คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 7
1. ปัจจัย 4 ถือว่าเป็นกิเลสไหมครับ?
2. การที่ร่างกายต้องการอากาศ อุณหภูมิที่เหมาะสม ถือว่าเกิดกิเลสไหมครับ เช่น ถ้าผมตากแดดแล้วรู้สึกร้อน เกิดความอยากไปอยู่ไต้ร่มไม้จะถือว่าเป็นกิเลสไหมครับ? (ถ้าคิดจาก กิเลส=ความอยาก)
2 ข้อนี้มีคำตอบเดียว คือ
ในโลกนี้ประกอบด้วย รูปธรรม และนามธรรม
รูปธรรม คือ วิตถุสิ่งของ สภาพปรากฎต่างๆ ที่มีอยู่ แต่ตัวมันเอง ไม่มีความรู้สึก ไม่รู้ ได้แก่ สี เสียง กลิ่น รส เย็น ร้อน อ่อน แข็ง ตึง ไหว
นามธรรม คือ สภาพที่มีความรู้ รู้สึกได้ ซึ่งสภาพเหล่านี้ ไม่มีรูปร่าง ได่แก่ จิตใจ และ อารมณ์
รูปธรรมต่างๆ จะมีขึ้นได้ ปรากฎได้ จะต้องมีเหตุปัจจัย ซึ่งร่างกายของสัตว์
ก็ต้องการปัจจัยหลายอย่าง และปัจจัย 4, น้ำ, อากาศ คือหนึ่งในปัจจัยเหล่านั้น ....
3. กิเลส (บาลี: กิเลส; สันสกฤต: क्लेश เกฺลศ) หมายถึง สภาพที่ทำให้จิตเศร้าหมอง(wiki) จิตเศร้าหมองหมายถึงอะไรครับ?
นามธรรม เป็นสภาพที่รู้ คือ จิตใจและอารมณ์ ซึ่งสภาพของจิตใจมีหลายประเภท
จิตใจที่ดีงาม เรียกว่า กุศลจิต, จิตใจที่ไม่ดีงาม เรียกว่า อกุศลจิต .....
กิเลสเป็นอารมณ์ของจิตอย่างหนึ่ง ซึ่งเป็นต้นเหตุที่ทำให้จิตเป็นอกุกศ
จิตใดที่มีกิเลสเกิดร่วมด้วย เป็นอกุศลจิต จิตใดไม่มีกิเลสเกิดร่วม เป็นกุศลจิต
4. ถ้าเกิดยังเป็นมนุษย์ก็ต้องมีกิเลสไม่สิ้นสุด ทำไมถึงไม่เลือกที่จะตาย จะง่ายกว่าในการดับกิเลส?
เมื่อมีเหตุ ย่อมมีผล จากการศึกษาพระธรรมของพระพุทธเจ้า ทำให้รู้ว่า การเกิดของสัตว์นั้น
ต้องมีเหตุมีปัจจัยให้เกิด หากยังมีเหตุปัจจัยทำให้การเกิดต่อมีอยู่ แม้สัตว์นั้นตายไป
ก็ยังต้องมีการสืบต่อ ไปเกิดเป็นอย่างอื่นในภพอื่น ไม่มีที่สิ้นสุดอยู่ดี การตายจึงไม่ใช่วิธีทำให้ทุกข์หมดไป
แต่ความเป็นจริงแล้ว ความตายไม่ว่าด้วยวิธีใดก็เป็นเพียงส่วนหนึ่งของการเวียนว่ายในวัฏสงสารเท่านั้นเอง
5. "การทำบุญ" ถ้าเกิดเราอยากได้บุญแล้วไปทำบุญ เราจะได้บุญไหม เพราะถ้าทำบุญโดยหวังสิ่งตอบแทน ก็จะไม่ได้อะไรเลย(ครูตอนประถมเคยบอก)?
ที่ครูสอนนั้นมีส่วนถูก-และผิดครับ
ถ้าทำบุญโดยหวังสิ่งตอบแทน ก็จะไม่ได้อะไรเลย ไม่ถูกต้อง
เหมือนกับเราหว่านพืชพันธ์ไม่ดีลงที่นา มันจะเกิดเป็นร่วงข้าวไหม .....
ข้าวมันก็โตเหมือนกับข้าวพันธ์ดี แต่มันได้ผลไม่มาก ไม่เต็ม ไม่งาม .... ถ้าทำได้ก็ให้ทำบุญให้ถูกวิธีจะดีกว่ามาก
6. อหิริกะ "ความไม่ละอายบาป" อโนตตัปปะ "ความไม่เกรงกลัวบาป" --> ละอายบาปกับเกรงกลัวบาปต่างกันยังไงครับทำไมถึงแยกข้อ?
ตำราเขาเปรียบเทียบไว้ครับ
มีเหล็ก 2 อัน อันหนึ่งเปื้อนสิ่งสกปรก อีกอันเป็นเหล็กร้อนแดง
คนที่กล้าจับอันที่เปื้อน ..... คือ อหิริกะ (กิเลสเปรียบกับของสกปรก จะรู้ว่าเหล็กมันสกปรกหรือไม่ หากจับไปก็ทำให้ผู้จับเปื่อนไปด้วย)
คนที่กล้าจับอันที่ร้อน ........ คือ อโนตตัปปะ (กิเลสเปรียบกับของร้อน จะรู้ว่าเหล็กมันร้อนหรือไม่ หากจับไปก็ทำให้ผู้จับโดยเผาไปด้วย)
**ผมคิดว่ากิเลสเป็นสิ่งที่ทำให้มนุษย์พัฒนามากกว่าครับ เช่นถ้ามีคนต้องการความสะดวกสบาย ก็จะเกิดกระบวนการขึ้นจนออกมาเป็นนวัตกรรม รวมทั้งวิทยาศาสตร์ด้วย(ที่จริงมีคำถามเยอะมากกก แต่เอาแค่ประเด็นหลักๆครับ)
ที่เข้าใจนั้นมีส่วนถูกครับ ...... ที่เราเกิดมาทุกวันนี้ ก็เป็นผลจากการมีกิเลสทั้งสิ้น
ทำให้เราเกิดมาพบกับสิ่งดีๆ มากมาย ได้ยินเสียงที่ไพเราะ ได้กลิ่นหอม ได้กินของอร่อย ได้สัมผัสอันอ่อนนุ่ม น่าพอใจ
แต่ก็ลองคิดเอาเองล่ะกัน ความสุขทั้งหมดที่ว่ามา มันจะอยู่กับเราตลอดไปไหม คิดแค่ในวันหนึ่งๆ ก็ได้
เรานอนกี่ชั่วโมง หากไม่ฝันเลย เป็นสุข เป็นทุกข์ หรือเฉยๆ ตอนนอนนั้นอาจไม่รู้ต้ว ก็ลองไม่นอนดู รับรองเป็นทุกข์แน่ๆ
ชีวิตคน หากมองในด้านสุข มันก็สุข แต่มองตามความเป็นจริงดู เรามีสุขหรือทุกข์มากกว่ากัน
ส่วนการพัฒนาก็เช่นกัน เป็นสิ่งดีมากเลยครับ
แต่ลองพิจารณาดูเถอะ กิเลสทำให้เกิดสิ่งสร้างสรรค์แปลกๆ ใหม่ๆ
และในเวลาเดียวกัน ทำให้เกิดสงครามในรูปแบบต่างๆ มากมาย
กิเลสเป็นธรรมชาติครับ เราต้องรู้ตามความเป็นจริง อย่าได้มองอะไรด้านเดียว
2. การที่ร่างกายต้องการอากาศ อุณหภูมิที่เหมาะสม ถือว่าเกิดกิเลสไหมครับ เช่น ถ้าผมตากแดดแล้วรู้สึกร้อน เกิดความอยากไปอยู่ไต้ร่มไม้จะถือว่าเป็นกิเลสไหมครับ? (ถ้าคิดจาก กิเลส=ความอยาก)
2 ข้อนี้มีคำตอบเดียว คือ
ในโลกนี้ประกอบด้วย รูปธรรม และนามธรรม
รูปธรรม คือ วิตถุสิ่งของ สภาพปรากฎต่างๆ ที่มีอยู่ แต่ตัวมันเอง ไม่มีความรู้สึก ไม่รู้ ได้แก่ สี เสียง กลิ่น รส เย็น ร้อน อ่อน แข็ง ตึง ไหว
นามธรรม คือ สภาพที่มีความรู้ รู้สึกได้ ซึ่งสภาพเหล่านี้ ไม่มีรูปร่าง ได่แก่ จิตใจ และ อารมณ์
รูปธรรมต่างๆ จะมีขึ้นได้ ปรากฎได้ จะต้องมีเหตุปัจจัย ซึ่งร่างกายของสัตว์
ก็ต้องการปัจจัยหลายอย่าง และปัจจัย 4, น้ำ, อากาศ คือหนึ่งในปัจจัยเหล่านั้น ....
3. กิเลส (บาลี: กิเลส; สันสกฤต: क्लेश เกฺลศ) หมายถึง สภาพที่ทำให้จิตเศร้าหมอง(wiki) จิตเศร้าหมองหมายถึงอะไรครับ?
นามธรรม เป็นสภาพที่รู้ คือ จิตใจและอารมณ์ ซึ่งสภาพของจิตใจมีหลายประเภท
จิตใจที่ดีงาม เรียกว่า กุศลจิต, จิตใจที่ไม่ดีงาม เรียกว่า อกุศลจิต .....
กิเลสเป็นอารมณ์ของจิตอย่างหนึ่ง ซึ่งเป็นต้นเหตุที่ทำให้จิตเป็นอกุกศ
จิตใดที่มีกิเลสเกิดร่วมด้วย เป็นอกุศลจิต จิตใดไม่มีกิเลสเกิดร่วม เป็นกุศลจิต
4. ถ้าเกิดยังเป็นมนุษย์ก็ต้องมีกิเลสไม่สิ้นสุด ทำไมถึงไม่เลือกที่จะตาย จะง่ายกว่าในการดับกิเลส?
เมื่อมีเหตุ ย่อมมีผล จากการศึกษาพระธรรมของพระพุทธเจ้า ทำให้รู้ว่า การเกิดของสัตว์นั้น
ต้องมีเหตุมีปัจจัยให้เกิด หากยังมีเหตุปัจจัยทำให้การเกิดต่อมีอยู่ แม้สัตว์นั้นตายไป
ก็ยังต้องมีการสืบต่อ ไปเกิดเป็นอย่างอื่นในภพอื่น ไม่มีที่สิ้นสุดอยู่ดี การตายจึงไม่ใช่วิธีทำให้ทุกข์หมดไป
แต่ความเป็นจริงแล้ว ความตายไม่ว่าด้วยวิธีใดก็เป็นเพียงส่วนหนึ่งของการเวียนว่ายในวัฏสงสารเท่านั้นเอง
5. "การทำบุญ" ถ้าเกิดเราอยากได้บุญแล้วไปทำบุญ เราจะได้บุญไหม เพราะถ้าทำบุญโดยหวังสิ่งตอบแทน ก็จะไม่ได้อะไรเลย(ครูตอนประถมเคยบอก)?
ที่ครูสอนนั้นมีส่วนถูก-และผิดครับ
ถ้าทำบุญโดยหวังสิ่งตอบแทน ก็จะไม่ได้อะไรเลย ไม่ถูกต้อง
เหมือนกับเราหว่านพืชพันธ์ไม่ดีลงที่นา มันจะเกิดเป็นร่วงข้าวไหม .....
ข้าวมันก็โตเหมือนกับข้าวพันธ์ดี แต่มันได้ผลไม่มาก ไม่เต็ม ไม่งาม .... ถ้าทำได้ก็ให้ทำบุญให้ถูกวิธีจะดีกว่ามาก
6. อหิริกะ "ความไม่ละอายบาป" อโนตตัปปะ "ความไม่เกรงกลัวบาป" --> ละอายบาปกับเกรงกลัวบาปต่างกันยังไงครับทำไมถึงแยกข้อ?
ตำราเขาเปรียบเทียบไว้ครับ
มีเหล็ก 2 อัน อันหนึ่งเปื้อนสิ่งสกปรก อีกอันเป็นเหล็กร้อนแดง
คนที่กล้าจับอันที่เปื้อน ..... คือ อหิริกะ (กิเลสเปรียบกับของสกปรก จะรู้ว่าเหล็กมันสกปรกหรือไม่ หากจับไปก็ทำให้ผู้จับเปื่อนไปด้วย)
คนที่กล้าจับอันที่ร้อน ........ คือ อโนตตัปปะ (กิเลสเปรียบกับของร้อน จะรู้ว่าเหล็กมันร้อนหรือไม่ หากจับไปก็ทำให้ผู้จับโดยเผาไปด้วย)
**ผมคิดว่ากิเลสเป็นสิ่งที่ทำให้มนุษย์พัฒนามากกว่าครับ เช่นถ้ามีคนต้องการความสะดวกสบาย ก็จะเกิดกระบวนการขึ้นจนออกมาเป็นนวัตกรรม รวมทั้งวิทยาศาสตร์ด้วย(ที่จริงมีคำถามเยอะมากกก แต่เอาแค่ประเด็นหลักๆครับ)
ที่เข้าใจนั้นมีส่วนถูกครับ ...... ที่เราเกิดมาทุกวันนี้ ก็เป็นผลจากการมีกิเลสทั้งสิ้น
ทำให้เราเกิดมาพบกับสิ่งดีๆ มากมาย ได้ยินเสียงที่ไพเราะ ได้กลิ่นหอม ได้กินของอร่อย ได้สัมผัสอันอ่อนนุ่ม น่าพอใจ
แต่ก็ลองคิดเอาเองล่ะกัน ความสุขทั้งหมดที่ว่ามา มันจะอยู่กับเราตลอดไปไหม คิดแค่ในวันหนึ่งๆ ก็ได้
เรานอนกี่ชั่วโมง หากไม่ฝันเลย เป็นสุข เป็นทุกข์ หรือเฉยๆ ตอนนอนนั้นอาจไม่รู้ต้ว ก็ลองไม่นอนดู รับรองเป็นทุกข์แน่ๆ
ชีวิตคน หากมองในด้านสุข มันก็สุข แต่มองตามความเป็นจริงดู เรามีสุขหรือทุกข์มากกว่ากัน
ส่วนการพัฒนาก็เช่นกัน เป็นสิ่งดีมากเลยครับ
แต่ลองพิจารณาดูเถอะ กิเลสทำให้เกิดสิ่งสร้างสรรค์แปลกๆ ใหม่ๆ
และในเวลาเดียวกัน ทำให้เกิดสงครามในรูปแบบต่างๆ มากมาย
กิเลสเป็นธรรมชาติครับ เราต้องรู้ตามความเป็นจริง อย่าได้มองอะไรด้านเดียว
แสดงความคิดเห็น
มีคำถามเกี่ยวกับเรื่องกิเลสครับ??
2. การที่ร่างกายต้องการอากาศ อุณหภูมิที่เหมาะสม ถือว่าเกิดกิเลสไหมครับ เช่น ถ้าผมตากแดดแล้วรู้สึกร้อน เกิดความอยากไปอยู่ไต้ร่มไม้จะถือว่าเป็นกิเลสไหมครับ? (ถ้าคิดจาก กิเลส=ความอยาก)
3. กิเลส (บาลี: กิเลส; สันสกฤต: क्लेश เกฺลศ) หมายถึง สภาพที่ทำให้จิตเศร้าหมอง(wiki) จิตเศร้าหมองหมายถึงอะไรครับ?
4. ถ้าเกิดยังเป็นมนุษย์ก็ต้องมีกิเลสไม่สิ้นสุด ทำไมถึงไม่เลือกที่จะตาย จะง่ายกว่าในการดับกิเลส?
5. "การทำบุญ" ถ้าเกิดเราอยากได้บุญแล้วไปทำบุญ เราจะได้บุญไหม เพราะถ้าทำบุญโดยหวังสิ่งตอบแทน ก็จะไม่ได้อะไรเลย(ครูตอนประถมเคยบอก)?
6. อหิริกะ "ความไม่ละอายบาป" อโนตตัปปะ "ความไม่เกรงกลัวบาป" --> ละอายบาปกับเกรงกลัวบาปต่างกันยังไงครับทำไมถึงแยกข้อ?
-----------------------------------------
**ผมคิดว่ากิเลสเป็นสิ่งที่ทำให้มนุษย์พัฒนามากกว่าครับ เช่นถ้ามีคนต้องการความสะดวกสบาย ก็จะเกิดกระบวนการขึ้นจนออกมาเป็นนวัตกรรม รวมทั้งวิทยาศาสตร์ด้วย(ที่จริงมีคำถามเยอะมากกก แต่เอาแค่ประเด็นหลักๆครับ)
***การตั้ง กท นี้ไม่ได้ต้องการดูหมิ่นศาสนาถ้าคำรุนแรงไปขอโทษล่วงหน้าครับ
***ขอบคุณที่เข้ามาตอบครับ