ครั้งแรกที่ไปรักษา หมอบอกว่าเป็นผิวหนังอักเสบ
ให้ยากิน ยาทา เบ็กเสร็จแล้ว 1200 บาท แต่หลังจากกินยาไป อาการไม่ดีขึ้นเลยเลยกว่าจะถึงวันนัดก็อีก 1 อาทิตย์ แต่เราทนปวดแสบปวดร้อนไม่ไหว จึงตัดสินใจไปหาหมอแพทย์แพทย์ไทย จึงทำให้ทราบว่าเป็นงูสวัด (โดยส่วนตัวก่อนที่จะไปหาหมอที่วิภารามปากเกร็ด ก็คิดว่าตัวเองเป็นเริมหรืองูสวัดอยู่แล้ว) หลังจากรักษากับหมอแพทย์แผนไทยอาการก็ดีขึ้น แผลก็เริ่มแห้งขึ้น ไม่ปวดกระดูกมากเท่าไหร่แล้ว และก็บอกตัวเองว่าจะไม่กลับไปรักษาที่วิภารามปากเกร็ดอีก แต่แล้วก็ต้องกลับไปจนได้เมื่อถึงวันนัด เพราะเราต้องการใบรับรองแพทย์มาใช้ในการทำใบลา ก็เลยตัดสินใจกลับไปอีกครั้ง ผลที่ได้จากการพบแพทย์ในครั้งนี้ทำให้ทราบว่า เป็นผิวหนังอักเสบ เราก็บอกไปว่ากินยาของหมอไม่หาญพอกินยาที่รักษางูสวัดโดยตรงกลับหาย แต่หมอก็ยังมาแขวะว่ายาที่เรารักษาไม่มี อย. จะสะอาดไหมก็ไม่รู้ เราก็เลยตอบกลับไปว่า แต่ยาของเขามันทำให้เราไม่ทรมานทำให้เราหาย ที่เรากลับมาก็เพื่อรายงานอาการและต้องการใบรับรองแพทย์ หลังจากนั้นหมอก็ไม่พูดอะไร ก็บอกว่ารับยาแล้วกลับบ้าน นี่ก็ งง จะให้ยาอะไรอีก แต่ก็ด้วยความที่ปวดหัวไม่อยากเถียงก็เลยต้องยอมๆไป พอถึงคราวเอายาจ่ายเงิน ก็ตกใจกับยาที่ได้ คือ ยาแก้แพ้กับยาฆ่าเชื้อ รวมเบ็ดเสร็จ 1000 บาท โอ้มายก๊อด ไม่ไปแล้ว ไม่ขอกลับไปอีกแล้ว ทำงานได้วันละไม่กี่บาท ตั้งใจจะไปรักษาที่ดีๆหวังจะไดจะได้หายเร็วๆ เจอแบบนี้เจอแบบนี้บอกได้คำเดียว ไม่เอาอีกแล้ว

ปล.ยาแพทย์แผนไทย มี อย. น่ะ แต่เราเอาแค่ขวดแค่ขวดยาทาเปล่าๆให้หมอดู ไม่ได้ให้ดูครบทุกตัว นางก็เลยต่อว่าว่ายา ไม่มี อย. โน้นนี่ และอีกอย่างแพทย์แผนไทยที่เราไปรักษาเขารักษาโรคงูสวัดโดยตรง