ข้อสังเกต :- การให้ชื่อ กาพย์ ฉันท์ กาพย์ยานี ๑๑ vs กาพย์ฉบัง ๑๖ ----- ยานี ๑๑ ๏ ขึ้นกก ตกทุกข์ยาก..แสนลำบาก จากเวียงไชย มันเผือก เลือกเผาไฟ..กินผลไม้ ได้เป็นแรง กาพย์ พระไชยสุริยา ยานี ผ

กาพย์กลอนฉบัง ๑๖ ใน1 บท มี 4 วรรค วิธีการเริ่มโดย แต่งกาพย์ฉบัง ๑๖ ธรรมดา ๆ  2 บทโดย คำท้ายบทที่ ๒ มีเสียงจัตวา/โท/เอก แบบกลอน แต่งกาพย์ฉบัง อีกบท ให้คำท้าย รับสัมผัสกับ คำท้ายบทที่ ๒ (เสียง สา

@ สังคม เริ่มอ่อนแอ ขาดเผื่อแผ่ แพ้ตัณหา ตัวตน อหังการ์ เพื่อตัวข้า เท่านั้นพอ @ สังคม ฅนก้มหน้า ชอบบ่นว่า ใฝ่ป้อยอ ยลยิน ไป่รีรอ ขอส่งต่อ เพียงเอามัน

@ กรรมใด ใครก่อ รอรับ ฉับไว ผลกลับ ไป่ลับ ในชั่ว ชีวี @ กายจิต หม่นหมอง ฤ ผ่องศรี ปรากฏ กาลนี้ สงคราม ณ ที่ ใจตน กาพย์ฉบัง 

ร้อยกรองที่นำเสนอ เน้น "ง่าย" ไป "ยาก" จึงขอเสนอ กาพย์ฉบัง ๑๖  ผัง : 1 บท 3 วรรค วางคำเป็น 6 4 6 อ่านทีละ 2 คำ วรรค 6 คำ อาจอ่านเป็น 2 2 2 หรือ 3 3 ก็ได้ ขึ้นกับ เนื้อความ

กาพย์ยานี ๑๑ ...สังคมเริ่มอ่อนแอ.........ขาดเผื่อแผ่แพ้ตัณหา ตัวตนอหังการ์................เพื่อตัวข้าเท่านั้นพอ ...สังคมคนก้มหน้า..........ชอบบ่นว่าใฝ่ป้อยอ ยลยินก็ไป่รอ..................ขอส่งต่อเพี

โคลง สองดั้น, โคลง สามดั้น โดยทั่วไปนั้น ใช้เพื่อ ช่วยดำเนินเรื่อง น้อยนักที่จะแต่ง ต่อเนื่อง ยาว ๆ ครับ โคลง สองดั้น เฉกเช่น โคลง สองสุภาพ เพียงแต่ บาทท้าย แบบ บาท๔ ของ โคลง สี่ดั้น สัมผัส ระหว่างบ

11/11 วัน ฅนพิการแห่งชาติ @ ใคร ผู้พิการ คิดซึ้ง .... พึงตรอง ผอง ใฝ่กิเลสหมอง ........ แน่แท้ ปัญญาสติกลั่นกรอง ..... ปฏิบัติ ดุจดั่งปราณแล้&nb

กลุ่ม 2 โคลงดั้น บาทกุญชร @ โคลงกลอนกาพย์ร่าย ! ร้อง .....ร่ำฟัง ประสงค์ส่งสุขสลายระทม .....ทุกข์ท้น สวดเสกมิ่งมนต์ขลัง .....คล้องจิต ผองเพื่อนร่วมร้อย พ้น .....พุ่มเหงา @ บาทกุญชรดั้น คิด .....คลาย

@ ฅนพลันเป็นมนุษย์นั้น .....ด้วยกระทำ ถือ"รักเมตตา"นำ .....ประจักษ์แจ้ง อำนาจ เกียรติ รวย ชำ .....เพาะกิเลส  เภทเฮย ตระหนัก"เหตุ"ไยยังแล้ง .....ไป่ใช้