเตรียมของมาแต่ละอย่างเหมือนรู้ว่าผมจะเป็นหวัด ฮะ...ฮัดเช้ย !! " ซาโต้ทึ่งไปจามไป เอามือปิดปากปิดจมูกตัวเองแทบไม่ทัน

.      " อะโถ่ เรื่องแค่นี้เอง ทำไมอิชั้นจะไม่รู้คะ ซาโต้คุงเป็นหวัดช่วงนี้มาแต่ไหนแต่ไร เอ้านั่น ! ยังไม่เอาขยะไปทิ้งเหรอ มาเดี๋ยวอิชั้นเอาไปทิ้งให้จ้า "

.      ว่าแล้วอากิโกะก็เดินไปหยิบถุงขยะที่วางในครัวเพื่อจะเอาไปทิ้งให้ที่ด้านนอก แม้ซาโต้จะคะยั้นคะยอว่าเดี๋ยวตนจะเอาไปทิ้งเอง แต่หาได้หยุดอากิโกะไม่ เธอเดินถือถุงลิ่วไปนอกบ้านโน่นแล้ว ซาโต้ได้แต่ค้อมหัวปลก ๆ พร้อมคำขอบคุณไม่หยุดลอยไล่หลังมา

.     ใช่แล้ว...อากิโกะนั้นมักจะศึกษาคนในบ้านแต่ละหลังล่วงหน้าก่อนเสมอ ๆ เธอจึงสามารถเลือกดอกไม้ได้เหมาะกับทุกบ้าน

.     และยิ่งไปกว่านั้น ในกระเป๋าเป้ใบใหญ่สีชมพูนี้คืออาวุธลับอีกอย่าง เธอจะเตรียมของพิเศษใส่ลงไปในเป้ เพื่อมอบให้คนที่เธอแวะไปส่งดอกไม้ให้อยู่เป็นประจำ ยกตัวอย่างเช่น...

.      " อากิโกะจังง มีดปอกผลไม้หนูหายไปไหนก็ไม่รู้ ขอโทษด้วยนะคะ " เสียงอ้อนของหนูมิคังสาววัยรุ่นยี่สิบต้น ๆ ดังขึ้นหลังจากเธอรับดอกชิรายูริ3มาแล้วกะว่าจะปอกมะม่วงสุกให้อากิโกะทานแทนคำขอบคุณ แต่เกิดปัญหาใหญ่ขึ้น

.      ทว่าปัญหานั้นถูกแก้ไขอย่างรวดเร็ว อากิโกะควักมีดปอกผลไม้พร้อมฝักออกมาจากกระเป๋าเป้ตัวเก่ง แล้วจัดการปอกให้หนูมิคังด้วยตัวเอง ทั้งคู่ได้กินมะม่วงสุกร่วมกันพร้อมเสียงหัวเราะ

...หรืออีกตัวอย่างหนึ่ง...

.     " เอ...ตะกร้อสอยส้มหายไปไหนน้า...จำได้ว่าวางไว้หน้าบ้านนี่ " คุณโคมะนักดนตรีเฒ่าวัยหกสิบพึมพำเบา ๆ เขายืนถือช่อซูซูรัน4ที่พึ่งรับมาจากอากิโกะท่าทางเก้ ๆ กัง ๆ ที่หน้าต้นส้มเกลี้ยงต้นใหญ่ มือกอดอกครุ่นคิดถึงตำแหน่งล่าสุดที่ตนเคยวางตะกร้อไว้ในบ้าน

.     อากิโกะหยิบตะกร้อแบบพับได้ออกมาจากกระเป๋า ทบสายจนยาวแล้วเดินไปสอยส้มบนยอดมาให้คุณโคมะได้สำเร็จ คุณโคมะด้วยความดีใจจึงมอบน้ำผึ้งให้เธอขวดใหญ่เป็นการแสดงความขอบคุณพร้อมรอยยิ้มหน้าบาน

...เอาอีกซักตัวอย่างนึงแล้วกันน่า...

.      ครอบครัวคุณริทซึโกะ -- สาวผู้เรียบร้อยวัยห้าสิบกลาง ๆ -- ดั้นด้นมาจากฮาโกะดะเตะ เมืองท่าทางตะวันตกเฉียงใต้ของเกาะเพื่อมาเยี่ยมเธอเป็นประจำ รอบนี้มีเจ้าหลานชายจอมซนวัยเก้าขวบชื่อโดม่อนมาด้วย

.      โดม่อนพึ่งกลับมาจากอังกฤษ ไปโตที่นั่น เลยไม่ค่อยรู้จักของเล่นญี่ปุ่นกับเขาเท่าไหร่ อากิโกะหยิบลูกข่างญี่ปุ่นออกมาเล่นโชว์ให้โดม่อนดู เจ้าหนุ่มน้อยตาลุกวาวผลัดกันเล่นคนละตากับอากิโกะ เฮฮาปาจิงโกะกันไปแบบเด็ก ๆ ส่วนคุณริทซึโกะมองมาทางคู่ซี้ต่างวัยอย่างอมยิ้ม ที่มือจัดเรียงดอกคินโปอุเกะ5สีเหลืองน่ารักที่เพิ่งได้จากอากิโกะใส่ลงในแจกันหินอ่อนใบน้อย ส่วนญาติที่เหลือนั่งเชียร์เบสบอลกันหน้าทีวีที่ห้องรับแขก

.      วันนี้เป็นวันหยุดของคนอื่น หากแต่เป็นวันที่ยุ่งของเด็กส่งดอกไม้แบบอากิโกะ ส่วนใหญ่คนที่สมัครรับดอกไม้ต้องการให้ส่งในวันหยุดสุดสัปดาห์อย่างวันเสาร์และอาทิตย์กัน อากิโกะต้องเดินเท้ากว่าสามกิโลเพื่อส่งดอกไม้จนหมด ดีว่าเขตรอบนอกที่ไกล ๆ หน่อยเป็นหน้าที่ของสาวมัธยมปลายอย่างหนูซาเอะเป็นคนไปส่ง หนูซาเอะเป็นสาวน่ารักอีกคนที่มักจะขี้รถป๊อบสีน้ำเงินคู่ใจกระเวนไปทั่วเมืองเพื่อหารายได้พิเศษ เห็นว่าใกล้จะพอซื้อกระเป๋าถือใบใหม่ในอีกไม่ช้า ของตอบแทนเล็ก ๆ น้อย ๆ แด่คนขยัน

.    หลังจากเล่นกับโดม่อนคุงที่บ้านคุณริทซึโกะเสร็จก็เหลือคิวส่งดอกไม้อีกสองหลังเท่านั้น ทั้งสองหลังที่ว่าอยู่ไม่ไกลจากร้านส่งดอกไม้เพราะอากิโกะวางแผนการเดินเป็นวงกลมไว้ก่อนแล้ว หลังที่อยู่ใกล้จะถูกเหลือไว้ในเส้นทางเดินกลับเพื่อไปรับเงินค่าส่งเสมอ ซึ่งก็มักจะเป็นบ้านของคุณเก็นตะ และป้าโชโกะ

.    แดดเริ่มแรงขึ้นกว่าตอนเช้าบ้างแล้ว แต่ก็ยังพอเดินได้สบาย เสียงนกติ๊ดญี่ปุ่นขี้เซาเพิ่งมาร้องเอาตอนสายโด่ สงสัยเมื่อคืนจะหลับเพลินไปหน่อย เดินไปฟังเสียงนกไปในที่สุดอากิโกะก็มาถึงหน้าบ้านเก็นตะ

.     เก็นตะเป็นหนุ่มวัยยี่สิบตอนปลาย เพิ่งมาอยู่ที่ริคุเบ็ทซึได้ไม่นาน เขาเป็นคนในเมืองใหญ่อย่างซัปโปโระ แต่ด้วยภาระด้านการงานจึงจำต้องย้ายมาที่นี่ ตามบริษัทพัฒนาผลผลิตทางการเกษตรที่มาตั้งสำนักงานใหม่ได้ไม่นาน เป็นเด็กหนุ่มที่เงียบแต่จิตใจอ่อนโยน ชอบอ่านหนังสือ เขาสมัครรับดอกไม้ตั้งแต่วันแรก ๆ ที่มาอยู่เลยทีเดียว

.    ชายหนุ่มยิ้มละไมพร้อมเปิดประตูต้อนรับ ทว่าวันนี้เหมือนมีอะไรผิดปกติไปในแววตาคู่นั้น ที่หลืบเร้นความกังวลอะไรบางอย่างอยู่

.     " หา !? ถูกผีอำเหรอคะ " อากิโกะยกมือป้องปากด้วยความตกใจ

.     เก็นตะพยักหน้า

.   " ผมได้ยินเสียงเธอละเมอ ' ไม่..ออกไป ! ' แบบนี้หลายคืนแล้วครับคุณอากิโกะ " เขาพูดต่อด้วยสีหน้าแสดงออกถึงความไม่สบายใจ

.     เก็นตะไม่ได้หมายถึงตัวเองที่ถูกผีอำ แต่เขากำลังพูดถึงเอบาตะ สาวรุ่นราวคราวเดียวกันที่อยู่บ้านติดกับเขา เอบาตะเป็นครูชนบท เธอมาจากโตเกียว อยู่ที่นี่ก็เข้าปีที่หกแล้ว เลือกมาสอนที่ริคุเบ็ทสึด้วยไฟอันเร่าร้อนเต็มเปี่ยม หวังอยากให้เด็กบ้านนอกได้เข้าถึงการศึกษาในระดับมาตรฐาน ขนาดวันนี้วันเสาร์เอบาตะเธอยังไม่ยอมหยุดเลย ไปขลุกตัวอยู่ที่โรงเรียนเพื่อวางแผนการสอน ช่างเป็นเด็กสาวที่ขยันจริง ๆ

.    อากิโกะยื่นดอกแม็กโนเลียให้เก็นตะรับไว้ด้วยรอยยิ้มเล็กน้อย แต่อากิโกะไม่ได้รู้สึกสบายใจเลยแม้แต่น้อย นี่เป็นครั้งแรกที่ดอกไม้ของเธอไม่ประสานสัมพันธ์กับความรู้สึกของผู้รับ อากิโกะหยิบด้วงกว่างสตัฟฟ์ให้เป็นของติดไม้ติดมือพร้อมกับเอ่ยปากด้วยความรับผิดชอบ

.     " เดี๋ยวอิชั้นจะกลับไปเอาดอกไม้มาให้ใหม่อีกชนิดนะคะคุณเก็นตะ " เก็นตะงุนงง พยายามบอกอากิโกะว่าไม่เป็นไรด้วยความเกรงใจ แต่อากิโกะเมื่อตัดสินใจจะทำอะไรสักอย่าง เธอต้องทำให้ได้และทำให้ดี

.     " แต่อากาศเริ่มร้อนแล้วนะครับ " เก็นตะเกรงใจอย่างมาก

.     " ไม่เป็นไรหรอกจ้า กำลังดีเลย แก้หนาวจากเมื่อคืนได้ชะงัดนัก ร้านอยู่ใกล้นิดเดียว คุณเก็นตะรอแป๊บเดียวนะคะ เดี๋ยวอิชั้นส่งดอกไม้ให้บ้านป้าโชโกะแล้วจะรีบบึ่งมาอย่างไวเลยค่ะ " อากิโกะไม่มีท่าทีว่าจะลดราวาศอกแต่อย่างใด พูดเสร็จก็ทำท่าผลุนเดินออกไปจากบ้านทันที

.     " ได้โปรดระมัดระวังตัวด้วยครับ " เก็นตะโค้งตัวทำมุมฉากกับพื้นให้หลังมา

.....ต่อ.....(1/3)
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่