[CR] รีวิว Jaipur-Agra India in my view ทัชมาฮาลกับนครแห่งสีชมพู


อินเดียเป็นอีกประเทศนึง ที่ตัวผมเองอยากเดินทางไปเที่ยวมานานแล้ว เพียงแต่.....หาเพื่อนไปไม่ได้เลยยยยยย สาเหตุหลักๆมีอยู่ 4 อย่าง
1. ทุกคนคิดว่าอินเดียนั้นสกปรกแม่แต่ขรี้วัวอยู่เต็มไปหมดตามถนนหนทาง
2. ทุกคนคิดว่าคนอินเดียจะใส่น้ำมันหอมระเหยอะไรสักอย่างที่กลิ่นมันเหม็นๆ(แล้วแต่ประสบการณ์ของแต่ละคน)
3. ทุกคนคิดว่าไม่สามารถทานอาหารอินเดียได้แน่ๆ เพราะต้องมีกลิ่นเครื่องเทศ รุนแรงเฉกเช่นเดียวกับกลิ่นตัว
4. ทุกคนคิดว่าที่อินเดียนั้นมีมิจฉาชีพเยอะแน่ๆ  ซึ่งตัวผมเองก็อดคิดไม่ได้ว่าถ้าได้ไปคงต้องเจออะไรแบบนี้แน่ๆ
จนกระทั่งวันนึงพี่ที่รู้จักกันไลน์มาชวนว่าไปอินเดียด้วยกันไหม  นี่เป็นประโยคที่ผมรอคอยมากว่า 2 ปี!!! เม่าเริงร่าผมตอบตกลงทันที

การตอบตกลงในครั้งนั้น มันทำให้ทัศนคติเกี่ยวกับอินเดียที่เคยมีมา ต้องเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงเรียกว่า ฟ้ากับก้นเหวเลยก็ว่าได้

**ค่าตั๋วเครื่องบินในครั้งนี้ ไปกับสายการบินโลว์คอสสุดฮิตในราคา 7,200 บาท ไปกันทั้งหมด 6 คน

***การไปอินเดียเราต้องทำวีซ่าด้วย ผมทำวีซ่าแบบออนไลน์ ตามนี้เลยครับ https://goanywhere.co/2017/11/22/indiaevisa2017/

วันศุกร์ที่ 18 ม.ค. 19
19:30   Check in ที่สนามบินดอนเมือง โหลดกระเป๋า
21:30   ออกเดินทางโดยสายการบินหางแดง ใช้เวลาเดินทาง 4.20 ชม.
00:20   Arrive in Jaipur Airport ผ่านต.ม. ออกสู่ Arrival lobby
01:30   คนขับรถมารับจากสนามบินไปส่งรร.ที่พัก

วันเสาร์ที่ 19 ม.ค. 19
08:00   ตื่นเช้า รับประทานอาหารเช้าแบบอินเดีย ที่ห้องอาหารในรร.
09:00   คนขับรถมารับไปเที่ยวตามโปรแกรมดังนี้
- Hawa Mahal พระราชวังแห่งสายลม
- รับประทานอาหารกลางวันที่ร้าน The Tattoo Cafe & Lounge
- City Palace พระราชวังประจำเมือง
- Albert Hall พิพิธภัณฑ์รัฐบาล
- Nahargarh Fort ป้อมนาฮาก้าร์หรือป้อมเสือ

18:00   รับประทานอาหารเย็นที่ร้าน Peacock Rooftop แล้วกลับที่พัก

วันอาทิตย์ที่ 20 ม.ค. 19
08:00   ตื่นเช้า รับประทานอาหารเช้าแบบอินเดีย ที่ห้องอาหารในรร.
09:00   คนขับรถมารับไปเที่ยวตามโปรแกรมดังนี้
- Panna Meena Stepwell บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์
- Amber Fort ป้อมและวิหารแอมเบอร์
- Galtaji Monkey Temple วิหารลิง
- แวะร้าน Himalaya ช็อปปิ้งของฝากตามอัธยาศัย
18:00  รับประทานอาหารเย็นที่ร้าน Handi
- กลับห้องเก็บกระเป๋า เตรียมเดินทางวันพรุ่งนี้

วันจันทร์ที่ 21 ม.ค. 19
08:00   ตื่นเช้า รับประทานอาหารเช้าแบบอินเดีย เสร็จแล้ว Check out
09:00  คนขับรถมารับเพื่อเดินทางไปยังเมือง Agra ใช้เวลาเดินทางประมาณ 6 ชม.
15:00   แวะเที่ยว Buland Darwaza
18:00   เข้าที่พักเก็บกระเป๋า ออกไปทานอาหารเย็นที่ร้าน Good Vibes
20:00   รีบกลับมาพักผ่อน เพราะต้องออกไปเที่ยวทัชมาฮาลแต่เช้า

วันอังคารที่ 22 ม.ค. 19
08:00   ตื่นเช้า รับประทานอาหารเช้าแบบอินเดีย ที่ห้องอาหารในรร.
09:00   คนขับรถมารับไปเที่ยว Taj Mahal 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก
12:00   แวะ Agra Fort
13:00  ทานมื้อเที่ยงแล้วเดินทางกลับเมืองชัยปุระ
18:00   ทานอาหารเย็นก่อนกลับที่โรงแรม Four  Point
20:00   แวะช็อปปิ้งที่ห้าง Big Bazaar ก่อนกลับ
21:00   ไป Jaipur Airport Check-in โหลดกระเป๋า

วันพุธที่ 23 ม.ค. 19
00:50   เดินทางกลับเมืองไทยโดยสวัสดิภาพ
  เริ่มเดินทางออกจากสนามบินดอนเมืองเวลาประมาณ00.20 น.

   ถึงสนามบินJaipur Airport กว่าจะผ่านตม.ออกมาด้านนอก ตอนประมาณ 1.30 น. ติดต่อคนขับรถที่จองไว้ ทริปนี้เราจะนั่งรถกันแบบยาวๆ

   อุณหภูมิ ณ ตอนนั้น บอกเลยว่ารู้สึกหนาววววเม่าผิงไฟใช้เวลาไม่นานเท่าไรนัก ก็เจอคนขับรถ 

   ใช้เวลาประมาณครึ่งชม. ก็มาถึงโรงแรมที่จองไว้ หรูหราหมาเห่ามาก เห่าต้อนรับกันเป็นฝูงกันเลยทีเดียว เรานัดคนขับรถไว้ประมาณ 9 โมง

กว่าจะเช็คอิน กว่าจะเข้าห้องก็ประมาณตี4 เม่าตาสว่าง
      Breakfast ของทางโรงแรมที่เตรียมไว้ให้ หลักๆก็จะมีแป้งนาน ข้าวอินเดีย ลักษณะจะยาวๆแหลมๆ แล้วก็มีแกงกระหรี่ ซึ่งรสจะจืดแต่กลิ่น

เครื่องเทศแรงมาก ที่ขาดไม่ได้คือชารสชาติคือดีย์ ผสมนม มีกลิ่นขิงนิดๆ ที่อินเดียมักเรียกว่าชาย.
   เดินออกมาถ่ายรูปเล่นหน้าที่พัก ดูแล้วอารมณ์ประมาณต่างจังหวัดบ้านเรา

    คนอินเดียมักเรียกรถกะป๊อ ใช้สำหรับการเดินทางไปไหนมาไหน

   ประมาณ9.30 น. รถก็มารับที่แรกที่เราจะไปกันคือ Hawamahal - พระราชวังแห่งสายลม นี่คือถนนด้านหน้า จะมีร้านขายของฝากเรียงรายอยู่เต็มไปหมด

   นี่เป็นมุมด้านหน้า ซึ่งจะมีผู้คนมายืนถ่ายรูปเรียงรายกันเต็มไปหมด

   พอเดินเข้าไปด้านในก็จะเจอน้ำพุแบบนี้อยู่ตรงกลางเลย ถ้าเปิดน้ำแบบเต็มๆน่าจะสวย

   โดยปกติเรามักจะเห็นแต่ด้านหน้าของHawa Mahal รูปนี้คือมุมด้านหลังของที่นี่ 

   ช่องนี้คือด้านหลังของหน้าต่าง ที่สามารถมองออกไปเห็นด้านนอกได้ แต่เค้ากันไม่ให้เข้าไว้

   ใช้เวลาเดินสักพักก้ขึ้นมาถึงบนสุด ทางเดินจะไม่เป็นขั้นบันไดเป็นทางลาด45องศา แต่ค่อนข้างแคบ

   ด้านบนสุดก็จะเป็นทางเดินแคบๆ ต้องเดินเบียดๆกันหน่อย แต่มองเห็นได้ไกล ที่เห็นอยู่ไกลๆด้านขวาคือ Nahargarh Fort ซึ่งอีกสักพักเราก็จะไปที่นั่น
กัน

   เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วมาดูนาฬิกาอีกทีก็เที่ยงแล้ว พวกเราตั้งใจจะไปคาเฟ่ฝั่งตรงข้ามชื่อ The Tatoo Cafe & Lounge ที่คาเฟ่นี้สามารถมองเห็นมุม

ฝั่งตรงข้าม Hawa Mahal ได้พอดี

   ที่นี่มีอาหารขายด้วย ราคาไม่แรง เลยสั่งมากินกันเนื่องจากหิวมากกก แต่ ทุกเมนูในร้านนี้เป็นมังสวิรัต ทำให้ไม่ค่อยอยู่ท้อง ถ้าใครจะกินแนะนำให้

หาขนมหรืออาหารว่างติดไปด้วยเพราะ จำได้ว่าบ่าย2 ก็เริ่มหิวแล้ว และการเดินทางในอินเดียนั้นจำเป็นต้องใช้พลังงานอย่างมากในแต่ละสถานที่ เพราะ

แต่ละที่นั้นกว้างใหญ่มาก เดินไกลมากกก  

   จากที่คาเฟ่ที่ถัดไปคือ City Palace ดูจากGPS ประมาณ 1 กม. เลยคิดว่าควรจะเดินกันไปแล้วบอกให้รถไปรอรับ เพื่อจะได้ดูไลฟ์สไตล์ ของคนที่นี่ด้วย

    ออกเดินทาง

   โซนแรกที่เดินผ่านเป็นโซนขายของแบกะดิน ของขายค่อยข้างหลากหลายแล้วแต่คนจะเลือกซื้อกัน

   นี่เป็นร้านขายของกินอะไรสักอย่างที่เหมือนได้รับความนิยมไม่น้อย เพราะไปที่ไหนๆก็จะเห็นขนมรูปทรงแบบนี้ขายอยู่

   เดินมาอีกสักแปปก็เจออีกร้าน

   ตรงนี้ทอดขายกันสดๆร้อนเลยทีเดียว


   เดินมาสักพักนึงเราก็มาถึงจุดหมาย City Palace

   เลตค่าเข้าสำหรับชาวต่างชาติ เราเลือกแบบถูกสุด คือ 700 รูปี(350 บาท) แต่ในใจก็อยากลองไปแบบVIP ดู แต่ราคาแรงเหลือเกิน 3500 รูปี

ประมาณ 1700 บาท

   ทางเดินเข้าด้านในมียามคอยจะถ่ายรูปด้วยตลอดๆ

   เดินเข้ามาด้านในก็จะเจอตามภาพ สมกับที่ได้ชื่อว่าเมืองแห่งสีชมพู

   สำหรับคนที่มีถานะหน่อยก็นั่งรถม้ากันไปเลยจร้าา มีกลองประโคมเดินตามตลอดเส้นทางด้วยนาจาา

   ถ่ายรูปกับปืนเกร๋ๆ

   ตรงนี้ถ่ายรูปกันนานพอสมควร แล้วก็ได้เวลาไปต่อ ที่ต่อไปเราจะไป Albert Hall พิพิธภัณฑ์รัฐบาล

   เดินมาตรงที่จอดรถของที่นี่ จะเจอประตูค่อนข้างสวยแล้วก็จะมีนกพิราบบินอยู่รอบๆ เพราะตรงนี้เป็นจุดขายอาหารนกพิราบ

  เหมือนวันนี้ Albert Hall พิพิธภัณฑ์รัฐบาล จะปิดเลยได้แต่ภาพอยู่ด้านนอก หลังจากนั้นเราก็จะเดินทางไปที่ Nahargarh Fort ที่เลือกไปช่วงเย็น

เพราะจะไปดูพระอาทิตย์ตกที่นั่นด้วยเค้าว่ากันว่าสวย

   หน้าทางเข้าเค้าจะบอกว่าห้ามเอาบุหรี่เข้า ตอนแรกก็แปลกใจว่าทำไมห้ามเอาเข้า แต่ก็สงสัยอยู่ว่าถ้าเอาเข้าไปแล้วไม่สูบเค้าคงไม่ว่าอะไรมั๊ง

ซึ่งด้านในก็ไม่ได้มีการตรวจว่าพกบุหรี่มามั๊ย? พอตอนเดินออกมาหันไปดูกล่องที่เค้าให้ใส่บุหรี่ไว้ มีคนทิ้งบุหรี่ไว้เป็นจำนวนมาก ก็อดสงสัยไม่ได้ว่า

นี่เป็นการหาบุหรี่ไว้สูบเองหรือเอาไปขายรึป่าวหว่า

   เมื่อเข้าไปจะเจอโถงทางเดินแบบนี้มีประตูให้เลือกเดินเข้าไปตามอัธยาศัย

   เดินขึ้นมาชั้น2 แต่ยังไม่ใช่บนสุด ต้องเดินกันขึ้นไปอีกชั้นนึง

   ขึ้นมาด้านบนจะมองเห็นวิวเมืองสุดลูกหูลูกตาเลยทีเดียว อากาศกำลังดี
ชื่อสินค้า:   ชัยปุระ Jaipur India
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่